อย่างที่เรารู้กันดีว่า Active ingredient เป็นส่วนประกอบสำคัญในการจัดการปัญหาผิวอย่างตรงจุด และมีหน้าที่ต่างกันตามประเภท คล้ายๆกับการ Add toppingบนหน้าเค้ก ถึงแม้ตัวเค้กจะรสชาติเดียวกันแต่Topping ต่าง สุดท้ายเราก็จะเลือกเค้กชิ้นที่Toppingถูกใจเรา Active ingredientก็คล้ายแบบนั้นเช่นกันค่ะ เนื้อครีมอาจจะคล้ายกันแต่สูตรก็จะต่างไปตามปัญหาผิว เราก็ต้องเลือกActive ingredientที่ทำหน้าที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาผิวของเราด้วยเช่นกัน
" อ่อนแอก็แพ้ไป "แต่ไม่จ้ะ เพราะซิสจะไม่ยอมให้กับผิวอ่อนแอแพ้ง่ายเด็ดขาด! เพราะผิวพังจะทาอะไรแต่ละทีก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องมาถามตัวเองซ้ำหลายทีว่าใช้อันนี้แล้วหน้าแหกไหม แบบนี้มันเศร้ามากนะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ วันนี้ซิสขอเล่าถึงส่วนผสมสุดพิเศษที่จะมากอบกู้ผิวเราให้กลับมาดีเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงงานนี้ใครอยากยอมแพ้ก็ยอมไป แต่ซิสจะขอสู้สุดใจเพื่อผิวสุขภาพดี ส่วนใครที่อยากได้ผิวเริ่ดๆ เหมือนกันก็รีบนั่งลงเลยจ้ะ เดี๋ยวซิสจะเล่าให้ฟังนะ สาม..สี่..
improve barrier function on skin cells by moisturizing and hydrating. Think of it as the glue that binds the cells together, keeping them healthy and working as a cohesive whole.
Hyaluronic acid is a molecule that allows water molecules to bind to the skin and be absorbed within its barriers.
ไฮยาลูรอน ช่วยให้โมเลกุลน้ำจับตัวและดูดซึมเข้าสู่ผิว
เซราไมด์เป็นไขมันธรรมชาติซึ่งมักพบได้จากผิวหนังชั้นนอก เป็นส่วนประกอบราวๆ 47%ของชั้นผิว
==========================
ก่อนอื่นเราต้องรู้จักก่อนว่าผิวหนังเนี่ย เป็นส่วนที่ช่วยห่อหุ้มร่างกายมนุษย์และเป็นด่านแรกในการป้องกันอันตรายจากสิ่งต่างๆ แถมยังเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการสูญเสียน้ำและควบคุมอุณหภูมิร่างกายอีกด้วย ซึ่งลึกลงไป
ภายใต้ชั้นของผิวของเราก็จะมีเซราไมด์ที่เป็นไขมันธรรมชาติและเป็นส่วนประกอบมากถึงราวๆ 47% ของชั้นผิว
เลยทีเดียว หลายคนอาจจะมีคำถามว่า แล้วการมีเซราไมด์มันดียังไงล่ะคะพี่? อะ ๆ ๆ มีแน่นอนค่ะ ตามไปอ่านด้านล่างกันต่อเล้ย
≡ เซราไมด์ทำงานยังไง ≡
ทุกคนคงจะคุ้นเคยกับว่านหางจระเข้ พืชสมุนไพรที่หาได้ง่ายได้ในประเทศไทยและมีสรรพคุณหลากหลาย แน่นอนว่าก็เป็นส่วนผสมสำคัญในวงการเครื่องสำอางเช่นเดียวกัน
ตัวช่วยสำคัญหลังท้าแดด
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยปรอบประโลมผิว
ช่วยลดการอักเสบ
ว่านหางจระเข้มีต้นกำเนิด ลักษณะ
ถิ่นกำเนิด
ถ้าเทียบให้เห็นภาพ ให้เราลองนึกว่า
เซลล์ผิวหนังของเราเป็นอิฐ ส่วนเซราไมด์ก็จะทำหน้าที่คล้ายกับปูน
โดยเจ้าเซราไมด์เนี่ยจะช่วยยึดเซลล์ผิวให้อยู่ติดกัน ทำให้ผิวแข็งแรงเหมือนกำแพงที่ฉาบปูนอย่างหนาแน่น ทำให้อันตรายจากภายนอกไม่ว่าจากมลภาวะหรือจากแบคทีเรียก็ไม่สามารถทะลุกำแพงเข้ามาได้ และ
เมื่อกำแพงผิวเราแข็งแรง ผิวเราก็จะสุขภาพดีและไร้ปัญหากังวลใจ
นั่นเองจ้า
≡ 3 ปัญหาผิวจากการขาดเซราไมด์ ≡
Ceramides are important components of the intercellular lipids that are necessary to link the protein-rich corneocytes into a waterproof barrier that is capable of protecting the underlying skin tissues and regulating body homeostasis.
