สวัสดีค่าทุกคนวันนี้มาแบบนิ่ง ๆ หน่อยเพราะอยากจะเขียนบทความแนวที่จริงจังขึ้นมานิดนึงกับเรื่องการพูด ในปัจจุบันเนี่ยอะไรหลาย ๆ อย่างมันเปลี่ยนไป ความคิด ทัศนคติต่าง ๆ ทำให้ประโยคธรรมดาหลาย ๆ ประโยคที่เคยพูดเล่น พูดหยอกอีกฝ่าย มันไม่ขำอีกต่อไปแล้ววันนี้เราก็เลยอยากรวบรวม 7 ประโยคที่ฟังดูธรรมดาแต่ทำร้ายจิตใจคนฟังมาเตือนทุกคนให้มีสติทุกครั้งก่อนจะพูดหรือทำอะไรลงไปน้า ลองอ่านกันดูนะคะว่ามีข้อไหนไหมนะที่เราเผลอพูดออกไปบ่อย ๆทุกข้อเนี่ยเราอธิบายเหตุผลไว้ด้วยเสมอว่าทำไมไม่ควรพูดเอาล่ะค่ะ! ถ้าเราพร้อมแล้วก็มาอ่านกันเล้ย :-)WARNING : 7 ประโยคนี้มีหลายประโยคที่อาจจะกระทบกระเทือนจิตใจผู้ที่มีสภาพจิตใจไม่มั่นคงนะคะ ถ้าใครกลัวว่าคำมันจะแรงหรือกระทบใจเกินไปก็กดปิดได้เลยน้า ขอบคุณค่า


" ไปทำอะไรมาทำไมอ้วนขึ้น / ทำไมผอมขนาดนี้ / ทำไมหน้าเปลี่ยน? "

CW : Body Shamingคำพูดพวกนี้เป็นคำที่หลายคนมักจะใช้ทักทายกัน แต่รู้ไหมคะว่า

การทักทายด้วยเรื่องรูปร่างหรือหน้าตาเนี่ยเป็นอะไรที่อาจจะทำร้ายจิตใจคนฟังได้

เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อ้วนขึ้นหรือผมลง มันเป็นเพราะอะไร บางคนอาจจะได้รับผลกระทบจากการใช้ยาต่าง ๆ คือแค่นี้เขาก็เสียความมั่นใจไปแล้ว ยิ่งเราไปพูด ไปทักเขาเนี่ยก็จะยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียความมั่นใจไปอีกรวมไปถึงการพูดเรื่องหน้าตาและการศัลยกรรมด้วย ในยุคนี้มันเป็นอะไรที่ปกติมาก ๆ เลยล่ะค่ะที่เราอยากจะดูดีขึ้น เลยไปเสริมเติมแต่งให้ตัวเองมั่นใจมากยิ่งขึ้น หลายคนเลยค่ะที่เขาไปศัลยกรรมเพราะเขาไม่มั่นใจในส่วนนั้นของร่างกาย ถ้าเราไปทักเชิงประมาณว่า" ทำไปทำไมไม่เห็นจะดูดีขึ้นเลย "ยิ่งทำให้เขาเสียความมั่นใจไปอีกนะคะ ดังนั้นเนี่ย เลี่ยงได้ก็ไม่ควรทักทายกันด้วยเรื่องพวกนี้น้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/83/d7/39/83d739ff6a1040d6ae3bd1c9cfb9a4b9.jpg

" ใครเป็นรุก ใครเป็นรับเหรอ? "

CW : 18+, Sexอีกหนึ่งคำถามที่เชื่อว่าเกย์หลายคนเจอบ่อยมาก ๆ เพราะเราได้เห็นหลาย ๆ คู่ประสบปัญหาเรื่องนี้เยอะพอสมควรเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเกย์ไม่จำเป็นต้องเป็นรุกหรือเป็นรับแค่อย่างใดอย่างหนึ่งตลอดเวลา บางคู่เขาก็สามารถที่จะพลิกแพลงตามสถานการณ์ได้ แล้วการไปถามแบบนี้มันก็เหมือนกับไปถามถึงเรื่องส่วนตัวแบบละลาบละล้วงสุด ๆซึ่งแน่นอนว่ามันดูไม่น่ารักสักเท่าไหร่เลยใช่ไหมละคะ ลองคิดง่าย ๆ เลยก็คือว่าถ้าเป็นคู่รัก Straight ( ความรักแบบชายหญิงทั่วไป ) เราก็คงจะไม่ไปถามอะไรแบบนี้กับเขาแน่นอน ดังนั้นเนี่ยเราก็ไม่ควรไปพูดคำพูดแบบนี้กับใครเลยนะคะไม่ว่าจะเป็น LGBTQ+ หรือจะ Straight ก็ตาม ไม่พูดแล้วน้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a3/86/50/a38650907c2c33fbc0e8c279d5b50ee5.jpg

