1. SistaCafe
  2. น้ำหอม DIY แจกพิกัดเวิร์กชอปปรุงน้ำหอมทำง่าย แถมมีกลิ่นเดียวในโลก !

ค่ะชาวซิส เชื่อว่าไอเทมที่หลาย ๆ คนขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำหอมใช่ไหมล่ะคะ นอกจากจะช่วยให้เป็นสาวตัวหอมแล้ว น้ำหอมยังสามารถบอกเล่าความเป็นตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวค่ะ แต่จะดีแค่ไหนหากเราสามารถสร้างกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใครด้วยตัวเอง? น้ำหอม DIY จึงกลายมาเป็นเป็นทางเลือกยอดนิยมในหมู่คนรักความหอมและชื่นชอบการทำน้ำหอมนั่นเองค่ะ เพราะการผสมน้ำหอมเองไม่เพียงแต่ให้กลิ่นเฉพาะตัว ยังช่วยให้เราควบคุมส่วนผสมได้อย่างอิสระ บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำน้ำหอม วิธีการผสมกลิ่นด้วยขั้นตอนง่าย ๆ และพิเศษสุดคือแนะนำ 10 เวิร์กช็อปทำน้ำหอมในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญค่ะ!

ทำน้ำหอมใช้อะไรบ้าง?


การทำน้ำหอม DIY ที่บ้านเป็นหนึ่งในวิธีสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร และยังช่วยประหยัดเงินในขณะเดียวกันตาะ การเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสมและเข้าใจองค์ประกอบของกลิ่นจะทำให้เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์กลิ่นที่เข้ากับตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนอื่นเลยมาดูกันว่าน้ำหอม DIY ต้องใช้อะไรบ้าง

เอทานอลบริสุทธิ์ (Pure Ethanol)

เอทานอลเป็นส่วนผสมหลักที่ใช้เป็นตัวทำละลายในการทำน้ำหอม เนื่องจากสามารถกระจายกลิ่นได้ดีและทำให้น้ำหอมติดทนนาน เราสามารถหาเอทานอลได้ในร้านค้าออนไลน์และร้านขายยาทั่วไป แล้วก็เอทานอลที่เราซื้อควรมีความเข้มข้นอย่างน้อย 95% การเลือกใช้เอทานอลบริสุทธิ์จะทำให้น้ำหอมของเรามีความใสและกลิ่นไม่เพี้ยนค่ะ

น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils)

น้ำมันหอมระเหยคือตัวช่วยที่สร้างกลิ่นเฉพาะให้กับน้ำหอม และมีหลายกลิ่นให้เลือก สามารถผสมกลิ่นต่าง ๆ ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวค่ะ น้ำมันหอมระเหยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามลักษณะการระเหยของกลิ่น

  • Top Notes : เป็นกลิ่นที่เราจะได้กลิ่นแรกหลังจากฉีดน้ำหอม เช่น กลิ่นมะกรูด เลมอน เกรปฟรุต ส้มยูสุ หรือมิ้นท์ กลิ่นกลุ่มนี้จะระเหยเร็ว ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
  • Middle Notes (Heart Notes): กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และคงอยู่ยาวนานกว่ากลิ่นแรก เช่น ลาเวนเดอร์ กุหลาบ เจอเรเนียม โรสแมรี่ และตะไคร้ กลิ่นนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังจากฉีด
  • Base Notes: กลิ่นที่ระเหยช้าและติดทนที่สุด เช่น แซนดัลวู้ด (ไม้จันทน์), วานิลลา, มัสก์ และอำพัน กลิ่นในกลุ่มนี้สามารถคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมงและเป็นกลิ่นที่ทิ้งท้ายในน้ำหอมของเราค่ะ

น้ำกลั่น (Distilled Water)

น้ำกลั่นจะช่วยในการเจือจางกลิ่นและทำให้น้ำหอมมีความหอมที่สมดุลมากยิ่งขึ้น การใช้น้ำกลั่นจะทำให้น้ำหอมมีคุณภาพที่ดีและสามารถเก็บรักษาได้นาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำประปาหรือที่มีสิ่งสกปรกเจือปน เพราะอาจทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพได้ค่ะ

กลีเซอรีน (Glycerin)

กลีเซอรีนจะช่วยให้น้ำหอมมีความติดทนยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้กลีเซอรีนยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเป็นมิตรกับผิวหนัง หากใส่เพียงเล็กน้อยจะทำให้น้ำหอมติดทนอยู่ได้นานกว่าเดิม