Ceramide ingredients function primarily as hair conditioning agents and skin conditioning agentsmiscellaneous in cosmetics.1
เซราไมด์เป็นที่นิยมในhair care รวมถึงสกินแคร์ ใช้ในมอยเจอไรเซอร์ เซรั่ม กันแดด
ตัวอย่างเซราไมด์บนฉลากผลิตภัณฑ์ ceramideลงท้ายด้วย 1,2,3,6,II. EOS, EOP, NG, NP, NS, AP รวมถึงในชื่ออื่นที่แปลกตา
N-stearoyl sphinganine
N-stearoyl phytosphingosine
α-hydroxy-N-stearoylphytosphingosine
Caproyl sphingosine
Cetyl-PG Hydroxyethyl Palmitamide
Hexadecanamide
เซราไมด์ในสกินแคร์ทำมาจากอะไร
เซราไมด์ในสกินแคร์
มีองค์ประกอบทางเคมีคล้ายกับเซราไมด์ที่ผลิตจากร่างกายมนุษย์ ทั้งจากพืชและจากวัว ส่วนใหญ่เป็นเซราไมด์ที่สังเคราะห์มาจากพืช น้ำมันจมูกข้าว หรือได้มาจากสกัดมันหวาน ข้าวโพด ถั่วเหลือง และจากยีสต์
เซราไมด์ในผลิตภัณฑ์สำหรับผม
นอกเหนือจากในสกินแคร์แล้วเซราไมด์ยังนิยมมาใส่ในผลิตภัณฑ์สำหรับผมทั้งแชมพูและครีมนวดอีกด้วย เนื่องจากเซราไมด์มีคุณสมบัติในการช่วยเคลือบเส้นผมให้นุ่ม ถ้าสาวๆมีผมแห้งและผมเสีย การมีเซราไมด์ในผลิตภัณฑ์สำหรับผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
ปัญหาผิวมากมายที่เราเจอก็มีส่วนมาจากการขาดเซราไมด์ในชั้นผิวด้วยนะ พอเกราะป้องกันผิวอ่อนแอก็เตรียมใจที่จะต้องเจอกับ 3 ปัญหาผิวสุดฮิตเหล่านี้กันได้เลย
➊ผิวแห้ง
หลังจากเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ผิวเราก็จะสูญเสียการควบคุมน้ำในผิว ทำให้ขาดความชุ่มชื้นและตามมาด้วยปัญหาผิวแห้ง
➋ผิวระคายเคืองง่าย
จากการที่เราขาดชั้นเคลือบปกป้องผิวจากสารก่อระคายเคืองที่เข้ามาทำความเสียหายภายในชั้นผิว
➌ผิวแก่ก่อนวัย
โ
ดยปกติแล้วเซราไมด์จะทำงานร่วมกับคอลลาเจนที่มีอยู่ที่ผิวชั้นหนังแท้ ( Dermis ) เพื่อช่วยเติมเต็มเซลล์ผิวชั้นหนังแท้ให้มีความยืดหยุ่น กระชับ ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง ป้องกันการเกิดริ้วรอย แต่หากเราขาดเซราไมด์ไปนั่นแปลว่าผิวเราจะไม่เต่งตึงเหมือนอย่างเคย ทีนี้แหละผิวก็จะดูเหี่ยวส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัย
≡ ทำไมเราต้องใช้เซราไมด์? ≡
ข้อดีของสกินแคร์ที่มีเซราไมด์เป็นส่วนประกอบจะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว คงความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เรียบเนียน เฟิร์ม ไร้ริ้วรอย
เซราไมด์จะมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวสัมผัสนุ่มเรียบมากขึ้นหากใช้คู่กับส่วนผสมอื่นๆที่เป็นลิพิดชนิดใกล้เคียงกันเช่น fatty acids, glycerin, และ cholesterol และจะยิ่งดีหากใช้คู่กับส่วนผสมในกลุ่ม anti oxidant เพื่อช่วยชะลอผิวไม่ให้แก่ก่อนวัย
