1. SistaCafe
  2. Work and Travel คืออะไร ? #WATเล่าหมดเปลือก Ep.1

สวัสดีค่า เพื่อน ๆ ทุกคน สหรัฐอเมริกา หรือ The United States หรือที่เราหลาย ๆ คนเรียกว่า อเมริกา, เมกา, สหรัฐ คงเป็นความฝันของหลาย ๆ คนเลย ที่อยากจะไปสัมผัสประสบการณ์และบรรยากาศที่นั่น ชีวิตที่อิสระและ "ประเทศแห่งโอกาส" ที่อเมริกาได้ฉายานี้นั้นมาจาก การที่มีผู้คนมากมายได้อพยพไปอยู่ที่อเมริกาและประสบความสำเร็จมากมาย และมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้ฉายาว่า “Land of Opportunity” นั่นเอง เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนน่าจะสงสัยกันว่า Work and Travel คืออะไร สรุปแล้วมีที่อเมริกาอย่างเดียวไหม หรือมีประเทศอื่นด้วย? แล้วค่าใช้จ่ายนั้นมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่หลาย ๆ คนสงสัย วันนี้เราจะมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟังกันค่ะ


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2Fa0027a07-c61b-44ab-9249-405134290da7?v=20240515074930

✿ ✿ ✿ ✿🗽🗽🗽 ✿ ✿ ✿ ✿


Work And Travel คืออะไร มีที่ไหนบ้าง?

Work And Travel ตามชื่อเลยคือการไปทำงานและเที่ยวนั่นเอง ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลอเมริกา ที่เปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ระดับมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะ ป.ตรี หรือ ป.โท ได้ไปเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่อเมริกากับชาวอเมริกัน และ เพื่อนจากทั่วโลก ผ่านการท่องเที่ยวและทำงานช่วงปิดเทอมนั่นเอง ที่สำคัญโครงการ Work and Travel มีแค่ประเทศอเมริกาอย่างเดียว น้า!! ถ้าใครสนใจอยากจะลองไป สามารถดูรายละเอียด ต่อไปนี้ได้เลย และเรามีเอเจนซี่มาแนะนำด้วยน้าา!!



Work and Travel เรียนจบแล้วไปได้ไหม ?

คำตอบคือ ไม่ได้นะคะ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา ระดับมหาวิทยาลัย ที่กำลังศึกษาอยู่ ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ที่ยังอยู่ในสถานภาพนักศึกษา และอายุไม่เกิน 27 ปี เท่านั้นน้าา



Work and Travel ต้องสอบ ielts ไหม ?

ไม่จำเป็นต้องสอบค่า ขอแค่เราสามารถสื่อสารเบื้องต้นได้ ก็สามารถไปได้แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางเอเจนซี่ที่ให้เราวัดระดับภาษา ส่วนใหญ่จะเป็นการโทรศัพท์ มาพูดคุย ถามตอบ เฉย ๆ นะคะ ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ยากแน่นอน เป็นเหมือนกับว่าแค่พูดคุยเล่น ๆ ขำ ๆ กัน เพื่อให้รู้ว่าสื่อสารได้แค่นั้นเอง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวไปนะคะ สู้ ๆ ✌



ระยะเวลาของโครงการ Work and Travel USA กี่เดือน ?

วีซ่าของ Work and Travel นั้นจะเป็นวีซ่า J-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนของรัฐบาลอเมริกา ที่มีจุดประสงค์หลักคือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอเมริกันนั่นเอง วีซ่านี้ มีระยะเวลา 4 เดือน แต่หลังจากหมดระยะเวลาหรือจบโครงการ สามารถเที่ยวได้อีก 30 วัน น้าา



เราสามารถร่วมโครงการ Work and Travel USA ได้กี่ครั้ง ?

สามารถไปได้ทุกปีเลยค่า แต่เราต้องอยู่ในสถานภาพนักศึกษานะคะ ไม่ว่าจะปริญญาตรี หรือปริญญาโท และอายุต้อง ไม่เกิน 27 ปี นะจ้ะ!!



คุณสมบัติ / เกณฑ์การสมัคร

  1. นักศึกษาชาย - หญิง อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่อายุไม่เกิน 27 ปี
  2. มีสถานภาพเป็นนักศึกษาไม่ว่าจะปริญาตรีและปริญญาโท
  3. เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.00 หรือขึ้นอยู่กับการพิจารณา
  4. สัญชาติไทย
  5. สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ (ระดับเบื้องต้นก็ไปได้แล้วนะ✨)
  6. ศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย


วิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการ

  1. กรอกข้อมูลการสมัคร
  2. ชำระค่าสมัครโครงการ
  3. เตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอ DS-2019
  4. ชำระค่าโครงการงวดที่ 1 และ 2 + ค่า Sevis
  5. สัมภาษณ์กับสถานที่เข้าร่วมโครงการ / องค์กรแลกเปลี่ยน
  6. เตรียมเอกสาร + ชำระค่าวีซ่า
  7. เข้าสัมภาษณ์วีซ่า
  8. เข้าร่วมงานปฐมนิเทศ และออกเดินทาง

***หลังจากเรากรอกข้อมูลสมัครอาจจะมีการวัดระดับภาษานะคะ ของเราได้วัดระดับโดยที่มีพี่ทีมงานโทรมาวัดระดับภาษาด้วยการพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เป็นการคุยตอบคำถามทั่วไปเลย ✌



Work and Travel ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?

