ไม่ว่าที่ไหน ๆ ผู้หญิงกับเรื่องความสวยความงามก็เป็นสิ่งที่คู่กันมาเสมอ โดยเฉพาะการแต่งหน้าที่มีมาอย่างยาวนานทุกยุคทุกสมัย ตอนนี้เราเลยจะมาพูดถึงเรื่องการแต่งหน้าแบบสาวเอเชียตะวันออกกันค่ะ ที่จะมาพูดเรื่องนี้กัน ก็เพราะว่าสาว ๆ ในแถบนี้ ทั้งจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ต่างมีสไตล์การแต่งหน้าที่ชัดเจนและเป็นตัวของตัวเองมาก อยากให้ลองมาดูกันค่ะ
และเพื่อให้เห็นความแตกต่าง เรามีนางแบบมาร่วมแต่งหน้ากับเราด้วย เดี๋ยวมาดูกันว่าแค่หน้าของเธอหน้าเดียว พอแต่งหน้าแล้วเธอจะดูเปลี่ยนเชื้อชาติกลายเป็นอีกคนเลยรึเปล่า
ก่อนอื่น ไปดูภาพ before ตอนที่เธอยังไม่แต่งหน้ากันก่อนเลยค่ะ ^_^
สาวจีน
ผิวของคนจีนมี undertone เป็นสีเหลือง สาวจีนจึงใส่ใจกับการบำรุงผิวหน้าให้ดูขาวใสมากกว่าจะเน้นการแต่งหน้าจัดๆ โดยส่วนมากพวกเธอชอบแต่งหน้าในโทนธรรมชาติ ไม่เน้นสีสันจัดจ้านมากนัก ตัวอย่างที่เห็นกันชัด ๆ ก็คือเธอคนนี้เลยค่ะ “หลิวอี้เฟย” ซึ่งดูสวยตามแบบฉบับสาวจีนในยุคโบราณ (เป็นเซียวเหน่งนึ่งที่ถอดมาจากนวนิยายเรื่องมังกรหยกเลยก็ว่าได้!!!)
แต่ถึงยังไง ก็ยังมีคนที่แต่งหน้าแบบฉีกพิมพ์นิยมเดิม ๆ ออกมา อย่าง “ฟ่านปิงปิง” สไตล์การแต่งตาแบบสโมกกี้อาย และการทาลิปสติกสีสด ๆ ดูจะเป็นเอกลักษณ์ของเธอผู้นี้ไปซะแล้ว แม้สาวจีนจะไม่ค่อยแต่งหน้าตามเจ๊ฟ่านกัน แต่ก็เชื่อว่าหลายคนก็คงชื่นชมในความสวยของเจ๊แกกันเป็นแถว ๆ เลยล่ะค่ะ
มาดูโฉมหน้าของนางแบบตอนแต่งหน้าลุคสาวจีนเสร็จแล้วกันดีกว่าค่ะ
นางแบบของเราเป็นสาวหมวยอยู่แล้ว ลุคนี้ก็แค่แต่งกรีดตาให้เชิดขึ้น ดูเฉี่ยวกว่าเดิม ปัดแก้มไม่ต้องเยอะค่ะ ทาปากสีส้มแบบไล่สีเข้มจากมุมปากเข้ามาเล็กน้อย แค่นี้ก็ดูสวยแบบจีนๆ แล้วค่ะ
How to ขั้นตอนแต่งหน้าให้เป็นสาวจีน
https://sistacafe.com/summaries/649
สาวญี่ปุ่น
ถึงคนญี่ปุ่นจะมีผิวขาวมากจนดูซีด แต่สาวๆ ในแดนอาทิตย์อุทัยก็ยังนิยมใช้สกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องของหน้าขาวและดูไบรท์ สกินแคร์ที่เน้นเรื่องหน้าขาวเลยเป็นไอเทมที่ขายได้ขายดีตลอดมา
หากพูดถึงเรื่องการแต่งหน้า สาวญี่ปุ่นจะเน้นการแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติ ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลหรือสีดำในการแต่งตา และที่สำคัญต้องมีขนตาเป็นจุดเด่นเลยค่ะ (มาสคาร่าและขนตาปลอมของญี่ปุ่นเค้าขึ้นชื่อมากจริงๆ) มีการปัดแก้มสีชมพูให้ดูแบ๊วๆ ส่วนการทาปากก็จะนิยมทาสีนู้ดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
และเมื่อนางแบบของเรากลายเป็นสาว Gal >>>
จะแต่งหน้านางแบบเป็นสาวญี่ปุ่นทั้งที ก็แต่งให้คล้ายๆ สาว Gal ไปเลย จะได้เห็นความแตกต่าง ลุคนี้จะเน้นการปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอม โดยติดทั้งบนและล่าง ปัดแก้มลงไปตรงพวงแก้มให้เห็นสีชัดเจนหน่อย ดูน่ารักแบ๊วๆ และที่ขาดไม่ได้เลยคือลิปสีนู้ด ทาแล้วออกมาดูสวยพอดิบพอดี ไม่แย่งซีนกับดวงตาที่แต่งมาแบบจัดเต็มค่ะ!
