การเป็นที่ถูกรักแน่นอนว่าหลายคนก็แฮปปี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการจะเป็นคนที่ถูกรักจากทุกคนมันไม่ใช่เรื่องที่ปกติ เพราะในโลกนั้นมีทั้งคนที่รักและคนที่เกลียดไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการที่เราต้องการทำให้ทุกคนพอใจในตัวเรามันมีแนวโน้มที่เป็นไปไม่ได้และการที่เราพยายามมากเกินไปอาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องจนละเลยตนเองในที่สุด และอาจจะกลายมาเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่าNice Girl Syndrome หรือGood Girl Syndrome บางคนอาจจะไม่เข้าใจและไม่เห็นถึงผลกระทบตรงนี้ ดังนั้นเราจะมาไขข้อข้องใจและอธิบายเกี่ยวกับ Nice Girl Syndrome หรือ Good Girl Syndrome ว่าผลกระทบที่แย่ๆ ที่เกิดขึ้นกับเรามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ชวนรู้จัก Nice Girl Syndrome คืออะไร? ต่างจาก Good Girl Syndrome ไหม?
Nice Girl Syndrome คืออะไร
เป็นอาการที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวของผู้หญิงที่พยายามจะเป็นคนใจดีหรือเป็นมิตรกับทุกๆ คน พยายามสดใส ทำให้คนอื่นพอใจในตัวเองตลอดเวลา ยกความสุขของคนอื่นเป็นที่ตั้ง พฤติกรรมพวกนี้อาจจะพูดไปถึงการเลี้ยงดูในวัยเด็กที่ตีกรอบความคิดมากเกินไปจนเกิดเป็นช่องโหว่ให้โดนเอารัดเอาเปรียบหรือแม้กระทั่งโดนทำร้ายได้ง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในผลพวงของสังคม Patriarchy อีกทีเช่นกัน เงื่อนไขที่มักจะนำมาผูกมัดว่าผู้หญิงต้องทำตัวอ่อนหวาน ต้องว่านอนสอนง่าย ถึงจะได้รับความรักความเอ็นดูเทคแคร์จากคนอื่นๆ หรือรวมไปถึงเพศตรงข้าม ซึ่งในทางจิตวิทยาไม่ได้บอกว่าการเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวานจะเป็นเรื่องผิด แต่ชี้ให้เห็นถึงภาพรวมๆ ว่าการติดอยู่ในกรอบนั้นเป็น Nice Girl เท่านั้นถึงจะ Deserves การถูกปฏิบัติอย่างดีมันไม่ถูกต้อง
Good Girl Syndrome คืออะไร
เป็นคำนิยามให้กับคนที่ให้ความสำคัญกับการต้องการการยอมรับจากภายนอก มักจะแสดงออกมาในรูปแบบของการพยายามทำตัวเป็นคนดีและเป็นที่รักของทุกคน ต้องการทำให้ทุกคนพอใจอยู่ตลอดเวลา ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับละเลยความต้องการและปัญหาของตัวเอง ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือความต้องการส่วนตัวเพราะกลัวถูกมองไม่ดี เพื่อให้ตนรู้สึกเป็นที่รักเป็นคนที่น่ายกย่องชื่นชมในสายตาของผู้อื่น คำว่า “Good Girl Syndrome” ถูกนำมาใช้นิยามถึงผู้หญิงที่นิสัยดีเกินไป ซึ่งเป็นผลพวงมาจากค่านิยมของสังคมที่กำหนดให้ภาพลักษณ์ของผู้หญิงนั้นต้องเรียบร้อย เชื่อฟัง ว่านอนสอนง่ายหรือเป็นเด็กดีในสายตาของผู้ใหญ่อยู่เสมอ แต่ปัจจุบันเมื่อเวลาผ่านไปก็พิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบในความคิดที่เหมารวมทางเพศแบบนี้ เพราะผู้ชายเองก็มักจะถูกคาดหวังให้เป็นผู้นำ เข้มแข็ง ห้ามแสดงด้านที่อ่อนแอให้ใครเห็น ทำให้ความคิดแบบนี้ส่งผลให้ผู้ชายหลายคนเลือกจะเก็บกดความรู้สึกตัวเองเพื่อให้ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ ดังนั้นจึงมีการใช้คำว่า Nice Guy Syndrome มาอธิบายในกลุ่มผู้ชายที่มีนิสัยดีเกินไปเช่นเดียวกัน
