คิดถึงกันไหมเอ่ยย..
ต่อจาก EP. ที่แล้วHappyBowlก็ได้พาทุกคนออกจากอาราชิยามา ณ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ^_^ เอาล่ะค่ะ จากนั้นเราก็ขับรถไปกันต่อที่ย่านกิออน ย่านนี้เป็นย่านที่นิยมสำหรับบรรดานักท่องเที่ยวต่างๆเช่นกันค่ะ เพราะเป็นย่านโบราณ เก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองเกียวโตค่ะ
ความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ศึกษาก่อนเดินทางมาเที่ยว เราจะพบว่าย่านนี้เป็นทำเลสำหรับการมาพักผ่อนยามเย็นหรือยามค่ำคืน ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะค่ะ บวกกับมีวัฒนธรรมด้านเกอิชาจึงทำให้ย่านนี้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากค่ะ เราจะเห็นว่ามีผู้คน นักท่องเที่ยวจำนวนมากแต่งกายใส่ชุดกิโมโนมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึก (ระลึก) :-) เช่นกันค่ะ
ย่านนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยน่ะค่ะ (เปิดเหมือน 7-11 บ้านเราเลยค่ะ) เราจะเห็นบรรยากาศรอบๆจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นและที่สำคัญจะมีโรงละครแสดงเกอิชาที่เลื่องลือด้วยนะเออ..
ร้านขายขนมไดฟุกุ ดังโงะ และโมจิ มีขนมไส้ต่างๆในรูปปลาของญี่ปุ่นด้วยค่ะ
หลังจากกินอิ่มแล้วน่ะค่ะ ก็ตามระเบียบค่ะ เราก็กลับโรงแรมแล้วล่ะค่ะ เพื่อเตรียมพักผ่อนและลุยวันต่อไป Zzzzตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ สมกับเป็นเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลังจากที่เดินชมรอบๆเสร็จ เราก้อออกเดินทางจากศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอก ประมาณบ่าย กว่าๆแล้วค่ะ เพื่อไปยังเมืองนาโกยาค่ะ ระหว่างทางเราแวะกินข้าวที่จุดพักรถ ทางที่จะไปเมืองนาโกย่า
กินข้าวกลางวันกันเสร็จ ก็ทานไอศครีมกันค่ะ Original ไอศครีมชาเขียวต้องที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่หวานเกินไปด้วยน่ะจ๊ะ
หลังจากกินอิ่มเสร็จสรรพ เราก็เดินทางมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองนาโกยา ค่ะ เราจะไปงานประดับไฟที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้
งานเทศกาลประดับไฟหรือที่เรียกชื่อว่านาบานาโนะ ซาโตะค่า
จุดที่สำคัญของงานประดับไฟของเมืองนาโกยานี้ คือ เป็นอุโมงค์ที่ประดับไฟที่ยาวสุดลูกหูลูกตา สีของไฟจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ ประมาณ 1 นาทีค่ะ จากสีม่วงเป็นเขียว สีเขียวเป็นชมพู สีชมพูเป็นสีเหลือง สลับๆกันไปเรื่อยๆค่ะ น่าสนใจ ตื่นตาตื่นใจมาก
เราจะต้องซื้อบัตรที่หน้าประตูก่อนเข้างานนะค่ะ ราคา 2300 เยนค่ะ แต่จะนำไปเป็นส่วนลดสำหรับค่าข้าวได้ในศุนย์อาหารบริเวณในงานค่ะ ตอนที่เราไปคนเยอะมากก ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นค่ะ
จุดไฮไลท์ของงานที่พลาดไม่ได้ คืออุโมงค์ยักษ์แนวยาวมาก ประดับไฟมากมาย
ภายในงานนอกจากไฟประดับที่สวยงามแล้วจะมีการแสดงแสง สี เสียง หลังจากที่เราผ่านอุโมงค์ยักษ์ด้วยน่ะค่ะ เป็นการแสดงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีภูเขาไฟฟูจิซัง และหมียอดฮิตอย่างคุมะมงด้วยจ้า
หลังจากที่ชมบรรยากาศภายในงานนาบานาโนะ ซาโตะที่ข้างในประดับประดาด้วยไฟระยิบระยับมากมายแล้วเราก้อออกมาจากงานค่ะ เพื่อไป check-in ที่พักในโรงแรม เมืองนาโกยานี้ โรงแรมของเราจะใกล้กับ ร้านดองกี้ ยอดฮิตด้วยแหละค่า ร้านดองกี้สาขานี้คนก็ยังแน่นน่ะจ๊ะ แต่ไม่มีปัญหาเปิด 24 ชม. อยู่แล้วเนาะ
Check-in เรียบร้อยเราก็ไปกินข้าวกันค่า ร้านที่เลือกคือราเมงข้อสอบ มาถึงเจแปนทั้งทีต้องมาร้านนี้กันหน่อย แวะมาทำข้อสอบ อิอิ ร้านราเมงชื่อดังที่ตอนนี้เค้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยแล้วนาจา :-)
ชิงช้าสวรรค์ สัญลักษณ์ของเมืองนาโกยาแห่งนี้และร้านดองกี้ ยอดฮิต
HappyBowl
อยากจะแนะนำอีกอย่างนึงก็คือไก่ทอดยามะจังค่ะ เป็นไก่ทอดยอดฮิต หรือ อาหารที่เป็นจุดขายของเมืองนี้ สัญลักษณ์ทำให้เรานึกถึงการ์ตูนเรื่อง มารูโกะ เลยทีเดียว ;-)
ไก่ทอดร้านนี้มีมาเปิดสาขาที่ไทยแล้วเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ว่า... มาถึงถิ่นทั้งทีจะอดได้ไง จริงไหมจ๊ะ
รสชาติอร่อย ราคาไม่แพงค่ะ นิยมกินคู่กับรูทเบียร์ อร่อย ฟินสุดๆไปเลยจ้า
หลังจากกินอิ่มแปร้ พุงกางแล้วเราก็ต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อนน่ะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงลุยต่อ
วันนี้สุดๆไปเลย หลายที่มากจ้า Zzzz
เอาล่ะค่ะ...มาถึงครึ่งทางกันแล้วน่ะ สำหรับAutumn in Kansai 2018วันนี้เรามาแวะพักเหนื่อยกันที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่เลื่องชื่อในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่นนี้ก่อนน่ะค่ะ
คราวหน้าเราจะไปที่ไหนกัน ขอเกริ่นไว้นิดนึงก่อนก็ได้ค่ะว่า ดูดี เรียบง่าย เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีคนอยู่หนาแน่นสักเท่าไร แต่ก็น่าประทับใจและหลงไหล นั่นคือเมืองทาคายาม่านั่นเอง HappyBowl จะพาสาวๆSistaCafeไปออนทัวร์กัน และเราจะเข้าเมืองไปโอซาก้ากันแล้วจ้า
จ
ะเป็นอย่างไรนั่น มีอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจต่างจากบ้านเราไหม ฝากติดตามกันด้วยน่ะค่ะ
วั
นนี้ขอตัวไปก่อนน่ะจ๊ะ...
Bye Bye (Sayonara)
ฝากเป็นกำลังใจ ให้ HappyBowl ทำผลงาน บทความดีๆมาให้เพื่อนๆชาวSistaCafeได้อ่านด้วยนะคะ
#เลิฟๆเลย