Self Care Routine เป็นอีก activity หนึ่งที่ทำเป็นกิจวัตรประจำวันกันบ้าง แต่อาจจะเพราะด้วยทั้งเวลาและหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายทำให้บางครั้งเราอาจจะละเลยในบางส่วนออกไป และไปโฟกัสสิ่งอื่นจนทำให้ activity นั้นค่อยๆ หายไป โดย Self Care Routineเป็นกระแสที่หลายคนอาจจะรู้จักกันมาบ้างเพราะด้วยเหล่าอินฟลู บล็อกเกอร์หลายท่านทั้งในและต่างประเทศก็ออกมาแชร์กันในแต่ละมุมมองของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่การแชร์ก็จะเป็นกลุ่มการใช้ชีวิตที่คล้ายๆ กัน ซึ่งทำให้กระแสนี้ได้รับการตอบกลับที่ดีมาก เพราะปีนี้เป็นปีแห่งการกลับมารักตัวเอง อัปเกรดตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อตัวเราเอง เพราะจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเทรนด์กระแสของปีนี้ค่อนข้างแตกต่างไปจากปีที่แล้วที่จะเน้นย้ำไปทางแฟชั่นการแต่งตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ของการแชร์รูทีนไม่ว่าจะเรื่องสกินแคร์, กลุ่มสี personal color, หัตถกรรมต่างๆ เป็นต้น แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าใจในส่วนของSelf Care Routine มากขึ้นฉะนั้นเรามาทำความรู้จักถึงที่มาของกระแส และประโยชน์ของการทำSelf Care Routine กันเลย


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


Self Care Routineคืออะไร?

รูปภาพ:

Self Care หรือการดูแลตัวเองคือ การทำกิจวัตรต่างๆ จากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวันให้เกิดความเรียบง่าย แต่มีความสุขหรือส่งผลที่มีอิทธิผลต่อเราในทางที่ดี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาและส่งเสริมสุขภาพทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของตนเองให้ดี เพื่อร่างกายที่แข็งแรง คุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น และจิตใจที่สงบแจ่มใส ซึ่งการทำ Self Care Routine เป็นเหมือนกุญแจที่ส่งเสริมในด้านสุขภาพองค์รวมที่ดีนั่นเอง

และด้วยเทรนด์กระแสที่มาแรงสุดๆ ของ Self Care Routine ในตอนนี้นั้นถ้าในไทยที่ทำให้กลับมามีกระแสอีกครั้งต้องบอกเลยว่าเริ่มมาจาก คุณ ‘เบบี้จิงโกะ (Babyjingko)’ ยูทูบเบอร์สาวสายบิวตี้ที่ได้เริ่มสร้างคอนเทนท์เกี่ยวกับ Self Care Routine ที่ออกมาแชร์ activity ต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตของเราในองค์รวมได้ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่แชร์ออกมานั้นเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ของเราเพียงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมไปเล็กน้อย แต่กลับส่งผลดีสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาใช้สกินแคร์ดูแลผิวให้ตรงจุด การเลือกอ่านหนังสือที่น่าสนใจ การดื่มน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การพักจากโซเชียลเพื่อกลับมารักษาสุขภาพจิตมากขึ้น เป็นต้น และแน่นอนว่าแค่การปรับเปลี่ยนจากจุดเล็กนี้สามารถทำให้การใช้ชีวิตของเราดีขึ้นตามแบบฉบับคนรักตัวเอง ซึ่งเราไม่จำเป็นที่จะต้องโหมทำในครั้งเดียวเพราะจะเหมือนเป็นการกดดันตัวเอง เราเพียงแค่ต้องค่อยๆ ปรับ และสร้างความเข้าใจไปทีละจุดสองจุดตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองก็พอ เพื่อจะช่วยสร้างให้เรานั้นเป็นคนที่สม่ำเสมอมากขึ้นได้


“Self care is not Selfish”


