1. SistaCafe
  2. Gen Alpha Skincare ทาก่อนสวยก่อนจริงไหม?

เมื่อโลกหมุนไวแต่เจนแอลฟ่าหมุนไวกว่า เนื่องจากเจน Alpha เป็นเจนแรกที่เติบโตขึ้นมาในยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว แน่นอนว่าเด็กๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านโซเชียลได้ง่ายเพียงแค่สไลด์ปลายนิ้วผ่านโทรศัพท์ ข้อมูลจากทั่วโลกก็พร้อมมาเสิร์ฟตรงหน้า เลยทำให้เด็กๆ เจนนี้เค้ารู้ตัวไว หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพความงามและความเป็นอยู่ที่ดีกันเร็วขึ้น และบอกเลยว่าเจน Alpha กำลังจะมาเซตสแตนดาร์ดใหม่เกี่ยวกับการดูแลผิว ด้วยการถือคติ ทาก่อนสวยก่อน! ยิ่งใช้สกินแคร์เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งแนวความคิดนี้จริงหรือเปล่า? การทาสกินแคร์ตั้งแต่เนิ่นๆ แบบ Gen Alpha Skincare นั้นจำเป็นจริงไหม? เดี๋ยวเรามาลองหาคำตอบไปด้วยกันเลย



Gen Alpha Skincare

Gen Alpha คืออะไร?

เด็กที่เกิดในปี พ.ศ.2553 หรือ ค.ศ. 2010 - ปัจจุบัน (อายุต่ำกว่า 14 ลงไป)


Gen Alpha Skincare คืออะไร?

เทรนด์เของด็ก Gen Alpha ที่เริ่มดูแลตัวเองและให้ความสนใจกับการใช้สกินแคร์ตั้งแต่ยังเด็ก  ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากสไตล์การเลี้ยงดูของผู้ปกครองเจนมิลเลนเนียล ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น จนส่งต่อวิธีการดูแลตัวเองเหล่านี้ผ่านมายังลูกๆ มากขึ้นไปด้วย โดยให้ความสำคัญกับการสร้างอุปนิสัยที่ดีตั้งแต่อายุน้อย เลยทำให้การดูแลตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของเด็กๆ หรืออีกหนึ่งส่วนคือ การได้รับอิทธิพลมาจากสื่อโซเชียล เช่น TikTok หรือ Youtube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในหมู่เจนแอลฟ่า จากคอนเทนต์ไร้พรมแดนที่ส่งผ่านอัลกอริทึมในโลกโซเชียลมาในรูปแบบคอนเทนต์ Get ready with me ซึ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือเหล่าลูกเซเลปคนดังเองมักจะมาบอกเล่าถึงสกินแคร์ที่ใช้ แบ่งปันวิธีการทาสกินแคร์ในแต่ละวัน จนกลายเป็น Soft power ที่ทำให้เจนแอลฟ่าหันมาสนใจและอยากลองซื้อสกินแคร์ตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น “Sephora Kids” ซึ่งเป็นคำใช้เรียกกลุ่มเด็ก ๆ อายุประมาณ 8-12 ปี ที่แห่กันไปซื้อสกินแคร์ในร้าน Sephora ได้อย่างเชี่ยวชาญโดยไม่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากพนักงานในร้านแต่มุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ Drunk Elephant, Glow Recipe หรือ Laneige ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เจนแอลฟ่า ด้วยตัวบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ มีการออกแบบที่มีสีสันสดใสทำให้การดูแลผิวกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ ภายใต้ความกังวลใจของพนักงานร้านและผู้ปกครองว่าสกินแคร์จำเป็นกับเด็กวัยนี้มากน้อยแค่ไหน


ทำความเข้าใจลักษณะผิวของเจน Alpha

ผิวของเด็กมีลักษณะเฉพาะตัว โดยทั่วไปผิวจะมีความนุ่ม ยืดหยุ่นเพราะยังมีคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวเยอะ รวมถึงกลไกการผลัดเซลล์ผิวก็ยังทำงานได้ดีและรวดเร็ว แต่เกราะป้องกันผิวเค้าจะมีความไวและบอบบางกว่าผู้ใหญ่ เพราะผิวชั้นนอกเค้าจะบางกว่าทำให้มีความเสี่ยงต่อการระคายเคือง แห้ง หรือคันได้ง่าย รวมถึงผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย กักเก็บความชุ้มชื้นได้น้อย เพราะฉะนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับเด็กๆ ในเจนนี้จึงมีความสำคัญมาก


