1. SistaCafe
  2. People Please เปลี่ยนตัวเองเป็นคนคิดบวก How to มั่นใจ ไม่ใช่คนอะไรก็ได้

ทักทายค่ะเพื่อน ๆ มาเมาท์มอยกันหน่อยเร็วว อัปเดตผ่านปีใหม่มาสักพักแล้วเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย แฮปปี้มีความสุขดี หรือมีเรื่องเหนื่อยใจเข้ามาทำให้ขาดความมั่นใจไปบ้างรึเปล่า? ไม่ต้องเศร้าไปนะ สำหรับบทความนี้อยากชวนเพื่อน ๆ มาทิ้งความหม่นหมอง ไม่สบายใจออกไป พร้อมกับเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งนิสัยหนึ่งที่อยากชวนเปลี่ยนเลยก็คือ " นิสัยประเภทอะไรก็ได้ " หรือ People Pleaser สำหรับคนประเภทอะไรก็ได้ ปฏิเสธใครไม่เป็น ถึงแม้ว่าข้อดีจะทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี แต่การเป็นคนอะไรก็ได้ ทำให้ใช้ชีวิตยากกว่าที่คิดนะ เพราะมันกลายเป็นเราต้องยอมทุกคน และบางครั้งถูกละเลยความรู้สึกไป นักจิตวิทยายังเตือนเลยว่าการเป็นคนอะไรก็ได้อาจจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพจิตได้ด้วย



บทความนี้เลยอยากชวนเพื่อน ๆ เหล่า People Pleaser ทั้งหลายมาเปลี่ยนตัวเอง เพิ่มความมั่นใจ ไม่กลัว เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้นของเรา ส่วนจะมีวิธียังไงบ้าง ลองตามไปทำความเข้าใจกับเหล่า People Pleaser คนประเภทอะไรก็ได้ ให้มากขึ้น พร้อมกับวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนมั่นใจ ไม่กลัวไปพร้อม ๆ กันเลย


สาเหตุของการเป็นคนอะไรก็ได้


  • มีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการตัดสินใจ

ลองย้อนนึกถึงประสบการณ์การตัดสินใจของเพื่อน ๆ ที่ผ่านมา สาเหตุที่ทำให้เป็นคนอะไรก็ได้อาจจะอยู่ในสักเหตุการณ์ในนั้นก็ได้ เพราะประสบการณ์การตัดสินใจผิดพลาดในอดีตเลยทำให้ฝั่งใจ จนกลายเป็นความรู้สึกผิดติดตัว และทำให้ไม่กล้าที่จะเลือกปฏิเสธ หรือไม่กล้าตัดสินใจอะไร


  • ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวความผิดพลาด

สำหรับคนที่กลัวการตัดสินใจ มักต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ แม้กระทั่งในเรื่องง่าย ๆ และคำว่าอะไรก็ได้ จึงเป็นคำช่วยเลี่ยงการตัดสินใจในชีวิตประจำวันสำหรับคนที่มักจะกลัวเรื่องการตัดสินใจอะไรสักอย่าง หรือบางคนอาจจะกลัวความผิดพลาด ด้วยความที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ อาจจะใช้เวลามากในตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่อาจจะใช้เวลามาเกินไปเลยเลือกที่ตัดสินใจเลือกอะไรก็ได้ ให้คนอื่นตัดสินใจแทน


  • มีบุคลิกภาพแบบพึ่งพา Dependent Personality Disorder (DPD)

สำหรับคนที่มีบุคลิกภาพแบบพึ่งพา ( DPD ) มีลักษณะเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ เลยมักจะถูกชักจูงจากคนอื่นได้ง่าย และไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นใจตนเอง เลยต้องพึ่งพาคนอื่นในเรื่องต่าง ๆ แม้แต่ในเรื่องของการตัดสินใจง่าย ๆ ในชีวิต ซึ่งลักษณธของคนที่มีบุคลิกภาพแบบพึ่งพามีหลายระดับ หากต้องพึ่งพาคนอื่นมาก ๆ จนกลายเป็น Toxic Relationship อาจจะต้องเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตหรือจิตแพทย์ด้วย


  • Low Self-esteem ความเคารพนับถือในตนเองต่ำ

จากที่ได้ไปหาข้อมูลมาการเป็นคนอะไรก็ได้ บางทีอาจจะไม่ใช่นิสัยส่วนตัว แต่ถูกหล่อหลอมจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก จากความผิดพลาดในอดีต จากสังคมคนรอบข้างที่ปฏิบัติต่อเรา และอาจจะเกิดจากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมา จนทำให้มีความเคารพนับถือตนเองลดลง ( Low Self-esteem ) จึงต้องการการยอมรับจากผู้อื่น ด้วยการทำตามใจจนเกินขอบเขตของตัวเอง