หลายคนอาจจะมองว่าการที่เรา self care ตัวเองไม่ว่าจะเป็นการรักตัวเอง เคารพตัวเองมากขึ้น อาจจะเป็นการเห็นแก่ตัวอีกรูปแบบหนึ่งหรือ selfish หรือเปล่า บอกเลยว่ามันไม่เหมือนกันและแตกต่างกันสุดๆ การ Self Care คือการที่เราเห็นความสำคัญตัวเองมาก่อนและไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเพียงเพราะเรารักตัวเองแค่นั้น มันคือการที่เราเพียงลดความสำคัญของการทำสิ่งที่เรารู้สึกไม่สบายใจออกไป และกลับมาสนใจในสิ่งที่ตัวเองทำแล้วสบายใจไม่เดือดร้อนใครเพียงเท่านั้น แต่สำหรับคนที่เป็นประเภท Selfish นั้นคือการเห็นว่าจุดยืนของตัวเองคือเป็นจุดสำคัญสำหรับคนอื่นๆ อธิบายง่ายๆ เลยคือ เรามักจะคิดว่าตัวเองมักจะมีบทบาทในชีวิตคนอื่นอยู่เสมอ จนทำให้กลายเป็นตัวเรากดดัน และแบกรับทุกอย่างไปหมด เพียงเท่านี้ก็บอกเลยว่า self care is nof selfish แล้ว เพราะฉะนั้นจุดไหนที่เราทำแล้วสบายใจไม่ทำให้คนอื่นลำบาก เราก็ควรที่จะสบายใจและตั้งขอบเขตเพื่อตัวเราเองมากขึ้น


ประโยชน์ของการทำ Self Care Routine ในมิติต่างๆ

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

รูปภาพ:

สุขภาพดีสามาาถเริ่มต้นได้ที่กาาเลือกกิน เพราะการกินอาหารที่มีประโยชน์คุณค่าทางโภชนาอย่างครบครัน และเหมาะกับแต่ละคน จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ โดยควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผักผลไม้สดที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ และโปรตีนคุณภาพสูง พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง อาหารที่มีรสจัดกับน้ำตาลหรือโซเดียมมากเกินไป


การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก อีกทั้งยังช่วยให้จิตใจแจ่มใสมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากการออกกำลังกายนั้นช่วยเผาผลาญไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งช่วยให้ร่างกายหลังสารเอ็นโดรฟิน(Endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาด้วย โดยการแนะนำสำหรับการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที - 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-5 วัน ด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ความชอบแต่ละคน อาจจะเช่น การเดิน การวิ่ง การปั่นจักรยาน การออกกำลังกายแบบแอโรบิก หรือการเล่นกีฬาชนิดต่างๆ


การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

รูปภาพ:

นอกจากการกินและการออกกำลังกายแล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็จำเป็นมากๆ สำหรับการดูแลตัวเอง เพราะการนอนหลับที่เพียงพอในเวลาที่เหมาะสมนั้น จะช่วยฟื้นฟูร่างกายและดูแลสุขภาพองค์รวมได้ดี อีกทั้งการนอนหลับที่ไม่ดีจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และอาจจะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพตามมาได้ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือภาวะซึมเศร้านั่นเอง ซึ่งการนอนหลับที่ดีนั้นแนะนำให้นอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการอดนอน อีกทั้งควรจัดสภาพแวดล้อมในการนอนให้เอื้ออำนวยต่อการหลับที่ดี เช่น เลี่ยงแสงไฟสว่างจ้า หรือพื้นที่ที่มีเสียงดังรบกวนมากเกินไป


จัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสมถือเป็นวิธีดูแลตัวเองที่สำคัญมากๆ เพราะความเครียดเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพองค์รวมได้อย่างมาก เนื่องจากความเครียดเรื้อรังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง อาการนอนไม่หลับ อาการซึมเศร้า และความวิตกกังวล โดยวิธีการจัดความเครียดนั้นมีหลายวิธี เช่น การนั่งสมาธิ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การควบคุมเวลาทำงาน และเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม หรือแม้แต่การเสริมงานอดิเรกต่างๆ เข้ามาช่วยก็สามารถช่วยลดความเครียดได้


สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น

รูปภาพ:

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเครียดและทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้นนั้นคือ การมีความสัมพันธ์อันดีกับคนรอบตัวนั่นเอง เพราะจะทำให้รู้สึกปลอดภัยมีความสุขและรู้สึกว่ามีคนสนับสนุนเมื่อต้องการ ซึ่งส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและไม่ต้องพบกับความขัดแย้งในชีวิตประจำวัน โดยเราสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นได้โดยการพูดคุยอย่างเป็นมิตร ฝึกการรับฟังอย่างตั้งใจ แสดงความเอาใจใส่ และให้ความช่วยเหลือในยามจำเป็น รวมถึงการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับคนรอบข้าง และใช้เวลาร่วมกับคนอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น


ใช้ชีวิตแบบสมดุล

อีกหนึ่งสิ่งในการทำ Self Care Routine คือการใช้ชีวิตอย่างสมดุล โดยการจัดสรรเวลา การทุ่มเทความสนใจอย่างเหมาะสม ทั้งชีวิตการทำงาน การใช้เวลากับครอบครัว การดูแลสุขภาพ การนันทนาการ และการเข้าสังคม เพราะหากขาดสมดุลในการใช้ชีวิตจะส่งผลเสียต่อสุขภาพองค์รวมอย่างแน่นอน


หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค

รูปภาพ:

เมื่อดูแลตัวเองเป็นอย่างดีรอบด้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ การเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลมากเกินความต้องการ รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างประมาทและการละเลยสุขอนามัยที่ดีด้วย เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่ออนาคตและเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วย การเกิดโรคร้ายได้


แนะนำไอเดียทำSelf Care Routine

รูปภาพ:

สำหรับไอเดียของการทำ Self Care Routine คือการแชร์ activity ที่เราสามารถนำไปปรับในการใช้ชีวิตประจำวันได้ เช็กลิสต์รายการบางอย่างที่เผื่อวันไหนว่างๆ หรือวันไม่ว่างมาลองปรับเปลี่ยนใช้ดู ซึ่งไอเดียที่แนะนำนั้นจะช่วยส่งเสริมสุขภาพองค์รวมของเราให้ดีขึ้นได้

  1. การใช้ชีวิตกับสัตว์เลี้ยง เช่น การพาสุนัขหรือแมวออกไปเดินเล่น ใช้เวลาคลายเครียดกับสัตว์เลี้ยง หรือจะเป็นการออกไปฟังเสียงธรรมชาติมากขึ้น
  2. เพิ่มงานอดิเรกเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ เช่น วาดรูป ออกไปถ่ายรูปธรรมชาติหรือคน เป็นต้น
  3. ปลดปล่อยความคิดและเพิ่มความสงบให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ การเล่นโยคะ การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย
  4. กำหนดตารางชีวิตขึ้นมาอย่างเช่นว่า วันนี้เราจะตื่นเช้ากี่โมง? ตื่นแล้วใน 1 วันเราจะทำอะไรบ้าง? ซึ่งในส่วนนี้นั้นเราสามารถที่จะนำไปเชื่อมกับการแพลนว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้างไม่ว่าจะเป็นวันหยุด หรือการวางแผนในการทำงานหรือหน้าที่ที่เราต้องทำในวันนั้นๆ
  5. ขยับร่างกายให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเดินเล่น การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายกับวิดีโอที่บ้าน สิ่งนี้เรียกได้ว่าทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3-5 ครั้ง จะช่วยให้ร่างกายแข็แรงขึ้นได้
  6. มองหาเพลย์ลิสต์หรือเพลงที่ชอบ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจที่เราสามารถทำได้ในทุกๆ วัน หรือทำในวันที่เราเครียดและต้องการผ่อนคลาย ซึ่งการมีเพลงที่เราชอบในวันนั้นๆ ก็ช่วยเพิ่มมูดอารมณ์ให้กลับมาดีขึ้น
  7. เริ่มการดูแลตัวเองอย่างการเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม การดูแลผิว ผม หรือเล็บ สิ่งนี้ควรทำเป็นประจำเพราะจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองได้
  8. จัดระเบียบกับสิ่งของรอบกาย เช่น การทำความสะอาดบ้าน ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งดูแลรักษาสิ่งของนั้นๆ ให้มีความสะอาด และน่าใช้ เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่เราควรทำเป็นประจำเสมอ เพื่อช่วยทำให้สภาพแวดล้อมของเรามีระบบและระเบียบ อีกทั้งน่าอยู่มากขึ้น
  9. สร้างความสัมพันธ์อันดีกับสิ่งรอบข้าง อาจจะเป็นการช่วยเหลือเพื่อน คนแปลกหน้าที่ไว้วางใจ การให้ของขวัญสำหรับคนสำคัญในวันพิเศษ สิ่งนี้เราสามารถมอบให้คนอื่นได้อยู่เสมอ
  10. รับวิตามิน D จากแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอาบแดดในช่วงเวลาที่มีวิตามิน D หรือไม่ร้อนจนเกินไป การปลูกต้นไม้ การเดินเล่นชมไปกับธรรมชาติที่สวยงาม สิ่งนี้นั้นถ้าทำได้ทุกวันหรืออย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยทำให้จิตใจแจ่มใส และรู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้นได้
  11. ลองทำอะไรใหม่ๆ เช่น การลองทำเมนูอาหารที่ไม่เคยทำ ลองฟังเพลงสไตล์ใหม่ เลือกดูรายการทีวีหรือหนังประเภทอื่นๆ ลองหาหนังสือให้ความรู้ที่เป็นโหมดใหม่ๆ เข้ามา สิ่งนี้ใครที่มีเวลาว่างลอไปทำดูได้ เพราะเราอาจจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มในชีวิต
  12. มองหาสังคมใหม่ๆ และยังคงรักษาสังคมเก่าไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลองส่งข้อความหาเพื่อน หรือการเขียนจดหมายหาเพื่อน การลองเล่นแอปหาคู่ การมองหาเพื่อนใหม่ที่ตรงไลฟ์สไตล์ สิ่งนี้เราสามารถสร้างมันขึ้นได้ทุกๆ วัน
  13. เพิ่มการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด อย่างการมองหาความรู้ใหม่ๆ การมองหาทักษะใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านวิดีโอหรือกลุ่มคน ก็จะช่วยเพิ่มทักษะการคิดและไตร่ตรองของเราได้มากยิ่งขึ้น
  14. ลองวางแผนในอนาคต เช่น การสร้างเป้าหมาย การวางแผนอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า หรือลองทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเป็นจุดมุ่งหมายของเรา ซึ่งการทำแบบนี้ทุกๆ วันนั้นจะช่วยทำให้เรารู้สึกกระตือรือร้น และรู้สึกว่าจุดมุ่งหมายของเราคืออะไร
  15. ลองหามุมมองใหม่ๆ จากสื่อ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง การดู TV Show แม้กระทั่งการดูคอนเทนท์ต่างๆ ใน YouTube ซึ่งสิ่งนี้นั้นเราสามารถทำได้ในวันที่เราว่างๆ เพราะจะช่วยทำให้ผ่อนคลายหรือเป็นการเพิ่มพูนความรู้อีกแขนงหนึ่งให้กับเราได้
  16. ลองทำบางอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าการจะซ่อมแซมอะไรเล็กๆ น้อยๆ การต่อเติมอย่างเช่น การต่อเก้าอี้ โต๊ะ หรือการเปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งสิ่งนี้นั้นเป็นสกิลที่จะช่วยให้เรามีวิชาติดตัว
  17. ลองทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารให้ตัวเองกิน การแชร์อาหารให้คนอื่น ไปเรียนเสริมคอร์สทำเค้ก ทำอาหารกินเล่น สามารถที่จะเป็นงานอดิเรกได้ เพราะสิ่งนี้สามารถช่วยทำให้เราผ่อนคลายและรู้สึกอยู่กับตัวเองมากขึ้น
  18. การอ่านหนังสือยังเป็นสิ่งที่เบสิกมากๆ ที่อยากให้ทุกคนลองทำในทุกๆ วัน ไม่จำเป็นต้องรีบอ่านจบหมดภายในหนึ่งวัน เราสามารถค่อยๆ อ่านวันละ 1-2 หน้า ตามเวลาที่เรามีก็ได้ เพราะการอ่านหนังสือนั้นจะทำให้เราเห็นมุมมองต่างๆ หรือความคิดของคนอื่น ดังนั้นแล้วเราก็จะมองเห็นข้อแตกต่างในหลายด้านนั่นเอง
  19. ลองจดทุกอย่างลงในสมุด การที่เราเริ่มเขียนเป็นไดอารี่หรือจดความคิดลงในสมุดนั้น สามารถช่วยทำให้ผ่อนคลายความเครียดและปรับมูดอารมณ์ลงได้ ซึ่งใครที่อารมณ์ไม่คงที่บ่อยๆ หรือต้องการพี่ระบายสามารถลองจดทุกอย่างลงในสมุดได้เลย

