มีอะไรบ้างนะ!? ชวนส่อง 5 ประเภท ' น้ำหอม ' ก่อนเลือกซื้อ พร้อม ' ทริค ' การเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์
จะซื้อน้ำหอมทั้งทีก็ต้องรู้ด้วยนะเออว่าน้ำหอมมี ' หลายประเภท ' ให้เลือกใช้เยอะมาก ๆ ซึ่งน้ำหอมแต่ละตัวก็มีความเหมาะสมกับการใช้แตกต่างกันไป แต่ตัวไหนจะเหมาะกับสถานการณ์อะไรก็ตามมาส่องกันโลด ♥
เผยแพร่: 13 พ.ค. 2565 19:00 น.
Views: 2,560
รหัสบทความ: 90129
เซย์ฮายยยยยยยยยยย ~สวัสดีค่าชาว Sis ( tacafe ) กลับมาเจอกันอีกแล้วจ้า วันนี้ขอมาว่ากันด้วยเรื่องของน้ำหอมกันสักหน่อย ใครมือโปรเรื่องน้ำหอมแล้วก็น่าจะรู้กันดีเลยใช่ม้าว่าน้ำหอมเนี่ยมีหลากหลายประเภทมาก ๆความติดทนแต่ละประเภทก็แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประเภทของน้ำหอมมีผลต่อการเลือกน้ำหอมและการใช้ในแต่ละสถานการณ์ด้วยและวันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนมารู้จัก 5 ประเภทน้ำหอมหลัก ๆ ที่คนในโลกนี้ใช้กัน แล้วก็จะมีแนะนำด้วยว่าแบบไหนควรใช้ตอนไหน เหมาะกับใครบ้างเอาละ! พร้อมรึยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลยจ้า ♥
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
♡ น้ำหอมมีกี่ประเภท แล้วใช้ตอนไหนได้บ้างนะ? ♡
1. ความเข้มข้นแบบเริ่มต้น : Eau Fraiche
เริ่มต้นกันด้วยน้ำหอมประเภทEau Fraiche ( โอ แฟร้ช / โอ เฟรช)กันเลยค่า Fraiche เป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งมีความหมายเหมือนกับคำว่า Fresh ที่แปลว่า' สดชื่น 'นั่นเองค่า โอ เฟรชเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมน้อยมากที่สุด มีเพียงประมาณ1 - 3%เท่านั้น ส่วนอีกประมาณ 97% ที่เหลือจะเป็นส่วนผสมของน้ำหรือแอลกอฮอล์ เมื่อความเข้มข้นของหัวน้ำหอมน้อยก็ทำให้กลิ่นน้ำหอมแบบโอ เฟรชเนี่ย บางเบาตามไปด้วย ความติดทนก็จะน้อยกว่าแบบอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆกลิ่นก็จะเริ่มจางลง แล้วก็มีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นน้ำหอมแบบโอ เฟรชใช่ม้า? เพราะมันไม่ค่อยมีขายมากสักเท่าไหร่แต่ในประเทศฝรั่งเศสก็คือมีขายเยอะแยะมากมายเลยละค่ะ ถึงกลิ่นจะไม่ติดทน แต่ความหอมจาง ๆ บาง ๆ เบา ๆหลายคนก็ชอบอะไรแบบนี้อะเนอะ แถมเติมได้บ่อย ๆ ไม่เบื่อด้วย ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อกันดูน้า
2. ความเข้มข้นระดับหอมอ่อนๆ : Eau de Cologne ( EDC ) / Cologne