ขวดบรรจุ (Glass Bottle)

เลือกใช้ขวดแก้วสีทึบที่มีฝาปิดสนิทเพื่อป้องกันแสงซึ่งอาจทำให้กลิ่นเสื่อมไปได้ และการเก็บน้ำหอมไว้ในขวดแก้วจะช่วยรักษากลิ่นได้นานกว่าขวดพลาสติก ทั้งนี้ควรเลือกขวดที่มีหัวฉีดเพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น

วิธีการทำน้ำหอม DIY ที่ใคร ๆ ก็ทำได้


  1. เตรียมขวดบรรจุและทำความสะอาด
  2. ล้างขวดบรรจุให้สะอาดด้วยน้ำร้อนและแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อ และผึ่งให้แห้งสนิทก่อนใช้
  3. ผสมน้ำมันหอมระเหย เริ่มต้นด้วยการเลือกกลิ่นจาก Top, Middle และ Base Notes โดยแนะนำให้หยดแต่ละกลิ่นในอัตราส่วนตามที่ชอบ เช่น 10% สำหรับ Top Notes, 30% สำหรับ Middle Notes และ 60% สำหรับ Base Notes หยดน้ำมันหอมระเหยลงในขวดผสมให้ได้กลิ่นที่เข้ากันอย่างลงตัว
  4. เติมเอทานอล ลงไปในขวดในปริมาณที่พอดี เพื่อให้กลิ่นหอมเข้มข้นและกระจายตัวได้ดี โดยสามารถคำนวณสัดส่วนให้เข้ากับปริมาณน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ เช่น ถ้าใช้น้ำมันหอมระเหย 10 มล. ก็เติมเอทานอลประมาณ 20 มล.
  5. เติมน้ำกลั่นลงไปในขวดผสมให้พอดีกับปริมาณที่ต้องการและเขย่าให้เข้ากันเพื่อทำให้กลิ่นหอมมีความสมดุลและไม่แรงจนเกินไป
  6. หยดกลีเซอรีนประมาณ 2-3 หยดลงในขวดเพื่อช่วยให้กลิ่นติดทนยิ่งขึ้น จากนั้นเขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  7. บ่มน้ำหอม ปิดฝาขวดให้สนิทและเก็บขวดไว้ในที่เย็นและมืดประมาณ 1-2 สัปดาห์ การบ่มน้ำหอมจะช่วยให้กลิ่นต่าง ๆ เข้ากันอย่างลงตัวและมีกลิ่นหอมที่นุ่มนวลมากขึ้น โดยในช่วงบ่มนี้ควรเขย่าขวดเบา ๆ ทุกวัน

หลังจากครบกำหนดการบ่ม ลองฉีดน้ำหอมเพื่อทดสอบกลิ่น หากรู้สึกว่ากลิ่นอ่อนไป สามารถเพิ่มน้ำมันหอมระเหยอีกเล็กน้อยได้ตามต้องการ หรือถ้ากลิ่นแรงเกินไปก็สามารถเจือจางด้วยน้ำกลั่นเพิ่มเติม

10 Workshop ทำน้ำหอมในกรุงเทพฯ สายชอบกลิ่นหอมต้องแวะ


Workshop ทำน้ำหอม 1 Sphere’s  

Sphere’s เป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ได้ออกแบบน้ำหอมในแบบของเราเอง ในบรรยากาศสบาย ๆ และเป็นกันเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำตั้งแต่การเลือก Top Notes, Middle Notes, และ Base Notes จนถึงการปรับสัดส่วนให้ลงตัวมากที่สุด จุดเด่นของ Workshop นี้คือการให้ผู้เข้าร่วมออกแบบกลิ่นให้แก่กัน ทำให้น้ำหอมที่ได้สะท้อนตัวตนของทั้งผู้ปรุงและผู้รับค่ะ ขั้นตอนการปรุงกลิ่น เริ่มจากการเลือกกลิ่นที่ต้องการ (สูงสุดไม่เกิน 15 กลิ่น) จากนั้นค่อย ๆ หยดกลิ่นแต่ละชั้นลงไปทีละน้อย พร้อมกับบันทึกสัดส่วนและกลิ่นที่เลือก เพื่อให้สามารถปรับแก้ได้ตามต้องการ เมื่อปรุงเสร็จ เพื่อน ๆ จะได้น้ำหอมขนาด 30 ml ที่มีเพียงกลิ่นเดียวในโลก พร้อมคำแนะนำให้บ่มกลิ่นไว้ประมาณ 7-10 วันเพื่อให้กลิ่นนวลขึ้นและติดทนนาน

