ช่วงนี้ Red Flag กลายเป็นคำที่ได้ยินบ่อยๆ ในโซเชียลฯ โดยเฉพาะในเรื่องความรักและความสัมพันธ์ หลายคนสงสัยว่า Red Flag คืออะไร ? ทำไมคนถึงกลัวการเจอผู้ชายหรือผู้หญิง Red Flag ? ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วคำนี้ไม่ใช่คำใหม่เพียงแต่ระยะหลังมีการถูกนำมาใช้ในการอธิบายเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์มากขึ้นโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่คนมักใช้คำนี้เพื่อช่วยเตือนว่า “ความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจมีสัญญาณไม่ปกติ เปรียบเสมือนธงแดงที่ให้สัญญาณเตือนภัยเมื่อสถานการณ์เริ่มมาในทิศทางที่ไม่ดี” เพื่อให้ทุกคนสังเกตธงแดงในความสัมพันธ์ได้ไว หรอืหาทางแก้ไข หรือเดินออกมาจากจุดนั้นได้ทันท่วงทีก่อนจะเกิดเหตุที่ไม่ควรจะเกิด ในขณะเดียวกันก็เตือนให้ทุกคนได้ฉุกคิดไปด้วยว่าตัวเราเองเคยเป็นธงแดงของใครบ้างรึเปล่า ? แล้วแบบนี้เรียกวก่าพฤติกรรม Red Flag ได้รึยัง ? บทความนี้ Sistacafe จะพามาเจาะลึกว่า Red Flag คืออะไรกันแน่ ? คนแบบไหนที่เข้าข่ายเป็น Red Flag ? พร้อมแบบทดสอบ วิธีเช็กว่าเราหรือคนรักเป็น Red Flag เองหรือไม่ ? ปิดท้ายด้วยวิธีป้องกันและทริคการเดินออกจากความสัมพันธ์ที่อาจจะกลายเป็นพิษในอนาคต ถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปสำรวจตัวเองและคนข้าง ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ

บรรณาธิการ/Supervisor Content Manager
นักคิดนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านเนื้อหาบิวตี้ ไลฟ์สไตล์ และสุขภาพในออนไลน์กว่า 10 ปี

Red Flag vs Green Flag ความหมายที่ควรรู้
หลายๆ คนน่าจะพอเข้าใจความหมายของคำว่า Red Flag อยู่บ้าง หากอธิบายให้ละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น Red Flag ถ้าแปลแบบตรงตัวเลย ก็คือ ธงสีแดง ซึ่งปกติแล้วธงแดงจะใช้เป็นสัญญาณเตือนอันตราย เช่น ใช้ในสนามแข่งรถ ( ธงแดง = หยุดแข่งทันที) หรือธงสีแดงที่ปักบนชายหาด คือสัญญาณเตือนไม่ให้ลงเล่นน้ำ หรือในแวดวงการเมือง (ธงแดง = คอมมิวนิสต์) เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เมื่อเห็นเรามักจะต้องคอยระวัง หรือถอยห่างออกมา เพราะถ้าขืนยังดึงดันที่จะอยู่ในจุดอันตราย ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากสิ่งนั้นได้
ซึ่งในบริบทของความรักความสัมพันธ์แล้ว Red Flag คือคำสแลงอย่างหนึ่ง เพราะความสัมพันธ์ยุคปัจจุบัน มีความหลากหลายและซับซ้อน ชื่อเรียกของความสัมพันธ์ ไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่มีมากมายเหลือเกิน หนึ่งในนั้นคือ Relationship Flags หรือ ธงสีต่างๆ ที่มีการคิดขึ้นมาก็เปรียบเสมือนใช้แสดงลักษณะความสัมพันธ์ผ่านพฤติกรรมหรือการกระทำของคนรักที่กระทำต่ออีกฝ่าย
แล้ว Red Flag ที่หมายถึงความสัมพันธ์คืออะไร ?
