1. SistaCafe
  2. Blue Beauty สกินแคร์ สโลแกน รักน้ำ รักปลา รักทะเล

Blue beauty

เต่าทะเลจะอยู่ยังไงถ้าคนไทยไม่รักทะเล😭 เพราะยุคนี้แค่รักสวยรักงามอย่างเดียวยังไม่พอ เรายังต้องรักโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วย ก่อนที่ในอนาคตจะมีจำนวนเศษขยะพลาสติกและหลอดดูดน้ำในมหาสมุทรมากกว่าจำนวนปลา ซึ่งก็หมายความว่าถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยแปลงกันได้แล้ว! นอกจากจะร่วมโครงการอนุรักษ์ต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถเริ่มด้วยตัวเองได้เลยวันนี้ ก็คือการเลือกใช้สกินแคร์ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ Green Beauty กันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีอีกเทรนด์ที่กำลังมาคือ Blue Beauty ซึ่งจะเป็นขยับขึ้นไปอีกขั้น กับสโลแกน รักน้ำ รักปลา รักทะเล เอ๊ ว่าแต่ Blue Beauty คืออะไรกันน้า เลื่อนลงไปอ่านข้างล่างนี้ได้เล้ย




Blue beauty คืออะไร?

ทุกคนรู้กันหรือเปล่าว่าอุตสาหกรรมความงามเป็นต้นเหตุของขยะพลาสติกจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งพลาสติกเหล่านี้สุดท้ายจะไปลงเอยในมหาสมุทร ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตทางทะเลมาก เลยได้มีหลักการ Blue Beauty ขึ้นมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณของเสียที่เข้ามาในมหาสมุทร และลดพลาสติกและสารเคมีที่ก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญต่อพืช สัตว์ และระบบนิเวศน์ในท้องทะเล สรุปง่ายๆ ได้ว่าเป็นหลักการเพื่ออนุรักษ์และปกป้องมหาสมุทรและสิ่งมีชีวิตทางทะเลจากผลกระทบที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ความงามและบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ

มูฟเมนท์ Blue Beauty เริ่มขึ้นในปี 2020 และมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำจากส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ และต้องเป็นมิตรกับมหาสมุทรด้วย

จุดเริ่มต้นของ Blue beauty

  • เกิดจากอุตสาหกรรม Sun care เมื่อสารเคมีหลักที่ทำหน้าที่ป้องกันแสงแดดอย่าง SPF เช่น octinoxate และ oxybenzone ในครีมกันแดดเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตทางทะเล ทำลายแนวปะการัง ทำให้สีของปะการังซีดลง
  • เกิดจากไมโครพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ โดยไมโครพลาสติกเป็นอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กที่มักพบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น สครับขัดผิว, คลีนเซอร์ และยาสีฟัน ไมโครพลาสติกเหล่านี้สามารถผ่านระบบบำบัดน้ำเสียไปสู่แม่น้ำ ทะเล และมหาสมุทร และยังสามารถถูกสัตว์น้ำกินเข้าไป ซึ่งทำให้เกิดการสะสมในห่วงโซ่อาหารและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมนุษย์ ไมโครพลาสติกเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางทะเล และจะยังคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานาน

Blue Beauty ต่างกับ Green Beauty ยังไง?

จุดมุ่งหมายของ Green Beauty และ Blue Beauty จะเหมือนกันคือการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์อย่างมีจริยธรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ Blue Beauty จะเน้นไปที่การอนุรักษ์มหาสมุทร รวมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำและระบบนิเวศในทะเล เช่น การใช้ส่วนผสมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล และการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งที่ย่อยสลายได้หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ Blue Beauty เป็นหนึ่งในสับเซต ของ Green Beauty นั่นเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ความงามหลายๆ ตัวเลยที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลผิวของเราควบคู่ไปกับการไม่ทำร้ายโลกไปด้วยในตัว