ราคา 990 บาทต่อคน

พิกัด หมู่บ้านธารทองนิเวศน์ บ้านเลขที่ 62/38 ใกล้ BTS สถานีพหลโยธิน 59 (ทางออก 2)


น้ำหอม DIY Workshop ที่ 2 Vibeslab  

Vibeslab อีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้บริการทำน้ำหอม DIY เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกลิ่นหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับโรงแรมและธุรกิจชั้นนำในไทย การเข้า Workshop ที่ Vibeslab จะทำให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้วิธีการเลือกกลิ่นที่เหมาะกับตัวเอง ตั้งแต่การเลือกกลิ่นตัวอย่าง การปรับสัดส่วนกลิ่น และการปรุงน้ำหอมจริงในขวดใหญ่ เพื่อน ๆ สามารถเลือกคอลเลกชันกลิ่นได้ตั้งแต่กลิ่น Standard ไปจนถึงกลิ่น Collaborators ที่พิเศษกว่า ใน Workshop เพื่อน ๆ จะได้เซ็ตอุปกรณ์ครบชุด มีตัวอย่างกลิ่นให้เลือกหลากหลาย และอุปกรณ์การผสมกลิ่นต่าง ๆ สำหรับการทดลองสร้างสรรค์น้ำหอมในขวดเล็ก ๆ หากเพื่อน ๆ พอใจกับกลิ่นที่ได้ สามารถนำส่วนผสมไปปรุงเป็นขวดใหญ่ที่ทางแบรนด์จัดเตรียมไว้ได้ หรือหากต้องการปรับกลิ่นในภายหลัง ทาง Vibeslab ยังเปิดโอกาสให้เพื่อร ๆ กลับมาปรุงขวดใหญ่อีกครั้งที่สตูดิโอค่ะ

ราคา 3,500 บาท (กลิ่น Standard)

ราคา 5,000 บาท (กลิ่น Collaborators) 

เพิ่มค่าสตูดิโอ 1,500 บาทสำหรับการ Blend ที่สตู

พิกัด ซอยอารีย์ สุขุมวิท 26, คลองตัน, คลองเตย, กรุงเทพฯ


เวิร์กชอปทำน้ำหอม 3. Thaiscent  泰香

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหา Workshop ทำน้ำหอมในราคาน่ารักอยู่ ขอแนะนำที่ Thaiscent 泰香 ในกรุงเทพฯ ที่นี่ให้เพื่อน ๆ ได้ออกแบบและผสมน้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวของคุณเอง โดยมีกระบวนการตั้งแต่การเลือกกลิ่นไปจนถึงการบรรจุใส่ขวด ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม สนุก และน่าตื่นเต้นสุด ๆ เริ่มต้น Workshop ด้วยการแนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับน้ำหอม ทีมงานจะแนะนำกลิ่นต่าง ๆ ให้ลองดม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ ไปจนถึงกลิ่นแปลกใหม่อย่างกลิ่นยาสูบและกลิ่นสารเคมี และช่วยแนะนำให้เราบันทึกกลิ่นที่ชอบ เมื่อเลือกกลิ่นได้แล้ว ก็เริ่มขั้นตอนผสมน้ำหอมจริง โดยพี่ ๆ จะช่วยคำนวณสูตรน้ำหอมที่เหมาะสม และยังช่วยปรับสัดส่วนเพื่อให้กลิ่นลงตัวตามที่ต้องการ หลังจากได้น้ำหอมในแบบของตัวเองแล้ว ยังสามารถตั้งชื่อกลิ่น ออกแบบขวดน้ำหอม และตกแต่งแพ็กเกจด้วยตัวเอง เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ ทางร้านยังแถมเทสเตอร์น้ำหอมที่เตรียมวางขายในอนาคต พร้อมขนมและน้ำในคลาส ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและสนุกสนานมากขึ้น

ราคา พิเศษ 699 บาท (จากราคาเต็ม 999 บาท)

พิกัด ใกล้ท่าเรือผ่านฟ้า เขตราชปรารภ กทม.