How to แต่งหน้าเป็นสาว Gal สัญชาติญี่ปุ่น
https://sistacafe.com/summaries/714
สาวเกาหลี
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศเกาหลีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมความงามเอามาก ๆ เรียกได้ว่าเปลี่ยนหน้าคนนึงให้กลายเป็นอีกคนเลย เรื่องการแต่งหน้าของเค้าก็ใช่ย่อยค่ะ เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเน้นงานผิวให้ดูฉ่ำวาว หรือที่เรียกกันว่า “Dewy Look” ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวดูชุ่มชื่น สีสันก็ไม่ได้จัดจ้านอะไรมาก เน้นความเป็นธรรมชาติอีกเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นสาวๆ แดนกิมจิยังนิยมสีชมพูเอามากๆ รวมถึงการทาทินท์ที่ริมฝีปากด้านในให้ดูสวยมีสุขภาพดี ลองสังเกตจากซีรีย์เกาหลีที่ชอบดูกันสิคะสาวๆ ^_^
ถ้านางแบบของเรามีผิวหน้าแบบฉ่ำน้ำอย่างสาวแดนกิมจิบ้างล่ะ จะเป็นยังไง?
โดยปกติแล้ว นางแบบของเรามีสภาพผิวหน้าที่ค่อนข้างแห้ง เมื่อมีการแต่งหน้าแบบเน้น Dewy Skin ขึ้นมา ทำให้ลุคของเธอลุคนี้ดูสดชื่น ผิวดูมีสุขภาพดี บวกกับการเน้นใช้สีชมพูในการปัดแก้มและทาปาก นางแบบเลยดูเป็นสาวหวานเรียบร้อย และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ
"
การเขียนคิ้วตรง"
ซึ่งกลายเป็น Signature ของการแต่งหน้าสาวเกาหลีไปแล้ว
How to แต่งหน้าให้แบ๊วแบบสาวเกาหลี
https://sistacafe.com/summaries/854
เมื่อนำทั้งสามลุคมาเปรียบเทียบกัน
เห็นมั้ยคะว่าถึงสามประเทศนี้จะอยู่ในโซนเอเชียตะวันออกเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความสวยความงาม การแต่งหน้าก็ด้วย แต่ละที่ต่างมีความสวยงามตามอุดมคติไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับยุคสมัย เหตุการณ์ หรือกระแสในช่วงนั้น ไหนๆ พูดเรื่องการแต่งหน้าของสามชาตินี้กันมาเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว คราวหน้าเรามาทำ How to สอนแต่งหน้าให้ดูกันในแต่ละลุคเลยดีกว่า พบกันคราวหน้านะคะสาว
Sista
ทุกคน สวัสดีค่ะ
Cr.http://beautyinchina.blogspot.com/2013/11/east-asian-makeup-beauty.html
http://beautyinchina.blogspot.com/2013/11/east-asian-makeup-beauty.html