1. SistaCafe
  2. วิธีสังเกตไมเกรน เสียงกระซิบจากสมอง ที่เราไม่ควรมองข้าม

เคยไหมคะ อยู่ดี ๆ ก็ปวดหัวตุบ ๆ ข้างเดียว รู้สึกคลื่นไส้ แพ้แสง แพ้เสียง และอยากหายตัวไปจากโลกในวินาทีนั้น อาการทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่แค่ “ ปวดหัวธรรมดา ” แต่คือ ไมเกรน หนึ่งในโรคยอดฮิตของคนยุคนี้ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ พักผ่อนไม่พอ หรือแม้แต่เครียดโดยไม่รู้ตัว บางคนเป็นบ่อยจนส่งผลต่อการเรียน การทำงาน และคุณภาพชีวิตโดยรวม เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันไมเกรน จึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยให้เรารับมือกับมันได้อย่างมีสติ และดูแลตัวเองได้ทัน ก่อนอาการจะรุนแรงเกินไปค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดู วิธีสังเกตไมเกรน ว่าเป็นยังไง พร้อม ๆ กับส่องอาการ และวิธีรับมือกับโรคนี้ ว่าต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ



ไมเกรน คืออะไร ทำไมคนเป็นเยอะ

ไมเกรน เป็นอีกหนึ่งโรคที่เราได้ยินกัยบ่อยมาก ๆ แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะคิดว่า มันก็แค่อาการปวดหัวธรรมดาทั่วไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ธรรมดาค่ะ !

ไมเกรน คือ อาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท และหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง มักปวดข้างเดียว และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ไวต่อแสง และเสียง ไมเกรนเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิง และมักมีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง เช่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรืออาหารบางชนิด ถ้าถามว่า ทำไมคนเป็นกันเยอะ ต้องบอกก่อนว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้คนเป็นไมเกรนได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่แค่ความเครียดอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงปัจจัยทางพันธุกรรม, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน, การอดนอน, การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา, แสงจ้า, เสียงดัง, กลิ่นฉุน, และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะ ที่ปัจจุบันคนปวดไมเกรนกันเยอะขึ้นมาก ๆ


ไมเกรนต่างจากการปวดหัวทั่วไปยังไง ?

✴️ไมเกรน : ปวดหัวข้างเดียว ปวดตุบ ๆ แบบเป็นจังหวะ มีอาการคลื่นไส้ ตาพร่า แพ้แสงเสียง

✴️ปวดหัวทั่วไป : ปวดทั่วศีรษะ หนัก ๆ ตื้อ ๆ ไม่ค่อยมีอาการร่วม



🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀



ไมเกรน เกิดจากอะไร

หลาย ๆ คนอาจจะกำลังตั้งคำถามอยู่ว่า แล้วไมเกรนเกิดจากอะไร ทำไมเราถึงปวดไมเกรนได้ ต้องบอกอย่างนี้ ไมเกรนเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท และหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดหัวตุ๊บ ๆ ที่มักเป็นข้างเดียว และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุ และปัจจัยกระตุ้นไมเกรนนั้น มีหลายอย่างเลยค่ะ เรารวมข้อมูลมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแล้ว

พันธุกรรม : ว่ากันว่า หากในครอบครัวมีคนเป็นไมเกรน โอกาสที่เราจะเป็นก็สูงขึ้น เพราะความไวของสมองต่อสารเคมี และการหด - ขยายตัวของหลอดเลือดมักถ่ายทอดกันได้

สารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุล : โดยเฉพาะ เซโรโทนิน ( Serotonin ) ที่ควบคุมอารมณ์ และความเจ็บปวด หากลดลงผิดปกติ จะทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัว และเกิดการอักเสบ นำไปสู่อาการไมเกรนได้

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงมีประจำเดือน หรือหลังคลอดบุตร อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้เช่นกัน

ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม : นอกเหนือจากสารสื่อประสาท พันธุกรรม และฮอร์โมนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามด้วย เช่น