แนะนำวิดีโอ Self Care Vlog ส่องวิธีดูแลตัวเองแบบยูทูบเบอร์


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการแชร์หรือการมาทำความรู้จักในมุมมองของ Self Care Routine บอกเลยว่าถ้าใครสามารถลองนำไปปรับเปลี่ยนในกิจวัตรต่างๆ ของเราได้ ก็จะช่วยทำให้องค์ประกอบโดยรวมของเราดีขึ้น สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นมากๆ อย่างที่บอกข้างต้นแล้วคือเราไม่อาจจะหักโหมทำภายในครั้งเดียว ฉะนั้นแล้วใครที่สามารถพอลองนำมาปรับกับไลฟ์สไตล์ได้ก็อยากแนะนำให้ลองนำมาปรับกันดู เพราะการทำสิ่งนี้นั้นล้วนแต่เป็นผลประโยชน์กับตัวของเราเองทั้งนั้น เมื่อการที่เรารักและเคารพตัวเองมากพอ สิ่งนี้จะส่งผลให้กับคนรอบข้างรู้สึกว่ารอบตัวของเรานั้นเป็นคนที่น่าเข้าหาและน่าสนใจ ฉะนั้นแล้วเมื่อเทรนด์มันมาขนาดนี้ก็อยากจะลองให้สาวๆ เปิดใจทำกันดูน้า


ขอขอบคุณรูปประกอบจาก Freepik




บทความอื่นๆ ที่ซิสไม่ควรพลาด








เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้