อากาศที่ร้อนขึ้นในทุกๆ วัน พุ่งสูงไปถึง 40 องศาและยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยอากาศที่ร้อนมากใครหลายคนก็มักจะมีอุณหภูมิในร่างกายที่สูงแม้จะอยู่ในที่เย็น หรือนอกจากนั้นคือการมีเหงื่อไหลตามร่างกายซึ่งส่งผลให้กลิ่นตัวตามมา แม้เราจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่เผชิญแดดหรืออยู่ในที่อากาศถ่ายเท ซึ่งกลิ่นตัวเป็นสิ่งที่ทุกคนนั้นมีติดตัวเพียงแต่กลิ่นนั้นจะมากน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละบุคคล ซึ่งอย่างที่ทุกคนรู้คือกลิ่นตัวนั้นจะมีกลิ่นที่มีความเฉพาะของแต่ละคนกันไป แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกได้เหมือนกันและยังสามารถบ่งบอกไปถึงโรคภัยใกล้ตัวเพียงสาเหตุนั้นมาจากกลิ่นตัวของเราได้ ซึ่งกลิ่นตัวสามารถที่จะบอกถึงโรคนั้นๆ เพียงต้องมีความสังเกตอยู่เป็นประจำ และยิ่งด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวของแต่ละวันอาจจะทำให้ใครหลายคนละเลยหรือคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีกลิ่นตัวได้ ฉะนั้นเพื่อให้เรารู้ตัวทันและรีบรักษาอย่างทันท่วงที ต้องเช็กด่วน! กับ กลิ่นตัวบอกโรค แบบไหนปกติแบบไหนไม่ปกติกัน
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
กลิ่นตัว เกิดจากอะไร?
กลิ่นตัวมักจะมาจากต่อมกลิ่นต่างกับเหงื่อที่มาจากเหงื่อ กลิ่นตัวอาจมาร่วมกับภาวะเหงื่อออกหรือไม่ก็ได้ จะสังเกตได้ว่าคนที่พึ่งออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ บางคนมีกลิ่นตัว บางคนไม่มี ในขณะที่บางคนไม่มีเหงื่อแต่มีกลิ่นตัวแรงมากก็มี แสดงว่าสาเหตุนั้นเกิดจากกลิ่นตัวของตัวเองไม่ใช่สาเหตุที่มาจากเหงื่อแต่นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยเช่น
สาเหตุภายนอก : มีเชื่อแบคทีเรีย หรือเชื้อราที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมกลิ่น
สาเหตุภายในร่างกาย : สารบางอย่างออกมาจากต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อ เช่น ความเครียด น้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงหรืออาหารที่มีรสเผ็ด เครื่องเทศ เช่น กระเทียม การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยารักษาภาวะซึมเศร้า ภาวะร่างกายหลั่งเหงื่อมากผิดปกติ หรือภาวะสุขภาพบางอย่างก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นตัวที่แตกต่างกันออกไปได้ อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคตับ หรือโรคไต เป็นต้น
ฮอร์โมนเพศชาย : กลิ่นตัวแรงในผู้ชายบางคนนั้นมักจะเกิดจากสาเหตุในเรื่องของฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลิ่นตัวก็คือฮอร์โมน Androgens
แบคทีเรียที่มากเกินไป : แบคทีเรียในร่างกายของเรานั้นมีทั้งแบคทีเรียชนิดดีและไม่ดี เมื่อใดก็ตามที่แบคทีเรียชนิดไม่ดีมากกว่าแบคทีเรียชนิดดีทำให้เกิดความไม่สมดุล ดังนั้นจึงทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นมาได้
กลิ่นตัวบอกโรค แบบไหนผิดปกติควรพบแพทย์ ?
- กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นละมุด บางคนอาจคิดว่ากลิ่นตัวคล้ายละมุดนั้นเป็นกลิ่นหลังจากที่เรานั้นเพิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่หากเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แล้วมีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นละมุดควรรีบไปพบแพทย์ เพราะร่างกายของเราอาจจะกำลังประสบปัญหาในส่วนของระบบขับถ่าย ที่อาจจะทำให้เรานั้นกลายเป็นเป็นผู้ป่วยโรคไตหรือการเป็นผู้ป่วยโรคไตได้
- กลิ่นตัวคล้ายไข่เน่า เป็นกลิ่นที่มีความรุนแรงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก หากเรามีกลิ่นตัวคล้ายไข่เน่าก็อาจเป็นหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงว่าระบบลำไส้ของเรานั้นกำลังมีปัญหา
- กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นคาวปลา เป็นกลิ่นตัวที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้นกำลังโดนแบคทีเรียจากภายนอกโจมตีอย่างหนัก ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้นั้นก็มาพร้อมกับอาหารที่เรากินอยู่เป็นประจำหรือกินเป็นบางครั้ง เช่น อาหารประเภทหมักดอง เป็นต้น
- กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นเหม็นเคี้ยวขมคอ เป็นกลิ่นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนๆ เพราะเป็นการที่แสดงถึงปัญหาของตับในร่างกายของเรากำลังประสบปัญหา
- กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นผลไม้ กลิ่นที่นับว่ามีความหวานแต่เป็นกลิ่นที่เรานั้นไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นกลิ่นที่สามารถบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรานั้นกำลังประสบปัญหาของโรคเบาหวานอยู่
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดกลิ่นตัว
- ความร้อนหรืออุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ร่างกายของเราต้องขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ เพราะต้องรักษาสมดุลอุณหภูมิภายในร่างกายของเราเอง ส่วนนี้ก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวตามมาได้
- อาหารที่มีกลิ่น อาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศที่มีรสชาติรุนแรงกลิ่นแรงไม่ว่าจะเป็น กระเทียม หอมใหญ่ หอมแดง ผักชี หรือแม้จะเป็นขมิ้น ล้วนก็สามารถทำให้เกิดสารกลุ่มซัลเฟอร์ในร่างกายที่ส่งผลทำให้เกิดกลิ่นได้
- อาหารรสจัด เป็นรสอาหารที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบ ซึ่งจะเป็นอาหารที่ส่งผลให้มีการขับเหงื่อของร่างกายได้มากกว่าปกติ และเหงื่อนี่เองก็ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุของกลิ่นตัวที่ตามมา
- ความเครียด เมื่อเกิดความเครียดขึ้นกับจิตใจก็จะสามารถส่งผลต่อร่างกายตามมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสามารถเป็นส่วนในการขับเหงื่อที่มากกว่าปกติได้
- โรคอ้วน ร่างกายของคนอ้วนนั้นมักจะมีความอับชื้นและเกิดการเสียดสีของร่างกายที่กว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งมักจะมีกลิ่นตัวที่เหม็นเปรี้ยวหรือมีกลิ่นเหงื่อกว่าปกติ
- โรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมักจะมีการสะสมของระดับคีโตนในร่างกายที่มากกว่าปกติ และคีโตนจากการสะสมของร่างกายนี้ก็จะเปลี่ยนไปเป็นกลิ่นตัวได้
- การใช้ยาบางชนิด ยานั้นจะมีบางชนิดที่เมื่อใช้ไปแล้วจะเกิดเหงื่อออกมามากกว่าปกติ อย่างเช่น การใช้ยาลดไข้ ซึ่งสามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวได้
วิธีรักษาและป้องกันกลิ่นตัว
- การรักษาสุขอนามัยให้สะอาด ล้างทำความสะอาดโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ จะช่วยลดปริมาณสารก่อกลิ่นที่หลั่งจากต่อมกลิ่นได้ดี