  • ความเครียด สะสมหรือเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  • การนอนน้อย หรือนอนมากเกินไป
  • การกินอาหารบางชนิด เช่น คาเฟอีน ชีส ไวน์แดง ผงชูรส
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน
  • แสงจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นแรง
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ความกดอากาศ หรืออุณหภูมิ

การทำงานของสมองที่ไวเกิน (Hyper-excitable Brain) : ต้องรู้ไว้ก่อนว่า สมองของคนที่เป็นไมเกรนจะไวต่อสิ่งกระตุ้นกว่าปกติ ทำให้แม้แต่เรื่องเล็กน้อย เช่น เสียงนาฬิกาปลุก หรือความหิว ก็กลายเป็นต้นเหตุของอาการปวดหัวได้่เช่นกัน





วิธีสังเกตอาการไมเกรน

อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่า อาการไมเกรนสามารถสังเกตได้จากลักษณะอาการปวดศีรษะ ที่มักปวดตุบ ๆ ข้างเดียว หรืออาจปวดทั้งสองข้าง และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือไวต่อแสง และเสียงร่วมด้วย นอกจากนี้ อาการปวดอาจกินระยะเวลานานหลายชั่วโมง และอาจมีอาการอื่น ๆ นำมาก่อน เช่น เห็นแสงผิดปกติ หรือมีอาการชาที่แขน หรือขา ซึ่งวิธีสังเกตตัวเองเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ตามนี้เลยค่ะ

  • อาการปวดหัวข้างเดียว แต่บางครั้งก็ปวดสองข้าง

ปกติเราจะมีภาพจำว่า ถ้าปวดไมเกรน มันจะต้องปวดหัวข้างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะลักษณะเด่นของไมเกรนคือ ปวดตุบ ๆ ที่มักเริ่มจากด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ และอาการมักปวดรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิต บางคนอาจปวดจนต้องนอนพักถึงจะดีขึ้น

  • ปวดแบบตุบ ๆ หรือเต้นตามจังหวะชีพจร

อาการปวดไมเกรน จะค่อนข้างแตกต่างจากการปวดหัวแบบธรรมดาทั่วไปค่ะ มันจะต่างจากการปวดตึง ๆ จากความเครียด เพราะไมเกรนจะเหมือนมีชีพจรเต้นอยู่ในศีรษะของเรา ฟีลตุบ ๆ เหมือนหัวใจกำลังเต้นอยู่ จะรู้สึกได้ชัดเจนเวลาขยับตัวหรือก้มลง

  • คลื่นไส้ อาเจียน หรือเบื่ออาหารร่วมด้วย

ปวดไม่เกรน ไม่ใช่แค่ปวดหัวอย่างเดียว แต่ไมเกรนมักกระตุ้นศูนย์คลื่นไส้ในสมอง ทำให้รู้สึกวิงเวียน คลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมกับอาการปวดหัวด้วย

  • ไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นมากผิดปกติ

พอบอกว่า ไวต่อแสง และเสียง บางคนอาจจะงง หรือสับสน ว่ามันเกี่ยวอะไร รู้มั้ยว่า คนเป็นไมเกรนหลายคน จะต้องอยู่ในห้องมืด และเงียบสนิท เพราะแสงจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นแรง สามารถกระตุ้นให้อาการปวดรุนแรงขึ้นได้

  • เห็นแสงวูบวาบ หรือจุดสีแปลก ๆ ก่อนปวดหัว (ออร่า)

บางคนมี “ ออร่าไมเกรน ” เป็นอาการนำก่อนปวด ออร่าไมเกรนคืออะไร มันคือ อาการผิดปกติทางระบบประสาท ที่เกิดขึ้นก่อนหรือระหว่างอาการปวดหัวไมเกรน เช่น เห็นแสงซิกแซก ลานสายตาหายไป หรือรู้สึกชาตามใบหน้า ซึ่งอาการออร่ามักเกิด 10 - 30 นาทีก่อนเริ่มปวดหัว