มาลองเล่นควิซกันดูว่าเรามีพฤติกรรมที่เสี่ยงจะเป็น Nice Girl และ Good Girl กันหรือไม่
- คุณมีเพื่อนเยอะไหม
A. เยอะ
B. ไม่ค่อย
C. ก็พอมีบ้าง
- ลังเลที่จะปฏิเสธหรือไม่
A. ไม่ ฉันไม่ทำ
B. บางครั้ง
C. ใช่ ฉันทำ
- รับความคิดเห็นจากคนอื่นได้ไหม
A. ไม่สามารถรับได้
B. ฉันยอมรับมันได้
C. รู้สึกไม่พอใจ
- เพื่อนยืมเงินจากเราได้ง่ายไหม
A. ง่าย
B. ไม่ ฉันไม่คิดแบบนั้น
C. มีบางครั้ง
- กลัวการถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่
A. คิดแบบนั้น
B. ไม่ได้คิดแบบนั้น
C. ไม่มั่นใจ
- มีใครต้องการบอกความลับกับเราบ่อยๆ ไหม
A. มี
B. ไม่ค่อยมีคนบอก
C. มีบางคน
- มีคนขอความช่วยเหลือจากเราบ่อยไหม
A. ไม่
B. มี
C. ก็มีบ้าง
- มักจะถูกละเลยตอนเด็กบ่อยไหม
A. ไม่
B. ไม่ แต่รู้สึกเดี่ยวดาย
C. ใช่
- เติบโตมาในครอบครัวที่มีความรุนแรงหรือไม่
A. ไม่
B. ใช่
C. พูดไม่ได้
- คิดอย่างไรถ้าเราปฏิเสธเมื่อเพื่อนชวนออกไปข้างนอกด้วยกัน
A. คิดว่าเพื่อนไม่พอใจ
B. คิดว่าเพื่อนต้องเศร้า แต่ฉันต้องการพื้นที่ให้ตัวเอง
C. ไม่แน่ใจ
หากคำตอบของเพื่อนๆ เป็น “ไม่” ส่วนใหญ่ : ไม่เข้าข่ายมีอาการ Nice Girl Syndrome
เพราะว่าเป็นคนที่สามารถรักษาความสมดุลที่ดีกับความใจดีได้เท่าๆ กัน เราจะรู้ตัวเองว่าเมื่อไหร่ควรปฏิเสธ และรู้ว่าจะรับมือกับคำวิจารณ์อย่างไร สามารถเป็นคนดี ทั้งคนที่มีคุณธรรม แต่ไม่ใช่ต้องแลกมาด้วยการเสียตัวตนของตัวเองไป เนื่องจากการที่เรานั้นรักษาสมดุลนี้ได้ดี ทำให้เรามักที่จะเลือกใจดีกับตัวเองเสมอ
หากคำตอบของเพื่อนๆ เป็น “ใช่” ส่วนใหญ่ : มีอาการ Nice Girl Syndrome
มักจะเป็นคนใจดีเป็นพิเศษ มักจะทำเพื่อผู้อื่นอย่างสุดความสามารถ บางครั้งก็เป็นผลเสียต่อตัวเราเอง แม้ว่าการสุภาพและเอาใจใส่ผู้อื่นจะเป็นสิ่งที่ดี แต่การเอาความสุขของผู้อื่นมาก่อนความสุขของตัวเองอยู่ก่อนเสมออาจทำให้เหนื่อย หมดแรง และอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตนเองมากขึ้นได้ สิ่งสำคัญในการเริ่มปรับคือต้องเริ่มจัดลำดับความสำคัญของความต้องการของตัวเองด้วยเช่นกัน ลองปรับหรือเรียงความสำคัญสำหรับคนอื่น ช่วยได้แต่ต้องไม่กระทบจนเกิดผลเสียกับตัวเอง และยังคงความสัมพันธ์ไว้ได้
หากคำตอบของเพื่อนๆ เป็น “กลางๆ” ส่วนใหญ่ : เข้าข่ายกลุ่มอาการ Nice Girl Syndrome ระดับเล็กน้อย
เป็นคนใจดีอย่างแท้จริง แต่ไปๆ มาๆ เหมือนตัวเรากำลังจะปล่อยให้ลักษณะนิสัยนี้ครอบงำขอบเขตส่วนตัวของตัวเอง โดยที่ไม่ทันสังเกตและอาจจะยังไม่เห็น แต่มีความเสี่ยงที่คนอื่นอาจใช้ประโยชน์จากนิสัยดีนี้ได้ ให้ท่องไว้เลยว่าการปฏิเสธเป็นเรื่องปกติ ควรเริ่มจัดลำดับความสำคัญของความต้องการของตัวเองเป็นบางครั้งเป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้คำวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น ความใจดีจะกลายมาเป็นจุดแข็ง ไม่ใช่จุดอ่อน และมันจะเป็นประโยชน์กับตัวเราเองในอนาคต
สามารถไปเล่นควิซนี้กันได้ที่ : https://www.marriage.com/quizzes/are-you-suffering-from-nice-girl-syndrome
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ตัวอย่างเคสของNice Girl Syndrome
ข่าวนี้เป็นกระแสที่เรียกได้ว่าเป็นที่พูดถึงและเป็นที่โด่งดังมากๆ ในปี 2563 อย่างข่าว ลิซ่า Blackpink กับอดีตผู้จัดการโกงเงินไปถึง 1,000 ล้านวอน