มาต่อกันที่Eau de Cologne ( โอ เดอ โคโลญจน์ ) หรือ Cologne ( โคโลญจน์ )กันเลยค่า น้ำหอมประเภทนี้จะมีความติดทนมากกว่าโอ เฟรชขึ้นมาซักหน่อย หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูคุ้นตาน้ำหอมแบบ EDC หรือโคโลญจน์กันเยอะเลยใช่ม้า เพราะน้ำหอมแบบ EDC ค่อนข้างจะมีวางขายทั่ว ๆ ไปแถมมีราคาไม่แพงเช่นเดียวกันกับแบบโอ เฟรชเลยละค่ะ และที่มันไม่แพงก็เพราะว่า EDC มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมเพียงแค่2 - 6%เท่านั้นความติดทนก็จะอยู่ที่ 3 - 4 ชั่วโมงหลังจากนั้นกลิ่นก็จะจางลง ส่วนกลิ่นของน้ำหอม EDC ก็จะกลิ่นบาง ๆ เบา ๆ ไม่ฉุนเหมือน ๆ กับโอ เฟรชเลยค่ะ เพียงแต่ว่ามีความติดทนมากขึ้นมาสักหน่อยเท่านั้นเอง แอบกระซิบว่า EDCวัยเรียนแอบฉีดนิดหน่อยไปโรงเรียนก็ถือว่าโอเคเลยแหละค่ะ ตัวจะได้หอม ๆ แถมราคาก็คุ้มค่ามากด้วย ♥
3. ความเข้มข้นระดับติดตัวปานกลาง : Eau de Toilette ( EDT )
เพิ่มความติดทนให้มากขึ้นอีกสเต็ป ก็ต้องเป็นน้ำหอมประเภทEau de Toilette ( โอ เดอ ตัวเลตต์ )เลยค่า หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะเรียกสั้น ๆ กันว่า EDT นั่นเอง เห็นคำว่า Toilette หลายคนน่าจะเผลออ่านกันว่า ' ทอยเลตต์ ' กันเยอะแน่ ๆเลยใช่ม้า? แต่การอ่านที่ถูกต้องคือการอ่านว่า ' ตัวเลตต์ ' ตามภาษาฝรั่งเศส ซึ่งก็จะแปลประมาณว่าน้ำหอมที่ใช้ฉีดหลังอาบน้ำนั่นเองค่ะ ตัวนี้เป็นน้ำหอมอีกประเภทที่ฮอตฮิตม้ากมาก มีกลิ่นให้เลือกหลากหลายสุด ๆความติดทนอยู่ที่ 4 - 6 ชั่วโมงจะฉีดไปเที่ยว ไปทำงาน ไปเรียนก็ตอบโจทย์ทั้งหมด ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมอยู่ที่5 - 15%ส่วนมากก็จะอยู่ที่ประมาณ 10% ราคาก็เลยจะแพงว่า EDC และ Eau Fraiche มากหน่อย แต่บอกเลยว่าEDT ตอบโจทย์กับสาวกน้ำหอมทั้งหลายมาก ๆเพราะความติดทนอยู่ประมาณกลาง ๆ ราคาไม่แพงเวอร์ ( แต่ก็มีบางตัวราคาแพงเวอร์อยู่นะเออ ) กลิ่นไม่ฉุนเกินไป ฉีดได้บ่อย ๆ ทำให้ครองใจใครหลาย ๆ คนไปได้เยอะสุด ๆ > _ <
4. ความเข้มข้นระดับซีเนียร์ : Eau de Parfum ( EDP )
ใครยังไม่ถูกใจความติดทนที่ว่ามา ก็มาลองน้ำหอมแบบEau de Parfum ( โอ เดอ ปาฟูม ) หรือ EDPกันเลยค่า น้ำหอมประเภทนี้ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้ EDT เลยเหมือนกันน้า เพราะว่าเขามีความติดทนมากถึง 10 ชั่วโมงขึ้นไปเลยละค่ะ แล้วที่มีความติดทนก็เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันน้ำหอมหรือหัวน้ำหอมมากถึง15 - 20%แต่ส่วนมากก็จะอยู่ที่ 15 - 16% กลิ่นก็จะมีความเข้มข้นมากขึ้น ติดทนมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งความติดทนและหัวน้ำหอมที่มากขึ้นก็มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นด้วยทำให้อาจจะเป็นที่นิยมน้อยกว่าแบบ EDT สักหน่อย แต่ใครที่งบถึงแอบแนะนำว่า EDP น่าสนใจมากเลยค่ะ กลิ่นก็มีให้เลือกเยอะ แถมยังติดทนมากกว่าด้วย ใครสนใจน้ำหอมติดทนทั้งวัน แบบไม่อยากเติมระหว่างวันก็ลองไปหาซื้อแบบ EDP กันได้นะคะวัยเรียน วัยทำงานก็ใช้ได้หมดน้าแต่วัยเรียนอาจจะต้องเลือกกลิ่นที่เบา ๆ นุ่ม ๆ สักหน่อยเนอะ ♥
6.
