เมื่อเหล่ามนุษย์ออฟฟิศต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง เอางานที่เคยทำในบริษัทกลับมาทำที่บ้านทำให้หลายอย่างต้องเปลี่ยนไปเพราะสถานการณ์ทั่วโลกบังคับให้เราทุกคนต้องปรับตัวตลอดเวลา การ
Work From Home
จึงเป็น
ตัวเลือกที่ดีที่สุด
เพราะไม่ต้องออกไปรับมือกับโรคโควิด-19 ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดไป (จนกว่าจะมีวัคซีน) แน่นอนว่า
การอยู่บ้านและทำงานที่บ้านทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่ากินและของใช้ ไหนจะค่าน้ำค่าไฟที่ขยันขึ้นมันทุกเดือน
วันนี้เราเลยมี
วิธี ' ประหยัดไฟ ' ในช่วง WFH
มาฝากทุกคนที่ต้องใช้ชีวิตในบ้านต่อไปด้วยอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นช่วงหน้าร้อนของเมืองไทยและอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ว่าแต่จะมีวิธีอะไรที่สามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ของทุกคนได้บ้างตามมาดูกันค่ะ
1. ถอดปลั๊กทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
เคยไหมเมื่อเราปิดพัดลมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แล้วมักจะลืมหรือตั้งใจไม่ดึงปลั๊กออกจากขั้ว นั่นคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟขึ้นแบบไม่รู้ตัว
เพราะไม่คิดว่าการไม่ถอดปลั๊กจะเกี่ยวกับการที่ค่าไฟขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันมีส่วนที่ทำให้กระแสไฟยังเดินอยู่ค่ะ บางคนอาจจะแค่คิดว่าปิดสวิตช์แล้วก็คงจะเป็นการประหยัดไฟ แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการประหยัดไฟเพราะตัวไฟยังคงเดินอยู่
ถ้าหากส่วนไหนที่ไม่ใช่งานแนะนำให้' ปิดสวิตช์และถอดปลั๊ก 'ได้เลยนะคะ
2. หากต้องเปิดแอร์ให้ทำดังนี้
บ้านไหนมีแอร์และยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อนแบบนี้ใครจะไม่อยากเปิดบ้าง? แน่นอนล่ะว่าการเปิดแอร์เป็นสิ่งที่ทำให้ค่าไฟขึ้นได้เช่นกันหากเทียบกับพัดลม
แต่ถ้าเลี่ยงที่จะเปิดไม่ได้ก็แนะนำให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเพราะเป็นอุณหภูมิที่พอที่สุดในการประหยัดไฟ หรือจะเลือกเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาและเปิดพัดลมเบอร์ 1
ให้มีลมเย็นจากพัดลมก็ได้ แต่ไม่ควรเลือกอุณหภูมิที่ต่ำถึง 20 องศาเพราะไม่งั้นเดือนหน้าค่าไฟของคุณสาวๆ อาจจะเพิ่มเป็นหลายเท่าตัวเลยค่ะ
3. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น
ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นลงบ้างอาจจะช่วยให้ค่าไฟลดลง
ลองสังเกตตัวเองดูก่อนค่ะว่าการเปิดไฟหลายดวงในบ้าน ดวงไหนที่ไม่จำเป็นบ้าง
บางคนอาจจะคุ้นชินกับการเปิดไฟทั่วบ้านเพราะรู้สึกว่าสว่างและปลอดภัย แต่การเปิดไฟหลายดวงก็ทำให้ค่าไฟขึ้นได้เช่นกัน
อาจจะปรับเป็นเปิดห้องนั่งเล่นไว้หนึ่งดวง หรือถ้าใครจำเป็นต้องอ่านหนังสือหรือทำงานอยู่บ้านก็ขอให้ใช้โคมไฟช่วยเพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดไฟหลายดวงในบ้านแทนค่ะ
4. ใช้แสงสว่างจากธรรมชาติแทนการเปิดไฟ
แม้จะเป็นการทำงานที่บ้านไม่ใช่ว่าจะตื่นสายได้ เพราะการเข้างานออกงานยังคงปกติเพียงแค่เปลี่ยนจากที่ทำงานมาเป็นบ้านแทน เมื่อตื่นเช้าแล้วให้หามุมที่แสงอาทิตย์เข้าถึงอย่างการ
เลื่อนโต๊ะทำงานมาไว้ข้างหน้าต่างที่สามารถรับแสงช่วงเช้าได้ดี และถ้าเป็นช่วงบ่ายๆ ที่เริ่มร้อนก็ให้เปิดม่านให้ภายในห้องดูสว่างขึ้นจะได้ลดการเปิดไฟในห้อง
แล้วใช้ไฟจากธรรมชาติดูบ้าง
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเซฟค่าไฟได้อย่างดีเลยค่ะ
5. เมื่อแบตเต็มให้ถอดออกทันที
ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ทั้งหลายเมื่อเต็มแล้วควรถอดปลั๊กทันที
ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้และใช้งานไปเรื่อยๆ เพราะกระแสไฟจากต้นขั้วยังคงเดินอยู่และนี่เองที่ทำให้ค่าไฟแต่ละเดือนขึ้น อย่างน้อยๆ ต้องหมั่นดูเปอร์เซนต์ของสิ่งที่ชาร์จด้วยค่ะ
ถ้าหากการถอดปลั๊กนั้นจะช่วยทำให้ค่าไฟในบ้านไม่ขึ้นในช่วง WFH เราก็คิดว่านี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญนะ
6. ซักผ้า/รีดผ้าครั้งละมากๆ ในทีเดียว
หลายคนคิดว่าการซักผ้า/รีดผ้าจะมากหรือน้อยไม่สำคัญ อยู่ที่ความจำเป็นที่ต้องใช้มันมากกว่า
แต่จริงๆ แล้วการซักผ้าและรีดผ้าในคราวเดียวกันโดยมีปริมาณผ้าพอดีก็ช่วยประหยัดไฟได้มากเช่นกัน
เพราะการที่เราซักผ้าในจำนวนน้อยนั้นเมื่อจำเป็นจะต้องใช้ตัวไหนขึ้นมาแต่ยังไม่ทันซักเราก็ต้องนำมาซักใหม่ แทนที่จะเป็นการซักครั้ง/รีดครั้งเดียวกลับต้องมาทำเพิ่มอีกหลายรอบ
จะดีกว่าไหมถ้าการซัก/รีดผ้าในครั้งเดียวจะทำให้ทุกคนประหยัดไฟได้มากขึ้น
(เราว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยนะ)
6 วิธีง่ายๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยลดค่าไฟในบ้านในช่วง WFH ได้เป็นอย่างดี
และที่สำคัญคือจะช่วยทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นเมื่อค่าไฟลด :) อย่างน้อยก็ทำเพื่อตัวเองเพราะจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับบิลค่าไฟในสิ้นเดือน
ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ บางข้อไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนอยู่แล้ว
เดือนหน้าอาจจะได้ค่าขนมเพิ่ม 100 เพราะลดค่าไฟได้อันนี้ก็ไม่แน่น้า