โดยข่าวระบุว่าอดีตผู้จัดการได้อ้างว่าจะช่วยนำเงินของ Lisa (ลิซ่า) ไปลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แต่สุดท้ายกลับนำเอาไปเล่นพนันจนหมด โดยความไว้วางใจนี้เกิดจากที่ผู้จัดการคนนี้ดูแลลิซ่าตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ใหม่ๆ ในเกาหลี และยังเป็นคนที่สมาชิกใน BLACKPINK นับถือ ซึ่งทางค่าย YG ยืนยันว่าลิซ่าเป็นเหยื่อที่โดนอดีตผู้จัดการโกงเงินจริง โดยความประสงค์เริ่มแรกของลิซ่าคือเกิดจากความเชื่อใจ
ขออนุญาตยกเคสแบบอย่างที่ 2 เป็น Nice Guy Syndrome ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้อย่างข่าวของ “Jimin(จีมิน) BTS” ประเด็นเรื่อง อี จินโฮ ดาวตลก ยืมเงืน จีมิน 100 ล้านวอน
เมื่อ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ค่าย Big Hit Music ได้ยืนยันว่า จีมิน BTS ได้รับความเสียหายทางการเงินจำนวน 100 ล้านวอนหรือประมาณ 2.4 ล้านบาท จากการให้ยืมเงินแก่อีจินโฮ นักแสดงตลกชื่อดัง โดยทางอีจินโฮอ้างว่าจะคืนเงินภายในหนึ่งสัปดาห์เพราะต้องการใช้เงินฉุกเฉิน แต่ภายหลังจีมินพบว่าอีจินโฮไม่มีเจตนาจะคืนเงิน จีมินจึงแสดงความเมตตาและให้เวลาอีจินโฮชำระหนี้ภายในระยะเวลา 10 ปี
โดยภายหลังอีจินโฮได้ออกมาสารภาพและขอโทษผ่านโซเชียลมีเดียว่าเขานั้นเริ่มติดการพนันในเว็บไซต์การพนันผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต
ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าทั้ง 2 เคสที่ยกตัวอย่างมานั้นเห็นได้เลยว่าเป็นเคสกรณีที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะเกิดจากคนที่เราไว้วางใจหรือคนใกล้ตัว ซึ่งเคสของลิซ่าแม้จะผ่านมาหลายปีกับจีมินที่พึ่งเกิดขึ้นนั้น เป็นผลพวงจากการที่เราให้ความใจดีของเราที่ให้กับคนอื่นนั้นมากเกินไป แน่นอนว่าสิ่งตอบแทนอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
**ทั้ง 2 เคสนำมาเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้กับชาวซิส ไม่ได้มีเจตนาจะนำมาตอกย้ำหรือซ้ำเติมความผิดพลาดประการใด
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ผลกระทบของการเป็นNice Girl Syndrome
- การถูกยอมรับ = การเป็นคนดี
ความคิดของคนที่เป็น Nice Girl จะมักหมุนรอบความคิดที่ว่าเราต้องดีกับทุกคน เพื่อที่จะได้รับความรักและการยอมรับ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งแนวคิดนี้มีที่มาจากแนวคิดที่บอกว่า ‘คุณไม่ดีพอ’ ดังนั้นถ้าคุณต้องการเป็นที่ยอมรับและได้รับความรักจากคนอื่นต้องทำสิ่งต่างๆ และบางอย่างเพื่อที่จะได้รับความรักเป็นสิ่งตอบแทนอยู่เสมอ
- ยากที่จะเอ่ยปฏิเสธ
อีกหนึ่งปัญหาของ Nice Girl Syndrome คือการยากที่จะเอ่ยปฏิเสธ เพราะลึกๆ แล้วเรามักจะเป็นห่วงความรู้สึกของผู้อื่นมากกว่าความสบายใจของตนเองเสมอ ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีใครขอความช่วยเหลือจากเราเราก็มักจะไม่ปฏิเสธ เพราะด้วยความเชื่อว่าการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้คือการช่วยให้อีกฝ่ายมีความสุข โดยที่แม้ตัวเราเองไม่ได้ตระหนักว่านั่นคือการเอาเปรียบหรือแม้กระทั่งจะสร้างความลำบากใจให้ตัวเองทีหลัง
- กลัวทำให้คนอื่นไม่พอใจ