  • อ่อนเพลีย สมองตื้อ สมาธิสั้น

คนเป็นไมเกรนหลายคน จะเข้าใจเรื่องนี้ ระหว่าง หรือหลังจากไมเกรน อาจรู้สึกมึน ๆ สมองไม่แล่น หรือคิดอะไรไม่ออกได้หลายชั่วโมงถึงทั้งวัน

  • มีอาการนำล่วงหน้า (Prodrome)

บางคนไม่ได้เป็นไมเกรนทันที แต่มีอาการนำมาก่อนล่วงหน้า เช่น อารมณ์แปรปรวน ง่วง เหนื่อย หิวบ่อย ปวดเมื่อยตัว หรือปัสสาวะบ่อย ก่อนจะปวดหัวประมาณ 1 วัน ซึ่งหลาย ๆ คน สามารถใช้อาการเหล่านี้ เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าได้นะ

สรุปแบบง่าย ๆ หากปวดศีรษะรุนแรงแบบฉับพลัน ปวดหัวร่วมกับชา หรืออ่อนแรงครึ่งตัว สับสน พูดไม่รู้เรื่อง หรือมีไข้สูงร่วมด้วย อย่าคิดว่า ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็หาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นภาวะอื่นที่รุนแรงยิ่งกว่า เช่น เส้นเลือดในสมองแตก หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นห่วงนะคะ



🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀



รวมลิสต์อาหารที่ช่วยลดอาการไมเกรน

คราวนี้เรามาดูกันว่า มีอาหารอะไรบ้าง ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ วันนี้เราลิสต์มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันแล้ว ใครที่มีอาการปวดไมเกรนอยู่แล้ว ลองไปหาทานกันดู เราเชื่อว่า มันช่วยได้แน่นอนค่ะ อาจจะไม่ได้ทำให้หาย แต่ก็พอจะช่วยลดอาการปวดได้บ้าง ลองไปหาทานกันดูนะ


เมนูลดไมเกรน เมนูที่ 1 ปลาแซลมอน

เปิดมาที่เมนูแรก ปลาแซลมอน จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ปลาแซลมอนนะ แต่เป็นปลาทะเลทุกชนิดเลยค่ะ แม้แต่ปลาทู หรือปลาซาร์ดีน ก็อุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 ล้วนแต่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวด อาการอักเสบ และช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทได้ สำคัญคือ ผลการวิจัยบอกว่า ารทานโอเมก้า 3 เป็นประจำในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยลดความถี่ของการปวดหัวไมเกรนลงได้ เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการปวดไมเกรนบ่อยๆ ลองไปหาปลาทะเลมาทานกันดูนะ



เมนูลดไมเกรน เมนูที่ 2 ข้าวกล้อง

ต่อกันที่ข้าวกล้อง ตัวช่วยดีๆ ของคนปวดไมเกรนเลยค่ะ ว่ากันว่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่มีอาการปวดไมเกรน เป็นเหมือนโรคประจำตัว ให้ลองหันมาทานข้าวกล้องแทนข้าวขาวกันดู บอกเลยว่า ดีมากๆ เพราะช้าวกล้องนั้น มีมีวิตามินบีสูงกว่าข้าวขาวถึง 4 เท่า ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทและรักษาสมดุลของสมอง อีกทั้งข้าวกล้องยังอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย ที่มีส่วนช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทั้งยังลดความรุนแรงของอาการปวดหัวได้ด้วย ทั้งนี้ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ได้อีก บอกเลยว่า ดีต่อสุขภาพมากเวอร์!





เมนูลดไมเกรน เมนูที่ 3 ผักโขม

ผักใบเขียวอย่าง ปักโขม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ เพราะผักโขมนั้น เป็นผักที่มีโปรตีน และแคลเซียมสูงมาก ทั้งในผักโขมยังอุดมไปด้วยสารที่ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสมองและหัวใจ ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัวในผู้ป่วยความดันสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง




เมนูลดไมเกรน เมนูที่ 4 น้ำขิง

ถัดมาที่น้ำขิง น้ำสมุนไพร ที่วัยรุ่นอย่างเรา อาจจะไม่ชอบดื่มกันเท่าไหร่ แต่รู้มั้ยว่า มันดีต่อสุขภาพมากๆ เพราะน้ำขิง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ ทั้งยังมีสารที่ลดช่วยอาการอักเสบในร่างกายได้ด้วย รวมไปถึงลดอาการปวดหัวได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีผลการศักษาค้นพบว่า การทานขิง หรือน้ำขิงในผู้ป่วยที่มีอาการปวดไมเกรน จะช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดได้ ทั้งนี้ขิงยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ ที่พลาดไม่ได้เลย ดีต่อสุขภาพมาก!



