เคล็ด ( ไม่ ) ลับวิธีดูแลเส้นผมให้สวยปัง จากช่างทำผมมืออาชีพ

รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/6194/b44652968b501879a3a659bc282a02e4ea82bf00_hq.gif

♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎ ♡︎


꒰ 7 เคล็ด ( ไม่ ) ลับ ในการดูแลเส้นผมจากช่างทำผมมืออาชีพ ꒱


1. ห้ามใช้เล็บเกาหนังศีรษะ

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีโมเมนต์ที่คันหัวขึ้นมาแบบไม่รู้ว่าคันอะไรนักหนา อาจจะเป็นเพราะไม่ได้สระผมหลายวันหรือเป็นรังแค มีเชื้อราบนหนังศีรษะต่าง ๆ หรือเวลาสระผมแล้วรู้สึกว่าต้องเกาแรง ๆ ผมและหนังศีรษะจะได้สะอาด ซึ่งจริง ๆ

เราไม่ควรเกาหนังศีรษะด้วยเล็บ

น้า เพราะการใช้เล็บเกาหนังศีรษะจะทำให้หนังศีรษะเป็นแผล เกิดการถลอกได้นั่นเองค่ะ ซึ่ง

ถ้าหนังศีรษะเป็นแผล อาจจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้

และก็จะ

ไม่สามารถทำสีผมได้

เน้อ อันนี้สำคัญมาก ๆ ถ้าหนังศีรษะเป็นแผล อย่าหาทำสีผมนะคะมันอันตรายมาก ๆ เลย เตือนแล้วน้า!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d1/5b/99/d15b99e31be19fc3b40b6fa41b24cb8d.jpg

2. ครีมนวดควรลงแค่ปลายผม

ครีมนวดควรใช้แค่ปลายผมเท่านั้นนะคะ บางคนอาจจะไม่รู้เรื่องนี้เพราะคิดว่าครีมนวดต้องใช้ทั้งหัวเพื่อให้ผมนุ่ม ผมนิ่ม และนี่แหละค่ะเป็นอีกสาเหตุที่ผมเรามันไวมาก ๆ แหนะ! ซิสบางคนร้องอ๋อเลยละสิ เพราะทำแบบนี้จริง ๆ แล้วผมมันจริง ๆ เนี่ยต้องเปลี่ยนวิธีใช้แล้วเน้อ ซึ่งวิธีใช้ก็คือเอาครีมนวดหรือทรีตเมนต์ป้ายลงตรงช่วงปลายผม แล้วก็ค่อย ๆ นวดไปเรื่อย ๆ ให้มันซึมเข้าเส้นผมนั่นคือวิธีที่ถูกต้องค่ะแต่ถ้าผมเราเสียมาก แห้งมาก พันกันสุด ๆ ก็ใช้มือที่นวดครีมนวดช่วงปลายผมมานวด ๆ ส่วนด้านบนช่วงหนังศีรษะได้นะคะ คือมือที่เรานวดครีมนวดช่วงปลายผม มันจะมีครีมนวดติดอยู่บนมือเล็กน้อย ก็จะช่วยให้ผมนุ่มขึ้น ไม่พันกัน แล้วก็ไม่มันเพราะเราไม่ได้ใช้ครีมนวดโดยตรงนั่นเองค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/2c/da/e7/2cdae774bb2d2adfc8afddd19d5714ab.jpg

3. เป่าผมให้มีวอลลุ่ม/ผมตรง

ทริคนี้ได้มาจากตอนไปตัดผมที่ร้านเลยค่ะ พี่ช่างบอกว่าถ้าเราอยาก

เป่าผมให้ดูมีวอลลุ่ม

ให้หยิบไดร์ตั้งฉากกับผมแล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วจับแบบขยุ้ม ๆ เยื้องไปด้านหลังนิดนึง เป่าไปเรื่อย ๆ จนแห้ง ก็จะทำให้ผมมีวอลลุ่ม เพราะการเป่าแบบนี้มันคือการเป่าสวนทิศทางของเส้นผมนั่นเอง พอหวีผมไปตามทิศทางปกติ ก็จะทำให้ดูมีวอลลุ่มกำลังดีนั่นเองค่ะ ส่วนใคร

อยากให้ผมตรงสลวยสวยเก๋

ก็ต้องเป่าจากทางด้านหลังตรงข้ามกับการเป่าให้มีวอลลุ่ม เพราะการเป่าแบบนี้คือการเป่าตามทิศทางของเส้นผม ก็จะทำให้ผมตรงสวยนั่นเองค่า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/2c/8e/29/2c8e2957b8a7ec7f275a90b4effc0c04.jpg

4. เช็กสภาพผมก่อนทำสีทุกครั้ง

ข้อนี้พี่ช่างบอกมาเลยว่า

เราควรเช็คสภาพผมก่อนทำเสมอ

จริง ๆ เพราะตัวพี่ช่างเองก็เช็กสภาพผมลูกค้าตลอด ถ้ามันพัง มันเยินไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ พี่ช่างก็จะไม่ทำเลย ดังนั้นซิสก็ต้องทำตามน้า ถ้าเราทำสีผมแล้วผมแห้ง ผมเสีย ผมชอต ผมเป็นวุ้นอะไรแบบนี้ ก็คือต้องหยุดไปก่อน ใครที่คิดว่าผมเสียแล้วก็ทำต่อไปเลยเถอะ ยังไงมันก็เสีย คือไม่ได้นะคะ

