สวัสดีค่ะชาวซิส สำหรับคนรักสวยรักงามอย่างเรา ๆ แล้ว ปัญหาผิวไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้เราต้องมองหาเทคโนโลยีจึ้ง ๆ เข้ามาช่วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกเยอะสุด ๆ แต่เชื่อว่ามีหลายสที่กำลังสงสัยว่า Ultraformer vs Ultrera แตกต่างกันอย่างไร เพราะสองตัวนี้ก็ช่วยยกกระชับเหมือนกัน วันนี้เลยจะขอมาเทียบความแตกต่างให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกเทคโนโลยียกกระชับได้เหมาะกับตัวเองค่ะ


Ultraformer คืออะไร?

รูปภาพ:

Ultraformer เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์แบบ High - Intensity Focused เข้าไปช่วยในการยกกระชับผิวหน้าของเราให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น และแก้ไข้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า ลำคอ และร่างกาย รวมถึงยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังได้ด้วยค่ะ


Ulthera คืออะไร?

รูปภาพ:

Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับแบบ MFU-V (Micro-Focused Ultrasound With Visualization) โดยจะส่งผ่านคลื่นแสงไปยังชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งผิวชั้นนี้เป็นชั้นเดียวกันกับการผ่าตัดดึงหน้านั่นเองค่ะ โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์กระตุ้นเกิดความร้อนจนส่งผลให้อีลาสตินใต้ชั้นผิวเกิดการหดและเกิดการจัดเรียงตัวใหม่ ที่สำคัญยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอีกด้วยค่ะ


ข้อดีและข้อจำกัดของ Ultraformer และ Ulthera

สำหรับ Ultrafotmer และ Ulthera มีข้อดีมากมายเลยค่ะ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดในหลายอย่างด้วยเช่นกันค่ะ แต่จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ข้อดีของการทำ Ulthera

  • ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยจะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS โดยจะทำให้คอลลาเจนและเซลล์บางส่วนถูกทำลายและหดตัวไป และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวของเราเรียบเนียนกระชับขึ้นค่ะ
  • มีความแม่นยำและปลอดภัย ต้องบอกเลยว่าเครื่อง Ulthera เพราะมีหน้าจอแสดงภาพขณะทำหัตถการค่ะ ทำให้แพทย์สามารถยิงพลังงานไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำเลยทีเดียว
  • ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยความที่การทำ Ulthera ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำหัตถการก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะซิส

ข้อจำกัดของการทำ Ulthera

การทำ Ultrhera นี้จะมีราคาที่สูงกว่าการทำหัตถการยกกระชับแบบอื่น ๆ ค่ะ นอกจากนี้ขณะที่ทำ เพื่อน ๆ บางคนอาจมีความรู้สึกเจ็บบริเวณใต้ผิวหนังอยู่บ้างค่ะ


  • ไม่รองรับการแสดงผลนี้image

ข้อดีของ Ultraformer

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์ ลดปัญหาความหย่อนคผิวล้อยและริ้วรอย
  • ลดไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วนบริเวณร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้คาง แขน ขา หรือหน้าท้อง
  • ไม่ต้องพักฟื้น การทำ Ultraformer จะไม่มีรอยแผลหลังทำค่ะ ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องลางานนาน เพื่อพักฟื้นเลยค่ะ
  • แก้ปัญหาได้หลายชั้นผิว Ultraformer สามารถปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ลงลึกได้ในหลายชั้นผิว แถมยังมีหลายหัวให้เลือกใช้ ที่สำค้ญไม่ทำลายเนื้อเยื่อของผิวด้วยค่ะ

ข้อจำกัดของ Ultraformer

Ultraformer จะเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่มีปัญหาไม่หนักเท่าไหร่ค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือหย่อยคล้อยมาก ๆ ก็อาจจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่าที่ควร