  1. รูปวีซ่า 2x2 นิ้ว : พื้นหลังขาว / ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
  2. Passport
  3. บัตรประชาชน
  4. บัตรนักศึกษา
  5. ใบเกรด / Transcript ภาษาอังกฤษ
  6. ใบรับรองสถานภาพนักนิสิต / นักศึกษา ภาษาอังกฤษ
  7. Resume ภาษาอังกฤษ



Work And Travel เอเจนซี่ไหนดี ?


Acadex :

บริการดี ดูแลดี ตอบแชทไว ข้อมูลแน่น รีวิวแน่น มีงานให้เลือกเยอะ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2F190ff589-798b-44a9-afa1-7025e44a29ef?v=20240515163235

American Learning :

ดูแลดี บินไปเยี่ยมถึงที่ทำงานเลยก็มี รีวิวดีมากก

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2F7a2b60f4-a726-464e-b639-db4772aee731?v=20240515163253

OEG :

ดูแลดีมาก ตอบแชทไว สงสัยตรงไหน ถามได้ตลอดเลย รีวิวก็เป็นไปในทางบวกทั้งนั้นเลย

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2F8ce257bc-bbf0-430d-bfd3-a1612e9b2f6b?v=20240515163357

at home :

ตามชื่อเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่บอกเลยว่า ดูแลดีมาก ๆ ๆ อบอุ่นสุด ๆ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2Fabd20123-0f98-41c6-9486-10947a49d55b?v=20240515163414

Discover Higher :

เป็นบริษัทใหญ่ ดูน่าเชื่อถือ มีงานให้เลือกเยอะ รีวิวดี

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201014%2F4ffc4a13-abd9-414e-922f-cef979e0818c?v=20240515163430

แอปพลิเคชันที่ต้องมี !!

  1. Uber : สำหรับเรียกรถ เหมือนกับ Grab ที่ไทยเลย ใช้ง่าย
  2. Lyft : เป็นแอปเรียกใช้บริการรถเหมือนกับ Uber เลยย
  3. Skyscanner : แอปจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดมากกกก
  4. Google maps : แอปที่ใคร ๆ ก็ต้องมี ไว้ใช้ดูแผนที่ ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน
  5. Wise : แอปสำหรับโอนเงินข้ามประเทศ สามารถโอนเข้าแอปธนาคารเราได้เลย สะดวกมาก และภาษีก็ไม่แพงด้วย
  6. DoorDash : แอปสำหรับสั่งอาหาร ฟิลเหมือน Grab เราเลยย



Work and Travel กับ Work and Holiday ต่างกันยังไง ?

Work and Travel (WAT) : โครงการสำหรับนักศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท ที่อายุ 18 - 27 ปี โดยมีจุดประสงค์คือ ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอเมริกัน ที่ สหรัฐอเมริกา ส่วนวีซ่า มีระยะเวลา 4 เดือน และหลังจากหมดระยะเวลาโครงการแล้ว สามารถเที่ยวต่อได้อีก 30 วัน *ไม่จำเป็นต้องมีผลสอบวัดระดับภาษา*

Work and Holiday (WAH) : โครงการแลกเปลี่ยนที่สนับสนุนให้เยาวชนไทย ที่อายุ 18 - 30 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป ได้ออกไปเรียน ทำงาน และท่องเที่ยว เป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้ได้เปิดโลกกว้าง เรียนรู้ภาษา เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตอยู่ที่ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ *ต้องมีผลสอบวัดระดับภาษา IELTS 4.5 + หรือเทียบเท่า*



ค่าใช้จ่ายในการไป Work And Travel

ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้นจะขึ้นอยู่กับค่าโครงการของแต่ละเอเจนซี่ การเตรียมตัวซื้อของสำหรับการไปที่อเมริกา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของแต่ละคนนะคะ ในส่วนของเรารวม ๆ แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ค่ะ แต่เดี๋ยวเราจะมาบอกราคาและรีวิวค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ละเอียดกว่านี้ จากประสบการณ์ที่เราไปมาใน Ep ต่อ ๆ น้า



✿ ✿ ✿ ✿🗽🗽🗽 ✿ ✿ ✿ ✿


ใครที่สนใจอยากจะไปในโครงการ และสงสัยว่า Work and Travel คืออะไร อยากดูรีวิวแบบเรียล ๆ จากประสบการณ์จริง สามารถติดตาม Ep ต่อ ๆ ไปได้เลยน้า บอกเลยว่าประสบการณ์ฉ่ำมาก เกินกว่าที่คิดไว้เยอะ แถมมีประโยชน์แน่นอน ไม่มากก็น้อยแหละ😝 และเราหวังว่าทุกคนจะชอบบทความนี้กันน้า ยังไงก็อย่าลืมกดติดตาม SistaCafe เอาไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ในครั้งหน้านะคะ และวันนี้เราขอตัวไปก่อนน้าาา บ๊ายบาย 👋




บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ







เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้