จากที่เราพูดถึงกันไปก่อนหน้านี้ว่าเซราไมด์ในผิวก็เหมือนปูนฉาบกำแพง เพราะฉะนั้นถ้าปริมาณเซราไมด์ลดลงก็เหมือนกับกำแพงผิวหนังเราเกิดการผุกร่อน ทีนี้เราก็ผิวสูญเสียน้ำในผิวตามมาด้วยปัญหาสิว รอยแดงและผื่นคัน โอ๊ยพังพินาศสุดๆ ไม่อยากจะคิดดด ซึ่งข้อดีของสกินแคร์ที่มีเซราไมด์เป็นส่วนประกอบก็คือเค้าจะมาช่วย
เสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยกักเก็บและคงความชุ่มชื้นไว้
ทำให้
ผิวอิ่มน้ำ เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
ยิ่งถ้าใช้คู่กับส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นไขมันดีที่เป็นชนิดใกล้เคียงกันก็จะยิ่งได้งานผิวสุดแข็งแรง เช่น Fatty acids, Glycerin, และ Cholesterol และถ้าหากใช้คู่กับส่วนผสมในกลุ่ม Anti Oxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น ชาเขียว วิตามินซี หรือสารสกัดเมล็ดองุ่น ก็จะยิ่งช่วยชะลอผิวไม่ให้แก่ก่อนวัยได้ด้วยนะ
❥
นอกเหนือจากในสกินแคร์แล้วเซราไมด์ยัง
นิยมมาใส่ในผลิตภัณฑ์สำหรับผมทั้งแชมพูและครีมนวด
อีกด้วย เนื่องจากเซราไมด์เค้ามีคุณสมบัติในการช่วย
เคลือบเส้นผมให้นุ่ม
ถ้าสาวๆ มีผมแห้งและผมเสีย การมีเซราไมด์ในผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
≡ ทำไมเราต้องการเซราไมด์ในเมื่อร่างกายเราสามาถผลิตได้เอง? ≡
หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่าจริงๆ แล้วเราก็มีเซราไมด์ในผิวอยู่แล้วนี่คะ ทำไมเราจะต้องทาครีมเพิ่มด้วย ซิสขอเล่าหน่อยว่าถึงแม้ร่างกายมนุษย์จะสามารถผลิตเซราไมด์ได้เองก็จริง แต่
ปริมาณของเซราไมด์นั้นก็จะลดลงตามกาลเวลาและอายุของเราที่เพิ่มมากขึ้น
นั่นเองจ้า ถ้าไม่อยากผิวเหี่ยวแห้งก็ต้องรีบเติมเซราไมด์ด้วยการทาสกินแคร์และหลีกเลี่ยงการโดนแดดไว้ด้วยนะ
≡ ผลข้างเคียงของเซราไมด์ ≡
จริงๆ แล้วสกินแคร์ที่มีเซราไมด์เป็นส่วนประกอบส่วนมากมักจะปลอดภัยหายห่วง เพราะมีรายงานการแพ้เซราไมด์น้อยมากจนถึงไม่มี แต่ถ้าหากยังกังวลเราก็สามารถทดสอบอาการแพ้ได้ด้วยตัวเองโดยวิธี patch test ได้ตามนี้เลยจ้า
➊
ทาผลิตภัณฑ์ลงบนแขนด้านในในปริมาณเท่าเหรียญบาท
➋
ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง
➌
หากมีรอยแดง อาการคัน หรือระคายเคือง ให้รีบชำระล้างบริเวณที่ทดลองทาแล้วระงับการใช้ผลิตภัณฑ์ทันที
➍
หากไม่มีอาการดังกล่าว ก็สามารถสบายใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นี้เราใช้แล้วไม่แพ้
==========================
พื้นฐานของผิวที่ดีเริ่มต้นจากการมีเกราะป้องกันผิวแข็งแรงเพราะถ้าหากผิวเราอ่อนแอปัญหาผิวร้อยแปดพันอย่างก็จะตามมาอย่างไม่มีหยุด ยิ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวก็จะลุกลามจนผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย หยาบกร้านได้นะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมหาสกินแคร์ที่มีเซราไมด์มาช่วยพยุงผิวเราไว้ เพื่อเสริมเกราะป้องกันและคงความชุ่มชื้นให้ผิวเราสวยสุขภาพดีคู่กับเราไปนานๆ นั่นเอง (o˘◡˘o)
kidasindahouse
Writer:BabyPeachy
