1. SistaCafe
  2. 6 เทรนด์การดูแลผิวแบบผิดๆ เลิกได้เลิก ถ้าอยากมีผิวสวยจึ้ง!

เราเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนล้วนเคยเจอกับปัญหาผิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็เป็นคนนึงที่มีปัญหาทั้งผิวหน้าและผิวกายเหมือนกันค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะไปหาลองในอินเทอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง ทั้งหาทริคเด็ดๆ และหารีวิวจากคนที่เคยใช้จริง แต่พอมาลองทำด้วยตัวเองกลับไม่ได้ผลอย่างที่คิด บางเทคนิคก็ทำให้ผิวแย่กว่าเดิมไปอีก ยิ่งปัจจุบันนี้ในแต่ละช่วงก็จะมีเทรนด์การดูแลผิวหน้าและผิวกายใหม่ๆ ในโซเชียลมาให้เราได้ประหลาดใจอยู่เสมอเลย ซึ่งบางวิธีดูแล้วเหมือนจะเวิร์กแต่กลับส่งผลเสียอย่างน่าใจหายวันนี้เราเลยได้รวบรวม6 วิธีการดูแลผิวแบบผิดๆ บอกเลยว่าอย่าหาลอง แต่ถ้ายังทำอยู่ขอให้หยุดได้หยุด!

'มาสำรวจ 6 เทรนด์การดูแลผิวที่คอยฉุดรั้งผิวสวยของเรากัน'

1. ผิวฉ่ำฟูอิ่มน้ำด้วยการทาวาสลีน

การทาวาสลีนหนาๆ ไปยังผิวหน้า เสมือนกับครีมบำรุงผิวตัวหนึ่ง เราจะเรียกวิธีนี้ว่า'

Slugging'

เป็นเทรนด์การดูแลผิวที่มาแรงในติ๊กต็อกอยู่ช่วงนึงเลย ด้วยผลลัพธ์สุดว้าวที่ทำให้หน้าเราฉ่ำอย่างกับสาวเกาหลี วิธีการก็ง่ายมากเพียงแค่เพิ่มวาสลีนไปในขั้นตอนสุดท้ายของสกินแคร์รูทีน วาสลีนก็จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวและทำให้ผิวนุ่มฟูกว่าเดิมแต่ช้าก่อนสำหรับคนผิวมันแพ้ง่าย!ทริคนี้คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ หรือสำหรับคนที่มีสภาพผิวแข็งแรงอยู่แล้วก็ควรจะทำนานๆ ครั้งก็พอในวันที่รู้สึกว่าผิวแห้งมากจริงๆ เพราะถึงแม้ปิโตเลียมเจลจะเป็น Non-comedogenic ( ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ) แต่การที่เราทาวาสลีนไว้หนาๆ ข้ามคืนก็อาจทำให้สะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย จนกระตุ้นการเกิดสิวได้ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคงหนีไม่พ้นครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมอย่าง Glycerine และ Hyaluronic Acidที่จะช่วยล็อกความชุ่มชื่นของผิวเอาไว้


2. ใช้กระดาษทรายกำจัดขนหน้าแข็งแทนใบมีดโกน

ไม่ได้ตาฟาดไปค่ะสาวๆ นี่เป็นทริคที่ถูกทำจริงในติ๊กต็อกอีกเช่นเคย โดยเขาอธิบายว่าให้ถูกระดาษทรายเป็นวงกลม 10 ครั้งในจุดที่ต้องการขจัดขน และเคลมผลลัพธ์ด้วยว่าจะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นกว่าที่เคย แต่อีกด้านก็มี


แพทย์ผิวหนังออกมาแย้งและเตือนว่า



การใช้กระดาษทรายนั้นจะทำให้ผิวชั้นบนสุดถูกทำลายไปพร้อมกับขนที่หลุดออกไปและทำให้ผิวของเราอ่อนแอลงจนเกิดรอยช้ำ ผิวที่แห้งกร้าน หรือรุนแรงไปจนถึงรูขุมขนอักเสบจนเกิดขนคุดและเป็นหนองได้เลย

เพราะฉะนั้น

การใช้ใบมีดโกนกับการแว็กซ์ยังคงเป็นทางเลือกที่สามารถทำเองได้ที่บ้านและมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้กระดาษทรายอย่างแน่นอนเลย


3. ประคบน้ำแข็งลงบนหน้าโดยตรงเพื่อกระชับรูขุมขน

เคยได้ยินกันไหมว่า


การใช้น้ำแข็งประคบจะสามารถแก้ปัญหากวนใจอย่างรูขุมขนกว้างได้


แต่ความคิดนี้


ผิดค่า!