  • ไม่รองรับการแสดงผลนี้image

ความแตกต่าง Ultraformer vs Ultrera

หลักการทำงาน

  • Ulthera จะใช้พลังงาน MFU-V เพื่อสร้างความร้อนเฉพาะจุดในชั้นผิวหนังเช่นเดียวกันค่ะ แต่ชจะมีเทคโนโลยีในการแสดงภาพแบบเรียลไทม์ (Real-Time Visualization) ทำให้แพทย์แพทย์จะสามารถมองเห็นโครงสร้างผิวหนังในขณะที่รักษาได้ด้วยค่ะ
  • Ultraformer จะใช้พลังงาน Hifu ซึ่งเป็นคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง เข้าไปสร้างความร้อนเฉพาะจุดในชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินค่ะ

ความลึก

  • Ulthera จะสามารถส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและพังผืดใต้ผิวหนังค่ะ
  • Ultraformer ก็สามารถส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS เช่นกันค่ะ แต่พิเศษตรงที่มีหัวรักษาที่เยอะและเลือกความลึกได้หลายขนาดได้อีกด้วยค่ะ

บริเวณที่ทำหัตถการ

  • Ulthera จะเหมาะกับใบหน้าและลำคอ เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยในหน้าผาก เหนียง ริ้วรอยใต้ตา เป็นต้นค่ะ
  • Ultraformer จะเหมาะกับบริเวณใบหน้าและลำคอเช่นเดียวค่ะ รวมถึงบริเวณขา แขน หรือหน้าท้องด้วย

ระยะเวลาในการทำหัตถการ

  • Ulthera จะใช้เวลาประมาณ 30-90 นาที จะเห็นผล 30% หลังทำทันที เมื่อผ่านไป 1-2 เดือน ผิวก็จะกระชับขึ้นเรื่อย ๆ เห็นผลเต็มที่ในช่วง 3-6 เดือนค่ะ
  • Ultraformer จะใช้เวลาทำอยู่ที่ประมาณ 30-60 นาทีค่ะ จะเห็นผลหละงประมาณ 20% เมื่อผ่านไป 2-3 เดือนผลลัพธ์ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

ความคงทนของผลลัพธ์

  • Ulthera จะคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ค่ะ
  • Ultraformer จะคงผลลัพธ์อยู่ประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ค่ะ

ความเจ็บ

  • Ulthera ขณะทำจะรู้สึกอุ่น ๆ เมื่อพลังงานถูกส่งไปยังบริเวณที่ทำ ในบางรายอาจรู้สึกเจ็บระหว่างทำค่ะ เพราะค่อนข้างเป็นหัตถการที่ใช้พลังงานสูงเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแพทย์จะมีการใช้ยาชาก่อนอยู่แล้วค่ะ
  • Ultraformer ขณะทำอาจมีความรู้สึกอุ่นและจี๊ดบริเวณชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังค่ะ แต่เป็นความรู้สึกที่สามารถทนได้

Ultraformer และ Ulthera เหมาะกับใคร?

Ultraformer จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังบริเวณใบหน้าและลำคอหย่อนคล้อย และต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าของเราให้มีกรอบที่ชัด เรียวสวย รวมถึงต้องการที่จะสลายไขมันและกระชับสัดส่วนบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวค่ะ

ส่วน Ulthera เหมาะกับเพื่อน ๆ ต้องการยกกระชับใบหน้าและผิว ปรับรูปหน้าให้เรียวมากขึ้น หรือมีปัญหาผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ และต้องการลดไขมันใต้คาง กรอบหน้าไม่ชัด ดูไม่มีมิตินั่นเองค่ะ

รูปภาพ:

สรุปส่งท้าย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการ เปรียบเทียบว่า Ultraformer vs Ultrera แตกต่างกันอย่างไร หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เพื่อน ๆ ได้เลือกทำหัตถการยกกระชับผิวที่เหมาะกับตัวเองนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน ไว้กลับมาเจอกันใหม่ที่ SistaCafe เช่นเดิมน้า บ๊ายบาย


บทความแนะนำที่ซิสต้องไม่พลาด