Red Flag หมายถึงพฤติกรรมหรือสถานการณ์ที่บ่งบอกว่า ความสัมพันธ์นี้อาจกลายเป็น Toxic Relationship หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ เป็นสัญญาณเตือนว่าควรถอยห่างออกมานั่นเอง ทุกคนอาจจะเคยเห็นใน Pantip มักมีคนตั้งกระทู้ถามว่า Red Flag คืออะไร ? , สัญญาณ Red Flag แบบไหนที่จะไม่สานต่อ ส่วนใหญ่มักจะถูกตีความว่าเป็น สัญญาณเตือนว่าอีกฝ่ายอาจไม่จริงใจ, ไม่เคารพ, ชอบควบคุมทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ควรกับการคบต่อ

Red Flag คือคนแบบไหน ?
Red Flag คือคนแบบไหนกันแน่ ? เวลาที่เราเลื่อนอ่านในโซเชียลฯ แล้วเห็นคนแชร์ว่า “ผู้ชายคนนี้ Red Flag ชัด ๆ” หรือ “อย่าไปคบเลย Red Flag เต็มไปหมด” จริง ๆ แล้ว Red Flag ไม่ได้หมายถึงว่าคนนั้นเป็น “คนไม่ดี” ไปซะทั้งหมด แต่หมายถึง คนที่มีพฤติกรรมหรือนิสัยบางอย่างที่อาจทำร้ายใจเรา และทำให้ความสัมพันธ์ไม่เฮลธ์ตี้ เราจะลองยกตัวอย่างคนที่มีพฤติกรรรมเข้าข่าย Red Flag พร้อมสถานการณ์ประกอบ เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้นกันค่ะ
- คนที่ชอบควบคุมเกินเหตุ เช่น ต้องขอเช็กมือถือ ติดรหัสผ่านโซเชียล หรือสั่งห้ามแต่งตัวบางแบบ แบบนี้คือ สัญญาณ Red Flag เลยค่ะ เพราะความรักที่ดีควรมี “ความไว้ใจ”
- คนที่ ไม่เคยรับผิดชอบความผิดตัวเอง เวลามีปัญหาหรือทะเลาะกัน ฝ่ายนั้นจะโยนความผิดมาให้เราตลอด เช่น เธอไม่ชอบให้เขากดไลก์รูปผู้หญิงอื่น เมื่อคุยกันตรงๆ แทนที่เขาจะแก้ไขแต่กลับบอกว่าเพราะเธอชอบหึงเลยทำให้ฉันต้องแอบกดไลก์ เป็นต้น
- คนที่ไม่เคารพตัวตนของเรา เช่น เมื่อเรามีความฝันหรือเป้าหมายส่วนตัว อีกฝ่ายไม่เคยให้กำลังใจแต่กลับพูดทับหรือดูถูกว่า “ทำไปก็ไม่สำเร็จหรอก” ทำให้เรารู้สึกด้อยค่า
- คนที่พูดจาทำร้ายจิตใจ ใช้คำพูดเสียดสี ประชดประชัน หรือพูดในเชิงกดเราให้ต่ำลงเสมอ ๆ จนกลายเป็นความรู้สึกว่า “เราดีพอรึเปล่า” เช่น เวลาคุยกับใครแล้วเขามักเหยียดเพศ หรือดูถูกคนอื่น
- คนที่ขาดความซื่อสัตย์ ชอบพูดโกหก ไว้ใจไม่ได้ เช่น บอกว่าโสดแต่จริง ๆ มีแฟนอยู่แล้ว หรือยังคงคุยกับคนอื่นในเชิงชู้สาวอยู่ตลอด
Red Flag ทางการแพทย์ คือโรคอะไร ?