พฤติกรรมนี้คือการที่เรามักที่จะรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนอื่นอยู่เสมอ ยังรวมไปถึงว่าเรานั้นแสดงออกต่อคนอื่นด้วยการทะนุถนอมคนอื่นเปรียบเสมือนแก้วที่เปราะบางซึ่งจะแตกเมื่อถูกลมพัดเพียงครั้งเดียว จึงมักจะกังวลและรู้สึกลำบากใจหากจะพูดหรือปฏิบัติกับใคร
- การฝืนยิ้มตลอดเวลา
ไม่มีใครรู้สึกอยากยิ้มตลอดเวลา และสิ่งที่เราควรทำคือไม่ควรยิ้มแม้ว่าจะรู้สึกอยากร้องไห้ เพียงเพราะต้องฝืนอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเพื่อให้คนอื่นสบายใจ
- การถูกวิพากษ์วิจารณ์คือจุดจบของโลก
สำหรับคนที่เผชิญปัญหา Nice Girl Syndrome เมื่อได้ยินความคิดเห็นเชิงลบจะรู้สึกเหมือนเป็นจุดสิ้นสุดของโลกอย่างใดอย่างนั้น แม้ว่าจะรู้ดีว่าการวิจารณ์นั้นเป็นส่วนที่จำเป็นในการนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพ หรือเพื่อชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องในการแก้ไข
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
Nice Girl Syndromeกับการเป็นคนดีที่รับมือกับสถานการณ์นั้นๆ ให้เป็น
love yourself is the best way to be happy ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อตนเองใหม่ ต้องเชื่อว่า ‘ฉันรักและยอมรับตัวเองตอนนี้’ ค่อยๆ เอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งกว่าคนอื่นๆ และเริ่มหัดปฏิเสธความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ที่คนอื่นก็สามารถทำได้ เอง ลองพยายามมองหาคำพูดเพื่อปฏิเสธบางโอกาสให้เป็นอาจจะสามารถเลือกใช้เหตุผลประกอบหรือข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้โดยไม่ทำให้การปฎิเสธครั้งนั้นดูไร้น้ำใจและแข็งกระด้างจนเกินไป และเราไม่จำเป็นต้องมีความสุขตลอดเวลาเพื่อให้คนอื่นรู้สึกสบายใจ ไม่ต้องฝืนยิ้มหากไม่รู้สึกอยากยิ้ม อย่างแรกเลยคือเริ่มต้นซื่อสัตย์กับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองสุดท้ายเพื่อเอาชนะความหวาดกลัว ยืดอกยอมรับถึงข้อบกพร่อง ข้อเสีย และข้อด้อยของตัวเอง เพราะพวกนั้นทั้งหมดจะเป็นหนึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้เราเติบโต รวมไปถึงยอมรับถึงบางครั้งว่าการที่บางคนมี action เป็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการในการทำสิ่งต่างๆ นั้นอาจจะมีประโยชน์ เพราะพวกนั้นไม่ใช่เรื่องแย่มันสามารถทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นและเลือกได้ว่าเราจะสามารถเปลี่ยนมันหรืออยู่กับมันอย่างไร
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
How to รับมือกับอาการเหล่านี้ ถ้าอยากหลุดพ้น ควรเริ่มจากอะไร
- เลิกเป็นคนอะไรก็ได้แล้วสร้างขอบเขตให้กับตัวเอง
เพราะเราทุกคนล้วนมีขีดจำกัดการเข้าใจว่าอะไรคือความต้องการของเรา และกำหนดขอบเขตที่รู้สึกปลอดภัยขึ้นมา จะช่วยให้คนอื่นรับรู้ได้ว่าควรปฏิบัติกับเราแบบไหน
- เรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพอย่างตรงไปตรงมา
เราสามารถยกเหตุผลเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงจุดประสงค์ของเรา อย่าไปกลัวว่าใครจะมองว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือไม่มีน้ำใจ เพราะสุดท้ายแล้วความสบายใจของเราย่อมสำคัญกว่า