กลไกการทำงานของรูขุมขนไม่ได้เปลี่ยนไปตามอุณหภูมิแบบนั้นนะคะ


ถึงจะกระชับจริงแต่ก็ได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น


ที่ถูกต้องคือ ความเย็นของน้ำแข็งสามารถช่วยลดความบวม ความแดง และบรรเทาผิวที่ไหม้แดด แต่ถ้าเราใช้น้ำแข็งประคบกับหน้าไปเลยโดยตรงนั้น อาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองและรอยช้ำได้เช่นกันซึ่งเกิดจากการที่เส้นเลือดฝอยแตกนั่นเอง

แนะนำว่าวิธีที่ปลอดภัยก็คือ ห่อด้วยผ้าขนหนูหรือใช้เจลประคบเย็น ประคบได้ไม่เกิน 2-3 นาที และไม่ควรทิ้งไว้ที่จุดใดจุดหนึ่งเกิน 1 นาที


เพราะถ้าประคบนานเกินไปก็จะทำให้ผิวสวยๆ ของเรากลายเป็นผิวไหม้ได้เลย


4. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและปิดท้ายด้วยน้ำเย็นทำให้ผิวสะอาดล้ำลึกกว่าเดิม

อย่างที่ได้บอกไปในข้อก่อนหน้านะคะสาวๆ ข้อนี้ก็เช่นกันการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขน โดยเชื่อว่าจะทำให้สิ่งสกปรกถูกขจัดออกไปมากกว่า และใช้น้ำเย็นล้างตอนสุดท้ายเพื่อปิดรูขุมขน

อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกเหมือนกัน

เป็นเพราะว่า

น้ำมันที่เป็นประโยชน์บนหน้าของเราจะออกไปพร้อมกับเวลาที่เราล้างน้ำอุ่นค่ะ


ส่งผลให้ผิวของเราขาดสมดุล

ดังนั้นสภาพผิวของเราอาจจะแห้งสุดๆ หรือมันขั้นสุดไปเลยก็ได้ ตามมาด้วยสิ่งไม่พึงประสงค์ที่เราต่างหลีกเลี่ยงกันมาตลอดนั่นก็คือ สิวตัวร้ายนั่นเอง ดังนั้น

แนะนำว่าใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการล้างหน้าจะดีที่สุดค่ะ



5. จมูกเรียบเนียนไร้สิวเสี้ยนด้วยเครื่องดูดสิว

การได้มองดูสิวเสี้ยนหลุดออกมา สำหรับบางคนนั้นอาจรู้สึกไม่ชอบ แต่สำหรับใครหลายๆ คน ( รวมถึงเราเอง ) มันกลับเป็นความสุขแบบแปลกๆ ซะได้ อย่างเวลาดูคลิปของยูทูบเบอร์รีวิวเจ้าเครื่องดูดสิวเสี้ยน ก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะซื้อมาลองเอง จริงๆ เครื่องนี้ก็ได้รับความนิยมมาหลายต่อหลายปีแล้ว และดูเหมือนจะตอบโจทย์มากๆ สำหรับสายฮาร์ดคอชอบการบีบสิว แต่การดูดที่ดูสะใจนั้นอาจ

สร้างความระคายเคืองให้กับผิวรวมถึงมีแนวโน้มที่จะสร้างรอยเส้นเลือดบนใบหน้าเราได้เลยนะ

ดังนั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการบีบ การลอก หรือการดูดไปให้หมด และ

เปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว โดยมีส่วนผสมของ AHA, Retinoid (วิตามินเอ) และ Salicylic Acid

จะถนอมผิวของเรามากกว่าค่ะ



6. หน้ามันเป็นสิวง่ายไม่ควรบำรุงผิว

ความมันบนใบหน้าคงเป็นปัญหาที่สาวๆ หาวิธีหรือผลิตภัณฑ์เด็ดๆ มาคอยแก้ปัญหานี้กันอยู่ตลอด เพราะนอกจากจะทำให้หน้าดูหมองแล้วยังทำให้เกิดสิวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีสิวเราก็นะ เพราะว่าเมื่อหน้าของเราขาดความชุ่มชื่นแล้ว นั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของหน้ามันนำไปสู่การเกิดสิวอีกทั้งยังทำให้สิวนั้นทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจนกว่าเดิมอีกด้วยแต่ถ้ายังกังวลอยู่ว่าผิวจะอุดตันเราแนะนำว่าให้เลือกครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง สามารถสังเกตคำว่า Oil-free และ Non-comedogenic ที่หลังกล่องได้เลย


เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 6 วิธีนี้ มีทั้งเทคนิคที่เราคุ้นเคยกันดี กับเทรนด์ใหม่ๆ ที่ดูล้ำและสร้างความตื่นเต้นให้เราอยากลองทำตาม หวังว่าบทความนี้จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำหรับสาวๆ อย่างเราที่กำลังหาวิธีดูแลและแก้ปัญหาผิวนะคะศึกษาและลองสิ่งใหม่กันอย่างระมัดระวังด้วยน้า


ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล:


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1