" ได้คะแนนตั้งเยอะแล้วจะบ่นทำไม อยากได้คะแนนเต็มรึไง "

อันดับแรกเลยก็คือเราต้องเข้าใจก่อนว่า" คะแนนเยอะของคนเราไม่เท่ากัน "เราอาจจะมองว่าได้ตั้ง 80 คะแนนเต็ม 100 คือเยอะมาก ๆ แล้ว แต่สำหรับคนที่ตั้งใจอ่านหนังสือมาตลอด ติวเข้มเสมอ พยายามทำ ทวนแล้วทวนอีก อาจจะหวังคะแนนไว้ที่ 90 เป็นอย่างต่ำ แล้วเขาได้ 80 เป็นอะไรที่ถือว่าน้อยกว่ามาตรฐานที่เขาตั้งไว้และแน่นอนว่าเมื่อเขาได้คะแนนแบบที่หวังไม่ได้ เขาก็ต้องเสียใจหรือรู้สึกแย่เป็นธรรมดาดังนั้นเนี่ยเราก็ม่ควรจะไปพูดเชิงประมาณว่าจะเอาคะแนนเต็มเลยรึไง แค่นี้ก็เยอะจะตายแล้วมันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก เพราะบางคนก็หวังจะได้คะแนนเต็มจริง ๆ ก็มีน้า อย่างที่บอกเลยค่ะว่าเยอะ-น้อยคนเราไม่เท่ากันเราอย่าเอาความรู้สึกของเราไปตัดสินความรู้สึกเขาเลยน้า มันจะดูไม่น่ารักเท่าไหร่

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f9/64/47/f9644787284a12f82746570c4076dd16.jpg

" เรียนในโรงเรียนสบายที่สุดแล้ว มหาลัยหรือทำงานเหนื่อยกว่านี้อีก "

ประโยคในข้อที่แล้วก็เช่นเดียวกันกับประโยคนี้เลยค่ะ" เหนื่อยของคนเรามันไม่เท่ากัน "อีกอย่างเด็ก ๆ วัยมัธยมเขายังไม่รู้ว่าในชีวิตมหาลัยมันเหนื่อย มันยาก มันท้อยังไง แต่สิ่งที่เขาเผชิญหรือพบเจอตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกเหนื่อย ท้อแท้เขาก็อาจจะแค่อยากบ่นมันออกมาว่า" เฮ้อ เหนื่อยจังเลย "เราที่อาจจะมีประสบการณ์มากกว่า ก็ไม่ควรจะไปพูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องแค่นี้เลยน้า น้อง ๆ อาจจะเสียกำลังใจมากยิ่งขึ้นอีก เพราะแค่นี้เขาก็รู้สึกท้อแท้หรือเหนื่อยมาก ๆ แล้วยิ่งเจอคำพูดบั่นทอนจิตใจอีกก็จะยิ่งแย่ดังนั้นถ้ารู้แล้วก็ไม่พูดแล้วเนอะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/e7/29/8b/e7298b62e61311937a3360dec9e30a96.jpg

" เป็นบ้า / ปัญญาอ่อน / เป็นง่อยเหรอ / ตาบอดรึไง "

CW/TW : การเหยียด,Ableist Languageคำพูดพวกนี้เรียกว่าแนว' Ableist Language 'หรือคำพูดที่นำชื่อโรคทางจิตเวชหรือชื่อโรคต่าง ๆ มาเป็นคำด่า แน่นอนว่าเราพูดกันชินปากทั้งนั้นเลยค่ะ พูดแบบไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันทำร้ายจิตใจคนที่เขาเป็นโรคนั้น ๆ คือเคยมีคนไปพูดคุยกับคนที่เป็นโรคต่าง ๆ เขาก็พูดเหมือนกันหมดเลยค่ะว่า" เขารู้สึกแย่กับคำพูดแบบนี้มาก ๆ "มันเหมือนเอาเรื่องโรคที่พวกเขารู้สึกทรมานหรือต้องอยู่กับมันมาทั้งชีวิตมาใช้เพื่อด่า ต้องยอมรับว่าสังคมเรายังมีคนที่เหยียดคนเป็นโรคต่าง ๆ ด้วยเช่นกันคำพูดพวกนี้เขาก็โดนด่าโดนเอามาขำขันทั้งชีวิตยิ่งเราเอามาใช้แบบสนุกสนานอีก ก็ยิ่งดูไม่น่ารักใช่ไหมละคะ ดังนั้นเนี่ยลดได้ลดน้า เรายังมีอีกหลายคำที่ใช้ได้มากมายเลย ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันไม่โอเค งั้นเราก็ไม่พูดแล้วเนอะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ae/e4/6b/aee46bde98b14c5491f0e6648af6352f.jpg