เมนูลดไมเกรน เมนูที่ 5 ดาร์กช็อกโกแลต

แนะนำว่า จะต้องเป็นดาร์กช็อกโกแลตเท่านั้นนะ เพราะถ้าเป็นช็อกโกแลตหวานๆ อันนั้นจะไม่ดีต่อสุขภาพ แถมยังเสี่ยงกระตุ้นไมเกรนด้วย ดาร์กช็อกโกแลตที่แนะนำ จะต้องเข้มข้นอย่างน้อย 70% ถือเป็นแหล่งของแมกนีเซียมและวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ที่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันหลอดเลือดหดเกร็ง หนึ่งในสาเหตุของอาการปวดหัว รวมถึงยังช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ นอกจากนี้ ดาร์กช็อกโกแลตยังอุดมไปด้วยทริปโตเฟนและเซโรโทนิน ที่มีส่วนช่วยลดไมเกรนได้ด้วย





รวมลิสต์อาหารเสี่ยงกระตุ้นอาการไมเกรน

มีอาหารที่ช่วยลดอาการปวดไมเกรนแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีอาหารเสี่ยงกระตุ้นอาการไมเกรนด้วยเช่นเดียวกัน วันนี้เรารวมมาให้เพื่อนได้ดูกันแล้ว จะมีอาหารอะไรบ้าง ที่คนปวดไมเกรนไม่ควรกิน เราไปเช็กลิสต์ดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ



เมนูเสี่ยงกระตุ้นไมเกรน 1 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ตัวดีเลยแหละ! เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ไม่มีดีอะไรสักอย่าง แถมยังเป็นตัวการร้ายสำหรับคนเป็นไมเกรนด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง ว่ากันว่า เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดไมเกรนชั้นดี! เพราะโดยปกติเวลาเราดื่มหนักๆ ก็มักจะเริ่มมีอาการปวดหัวร่วมด้วย ถูกมั้ย ซึ่งอาการปวดหัวนี้ เกิดจากสารไทรามีน ที่เข้าไปลดระดับสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะไวน์แดง ยิ่งดื่มมาก อาการปวดหัวก็จะยิ่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นขอบอกเลย ใครที่เป็นไมเกรน ไม่แนะนำให้ดื่มนะคะ




เมนูเสี่ยงกระตุ้นไมเกรน 2 เนยแข็งหรือชีส

อีกหนึ่งของโปรดของเพื่อนๆ หลายๆ คนเลยใช่มั้ย แต่สำหรับคนที่เป็นไมเกรน เนยหรือชีส ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้ามเลยนะ จริงๆ ก็ทานได้อยู่ แต่ไม่ควรทานเยอะ เพราะชีสหรือเนย โดยเฉพาะพวกกอร์กอนโซล่าชีส คาเมมเบิร์ต และเชดดาร์ชีส เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้ เนื่องจากในชีสมีสารที่ชื่อว่า “ไทรามีน” ที่เป็นสารกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ โดยปกติแล้ว ร่างกายของคนทั่วไปทานเข้าไป สารนี้ก็จะถูกเอนไซม์ในร่างกายทำลายได้ แต่สำหรับคนที่เป็นไมเกรนบ่อยๆ จะมีเอนไซม์ที่จะช่วยกำจัดสารชนิดนี้น้อยมาก ส่งผลให้ พอเราทานพวกชีส เนยเข้าไป จึงเป็นเหตุไปกระตุ้นให้อาการปวดมันกำเริบขึ้น เพราะงั้นใครที่เป็นไมเกรนอยู่ เราไม่แนะนำให้ทานพวกเนยและชีสนะ