บางคนสับสนว่า Red Flag ในทางการแพทย์ คือโรคหรือเปล่า ? ต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษาไหม คำตอบคือ Red Flag ไม่ใช่โรค เป็นแค่คำที่ถูกใช้เรียกในบริบทที่ต่างกันเท่านั้นค่ะ
เช่นเดียวกันว่าในทางการแพทย์ก็มีคำเรียกอย่าง Red Flag sign ที่หมายถึง สัญญาณเตือนว่าอาการเจ็บป่วยอาจรุนแรง สัญญาณเหล่านี้แตกต่างกันไปตามระบบร่างกาย เช่น อาการปวดที่รุนแรงผิดปกติ น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว อาการทางระบบประสาท อ่อนแรง ชา หรือปัญหาด้านการมองเห็น เป็นสัญญาณที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสงสัยว่าอาจมีโรคที่ร้ายแรงกว่าที่กำลังเกิดขึ้น ต้องการการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วนนั่นเอง
The Pharmaceutical Journal ซึ่งเป็นเว็บไซต์และวารสารวิชาการที่จัดทำโดย Royal Pharmaceutical Society (RPS) ของสหราชอาณาจักร ได้กล่าวไว้ว่า “Red flag symptoms are warning signs that indicate a more serious underlying pathology in a patient … Red flags are not diagnostic tests; their main role is that they raise suspicions of a severe underlying cause.” อาการแบบ Red Flag คือสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าอาจมีโรคร้ายแรงซ่อนอยู่ในร่างกายของผู้ป่วย Red Flag ไม่ใช่แค่การตรวจวินิจฉัย แต่มีบทบาทหลักในการทำให้แพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจมีสาเหตุรุนแรงที่ต้องหาคำตอบต่อไป — (บทความ “How to identify red-flag symptoms and refer patients appropriately”)
Red Flag มีกี่ระดับ ? ธงแต่ละสี มีความหมายว่ายังไง ?

อย่างที่บอกไปว่าความสัมพันธ์มีหลากหลายและซับซ้อน ไม่ใช่แค่ขาวกับดำเท่านั้น Relationship Flags จึงมีการแบ่ง Red Flag ออกเป็นเหมือนสัญญาณไฟจราจร ลองไปดูกันว่าธงแต่ละสีในความสัมพันธ์มีลักษณะอย่างไร เพื่อนๆ จะได้รู้กันว่า ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ควรจะจัดเอาไว้อยู่ในธงสีอะไรกันแน่
- Green Flag ธงสีเขียว เป็นความสัมพันธ์ที่ดีตรงข้ามกับ Red Flag อย่างสิ้นเชิง หมายถึงเขาหรือเธอเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับเราได้ คนที่ออยู่เคียงข้างกันและกัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ มีความเข้าอกเข้าใจกัน ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาเสมอ และพากันส่งเสริมไปในทางที่ดี ตัวอย่างเช่น อีกฝ่าย รับฟังเรา, เคารพตัวตน และ ให้เกียรติในทุกมุม ไม่ว่าจะคำพูด การกระทำ หรือทัศนคติ มักจะมีเหตุผลและไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ในสถานการณ์ที่มีคนถามถึงแฟนเก่าของแฟนเรา แล้วเขาพูดถึงอีกฝ่ายในทางที่ไม่อคติจนเกินไป ไม่พูดจาให้ร้ายอีกฝั่งแต่ฝ่ายเดียว (แม้ในความจริงจะเลิกรากันไปเพราะความผิดของฝั่งนั้นก็ตาม) เพราะอย่างน้อยในความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคนไม่ใช่คนคนเดียว การกระทำของอีกฝ่ายย่อมส่งผลถึงกันในทางใดทางหนึ่งได้เสมอ
- Yellow Flag ธงสีเหลือง ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนแรกเริ่ม อาจจะไม่ได้อันตรายมาก แต่ก็ควรระมัดระวังเอาไว้ ธงสีนี้จะบ่งบอกถึงความแตกต่าง สะท้อนปัญหาและพฤติกรรมเสี่ยงของคนทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น รสนิยม นิสัย ไปจนถึงเป้าหมายที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก ทำให้ในบางครั้งเกิดความไม่เข้าใจกันบ่อยๆ ตัวอย่างเช่น เวลามีเรื่องเครียด ชอบเงียบหนี ไม่สื่อสารตรง ๆ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่า ความสัมพันธ์ของตัวเองกำลังตกอยู่ในธงสีเหลืองนี้อาจจะต้องหาวิธีมาเจอกันตรงกลางให้ได้เพื่อให้ความสัมพ์สามารถเดินไปต่อได้อย่างราบรื่นนั่นเอง
- Orange Flag ธงสีส้ม เป็นสัญญาณเตือนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์นี้ ไม่ควรมองข้ามแล้ว และอาจจะต้องรีบหาทางแก้ไขด่วน ธงสีนี้จะเป็นสัญญาณเตือนที่ร้ายแรงกว่าธงสีเหลือง เพราะอาจจะนำไปสู่ความสัมพันธ์แบบ Red Flag ได้ ใครที่มีแฟนที่ชอบใช้อำนาจในการควบคุมมากเกินไป ไม่เคารพขอบเขต หรือไม่ให้ความเป็นอิสระ ตัวอย่างเช่น จำกัดการแต่งตัว, คุมการใช้เงิน, หรือเริ่มก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวมากเกินจำเป็น เสี่ยงมากที่ความสัมพันธ์จะก้าวเข้าไปสู่ธงสีส้ม เพราะงั้นต้องรีบหาทางออกด่วน!
- Red Flag ธงสีแดง สัญญาณอันตรายในความสัมพันธ์ที่บอกว่าคุณได้เจอกับ toxic relationship แล้ว เป็นพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าจุดนี้คือ เส้นแดงชัดเจน ว่าควรถอยออกมาทันที เพราะนอกจากจะกระทบต่อทั้งสุขภาพจิตแล้ว ยังอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของตัวเองเองด้วย ตัวอย่างเช่น ใช้ความรุนแรง, ไม่ซื่อสัตย์, หรือ ทำให้เรารู้สึกด้อยค่าอยู่เสมอ ดังเช่นตัวอย่างในสถานการณ์เดียวกันกับ Greeb Flag คือมีคนถามถึงแฟนเก่าของแฟนเรา เขากลับตอบถึงแต่มุมเสียหายของอีกฝั่ง พูดให้ร้ายจนเสียหายแต่กลับชื่นชมตัวเองหรือขอความเห็นใจในฝั่งตัวเองเพียงฝ่ายเดียว ไม่แม้แต่มองว่ามีสาเหตุของการกระทำด้านอื่นๆ อีกหรือไม่ ให้ลองคิดดูว่าหากเราเป็นแฟนเก่าของเขา เขาจะพูดถึงเราในลักษณะเดียวกันมั้ย น่าคิดมั้ยล่ะ !?