3 ขั้นตอน สกินแคร์รูทีนสำหรับ Gen Alpha


ด้วยลักษณะของผิวเด็กที่ยังบอบบาง กลไกการทำงานและคอลลาเจนใต้ผิวยังอยู่ดีมีครบ เพราะฉะนั้นสกินแคร์รูทีนที่แนะนำสำหรับเด็กเจนนี้จึงควรเน้นเพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น คือการทำความสะอาด เติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากแสงแดด และยังไม่ควรใช้สกินแคร์ที่ Advanced จนเกินไป เพราะผิวยังไม่ได้มีปัญหาหรือมีความจำเป็นต้องใช้ เพราะฉะนั้นถึงใช้ไปก็อาจจะไม่ได้เห็นผลอะไร หรือบางผลิตภัณฑ์ก็อาจรุนแรงเกินผิวของเด็กจะรับไหวได้ กลับกลายเป็นว่าจากผิวดีๆ ก็ดันมีปัญหาให้ต้องมาตามแก้ไปโดยปริยาย วันนี้ซิสเอา 3 ขั้นตอนสกินแคร์สำคัญๆ สำหรับ Gen Alpha มาฝาก ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  1. ใช้คลีนเซอร์ ที่เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารทำความสะอาดหรือสารชะล้างที่มีความรุนแรง ระคายเคืองต่อผิว เช่น SLS และพยายามเลือกแบบที่ไม่มีน้ำหอม ไม่แต่งสีแต่งกลิ่นเพิ่มเติม
  2. มอยส์เจอไรเซอร์ ให้เลือกสูตรที่เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้น เน้นตัวที่สามารถช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำในผิวและช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  3. ครีมกันแดด แนะนำให้ใช้แบบ Physical จะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าแบบ Chemical วิธีสังเกตกันแดดแบบ Physical ง่ายๆ คือ มี Zinc oxide, Titanium dioxide เป็นส่วนผสม แต่อาจจะมีข้อเสียเล็กๆ คืออาจจะโทนอัพทำให้ผิวดูขาวขึ้นอีกระดับได้

5 ส่วนผสมที่เจนแอลฟ่าควรหลีกเลี่ยง

นอกจากที่ซิสได้แนะนำสกินแคร์ตัวที่ควรใช้แล้ว ก็ยังมีส่วนผสมที่ควรต้องหลักเลี่ยงเหมือนกัน เพื่อเป็นการเซฟผิวเราที่ยังดีให้เค้ายังสุขภาพดีต่อไปนานๆ สารบางตัวที่เหมือนจะฮิตกัน เป็นเทรนด์ในโลกโซเชียลที่ใครๆ ก็ใช้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราใช้แล้วจะดีไปซะทุกตัว ขนาดผิวผู้ใหญ่ยังต้องระมัดระวังเพราะวิธีใช้ยากดูแลยาก แล้วผิวที่แสนจะเปราะบางอย่างผิวเด็กๆ ก็ยิ่งควรต้องระมัดระวังไว้ก่อนนะ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

  • Sodium lauryl sulfate (SLS) เป็นสารทำความสะอาด ลดแรงตึงผิว ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง มักพบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาด เช่น คลีนเซอร์ โฟมล้างหน้า
  • วิตามินซี แม้ว่าจะโดดเด่นในด้านการช่วยบำรุงให้ผิวดูกระจ่างใสแต่วิตามินซีเค้าก็มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งเสี่ยงการระคายเคืองผิวได้
  • เรตินอล ส่วนผสมมาแรงงช่วงนี้ โดดเด่นในด้านการช่วยลดเลือนด้านริ้วรอย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่จำเป็นกับผิวเด็กๆ นอกจากนั้นก็ยังมีวิธีการใช้ค่อนข้างซับซ้อน หากเราใช้ไม่ถูกวิธีผิวก็สามารถพังได้ง่ายๆ ซิสแนะนำว่าไว้รอให้เราอายุมากขึ้น ผิวเราเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พอมีริ้วรอยแล้วค่อยใช้ตอนนั้นก็ยังไม่สาย
  • น้ำหอม เสี่ยงต่อการระคายเคือง
  • AHA, BHA เป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่มผลัดเซลล์ผิว ซึ่งกลไกการผลัดเซลล์ของเด็กดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเสริมเติมเพิ่มอะไร นอกจากนั้นการผลัดเซลล์ผิวเองก็เสี่ยงต่อการระคายเคืองด้วยเช่นกัน

ข้อดีและข้อเสียของGen Alpha Skincare

ข้อดี:

  • ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ
  • ช่วยให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจด้านสกินแคร์แต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยส่งเสริมความมั่นใจด้านรูปลักษณ์

ข้อเสีย:

  • สภาพเกราะป้องกันผิวเด็กยังเปราะบางมากเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่
  • เสี่ยงต่อการระคายเคืองง่าย
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อสกินแคร์ต่างๆ อาจสูงเกินความจำเป็น
  • อาจทำให้เกิดปัญหากังวลเกี่ยวกับการปรับตัวตามบิวตี้แสตนดาร์ด มีความเสี่ยงที่จะเกิดความรู้สึกไม่พึงพอใจกับตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ

คัดมาแล้ว 7 ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสำหรับเด็ก



คลีนเซอร์

  • Cerave hydrating cleanser คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ไม่มี SLS ถึงแม้จะไม่ได้ระบุไว้ว่า for kids แต่สกินแคร์สูตรอ่อนโยนเด็กก็ใช้ได้เหมือนกัน
  • Mizumi Gentle Acne Wash ตัวนี้ก็อ่อนโยน ไม่มี SLS คนที่เริ่มเป็นสิวสามารถใช้ได้ หรือคนที่ไม่ได้มีปัญหาสิวก็ใช้ได้เช่นกัน

มอยส์เจอไรเซอร์

  • Babi Mild Ultra Mild Natural Moisturizer Cream เนื้อค่อนข้างหนัก ให้ความชุ่มชื้นดี ข้อดีคือราคาถูกมาก
  • Aveeno daily moisturizing lotion เนื้อครีมเข้มข้น ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี
  • CERAVE Moisturising Cream เนื้อหนัก ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำ

ครีมกันแดด

  • D-nee Organic Baby Sunscreen Lotion เป็นกันแดดแบบ physical อ่อนโยนกับผิว
  • Banana Boat Kids Sensitive Mineral Based SunScreen Lotion SPF50+ PA++++ กันแดดแบบ physical ตัวนี้ก็อ่อนโยนกับผิวเช่นกัน

การรับมือกับความกดดันจากบิวตี้สแตนดาร์ด

เมื่อเด็กเจน Alpha โตขึ้น เค้าจะได้เห็นได้รับรู้คอนเทนต์บนโลกโซเชียลมากมายที่ผู้คนต่างโชว์ด้านที่ดีที่สุดของตัวเอง สุดท้ายบิวตี้สแตนดาร์ดในสังคมจะกลายเป็นสิ่งที่เด็กเจนนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เด็กเกิดการเปรียบเทียบกับตนเอง เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่พึงพอใจในตัวเองขึ้นมาได้ ดังนั้นครอบครัวจึงต้องเข้ามามีส่วนช่วยทำให้จิตใจของเด็กแข็งแกร่งเพื่อเผชิญกับแรงกดดันนี้ โดยที่ผู้ปกครองอาจจะสอนให้เด็กได้รู้จักกับการยอมรับความแตกต่าง ความสวยงามที่มีอยู่ในทุกรูปลักษณ์ ทุกเพศสภาพ และให้ความรู้กับเด็กว่าการดูแลผิวไม่ใช่เพื่อเสริมเติมเพื่อความสวยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเป็นการดูแลตัวเองเพื่อสร้างสุขภาพผิวที่ดีด้วย เพราะผิวที่สวยที่สุดคือผิวที่สุขภาพดีนั่นเอง


แบบใหม่แบบสับกับ Gen Alpha Skincare แน่นอนว่าการดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นเรื่องดีสำหรับเด็กๆ ทั้งในแง่ของความมั่นใจและทำให้ได้เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเอง แต่อะไรที่เยอะไปก็ไม่ก็ไม่ดี โดยเฉพาะการใช้สกินแคร์บางตัวที่ยังไม่เหมาะกับผิวเด็กๆ ในวัยที่ผิวเปล่งปลั่งที่สุดแบบนี้ เรามารักษาบันไว้ให้ดูสุขภาพดีนานๆ กันดีกว่าเนอะ หรือจะใช้แค่ 3 ขั้นตอนสกินแคร์ที่ซิสเอามาแนะน้ำก็ได้ เพียงแค่รักษาความสะอาด ให้ดี บำรุงความชุ่มชื้นให้พอ ปกป้องผิวจากแสงแดด แค่นี้ผิวก็เริ่ดแล้ว!


🩷🤍🩷🤍🩷🤍🩷


Designer : tt.

Writer : Babypeachy


อ้างอิง

https://aytm.com/post/sephora-kids-gen-alpha-skincare

https://cew.org/beauty_news/the-brands-gen-alpha-desires-and-what-execs-think-about-it/

https://www.forbesthailand.com/world/america/gen-alpha-sephora-kid-is-this-ok

https://everydaymarketing.co/trend-insight/10-beauty-trends-2024-2025-from-the-future-100-vml/


บทความแนะนำเพิ่มเติม

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้