เมนูเสี่ยงกระตุ้นไมเกรน 3 ชา กาแฟ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบดื่มคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือชา ลดได้ก็ควรลดนะคะ เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดไมเกรน คาเฟอีนคือหนึ่งในสารกระตุ้นอาการปวดไมเกรนชั้นดีเลยนะ หากเพียงแค่จิบๆ ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้ากินจริงจัง กินทั้งวัน แบบนี้ระวังสุขภาพด้วยนะ



เมนูเสี่ยงกระตุ้นไมเกรน 4 เนื้อแปรรูป

เนื้อแปรรูป เป็นอีกหนึ่งเมนูสำคัญของคนสมัยนี้เลยก็ว่าได้ แต่ใครจะรู้ว่า เนื้อแปรรูปก็เป็นอีกหนึ่งอาหารต้องห้ามของคนที่เป็นไมเกรนเช่นกัน อาหารเหล่านี้ นอกจากจะเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งแล้ว ยังเป็นตัวร้ายที่จะมากระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนได้อีก เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบของโซเดียมไนเตรทสูง ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมองจนก่อให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นได้ ฉะนั้นทานแบบหอมปากหอมคอก็พอนะ กินมากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ



เมนูเสี่ยงกระตุ้นไมเกรน 5 ผงชูรส

และอย่างสุดท้าย ไม่ใช่อาหาร แต่เป็นเครื่องปรุง ที่อยู่ในทุกๆ เมนูอาหาร เราว่ามีหลายๆ คนเลย ที่ติดใจผงชูรส บางคนนี่ขาดไม่ได้เลยนะ แต่รู้มั้ยว่า ผงชูรสไม่มีผลดีต่อสุขภาพเลยนะ นอกจากจะทำให้เป็นโรคเบาหวานแล้ว ยังทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนอีกด้วย  เพราะฉะนั้นถ้าลดการทานอาหารที่ใส่ผงชูรสได้ เราว่าดีต่อสุขภาพมากกว่านะ ไม่ต้องรีบเลิกกิน แต่ค่อยๆ ลดปริมาณการทานลงก็ได้ค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นในวันข้างหน้า!





วิธีแก้ปวดหัวไมเกรน

วิธีบรรเทาไมเกรน วิธีที่คนทั่วไปรู้จัก และง่ายที่สุด ก็คงไม่พ้นการทานยาแก้ปวดไมเกรน แต่จริง ๆ แล้ว มันยังมีวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ปวดไมเกรน ที่ทุก ๆ คนสามารถทำเองได้ ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ ไปจนถึงขั้งไปหาหมอ จะมีวิธีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ


  • หยุดพักทันทีในที่เงียบ และมืด

อย่างที่รู้ ๆ กันว่า แสง และเสียงคือ สิ่งกระตุ้นหลักของไมเกรน เมื่อเริ่มรู้สึกว่าจะปวด ควรหยุดทุกอย่าง แล้วนอนพักในห้องที่เงียบ มืด อากาศถ่ายเทดี การนอนพักในช่วงเริ่มต้นของอาการ จะช่วยลดความรุนแรง และระยะเวลาการปวดได้

  • ประคบเย็นบริเวณศีรษะ หรือต้นคอ

อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายมาก ๆ คือ การใช้เจลเย็น หรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณหน้าผาก ขมับ หรือท้ายทอย ความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดการอักเสบ และบรรเทาความรู้สึกปวดได้

  • นวดเบา ๆ จุดกดเจ็บ หรือทำโยคะยืดกล้ามเนื้อ

ลองนวดกดจุด โดยเฉพาะบริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ ที่มักเกร็งตัวจากความเครียด หรือถ้าทำไม่เป็น ทำไม่ได้ แนะนำให้ลองทำโยคะ ท่าที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น Child’s Pose หรือท่า Cat-Cow ดู จะช่วยคลายความตึงเครียด ลดแรงกดที่ศีรษะได้ดี