ทำ DIY น้ำหอมของตัวเอง 4. The Crafelab Studio


วันหยุดนี้ หากเพื่อน ๆ ยังไม่มีแพลน ลองชวนเพื่อนหรือแฟนไปทำน้ำหอมกลิ่นพิเศษที่ The Crafelab Studio สิคะ เป็นโอกาสดีที่จะสร้างสรรค์กลิ่นเฉพาะตัวของเราเอง เพื่อน ๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกกลิ่นและการผสมตามใจชอบในบรรยากาศสนุก ๆ ทางร้านมีตัวเลือกกลิ่นหลากหลาย ทั้งกลิ่นแนว floral, fruity, woody, atmosphere, และ citrus ให้เพื่อน ๆ ได้ทดลองแบบไม่ซ้ำ ทดลองกลิ่นที่เลือกลงบนกระดาษที่ทางร้านจัดให้ แล้วจดไว้ว่าแต่ละกลิ่นใช้ไปกี่หยด เมื่อตกลงใจได้กลิ่นที่ชอบ พนักงานจะช่วยคำนวณสัดส่วนจริงให้พร้อมสำหรับการผสม เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้กลิ่นที่เหมาะสมและหอมติดทนนาน แค่นี้ก็จะได้น้ำหอมที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวพร้อมใช้งานแล้วค่ะ!

ราคา: 690 บาท (30 ml.)

         890 บาท (60 ml)

พิกัด CraftstudiO ชั้น 5 โซน Atrium, Central World 


Workshop ทำน้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัว 5 Maison Bluebell

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเข้า Workshop ทำน้ำหอมแบบ Personal Scent Body Mist แนะนำให้ไปที่ Maison Bluebell แล้วเพื่อน ๆ จะตกหลุมรักกลิ่นที่สร้างด้วยตัวเองมากยิ่งขึ้น เพื่อน ๆ จะได้รู้เกี่ยวกับชนิดของกลิ่นและวิธีการทำภายใต้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นลนหอมและผ่อนคลาย แถมยังได้ผลิตภัณฑ์กลับมาบ้านอีกด้วย เป็นอีกที่ที่ต้องบอกว่าคุ้มมากจริง ๆ ค่ะ

ราคา Body Mist  890 บาท Dufficer 990 บาท

พิกัด ติดตามประกาศทางเพจ


เรียนทำน้ำหอม DIY 6 iamingredient

เบื่ออยู่บ้านเฉาๆ อยู่ไหมคะ?  มาสร้างน้ำหอมกลิ่นเดียวในโลกที่ iamingredient กันเถอะ! นี่คือคลาสเรียนทำน้ำหอมสุดพิเศษที่ไม่ว่าเพื่อนฐานจะมีพื้นฐานหรือไม่ก็เรียนได้  เพราะสอนตั้งแต่ทฤษฎีพื้นฐาน  สูตรการทำ  วิธีคำนวณต้นทุน  และเทคนิคการตลาด  เรียนจบแล้วพร้อมเปิดแบรนด์ได้เลย!  สะดวกสุดๆ เพราะวัตถุดิบคุณภาพสูง  เกรดพรีเมี่ยมและออร์แกนิค  มีขายครบจบในที่เดียว! เป็นคลาสเรียนแบบ Private จำกัดเพียง 12 คนต่อคลาส พี่สต๊าฟให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ  ช่วยเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับเรา ที่สำคัญมีของว่างและอาหารว่างให้ทานตลอดทั้งวัน  

ราคา เริ่มต้น 2500 บาท

พิกัด ติดตามประกาศทางเพจ


ทำน้ำหอมกลิ่นตัวเอง 7 My Only Fragrance

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากมีน้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใคร แนะนำให้มาหาประสบการณ์สุดพิเศษในการสร้างน้ำหอมที่ My Only Fragrance ค่ะ ที่นี่เป็นสาขาแรกในประเทศไทย เป็รร้านน้ำหอมแบบ customized สัญชาติญี่ปุ่นส่งตรงจากเกียวโต ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้ออกแบบกลิ่นหอมที่เป็นตัวเราเองได้อย่างแท้จริง! ที่นี่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือกหลายกลิ่นเลย โดยทางร้านจะไม่เปิดเผยชื่อและส่วนประกอบ  ทำให้การเลือกกลิ่นเป็นเหมือนการค้นพบความหอมที่ซ่อนอยู่  หลังจากเลือกกลิ่นที่ถูกใจแล้ว พนักงานผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำอัตราส่วนในการผสมอย่างมืออาชีพ และคอยดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าเพื่อน ๆ จะได้กลิ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด  แถมยังสามารถตั้งชื่อน้ำหอมของเราเองได้อีกด้วย!  นอกจากนี้ยังสามารถเลือกขนาด (10/50/100 ml) และความติดทนของน้ำหอมได้ตามต้องการ ที่สำคัญถ้าอยากได้กลิ่นเดิมอีกครั้ง ก็แค่เอากระดาษสูตรน้ำหอมส่วนตัวกลับมาที่ร้านได้เลย