5. ความเข้มข้นระดับตัวแม่ : Parfum / Perfume
6
EDP ที่ว่าเข้มข้น ก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับน้ำหอมประเภทParfum ( ปาฟูม ) หรือ Perfume ( เพอร์ฟูม )เลยจ้า เพราะเจ้าตัวนี้มีน้ำมันน้ำหอมหรือหัวน้ำหอมผสมอยู่ถึง20 - 40%เกือบครึ่งขวดกันเลยทีเดียว ตัวนี้ถ้าฉีดออกมาจะมีความมัน ๆ วาว ๆ สักหน่อยเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันน้ำหอมเยอะ และด้วยความเข้มข้นที่มาแบบจัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ราคาก็คือแบบจุก ๆ แน่นอนค่ะ แต่ราคาแพงก็และมาด้วยความติดทน แบบทั้งวันทั้งคืนไปเลยซึ่งถามว่าจำเป็นต้องฉีดเบอร์นี้ไหม ก็บอกเลยว่าไม่จำเป็นขนาดนั้นนะคะ แต่ถ้าใครชอบก็ซื้อได้น้า เพียงแต่ว่าราคามันค่อนข้างจะจุกจริงค่ะ หลักหมื่นเอยอะไรเอย ถ้าใครไหวไปก่อนได้เลยนะคะ เพราะทางนี้ไม่ไหวค่า > _ <
7
7
♥ TRICK! เลือกน้ำหอมประเภทไหนให้เหมาะกับสถานการณ์ ? ♥
1.ไปเรียน ( ประถม / มัธยม ):Eau de Colonge/Eau de Toilette2.ไปเรียน ( มหาวิทยาลัย ) หรือไปทำงาน:Eau de Toilette/Eau de Parfum3.ไปออกงานต่าง ๆ:Eau de Toilette/Eau de Parfum/Parfum4.ไปเที่ยว:Eau de Colonge/Eau de Toilette/Eau de Parfum
5.ไปเดต:Eau de Toilette/Eau de Parfumคัดมาให้ 5 สถานการณ์หลัก ๆ ที่ทุกคนต้องเจอเลยค่า รับรองเลยว่าถ้าเลือกตามนี้เป๊ะปังแนะนอนเล้ย
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย?ได้ความรู้เรื่องประเภทน้ำหอมกันไปแบบแน่น ๆ เลยใช่ม้าแถมเรายังแอบแปะทริคเล็ก ๆ ให้ทุกคนเลือกน้ำหอมไปใช้ให้ถูกกับสถานการณ์ด้วย หวังว่าจะช่วยทุกคนให้เลือกน้ำหอมไปใช้กันได้แบบปัง ๆ น้า แต่แอบบอกอีกนิดนึง พวกความเข้มข้นของน้ำมันน้ำหอมหรือหัวน้ำหอมก็มีส่วนที่จะทำให้น้ำหอมติดทน แต่ก็ต้องดูโน้ตต่าง ๆ ของน้ำหอมนั้น ๆ ด้วยนะคะ ถ้าโน้ตเป็นตัวที่ให้กลิ่นบาง ๆ กลิ่นพวกนี้ก็จะจางไวกว่าพวกที่มีโน้ตฉุน ๆ แรง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเลือกจากความชอบจะดีที่สุดนะคะ ไม่ต้องเน้นทนมากก็ได้ เน้นเราฉีดแล้วชอบ พอใจอยู่กับมันไปได้ทั้งวัน แบบนี้จะโอเคกว่าเนอะ ♥เอาละ~ วันนี้หมดเวลาแล้วคงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย > 3 <
ปกบทความนะคะvv
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
Designer :namoodong
Writer :saturnxjan_