1. SistaCafe
  2. ไขข้อข้องใจ ! ทำไมต้องแต่งผี วันฮาโลวีน ?

ใกล้เข้ามาแล้วกับเทสกาลเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ระดับสากลโลกอย่างเทศกาล "Halloween" อีก 1 เทศกาลแห่งความสนุกที่เป็นสัญญาณของการเข้ามาของเทศกาลส่งท้ายปี ทั้งคริสต์มาส ปีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นฤดูแห่งการเฉลิมฉลองเลยก็ว่าได้ แต่ก่อนที่เราจะเริ่มฉลองเทศกาลฮาโลวีนด้วยการเตรียมพร้อมเมคอัพแบบผี ๆ เตรียมคอสตูมเตรียมโคฟเวอร์ตัวละครต่าง ๆ กันนั้น เคยคิดคิดสงสัยกันมั้ยว่า "ทำไมเค้าถึงต้องแต่งตัวเป็นผีกันในวันนี้ ? " ซิสเองเป็นอีกคนที่เคยสงสัยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้คำตอบนี้จริง ๆ จัง ๆ สักที เพราะถึงเทศกาลนี้ทีไรก็มัววุ่นแต่การหาเรฟแต่งหน้า หาซื้อคอสตูมทำคอนเทนต์อย่างเดียวเลย ปีนี้ก็เลยไม่พลาดที่จะไขข้อสงสัยนี้ ก็เลยรวบรวมสรุป ตำนานการเกิดฮาโลวีน มาฝากชาวซิสกันจ้า


The Origin of Halloween

มีหลักฐานว่าฮาโลวีนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ณ ประเทศไอร์แลนด์ โดยมีต้นกำเนิดจากเทศกาล Samhain หรือ ซาวอิน”/ “ซาห์วิน” ของชาวเคลต์ กลุ่มชนเผ่าที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนกลางของยุโรป เทศกาลซาวอินจะตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายนซึ่งถือเป็นวันสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว เป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสิ้นสุดฤดูไบไม้ร่วงกับการเริ่มต้นฤดูหนาว ในเทศกาลนี้ชาวเคลต์จะมีพิธีก่อกองไฟ เพื่อเฉลิมเฉลิมให้กับผลผลิตที่เก็บได้ในฤดูเก็บเกี่ยว ไฟที่ก่อขึ้นเปรียบเสมือนไฟศักดิ์สิทธ์และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ เทศกาลซาวอินจึงเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวเคลต์นั่นเอง นอกจากการเฉลิมฉลองแล้วชาวเคลต์ยังเชื่อว่าช่วงนี้เป็นรอยต่อระหว่างช่วงสว่างและช่วงมืดมนหนาวเหน็บของปี เป็นช่วงที่พรมแดนระหว่างโลกมนุษย์ และโลกวิญญาณจะถูกเปิดออก ทำให้วิญญาณสามารถข้ามผ่านมายังโลกมนุษย์ได้ และขณะเดียวกันมนุษย์เองก็สามารถข้ามไปยังโลกวิญญานได้เช่นเดียวกัน ด้วยความที่กลัวว่า วิญญาญร้ายจะมาทำลายพืชผลการผลิตที่เก็บเกี่ยวไว้ และเข้ามาสิงร่างผู้คน พวกเค้าจึงทำการแก้เคล็ดด้วยการแต่งกายเลียนแบบผี เพื่อให้เกิดความสับสนว่าอาจเป็นพวกเดียวกัน จนไม่กล้ามาทำลายมนุษย์และพืชผลการผลิตได้


ทำไมถึงเรียก Halloween ?



ในช่วงศตวรรษที่ 9 การเข้ามาของพระศาสนจักรคาทอลิก ในดินแดนเคลติก ชาวเคลต์จึงได้รับอิทธิพลของศาสนาคริสต์เข้ามาและได้รับเทศกาลฉลอง All Saints Day หรือเดิมทีมีชื่อว่า All Hallowmas หรือวันสมโภชนักบุญทั้งหลายที่มีขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเดียวกันกับเทศกาลซาวอิน ทั้งสองเทศกาลจึงเกิดการผสมผสานเข้าด้วยกัน กลายเป็นวัฒนธรรมผสมระหว่างคาทอลิกกับประเพณีพื้นเมือง และเช่นเดียวกันกับวัน Chrismas ที่มีวัน Chrismas Eve ก็มีวัน All Hallowmas Eve หรือ วันก่อน All Hallowmas ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ภายหลัง All Hallowmas Eve ก็ถูกเรียกย่อเป็น "Halloween" แบบที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง

ตำนาน Trick or Treat ( หลอกหรือเลี้ยง )

สำหรับตำนาน Trick or Treat เองก็เริ่มต้นในช่วงศตวรรษที่ 9 จากวัน All Souls Day หรือวันฉลองพระวิญญาน ในคริสต์ศาสนา ที่ผู้คนจะขอรับบริจาคขนม Soul Cake (เค้กสำหรับวิญญาน) โดยมีความเชื่อว่ายิ่งได้เค้กมากเท่าไหร่ วิญญานของญาติผู้บริจาคก็ยิ่งได้ผลบุญมากเท่านั้น แต่ต่อมาธรรมเนียมนี้ได้วิวัฒนาการตามยุคตามสมัยกลายเป็นการละเล่น Trick or Treat ที่เด็ก ๆ จะแต่งตัวเป็นผี หรือตัวละครที่ตัวเองชื่นชอบ แล้วตระเวนไปตามบ้านต่าง ๆ แล้วเคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน พร้อมกับวลี "Trick or Treat หลอก หรือ เลี้ยง " หากเจ้าของบ้านเลือก Treat (เลี้ยง) ก็แปลว่ายอมจำนนและจะต้องเลี้ยงขนมเด็ก ๆ โดยการให้ขนมหรือลูกกวาด แต่ถ้าเลือก Trick (หลอก) ก็จะโดนเด็ก ๆ หลอกผี แลบลิ้น ปลิ้นตาให้น่ากลัว แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องให้ขนมอยู่ดีเพราะจุดประสงค์ของการละเล่นนี้ก็เพื่อสร้างความสุข สนุกสนานให้กับเด็ก ๆ นั่นเอง

เรียกได้ว่า ฮาโลวีน เป็นเทศกาลที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน เกิดการผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นเมืองและศาสนาถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน มีการส่งต่อจนกลายเป็นเทศกาลสากลระดับโลก ถึงแม้จะเป็นเทศกาลที่เกี่ยวกับภูติผี วิญญานแต่ก็ไม่ได้เป็นเทศกาลแห่งความหลอกหลอนน่ากลัวแม้แต่น้อย กลับกันฮาโลวีนกลายเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่อบอวลไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน และการแบ่งปัน Happy Halloween


อ้างอิง

https://archaeogo.org/2022/10/31/samhain/

https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/226833

https://glicothai.com/blogs/news/halloween


บทความแนะนำ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้