พิกัด ติดตามประกาศทางเพจ


เวิร์กชอปออกแบบน้ำหอม 8 Pawis

ถัดมาเลยที่ Pawis ก็มี Workshop ทำน้ำหอมเช่นกันค่ะ เพื่อน ๆ สามารถคุณออกแบบน้ำหอมในสไตล์ของตัวเองได้เลย ที่นี่มีน้ำหอมนำเข้าคุณภาพสูงกว่า 72 กลิ่น จากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วโลก  ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะมีความรู้เรื่องน้ำหอมมากแค่ไหนก็สามารถเข้าร่วมได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำอย่างใกล้ชิด ความพิเศษอย่างหนึ่งเลยก็คือการสลักชื่อลงบนขวดน้ำหอมเพื่อเป็นของขวัญสุดพิเศษให้ตัวเองหรือคนสำคัญก็ได้

ราคา เริ่มต้นที่ 2,580 บาท

พิกัด ติดตามประกาศทางเพจ


Workshop ปรุงน้ำหอม 9 Panpuri

หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมจาก Panpuri อยู่แล้ว  เวิร์กชอปปรุงกลิ่นหอมเองจาก Panpuri จะทำให้เพื่อน ๆ ได้สร้างสรรค์กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ถูกใจที่สุด!  เพื่อน ๆ สามารถผสมผสานกลิ่นหอมจากกว่า 40 หรือ 65 กลิ่น (ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่เลือก) เพื่อสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเราเอง เรียนรู้การสร้างกลิ่นหอมแบบมืออาชีพ โดยแบ่งเป็น Top Note, Heart Note และ Base Note นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมจะคอยให้คำแนะนำและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับกลิ่นหอมต่าง ๆ  ช่วยให้เราเข้าใจกลิ่นและเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น สามารถเลือกสีขวดและตั้งชื่อกลิ่นเองได้ด้วย

ราคา  Private Edition 40 กลิ่น: ราคา 850 บาท

         Private Edition Rare Note 65 กลิ่น: ราคา 1,150 บาท

พิกัด ติดตามประกาศทางเพจ


พิกัดเวิร์กชอป ทำน้ำหอม 10. First Aid Kiss

หากเพื่อน ๆ อยากมีน้ำหอม Diffuser ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีเพียงขวดเดียวบนโลก แนะนำให้มาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ First Aid Kiss เวิร์กช็อปทำน้ำหอม Diffuser ที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสร้างสรรค์กลิ่นหอมที่สะท้อนตัวตน  ด้วยการเรียนรู้ขั้นตอนการผสมกลิ่นอย่างมืออาชีพ  พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตลอดการทำ เพื่อน ๆ สามารถเลือกขวดแก้วที่ถูกใจ เลือกน้ำหอมกลิ่นโปรดถึง 3 กลิ่น และทดลองผสมผสานจนได้กลิ่นที่ลงตัวที่สุด สามารถเพิ่มความสวยงามด้วยดอกไม้แห้ง ดอกไม้ หรือกิ่งไม้ เพื่อให้ขวดน้ำหอม Diffuser ของเราดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ราคา 599 บาท/คน  (สำหรับกลุ่ม 4 คน)  รวมเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว/คน

พิกัด Siam square one


สรุป

การทำ น้ำหอม DIY เป็นกิจกรรมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และความรู้เข้าด้วยกันอย่างลงตัวค่ะ ทั้งยังช่วยให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร หากเพื่อน ๆ สนใจจะเริ่มต้นด้วยตัวเอง ก็สามารถทำตามวิธีที่แนะนำได้ในบทความนี้ แต่หากต้องการเรียนรู้แบบเจาะลึก การเข้าร่วมเวิร์กช็อปก็เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว เพราะเพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้เทคนิคการผสมน้ำหอมจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสร้างกลิ่นที่สะท้อนความเป็นตัวเราอย่างเต็มที่

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก CANVA


บทความแนะนำที่ซิสไม่ควรพลาด

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1