" เป็นทอม / กะเทย / ตุ๊ดรึเปล่า? "

CW/TW : การเหยียดเพศสังคมเราเริ่มเปิดใจรับ LGBTQ+ กันมากขึ้นในแง่ที่มองเขาเป็นเพียงความบันเทิงสนุกสนาน แต่ไม่ได้มองเขาเป็นคนทั่วไป เลยทำให้ยังมีคำถามแนว" เป็นทอมเหรอ? เป็นตุ๊ดเหรอ? "ออกมาจากปากบ่อย ๆ รวมไปถึงการตัดสินคนจากเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเช่น การแต่งกาย ทรงผม การพูดจา ลักษณะท่าทางเป็นอะไรที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ คือพูดง่าย ๆ ว่าลักษณะภายนอกที่เห็นเนี่ยมันไม่สามารถเอามาตัดสินคน ๆ นึงได้เลย ดังนั้นเนี่ยเราไม่ควรจะไปตัดสินใครจะแค่การเห็นลักษณะภายนอกน้า มันไม่น่ารักเลยจริง ๆ ค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/b9/79/ed/b979ed79eed2dcd32452f343aba16818.jpg

" ก็แต่งตัวโป๊หรือเซ็กซี่เองนี่ จะมาคนมาคุกคามก็ไม่แปลก "

CW/TW : ข่มขืนมาที่ประโยคสุดท้ายกันเลยค่า คำพูดพวกนี้เรียกว่าการเบลมเหยื่อ ( Slut Shaming )นั่นเอง สังเกตเลยว่ามีเยอะมาก ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ยิ่งตอนที่มีข่าวเกี่ยวกับการโดนข่มขืน ก็จะมีคนไปโทษเหยื่อว่าก็แต่งตัวโป๊เองนี่หรือจะเป็นการโพสต์ภาพแนวเซ็กซี่ แล้วมีคนไปคอมเมนต์เชิงSexual Harassment ( การคุกคามทางเพศ )กันเยอะมาก ๆ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ในเมื่อเขามีความมั่นใจแต่คนที่ไปคุกคามเขาเนี่ยแหละค่ะที่เราต้องตั้งคำถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาพูดจาไม่ดีแบบนี้กับคนอื่นนะ น่าแปลกใจจริง ๆ เอาเป็นว่าถ้าใครเคยพูดหรือมีความคิดแบบนี้อยู่อยากให้ลองพยามยามทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนมันกันน้า สังคมของเราจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/9a/e1/e4/9ae1e4ae4975d308f5bc9d767a326b65.jpg

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ7 ประโยคต่าง ๆ ที่เรานำมาเตือนกันคือช่วงนี้พบเห็นในอินเทอร์เน็ตบ่อยมาก ๆ ทั้งโซเชียลมีเดียและข่าวต่าง ๆ เลยอยากที่จะเพิ่มความเข้าใจในด้านต่าง ๆ ให้ทุกคนระมัดระวังคำพูดกันให้มากขึ้น บางประโยคเราอาจจะเคยชินว่ามันก็ปกตินี่นา ทำไมจะพูดไม่ได้ แต่ถ้านึกถึงจิตใจคนฟังมากยิ่งขึ้นลองคิดว่าถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกยังไงแบบนี้ก็จะช่วยให้เราเลี่ยงการพูดจาไม่คิดไปได้อีกหนึ่งทางด้วยน้า เอาล่ะ! คำพูดหลายคำมันอาจจะยังชินปาก แต่เมื่อเรารู้แล้วว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมก็พยายามลดการพูดแบบนี้ลงนะคะ เชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน :-)ปล. เราอาจจะเขียนได้ไม่ดีพอ ยังไงก็ติหรือเตือนกันได้เลยนะคะ ขอบคุณค่าวันนี้หมดเวลาแล้ว เราต้องลาไปก่อนนะคะ บ้ายบายค่ะ ♥