- เลือกใช้สบู่ฆ่าเชื้อ เพื่อลดปริมาณแบคทีเรีย แต่ไม่ควรใช้สบู่บ่อย เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด อับชื้น และอากาศไม่ถ่ายเท
- เลือกบริโภคอาหาร โดยเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว โดยข้อนี้นั้นจะเป็นวิธีช่วยลดกลิ่นตัวแรงในผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
- การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย หลังทำความสะอาดร่างกาย สารระงับกลิ่นกายจะมีส่วนประกอบหลักคืออลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminum Chloride) เพื่อลดการผลิตเหงื่อ ซึ่งบางผลิตภัณฑ์นั้นจะผสมสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสารที่ ให้กลิ่นหอม ซึ่งใครที่แพ้น้ำหอมนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นหอมหรือเลือกใช้สารส้มแทน อีกทั้งไม่ควรใช้น้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นตัว เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แทรกมาและสร้างความรำคาญกับคนรอบข้างได้
- การกำจัดขนบริเวณรักแร้ อาจเป็นการโกนขนหรือทำเลเซอร์กำจัดขน เพื่อป้องกันแบคทีเรียและการสะสมของสารก่อกลิ่น
- การฉีด Botulinum toxin หรือนิยมเรียกกันว่า โบท็อกซ์ โดยแพทย์จะฉีดสารนี้ใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้เพื่อลดการทำงานของต่อมกลิ่น ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีแต่มีราคาที่สูง
- การผ่าตัดเอาต่อมกลิ่นออก ถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้ผลดี แต่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาเสร็จ อย่างเช่น การมีแผลเป็น การติดเชื้อ อีกทั้งยังต้องทำการรักษาโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สรุป
กลิ่นตัวสามารถเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งการมีกลิ่นตัวแรงนั้นยังเป็นปัญหาในเรื่องของความมั่นใจและส่งผลต่อสุขภาพภายในของเราด้วย โดย กลิ่นตัวบอกโรค นั้นเป็นหนึ่งในข้อเท็จจริงที่จะสามารถทำให้เราสังเกตความผิดปกติของตัวเองซึ่งสามารถสังเกตจากกลิ่นที่ได้บอกไปข้างต้นที่มีความผิดปกติที่สามารถเป็นตัวบ่งบอกถึงกลิ่นตัวบอกโรคนั่นเอง เพราะด้วยกับอากาศที่ร้อนการมีกลิ่นตัวนั้นจึงอาจทำให้ใครหลายๆ คนมองข้าม ฉะนั้นแล้วเมื่ออ่านบทความนี้จบอย่าลืมสังเกตตัวเองอยู่เป็นประจำเพื่อไม่ให้ส่งผลรุนแรงในอนาคตกันด้วย
ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : Freepik
กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร กลิ่นตัวแบบไหนควรรีบพบหมอด่วน!!
https://allwellhealthcare.com/body-odor/
Attention Required! | Cloudflare
https://www.phyathai.com/th/article/3915-กลิ่นตัว_เรื่องใหญ่ใกล
บทความอื่นๆ ที่ซิสไม่ควรพลาด
รวม 5 วิธี กำจัดกลิ่นตัวแรง ซัมเมอร์นี้ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว! | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/910bcd98-5aac-447d-8481-929a1fa1502a
กลิ่นตัวเหม็น แก้ยังไงดี? รวม 5 สาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว พร้อมวิธีกำจัดกลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/94214
อาหารเสริมลดกลิ่นตัว 2024 ดูแลกลิ่นกายจากภายใน ช่วยแก้กลิ่นตัวแรง | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/อาหารเสริมลดกลิ่นตัว-ดูแลกลิ่นกายจากภายใน-97399
ตัวหอมไม่ไหวแล้ว! ตามมาดู 7 อาหารดับกลิ่นตัว + วิธีดูแลตัวเองให้กลิ่นตัวห๊อมหอม | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/ตัวหอมไม่ไหวแล้ว-ตามมาดู-7-อาหารดับกลิ่นตัว-วิธีดูแลตัวเองให้กลิ่นตัวห๊อมหอม-id=73544
บอกลากลิ่นตัว! รวม 5 ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว ❤ | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-5-%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7--id%3D93149