อย่างน้อยให้มันได้พักหายใจหายคอ

ให้มันปรับสภาพ

ให้ได้รับการบำรุงบ้างอะไรบ้าง

แล้วค่อยทำต่อจะดีที่สุดนะคะ แต่

ถ้ามันเสียแบบไม่ไหวแล้ว ก็หยุดดีกว่า

ค่ะ อย่าฝืนไปต่อเลย ไม่งั้นผมอาจจะขาดได้น้า


รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f8/4b/3f/f84b3f6fac884d62a6a15826229b9bd8.jpg

5. ใช้ออยล์ลงปลายผม

ซิสคนไหนผมเสีย ผมแห้ง ผมพันกันต้องใช้ออยล์เพื่อทำให้ผมนุ่มลื่นมากยิ่งขึ้นซึ่งออยล์ก็มีหลายแบบทั้งแบบเนื้อหนัก เนื้อเบา ช่วยจัดแต่งทรงผม ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก สูตรผมแห้งเสียมาก ผมแห้งธรรมดาอะไรแบบนี้ก็มีเหมือนกัน คือตอบโจทย์สุด ๆ สำหรับการใช้งานออยล์บำรุงผมก็ควรใส่แค่ปลายผมเช่นกันนะคะ ไม่งั้นคือผมจะมันไม่ไหว น่าจะมันกว่าครีมนวดไปอี้ก ซึ่งวิธีการลงออยล์ให้ทั่วถึงก็คือบีบใส่มือประมาณ 1 เหรียญบาทนะคะถู ๆ ให้มันเข้าที่ซอกนิ้วแล้วค่อย ๆ สางปลาย ๆ ผมให้มันกระจาย ๆ ตัวทั่ว ๆ ทั้งหัวทีนี้ผมของเราก็จะลื่น นุ่ม สลวย แวววาวมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/e9/81/6e/e9816eb442c9fd6354919088c12fa94b.jpg

6. ผมเสียมากให้เป่าผมด้วยลมเย็น

การใช้ความร้อนกับผมไม่ว่าจะหนีบ จะไดร์ จะดัด จะม้วนล้วนทำให้ผมเสียทั้งนั้นค่ะซิส แต่ถ้าเราผมเสียอยู่แล้วก็คือพังยิ่งกว่าแน่นอน! ดังนั้นถ้าใครผมเสียมาก ๆ ควรเป่าผมด้วยลมเย็นเท่านั้นนะคะ ไม่อย่างนั้นผมของเราจะเสียหนักกว่าเดิม กู้ยากมากกว่าเดิมด้วย ถึงแม้การเป่าลมเย็นอาจจะไม่ค่อยช่วยซิสที่ผมฟูหรือผมช็อตเท่าไหร่ ดังนั้นซิสก็จะต้องแก้ด้วยเทคนิคการเป่าแบบที่เราบอกไปข้างบน ( ข้อที่ 3 )เล้ย และถ้าใครกลัวผมจะเสียเพราะโดนลมจากไดร์ ก็สามารถป้องกันเส้นผมด้วยพวก Heat Protection หรือสเปรย์กันความร้อนนั่นเอง ก็จะช่วยให้ผมไม่เสียความชุ่มชื้นไป บวกกับการเป่าด้วยลมเย็น คิดว่ายังไงผมก็ไม่เยินแน่นอนค่า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a8/0c/13/a80c13b8a6f14ba012764767e403974d.jpg

7. อย่ามัดผมแน่นเกินไป

มัดผมแน่นเกินไปไม่ดีนะคะ เพราะการมัดแน่นเกินไปจะทำให้หนังศีรษะตึง อาจจะทำให้ปวดหัวหรือเจ็บหัวได้ แถมยังทำให้ผมเสียทรงด้วย และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือทำให้ผมของเราร่วงนั่นเอง ที่ผมเราร่วงเพราะการมัดผมแน่น ๆ เนี่ยจะทำให้เส้นผมไม่สามารถลำเลียงอาหารไปเลี้ยงรากผมได้ทีนี้แหละผมของเราก็จะอ่อนแอ เมื่อผมอ่อนแอแล้วมันก็จะขาดหลุดร่วงในที่สุดนั่นเอง ถ้าใครติดมัดผมแน่นต้องปรับพฤติกรรมแล้วน้า ไม่อย่างนั้นผมจะร่วงหมดหัวก่อนวัยอันควรเด้อ วิธีนี้เราลองแล้วได้ผลมาก ๆ จากที่เคยร่วงเป็นกระจุกตอนนี้ ลดลงไปเกือบครึ่งเลย ยังไงซิสก็ลองไปทำดูน้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/02/d2/54/02d254d8345ab6d3e1869e58c64c5195.jpg

เป็นยังไงบ้างคะ?กับ7 วิธีดูแลผมที่เรานำมาฝากซิสกัน คอนเฟิร์มจริง ๆ ค่ะว่าทำแล้วได้ผล เห็นผลดีขึ้นจริง ๆ ก็เลยมาบอกต่อซิสให้ได้นำไปดูแลเส้นผมกันถ้วนหน้าเล้ย ถ้าบางพฤติกรรมเปลี่ยนได้ยากก็ค่อย ๆ ทำไปก็ได้น้าอย่างเราเองเวลาคันหัวก็ยังเผลอเกาแรง ๆ ตลอด หนังศีรษะก็เลยเป็นแผลบ่อย ๆ ถ้าซิสคนไหนเลี่ยงได้ก็อยากให้เลี่ยงเน้อ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกัน บางครั้งเราทำมันด้วยความเคยชินมานาน ก็อาจจะติดและเผลอทำไปบ้าง แต่ก็พยายามเปลี่ยนกันไปนะคะ ถ้าชอบบทความนี้ยังไงก็ฝากกดไลก์ กดแชร์ด้วยน้าแล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า ♥