ขั้นตอนเมื่อรู้ว่าแฟนมีพฤติกรรม Red Flag
Charlie Huntington นักจิตวิทยาและนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และสุขภาพทางเพศ ได้กล่าวไว้ใน berkeleywellbeing.com ว่า “Red flags are behaviors or characteristics that suggest that the other person may not be a safe or positive person to have a relationship with.” Red Flag คือพฤติกรรมหรือคุณลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าคู่ของคุณอาจไม่ใช่คนที่ปลอดภัยหรือเหมาะสมสำหรับการมีความสัมพันธ์ที่ดี ฉะนั้น Red Flag จึงถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายในความสัมพันธ์ ที่เราควรจะรีบถอยห่างออกมาให้เร็วก่อนที่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงตามมา แต่ก่อนจะปักใจว่าแฟนมีพฤติกรรม Red Flag จริงไหม หรือมากแค่ไหน เช็กดู 10 สัญญาณเตือนที่เข้าข่าย Red Flag ลองไปทำเช็กลิสต์ตัวเองและคนที่คุย ๆ อยู่ให้รู้ไปเลยว่ามีใครเข้าข่าย Red Flag อยู่รึเปล่า

สัญญาณ Red Flag ที่แสดงผ่านคำพูด
☑️ สัญญาณเตือน Red Flag - เอาแต่พูดถึงคนอื่น หรือแฟนเก่าทุกคนว่า "แย่มาก"
สัญญาณ Red Flag แรก อาจมาจากสิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ อย่างทุกครั้งเวลาที่เขาพูดถึงแฟนเก่าของตัวเอง มักจะบอกว่าแฟนเก่าแย่มาก หยิบยกข้อเสียทุกสิ่งอย่างของแฟนเก่ามาพูดตลอด ถ้าแฟนของเพื่อนๆ แสดงออกแบบนี้นี่อาจเป็นเหมือนสัญญาณเตือนบางอย่างว่าการที่เขาเอาแต่โทษความสัมพันธ์ที่พังลง โยนความผิดให้แฟนเก่า จริงๆ แล้วมันใช่รึเปล่า ? หรือบางทีคนที่เป็นปัญหาอาจจะเป็นตัวคนเล่าเองก็ได้ หากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่ อย่าพึ่งหลงเชื่อซะหมดใจลองมองให้ลึกเห็นให้ชัดถึงสาเหตุที่แท้จริงซะก่อนนะคะ
☑️ สัญญาณ Red Flag - พูดจาไม่ให้เกียรติกัน / พูดถึงกันในแง่ที่ไม่ดี
ความสัมพันธ์ของคู่รักไม่ได้มีแค่คำว่า รัก เท่านั้นที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ไปต่อได้ แต่ต้องรู้จักให้เกียรติกันและกันด้วย ชีวิตคู่นอกเหนือจากความรักที่มีให้กันแล้ว การให้ความเคารพซึ่งกันและกันคือสิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่าความรักของคุณจะยั่งยืนไปจนแก่เฒ่าหรือจะสิ้นสุดลงในเวลาอันรวดเร็ว คนที่เอาแต่ติ เหน็บแนม หมางเมิน ไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดหรือทำเลย แต่เวลาอยู่กับคนอื่นกลับพูดดี ทำดีกับคนอื่นไปทั่ว แต่กับคนรักกลับชอบหักหน้า ชอบพูดหรือแสดงท่าทางทำให้อับอาย หรืออาเรื่องส่วนตัวของสองคนไปเล่าให้คนอื่นฟังอย่างสนุกปากอีก พฤติกรรมลักษณะนี้คือการไม่ให้เกียรติกัน ถ้าใครที่รู้สึกว่าการอยู่กับคนประเภทนี้ มีแต่ทุกข์ อับอาย อึดอัด ก็ควรถอยออกมาดีกว่า เพราะขืนยังทนอยู่ต่อไป จะมีแต่จะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