- ใจดีกับคนอื่นแล้วอย่าลืมใจดีกับตัวเอง
เป็นคนใจดี เห็นอกเห็นใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นคุณสมบัติที่ดีที่ทุกคนควรมี แต่หากมากไปก็กลายเป็นการสร้างความลำบากใจให้กับตัวเราเองได้ อาจถึงเวลาต้องเลือกเห็นใจตัวเองและความต้องการของตัวเองบ้าง
- ฝึกฝนทักษะการแสดงออก
หลายครั้งที่ความรู้สึกของคนใจดีมักถูกมองข้าม เพราะคนอื่นมักคิดว่าเราเป็นคนอะไรก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากนิสัยที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นหรือความต้องการของตัวเองให้ผู้อื่นรับรู้ ฉะนั้นการฝึกฝนทักษะการแสดงออกหรือการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเป็นตัวเลือกที่ดีและเลิกกังวลว่าคนอื่นจะมองว่าเราเป็นคนไม่ดีได้แล้วหรือเห็นแก่ตัว
- ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
หากเริ่มรู้สึกว่าอาการนี้เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมากเกินไป ต้องมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยา นักจิตบำบัด เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
แจกทริคการเพิ่มเรดาร์สังเกตพฤติกรรม Abused จากผู้อื่น
พฤติกรรมที่สังเกตได้ว่าเพื่อนเริ่มจะเอาเปรียบเรามากจนเกินพอดี โดนยืมของหลายครั้งแต่ไม่เคยคืน หากเรามีประสบการณ์แล้วสามารถปฏิเสธการให้ยืมในครั้งต่อไปได้อย่างสุภาพ พร้อมให้เหตุผลที่เลี่ยงการทะเลาะกันไปด้วยได้
หรือสถานการณ์อย่างเช่นใน podcast ของครูเงาะได้ยกตัวอย่างคือ “ถ้ามีคนมาขอยืมเงินเรา เราให้เขาได้โดยง่ายโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบภายหลังตรงนี้ ให้เราลองพิจารณาใหม่ เพราะการที่เราให้เขายืมบ่อยหรือง่ายมันเกิดจากความกลัวข้างในจิตใจของเราหรือเปล่า กลัวไม่เป็นที่รัก หรือเราอยากช่วยเขาจริงๆ ถ้าอยากช่วยเราลองกลับมาคิดว่าเราสามารถหาทางช่วยทางอื่นได้หรือไม่ นอกจากการให้ยืมเงิน เพราะถ้ามองอีกมุมถ้าให้แล้วตัวเองเดือดร้อนตรงนี้คือการช่วยเพื่อให้เป็นที่ถูกรัก จึงนำเรื่องเงินเข้ามาเพื่อสร้างมิตรภาพ แต่ถ้าช่วยด้วยความเต็มใจให้ยืมแล้วไม่เดือดร้อนตัวเองตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยเหลือคนเดือดร้อน”
ดังนั้นให้เราลองมองพฤติกรรมจากคนอื่นและสังเกตตัวเองว่าในใจลึกๆ แล้วที่เราต้องคอยเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่น หรือต้องการให้คนอื่นพอใจในตัวเราที่จริงแล้วเกิดจากอะไร ลองค่อยๆ ปรับในเรื่องทัศนคติใหม่ ลองปล่อยวางมันไป และแก้ด้วยเหตุและผลมากขึ้น ยกตัวเองเป็นที่ตั้งก่อนอันดับแรกเซฟใจตัวเองให้มากๆ อันไหนที่ทำแล้วรู้สึกฝืนเกินไปให้ลองปฏิเมันออกมา ถ้าเราสามารถปรับและเปลี่ยนพฤติกรรมการเป็น Nice Girl Syndrome / Good Girl Syndrome ได้ เราจะสามารถมีความสุขกับตัวเองโดยที่ไม่ต้องการการคาดหวังจากคนอื่น
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก Podcast ครูเงาะ สามรถฟังเพิ่มเติมได้ที่นี้
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สรุป