ข้อเสียของการเป็นคนอะไรก็ได้


  • ถูกมองข้ามความรู้สึก

ข้อเสียหลัก ๆ ของการเป็นคนอะไรก็ได้ People Pleaser ก็คือมักจะถูกมองข้ามความรู้สึกอยู่เสมอ และคนเหล่านี้มีสิทธิโดนเอาเปรียบได้ง่าย ๆ ด้วย ด้วยความที่อะไรก็ได้ไปซะหมด ยอมคน ไม่ค่อยตอบโต้ แถมปฏิเสธไม่เป็น ทำให้คนรอบตัวเลยเคยชินกับความง่าย ๆ จนเอาเปรียบคนประเภทนี้อยู่เสมอ


  • ไม่เป็นตัวของตัวเอง

การเป็นคนอะไรก็ People Pleaser มักจะแคร์คนอื่นนอกจากตัวเอง นอกจากปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น ยังมักจะปฏิเสธความจริงด้วย เป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันตัวเองทางจิตใจ จะมีการจินตนาการหรือหลอกตัวเองว่าเราปกติดี มีความสุข แต่ความจริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น จนทำให้ไม่เหลือขอบเขตให้กับตัวเอง ทำให้ตัวเองเหนื่อยมาก เพราะเสียสละทั้งพลังงาน เวลา และความสุขให้กับคนอื่น


  • ความเคารพตนเองลดลง เกิดอาการซึมเศร้า

ต่อจากข้อเสียของการไม่เป็นตัวของตัวเองมาก ๆ เลยทำให้คนประเภทนี้ไม่เหลือความเป็นตัวเอง ทำให้ความนับถือตัวเองลดลง ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เก็บกดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ถ้าเกิดรุนแรงมาก ๆ อาจจะทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เลยด้วย ดูเป็นข้อเสียที่ส่งผลกระทบค่อนข้างร้ายแรงต่อสภาพร่างกายและจิตใจของเรามาก ๆ เลย



วิธีเปลี่ยนตัวเองเพิ่มความมั่นใจ


1. ใส่ใจความต้องการของตัวเองมากยิ่งขึ้น

สำหรับการเป็นคนอะไรได้ บางทีเราอาจจะแคร์คนอื่นมากไป จนลืมไปว่าคนที่ควรแคร์มากที่สุดก็คือตัวของเราเอง ลองหันกลับมาถามตัวเองให้ดีว่ามีอะไรที่เราต้องการบ้าง มีอะไรที่เราอยากลองทำอยู่รึเปล่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบหรืออยากทำจริง ๆ เชื่อว่าทุกอย่างจะออกมาดีอย่างแน่นอน


2. เรียนรู้การเป็นผู้รับจากคนอื่นด้วย

ปฎิเสธด้วยการให้ข้อเสนอหรือทางเลือก แม้ว่าคุณไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่สามารถให้คำแนะนำหรือเสนอทางเลือกให้กับคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีเพื่อนหรือรุ่นน้องของคุณ ดันโทรมาหาเพื่อขอให้ช่วยหางานให้ทำ แต่คุณไม่ได้รู้สึกว่าตนเองพร้อมที่จะช่วยเขา คุณปฎิเสธเขาได้ และสามารถเสนอทางออก ด้วยการแนะนำว่ามีตำแหน่งงานในสายที่เดียวกันที่ต้องการคนให้กับเขา แล้วให้เขาไปดิ้นรนหาทางสมัครเอง

นอกจากใส่ใจถึงความรู้สึกของตัวเอง ลองเอาตัวเองไปเป็นผู้รับดูบ้าง เพราะในบางครั้งเราเองก็ต้องการความช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน และเราไม่สามารถทำได้ทุกอย่างด้วยตัวเองเพียงคนเดียว ลองปล่อยวางความกังวล อาจจะมีหลายคนที่พร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราอยู่ก็ได้


3. กล้าปฏิเสธให้เป็น

จากที่ได้เห็นข้อเสียของการเป็นคนอะไรก็ได้มาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนประเภทอะไรก็ได้ควรฝึกเอาไว้ ก็คือการปฏิเสธให้เป็น ถึงแม้ว่าเริ่มแรกอาจจะยาก และทำให้รู้สึกผิดและลำบากใจอยู่พอสมควร แต่ลองค่อย ๆ ปฏิเสธแบบประนีประนอมดูก่อน จากที่เคยช่วยเหลือทั้งหมด ลองเปลี่ยนเป็นช่วยเหลือแค่บางส่วน หรือทำในส่วนที่เราพอทำได้แทน เพื่อจะได้สบายทั้งฝ่ายด้วย