สัญญาณ Red Flag ที่แสดงผ่านการกระทำ
☑️ สัญญาณ Red Flag - ใช้ความรุนแรงเก่งเกินใคร
การใช้ความรุนแรงเรียกว่าเป็นสัญญาณ Red Flag ที่ควรถอยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงทางไหน จะทางคำพูดหรือการทำร้ายร่างกายก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริง ๆ หากเราเป็นฝ่ายถูกกระทำลองถามตัวเองว่าทำไมจะต้องทนด้วย ? อย่าปล่อยให้เขาเอาคำว่า ' รัก ' มาเป็นข้ออ้างในการทำร้ายเราซ้ำ ๆ ควรคิดไว้เสมอว่า เมื่อมีครั้งแรกยังไงครั้งต่อไปก็ต้องตามมาอย่างแน่นอน ปักธงแดงไว้ก่อนแล้วรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นซะอย่าได้ทนต่อไปอีกเลย
☑️ สัญญาณ Red Flag - นอกใจ นอกกายแบบไม่ตกลงยินยอมกันทั้งสองฝ่าย
การนอกใจหรือการนอกกายไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นสัญญาณ Red Flag แบบเต็ม ๆ เพราะคนที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบปกติย่อมรู้ดีกว่าการให้เกียรติคนรักคือเรื่องที่ควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการนอกกายหรือนอกใจ หากเกิดจากความไม่ยินยอมของทั้งสองฝ่ายยังไงก็เป็นเรื่องผิด ในเมื่อไม่รักกันแล้ว ไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ควรจบความสัมพันธ์ไปไม่ใช่เพิ่มใครเข้ามาในความสัมพันธ์แทน หากใครที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวนี้ ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เดินออกมาคือคำตอบที่ถูกต้องเท่านั้น
สัญญาณ Red Flag ที่แสดงผ่านทัศนคติ วิธีคิด ความเชื่อ
☑️ สัญญาณ Red Flag - หวงข้าวของ ขีดเส้นว่านี้ของฉัน นั้นของเธอ
จริงๆ แล้ว เรื่องการหวงของส่วนตัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหวงจนเกินไปหวงทุกอย่างที่เป็นของตัวเองก็ควรตั้งคำถามว่าเราจะใช้ชีวิตคู่กับของแบบนี้ได้ไหม ? ในเมื่อเขาไม่พร้อมแชร์อะไรให้เราเลย เพราะการจะจับมือไปด้วยกันหมายถึงการแบ่งปันสุขและทุกข์ร่วมกัน ถ้าแฟนใครมuพฤติกรรมหวงของอะไรเล็กๆ น้อยๆ กับเกินไป สั่งห้ามแบบเด็ดขาดหรือแบ่งแยกแบบชัดเจนเลยว่า ของของฉันห้ามยุ่ง ก็ดูจะเป็นสัญญาณ Red Flag ที่ต้องเตรียมปักธงแดงรอไว้เหมือนกัน
☑️ สัญญาณ Red Flag - ขี้เกียจ ไม่ทำมาหากิน
ความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้คือทั้งสองฝ่ายศีลเสมอกัน ถ้าเราขยันทำงานแต่แฟนวันๆ เอาแต่กินกับนอน ไม่หยิบไม่จับอะไร ยังไงก็ไปกันไม่รอด แม้จะดูเป็นเรื่องปัจเจคบุคคลถ้าถ้ามาใช้ชีวิตกด้วยกันแล้วไม่ทำอะไรเลยก็เป็น สัญญาณ Red Flag ได้เหมือนกัน คิดไว้เลยว่าถ้าการมีเขาแล้วเราต้องลำบากมากกว่าเดิม โดยที่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจ ไม่ได้ช่วยส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน งั้นเราอยู่ตัวคนเดียวอาจดีกว่าสบายใจกว่าด้วยจริงมั้ยคะ ?