องค์ประกอบหลักของ Blue Beauty

  • ส่วนผสมที่ปลอดภัยต่อทะเล: การเลือกใช้ส่วนผสมที่ไม่ทำลายชีวิตทางทะเลหรือทำให้เกิดมลพิษในมหาสมุทร เช่น หลีกเลี่ยงการใช้ไมโครพลาสติก, สารเคมีที่เป็นอันตราย และสารพิษที่อาจรบกวนระบบนิเวศทางทะเล
  • บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน: การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ย่อยสลายได้ หรือทำจากวัสดุที่เป็นมิตรกับมหาสมุทร เพื่อลดขยะพลาสติกที่มักจะปนเปื้อนในทะเล
  • การอนุรักษ์น้ำ: คำนึงถึงการใช้น้ำในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและการใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำน้อยลง หรือไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิต ตัวอย่างเช่น เครื่องสำอางในรูปแบบแท่ง (Stick)
  • แนวปฏิบัติที่มีจริยธรรมและโปร่งใส: ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม ความโปร่งใส และการทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่การผลิต

Blue Beauty Product คืออะไร?



Blue Beauty Product คือผลิตภัณฑ์ความงามที่ไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางน้ำและทะเล โดยที่จะใช้คำว่า Blue (สีฟ้า) เพื่อสื่อถึง มหาสมุทร มารวมกับ Beauty Product ที่หมายถึงผลิตภัณฑ์ความงาม

วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ Blue Beauty

เนื่องจาก Blue Beauty ยังไม่มีโลโก้ที่ทำให้เราสามารถสังเกตได้ง่ายบนผลิตภัณฑ์ เราอาจจะต้องยุ่งยากในการเสิร์ชหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเล็กน้อย เริ่มด้วยการดูส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ เพื่อเช็กว่าผลิตภัณฑ์นั้นปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน Blue Beauty หรือไม่ หรือบางแบรนด์ก็จะบอกข้อมูลผลิตภัณฑ์ไว้เลย ว่าโพรดักส์ตัวนี้นี่แหละ Blue Beauty! นอกจากนั้นอย่าลืมดูว่าสกินแคร์ตัวนั้นเหมาะกับสภาพผิวของเราไหม จะได้บำรุงได้อย่างตรงจุดกับปัญหาผิวที่เราเป็น แล้วจากนั้นค่อยหยิบลงตะกร้าไปจ่างเงินได้เลยจ้า มาลองดูวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ Blue Beauty เบื้องต้น 3 ข้อกัน จะประกอบไปด้วย

  1. ส่วนผสมไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมี 4 ตัว ที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกอบไปด้วย
  • Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3)
  • Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate)
  • 4-Methybenzyid Camphor (4MBC)
  • Butylparaben
  1. ใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้หรือได้มาจากวัสดุรีไซเคิล รวมถึงเมื่อถึงเวลาที่จะโยนบรรจุภัณฑ์สกินแคร์ทิ้ง เราอาจจะทำความสะอาดและนำเอากลับมาใช้ใหม่ เช่น ล้างทำความสะอาดขวดแชมพู แล้วค่อยซื้อรีฟิลแชมพูมาเทใส่ขวดเดิมเพิ่มเอา
  2. Zero waste ลดการใช้ทรัพยากรที่ก่อให้เกิดขยะ

แต่ถ้าเกิดว่าสกินแคร์ตัวที่เราใช้อยู่ไม่ตรงตามแนวคิด Blue Beauty ก็อย่าพึ่งโละเอาเค้าไปทิ้ง! เพราะในอีกหนึ่งหลักการ Blue Beauty นั้นก็รวมไปถึงการใช้สิ่งที่เรามีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อช่วยลดขยะที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเราอาจจะใช้ตัวนั้นให้หมดก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้สกินแคร์ Blue Beauty ทีหลังก็ยังไม่สาย

ตัวอย่างแบรนด์ Blue Beauty ต่างประเทศ

ตอนนี้หลายๆ แบรนด์เริ่มนำหลักการ Blue Beauty มาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองกันบ้างแล้ว ตัวอย่างเช่น:

  • Lush: แบรนด์นี้เป็นหนึ่งในผู้นำมูฟเมนท์ Blue Beauty โดยได้ตัดไมโครพลาสติกออกจากผลิตภัณฑ์และใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้หรือย่อยสลายได้ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตโดยไม่ใช้น้ำ เช่น แชมพูแบบแท่งและBath Bombs
  • Burt’s Bees: ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและมีแนวทางในการลดขยะพลาสติก โดยเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้
  • REN Clean Skincare: แบรนด์นี้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกที่รีไซเคิลจากขยะทะเล และไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย

รวม 7 ครีมกันแดด ไม่ทำร้ายปะการัง



เนื่องจากผลิตภัณฑ์ Blue Beauty ในประเทศเรายังไม่เป็นที่นิยมและแพร่หลายเท่ากับต่างประเทศ ซิสเลยลองหาโพรดักส์อย่างครีมกันแดดที่ไม่มี 4 สารเคมีตัวที่กฎหมายห้ามมาให้ เผื่อชาวซิสอยากจะไปเที่ยวทะลงทะเล จะได้ไม่โดนเจ้าหน้าที่ริบครีมกันแดด ผิวจะได้ไม่ไหม้กัน เอามาให้ดูกัน 7 ตัว มีทั้งกันแดดหน้าและกันแดดตัวไปเลย มาดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวไหนน่าสนใจบ้าง~

กันแดดหน้า (Facial Sunscreen)

  • Rereef Reef-Safe Sunscreen SPF50 PA++ : เนื้อเหนียวนิดๆ ช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ และควบคุมความมัน
  • Mizumi UV Water Serum SPF50+/PA++++ : ตัวนี้จะเป็นสูตรน้ำ เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย และดีตรงซึมไวมาก
  • Gravich Acnelogy Physical Sunscreen SPF50 PA+++ : เนื้อครีมข้น เกลี่ยง่าย ตัวนี้จะแอบโทนอัพผิวให้ขาวขึ้นเล็กน้อย
  • Smith Total Physical Sunscreen SPF 50+ PA+++ : เนื้อครีมกึ่งมูส แต่ไม่เหนอะผิว เกลี่ยง่าย

กันแดดตัว (Body Sunscreen)

  • Sunplay Sport UV Body Mist SPF50+ PA++++ : กันแดดตัวแบบสเปรย์ ใช้ง่าย สะดวก และไม่ต้องเกลี่ย
  • Biore UV Body Care Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++ : กันแดดตัวสูตรเย็น ช่วยลดผิวแสบร้อน
  • Mizumi UV Bright Body Serum : กันแดดตัว เนื้อเบา ซึมไว ช่วยเรื่องความกระจ่างใส

Blue Beauty อาจจะไม่ได้หมายถึงแค่ผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วย จะเห็นได้จากวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ และจำนวนพลาสติกกว่าแปดล้านตันที่ยังคงถูกทิ้งลงในทะเลทุกปี พวกเราชาวซิสคงถึงเวลาต้องก้าวเข้ามามีบทบาทในการร่วมกันดูแลโลกของเราให้มากขึ้นแล้วแหละ โดยใช้ทรัพยากรอันมีค่าในโลกของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรับผิดชอบต่อขยะที่เราสร้างขึ้น โดยเราอาจจะการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลแทนที่จะโยนทิ้งให้กลายเป็นขยะ เราจะได้เป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยลดจำนวนพลาสติกและขยะจำนวนมากไม่ให้ปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทร ที่เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ของน้องๆ สัตว์ทะเลได้อีกทาง เพราะทะเลก็มีชีวิต ทะเลก็มีหัวใจนะ🩵


อ้างอิง

https://faolex.fao.org/docs/pdf/tha211144.pdf

https://www.elle.com/uk/beauty/a32311740/blue-beauty/

https://upcirclebeauty.com/blogs/upcircle/blue-beauty

https://www.loreal.com/en/news/brands/biotherm-dives-into-blue-beauty/

https://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/a36318597/what-is-blue-beauty/

https://meiyume.com/blue-beauty/#:~:text=Jeannie%20Jarnot%2C%20health%20specialist%20and,%2C%20recyclable%2C%20or%20refillable%20packaging.

บทความแนะนำเพิ่มเติม

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้