รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ce/f5/39/cef539645f08d25f95ebeef375fb100a.jpg

ทุกวันนี้นอกจาก

Hifu

ก็มีนวัตกรรมทางด้านความงามเกิดขึ้นมากมายซะเหลือเกิน แค่ย่างกรายเข้าคลินิกก็มีคอร์สความงามต่าง ๆ มาให้เลือกทำมากเวอร์ แล้วเพื่อน ๆ เคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะว่าแต่ละอย่างเนี่ย มีไว้ทำอะไร แล้วให้ประโยชน์กับเรายังไงบ้าง? วันนี้ซิสจะเชิญชวนทุกคนมาไขข้อสงสัยและทำความรู้จักกับ 1 นวัตกรรมความงามยอดฮิตอย่าง

Hifu

ก่อนเลยละกัน

ว่าคืออะไร? ช่วยอะไร? ดีไหม? อยู่ได้นานมั้ย? กี่วันเห็นผล? รวมทุกคำตอบชวนสงสัย

แบบเน้น ๆ กันไปเลย ถ้าพร้อมแล้วตามไปอ่านกันเล้ยย~

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/71/35/13/713513f101124a62c0168188693a29c9.jpg

Hifu คืออะไร ?

HIFU หรือชื่อเต็มคือ High Intensity Focus Ultrasound

เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวในระดับลึกถึงชั้น

SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System)

ทำให้ผิวชั้นนี้หดตัว (คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ) จนเกิดการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมานั่นเอง จากการหดตัวที่เกิดขึ้นและการเรียงตัวที่เป็นระเบียบกว่าเดิมของคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ จะส่งผล

ทำให้ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลง ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ลงได้ โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ

และจะค่อยๆ เห็นชัดขึ้นอีกจนกระทั่งคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างโดยสมบูรณ์

HIFU นั้นสามารถทำได้ทั่วทั้งใบหน้า รวมไปถึงต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง โดย

จำนวนช็อตของการทำจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา

Hifu เหมาะกับใครบ้าง?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cd/95/e4/cd95e4afb9669a76e53f614478024863.jpg

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ

ผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก

ผู้ที่ต้องการกระชับผิวด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ฉีด

ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำใช้หน้าได้เลย ไม่มีแผล

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/97/e7/85/97e7858fa13a1b583dd2ba1955d47fb6.jpg

ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Hifu

- ข้อดี -ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด

ไม่มีรอยแดงช้ำ

ไม่ต้องรอการพักฟื้นนานๆ

มีความปลอดภัยต่อผิวสูง ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก

ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยและสลายไขมันได้บางส่วน

ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง

ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้

•• ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ••

- ข้อเสีย -

เครื่อง Hifu ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน เป็นเครื่องเกรดต่ำ ให้พลังงานไม่คงที่และสม่ำเสมอ

แพทย์ไม่มีประสบการณ์ ประเมินปัญหา ใช้จำนวนไลน์ที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้เทคนิคในการยิง โดยเฉพาะในบางจุดที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เช่น Hifu ถุงใต้ตา แก้หนังตาตก ยกมุมปาก

ความคาดหวังของคนไข้ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนต่างกัน คนไข้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ไขมันเยอะ ทำ Hifu ครั้งแรกอาจยังเห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนนัก

Hifu เจ็บมั้ย? แล้วกี่วันถึงจะเห็นผลล่ะ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/0b/da/5a/0bda5a4e5b5a32717813144d6be32bb7.jpg

หลายๆ คนก็ยังมีข้อสงสัยว่าทําไฮฟู่เจ็บมั้ย ซิสต้องบอกเลยว่าเจ็บแน่นอนค่ะ!การทำ Hifu ที่ได้ประสิทธิภาพนั้น ขณะทำต้องมีความรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ บริเวณใต้ชั้นผิวบ้างแต่จะไม่แสบร้อนเนื่องจากมีการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อความยกกระชับและอาการหลังทำ hifu จะมีความบวมเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง ผลการทำ Hifu Macrofocus อยู่ได้ 6 เดือน และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม Hifu/Ulthera SPT จึงมักมีคำกล่าวว่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวยหลังทำ Hifu จะเห็นผลทันทีประมาณ 20%เพราะชั้นผิวจะหดจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว 60°C-70°C โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน ไม่ทำให้ผิวไหม้ หลักการคล้ายกับเนื้อที่เราวางลงบนกระทะร้อนๆ เนื้อจะหด ผลการทำ Hifu Macrofocus จะเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/fa/6e/84/fa6e841c741045d965d57cffcb7c6e87.jpg

เพื่อน ๆ คงจะรู้จักกับเจ้าHifuขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะคะ จะเห็นได้ว่าHifuเป็นการดูแลและยกกระชับผิวหน้าที่เห็นผลอย่างชัดเจน บางคนแม้ทำเพียงครั้งแรกก็ให้ความรู้สึกถึงผลลัพธ์ของก่อนทำและหลังทำได้ดีแบบสุด ๆ การทำHifuจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าลองของผู้ที่ต้องการดูแลผิวตั้งแต่อายุไม่มากนักด้วยนะ ว่าแล้วก็เกียมเก็บเงินเข้าคลินิกด่วน ๆ เลย ><

อย่างไรก็ตาม ควรใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน และทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยนะคะ สำหรับวันนี้ซิสต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วน้าาบ๊าย บาย~

Designer :kidasindahouse

Writer :A dolly.ble