☑️ สัญญาณ Red Flag - ชอบกิจกรรมเสี่ยงผิดกฎหมาย
แฟนชอบทำกิจกรรมเสี่ยงคุก เตรียมปักธงแดงไว้ได้เลยนะ ถ้าเรารู้เราก็ควรเตือนเพื่อให้เขาหยุด อย่าหลงตัวเข้าไปร่วมด้วยช่วยกันล่ะสุดท้ายถ้าพูดเตือนแล้วเขาไม่หยุด เราก็ควรหยุดและเดินออกมานะคะ เอาจริงๆ มันไม่คุ้มนะ ถ้าวันนึงเขาโดนจับ ติดคุก ยึดทรัพย์ แล้วเราโดนไปด้วยจะทำยังไง เพราะงั้นปล่อยเขาไปตามทางของเขาเถอะอย่าเอาตัวเองเข้าไปใช้ชีวิตแบบเสี่ยงๆ กับเขาเลยค่ะ
☑️ สัญญาณ Red Flag - หมกมุ่นกับครอบครัวตัวเอง
การที่แฟนเป็นคนรักครอบครัวเป็นเรื่องดีมากเลย แต่ถ้าเขาเอาแต่หมกมุ่นกับครอบครัวของตัวเองมากเกินไป ก็ถือว่าเป็น Red Flag สัญญาณอันตรายเหมือนกันนะคะ คำว่า ' หมกมุ่น ' แปลง่ายๆ คือเขายึดติดกับครอบครัวของตัวเองเกินไป ไม่ว่าจะตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะให้ครอบครัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจนั้นเสมอ แม้เรื่องที่กำลังตัดสินใจจะเป็นเรื่องของเราสองคนก็ตาม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นว่าผลลัพธ์ของทุกๆ สิ่งจะเกิดขึ้นจากความเห็นชอบของครอบครัวเขา ไม่ใช่ความคิดเห็นของเราสองคนเป็นหลัก การเชื่อฟังพ่อแม่เป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ลืมไปว่า ความคิดเห็นของคุณทั้งสองคนเองก็สำคัญ หากกำลังจะสร้างครอบครัวด้วยกัน ถ้าปล่อยไว้ในอนาคตอาจจะสร้างความลำบากให้ชีวิตคู่ได้เลย
☑️ สัญญาณ Red Flag - ยึดอดีตไว้เป็นที่ตั้ง
บางคนที่มักจะเอาอดีตของตัวเองมาวางเอาไว้เหนือทุกสิ่ง เช่น พอมีแฟนใหม่แล้วก็ยังเอาไปเทียบกับอดีตแฟนเก่าๆพอได้ยินอะไรแบบนี้บ่อยๆ มันน่าหงุดหงิดและน้อยใจเหมือนกัน การอยู่กับคนที่ยึดติดกับอดีตไม่ยอมปล่อย ก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัจจุบันเลย แถมเราอาจกลายเป็นไร้ตัวตนหรือไม่ดีเท่าอดีตที่ผ่านมาไปอีก ความคิดเหล่านี้เป็น สัญญาณ Red Flag สิ่งที่ควรหนีออกมาให้ไกลที่สุด แล้วไปหาคนใหม่ที่เขามองคุณค่าของเราแทนจะดีกว่า
☑️ สัญญาณ Red Flag - ปัญหาเรื่องการเงิน
ปัญหาการเงิน บอกก่อนว่าไม่ได้เกี่ยวกับฐานะทางการเงินว่าจนหรือรวย แต่คือลักษณะนิสัยการใช้จ่าย จัดการเงินของเขา ความรักจะมีความสุขถ้าไม่มีปัญหาการเงินมาเกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายต้องรู้จักวางแผนการเงินทั้งในแง่ส่วนตัว และส่วนรวมของทั้งคู่ โดยไม่มีใครต้องเบียดเบียนใครมากกว่า เพราะปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงิน มักจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกคนและทุกความสัมพันธ์เสมอ การที่เขาใช้จ่ายเงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง จนสร้างปัญหาให้กับครอบครัวหรือตัวเอง จนเป็นภาระหนี้สิน แบบนี้ก็ถือเป็น สัญญาณ Red Flag ที่เราไม่ควรฝากชีวิตไว้กับเขาเช่นกัน
เกณฑ์ที่ควรจบความสัมพันธ์ เมื่อ Red Flag ซ้ำแล้วซ้ำอีก