จากข้อมูลที่รวบรวมมาทั้งหมดอาจจะตรงกับใครหลายคน และหลายคนอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่นั้นคือเรื่องไม่ปกติ แน่นอนว่าบางครั้งเราต้องทำเพราะคนนั้นอาจจะเป็นคนที่เรารัก แต่สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดแม้ว่าคนนั้นจะสำคัญมากแค่ไหน เราต้องเลือกตัวเองมาก่อนอันดับแรกก่อนเอาความรู้สึกคนอื่นมาเป็นที่ตั้ง ซึ่งข้อดีของ Nice Girl Syndrome ไม่ใช่แย่ไปหมด อาจจะดีบางในบางโอกาส แต่ถ้าเราทำพฤติกรรมแบบนี้ติดต่อกันจนเป็นระยะยาวผลกระทบหลายสิ่งอาจจะกลายมาเป็นสิ่งที่เรากังวลใจในอนาคตได้ อย่างเคสที่เรายกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ดู การไว้ใจคนใกล้ตัวและบางครั้งเราไม่สามารถปฏิเสธเพราะความไว้วางใจหรือเหตุผลไหนก็ตาม ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังจากคนอื่น กลายเป็นว่าความรู้สึกของเราเสียไปโดยที่คนนั้นไม่ใส่ใจเลย ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเราเข้าข่ายการเป็นNice Girl หรือ Good Girl Syndrome แล้วลองปรับเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มใช้เหตุผล การเริ่มปฏิเสธ การไม่ฝืนในสิ่งที่เราไม่อยากทำ และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือเราต้องใส่ใจความรู้สึกตัวเองมากๆ และมากกว่าความรู้สึกคนอื่นนั่นเอง แต่ทุกสิ่งที่ทำต้องไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลงจนมองหน้ากันไม่ติดไปด้วย อย่าลืมไปเช็คกันดูว่าเราอยู่ในกลุ่มนี้ไหมด้วยน้า
ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล
https://x.com/zornitsaxx/status/1820879675297792484?s=61&t=_uNUjcD7yORNahFv27BrTg
https://www.altv.tv/content/altv-news/6695e6373e0755a8039620f4
https://www.beartai.com/life/health/1302372
https://www.marriage.com/quizzes/are-you-suffering-from-nice-girl-syndrome-quiz
https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000099324
https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000057252
บทความอื่นๆ ที่แนะนำ
อย่าเอ็นดูเขา จนเอ็นเราขาด!!! 7 วิธี 'ปฏิเสธคน' ยังไงให้ได้ผล ไม่ต้องกลัวผิดใจกัน #เลิกเป็นคนดี แล้วจะมีความสุข | บทความของ Pearrisa | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94-7-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%99-%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82-id=75438
10 สัญญาณเตือน Red Flag ที่ไม่ควรมองข้าม เค้าเป็นคนดีมากนะ แต่... | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/10-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-Red-Flag-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B9%81
ไม่ไหว ( อย่า ) บอกไหว! 7 เหตุผลที่ไม่ควรเป็นคน " อะไรก็ได้ " จนโดนเอาเปรียบง่าย ไม่แฮปปี้กับชีวิต 🙅 | บทความของ Pearrisa | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-7-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95--id=85241
Self Care Routine ชวนรู้จักวิธีง่ายๆ ให้กลับมารักตัวเองมากขึ้น | บทความของ ManooFK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/Self-Care-Routine-201671
อย่าลืมหันมารักตัวเองซะบ้างชีวิตจะได้ดีขึ้น | บทความของ enjoywithkoii | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/84468