  • ดื่มน้ำมาก ๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ

การขาดน้ำเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไมเกรน เพราะงั้นหากเริ่มมีอาการ ให้จิบน้ำบ่อย ๆ หรือดื่มน้ำผสมเกลือแร่เล็กน้อย เพื่อปรับสมดุลร่างกาย และอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด

  • งดกาแฟ กลิ่นแรง และอาหารที่กระตุ้น

บางคนจะแพ้กลิ่นอาหารมัน อาหารหมักดอง หรือกาแฟ แนะนำให้สังเกตว่า อะไรเป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดอาการไมเกรนขึ้นมา แล้วหลีกเลี่ยงทันที เมื่อเริ่มมีอาการ

  • ทานยาแก้ไมเกรนเมื่อจำเป็น

หากดูแลเบื้องต้นแล้ว อาการยังไม่ค่อยดีขึ้น สามารถทานยาแก้ปวดไมเกรนได้ค่ะ เช่น พาราเซตามอล, ยากลุ่ม NSAIDs (ibuprofen), หรือยาเฉพาะสำหรับไมเกรน เช่น Sumatriptan เป็นต้น และควรกินยาทันที เมื่อรู้ว่า เป็นไมเกรน อย่ารอให้ปวดจนรุนแรง หากเป็นบ่อยเกินเดือนละ 3 – 4 ครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับยาป้องกัน (Preventive medicine)

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงความเครียด

ความเครียด นอนน้อย และพักผ่อนไม่เป็นเวลา คือ “ ตัวจุดชนวน ” ไมเกรนอย่างดี เพราะงั้นการจัดตารางชีวิตให้มีวินัย เช่น นอน และตื่นให้ตรงเวลา ออกกำลังกายเบา ๆ และมีเวลาพักสมองระหว่างวัน จะช่วยลดอาการระยะยาวได้

  • บันทึกไดอารี่ไมเกรน

ใครที่เป็นไมเกรน ลองบันทึกวันที่ อาการ อาหารที่กิน สถานการณ์ในวันนั้นไว้ดู มันจะช่วยให้รู้ว่า อะไรเป็น “ ตัวกระตุ้นส่วนตัว ” ของเรา เราจะได้วางแผนเพื่อรับมือ และสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นได้

สำหรับคนที่สงสัยว่า ปวดไมเกรนแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ หากเพื่อน ๆ พบว่า เราเริ่มมีอาการปวดหัวรุนแรงแบบเฉียบพลันที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งยังปวดหัวแรงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ดีขึ้นแม้ทานยาแล้ว หรือมีอาการปวดหัวร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น แขนขาอ่อนแรง, ชา, พูดไม่ชัด, หรือมีปัญหาการมองเห็น เป็นต้น นอกจากนี้ หากมีอาการปวดหัวร่วมกับไข้, คอแข็ง, หรือมีอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจดูอาการ และรับการรักษาต่อไป





สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ปวดไมเกรน เราในฐานะที่ก็มีอาการนี้เหมือนกัน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ การทานยาแก้ปวด แต่ถ้าทานแล้ว ไม่หาย อาการไม่ดีขึ้นเลย แถมยังเป็นบ่อย และหนักขึ้น แนะนำให้ไปหาหมอนะ ทั้งนี้อาหารที่หยิบมาแนะนำนี้ อะไรที่กินแล้วดีก็กินไป อะไรที่กินแล้วเสี่ยงกระตุ้น ก็ทานน้อยหน่อย ป้องกันไว้ก่อน ยังไงก็ดีกว่านะคะ

สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ : freepik

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : รู้ได้ยังไง? ปวดหัวไมเกรน / ปวดหัวไมเกรน อาการเป็นอย่างไร ควรรักษาแบบไหนดี? / ไมเกรน ปวดหัวสุดกวนใจ / สังเกตุอาการอย่างไร ว่าเข้าข่ายของโรคไมเกรน / อาหารนี้...มีส่วนกระตุ้นไมเกรนกำเริบนะ!! / อาหารแนะนำ ลดปวดไมเกรน



🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀



บทความแนะนำเพิ่มเติม

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1