วิธีปฎิเสธคนอื่นแบบถนอมน้ำใจ


ทำความเข้าใจนิสัยของคนประเภทอะไรก็ได้มาแล้ว People Pleaser นอกจากเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง นิสัยอย่างหนึ่งที่ทำให้คนประเภทนี้เกิดปัญหาก็คือ " การปฏิเสธคนไม่เป็น " เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับคนประเภทอะไรก็ได้มาก ๆ บทความนี้เลยชวนเพื่อน ๆ มาพูดคุยถึงวิธีปฏิเสธคนอื่นแบบถนอมน้ำใจ มาเป็นแนวทางให้กับเหล่า People Pleaser ด้วย จะเป็นยังไง ลองตามไปดูกันต่อเลย


1. ปฏิเสธด้วยการให้ข้อเสนอหรือทางเลือก

สำหรับคนประเภทอะไรก็ได้ นอกจากปฏิเสธไม่เป็นอาจจะมีความรู้สึกผิด และความรู้สึกลำบากใจเวลาปฏิเสธคนอื่นด้วย เพราะรู้สึกว่าเราไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้ แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่เราสามารถให้คำแนะนำ หรือทางเลือกอื่น ๆ ให้เขาได้ แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมช่วยเหลือ ทำให้ไม่รู้สึกผิดมากเกินไปด้วย


2. ตอบปฏิเสธพร้อมให้เหตุผล

อย่าตอบรับในทันที และรู้จักคุณค่าของตัวเอง เมื่อถูกร้องขอให้ช่วย อย่าเพิ่งตัดสันใจตอบรับในทันที ขอให้พิจารณาด้วยเหตุผลและอย่าได้ใช้อารมณ์ประเภทช่วยเพราะสงสารเป็นอันขาด นอกจากนี้ จงรู้คุณค่าของตัวเอง ถ้าคิดจะช่วยใครคุณต้องมีเหตุผลด้วยว่าทำไมถึงช่วยเขา และถ้าคุณจะปฎิเสธในการช่วยเหลือใคร ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าการเอาชื่อเสียง หรือสถานภาพที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน เข้าไปช่วยเหลือคนอื่นนั้นคุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหรือไม่

สำหรับความช่วยเหลือที่เราไม่สามารถให้คำแนะนำหรือทางเลือกกับเขาได้ อย่างเช่น ขอให้ทำธุระให้ หรือขอให้ทำอะไรบางอย่างที่เราไม่อยากทำ ถ้าพูดอ้อม ๆ เขาอาจจะไม่เข้าใจหรือยังสามารถเอาเปรียบเราได้อยู่ ลองปฏิเสธพร้อมกับเหตุผลซัพพอร์ต จะทำให้คำปฏิเสธของเราดูหนักแน่นขึ้น และทำให้เขารับรู้ในความจำเป็นที่เราต้องปฏิเสธ ทำให้เข้าใจกันและกันมากขึ้นด้วย


3. ยึดมั่นในจุดยืนและปฏิเสธอย่างสุภาพ

เข้าใจว่าในความรู้สึกของคนประเภท People Pleaser หรือคนอะไรก็ได้ การปฏิเสธคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดและรู้สึกลำบากใจมาก ๆ แต่ถ้าไม่อยากลำบากทีหลัง เราไม่ควรใจอ่อนง่าย ๆ ยึดมั่นใจจุดยืนของเราอย่างแน่วแน่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามหว่านล้อมยังไงก็ตาม แล้วปฏิเสธไปพร้อมกับท่าทีสุภาพ อย่างการปฏิเสธพร้อมกับคำขอบคุณ ปฏิเสธพร้อมกับทิ้งท้ายไว้โอกาสหน้า เป็นต้น


สรุป


ตามไปทำความเข้าใจกับ People Pleaser คนประเภทอะไรก็ได้มาแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมนักจิตวิทยาถึงเตือนเรื่องสุขภาพจิตเอาไว้ ด้วยความที่เป็นคนค่อนข้างยอมคน ปฏิเสธไม่ค่อยเป็น ทำให้มักจะถูกละเลยความรู้สึกอยู่เสมอ แต่ถึงแม้ว่าคนอื่นจะละเลยในความรู้สึกของเหล่า People Pleaser ไปบ้าง แต่อย่าหลงลืมไปนะคะ ว่ายังมีตัวเองที่สามารถให้ความรักต่อตัวเองได้เสมอ ลองแคร์ตัวเองให้มากพอ ๆ กับที่แคร์คนอื่น แล้วชีวิตของเพื่อน ๆ จะราบรื่นขึ้นเยอะเลย


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้