หากเราต้องสังเกตสัญญาณ Red Flag ตั้งแต่เนิ่นๆ มีอะไรที่บ่งบอกได้บ้าง โดยส่วนใหญ่ช่วงแรกของความสัมพันธ์ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ช่วงโปรโมชั่น” ทุกอย่างดูหวานชื่นไปหมด ทำให้เรามักจะมองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ ที่อาจเป็น Red Flag ได้ง่าย แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เจอคือ “ความคิดมากไปเอง” หรือจริง ๆ แล้วคือ พฤติกรรมที่ควรระวัง? เรามีทริคการสังเกตมาให้ทุกคนลองไปใช้กันดูค่ะ
- สังเกต “ ความถี่ ” ไม่ใช่ครั้งเดียวแล้วตัดสิน ถ้าพฤติกรรมนั้นเกิดขึ้น บ่อย ๆ และซ้ำ ๆ เช่น โกหกเล็ก ๆ หลายครั้ง หรือหายไปโดยไม่บอกเหตุผลเป็นประจำ แบบนี้ถือเป็น Red Flag ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และอีกฝ่ายพยายามแก้ไขอาจจะยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่
- ดู “ความรุนแรง” ของพฤติกรรม ถ้าพฤติกรรมที่เขาปฏิบัติกับเราทำให้เรารู้สึก กลัว, อึดอัด, หรือถูกกดดันอย่างหนัก เช่น ใช้คำพูดรุนแรง ควบคุมเสรีภาพ หรือทำให้เรารู้สึกด้อยค่า นั่นคือสัญญาณ Red Flag ที่ไม่ควรมองข้าม
- ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นเครื่องวัด ลองถามตัวเองว่าเวลาอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ ? หรือ หลังจากคุยกันเรารู้สึกสดใสขึ้น หรือหมดพลัง ? ถ้าคำตอบเป็นลบบ่อย ๆ บอกได้ว่าอาจกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Red Flag
- อย่ามองข้าม “ข้ออ้างซ้ำ ๆ” ถ้าอีกฝ่ายชอบพูดว่า “ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ” หรือ “เธอคิดมากไปเอง” ทุกครั้งที่เราท้วง หรือบอกอะไรไป ระวังว่านี่อาจเป็นหนึ่งในพฤติกรรม Red Flag

วิธีจัดการเรื่องพฤติกรรม Red Flag อย่างสุภาพ
เวลาที่เราเจอ Red Flag ในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นแฟน หรือแม้แต่ตัวเราเองก็ตาม การรู้จักสังเกตและตัดสินใจอย่างรอบคอบถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีพฤติกรรม Red Flag ซ้ำ ๆ นอกจากจะทำร้ายจิตใจตัวเองแล้วยังลดความสุขของเราลงไปอีกด้วย วิธีรับมือและเดินออกจากความสัมพันธ์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสัญญาณ Red Flag ที่เจอ และความพร้อมของแต่ละคน จะมีอะไรที่เราควรทำบ้างลองไปดูกันค่ะ
- ตระหนักและยอมรับ ขั้นแรกคือ ยอมรับความจริง ให้ได้ว่าว่าสัญญาณที่เราสังเกตเห็น หรือเจออยู่นั้นคือ Red Flag ไม่ใช่ความคิดมากหรือความเข้าใจผิดของเราไปเอง อย่าบิดเบือนความจริงเพราะคำว่ารักบังตา การตระหนักถึงพฤติกรรมที่ Toxic ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ
- คุยกันอย่างเปิดอก ตรงไปตรงมา ลองพูดความรู้สึกกับอีกฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา เช่น “รู้สึกไม่สบายใจเวลาที่เธอทำแบบนี้” หรือ "เธอทำแบบเดิมกับฉัน ไม่เหมือนที่เราเคยคุยกันไว้เลย"การสื่อสารตรง ๆ ช่วยให้คนรักรับรู้ถึงพฤติกรรมของตัวเอง และบางครั้งอาจทั้งสองอาจจะช่วยกับปรับเปลี่ยนแก้ไขเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังไปต่อได้
- ตั้งขอบเขต (Boundaries) แต่หากพูดคุยกันแล้วถ้าพฤติกรรม Red Flag ยังเกิดซ้ำ ๆ ไม่หายไป ถ้าคุณยังอยากไปต่อกับเขาสิ่งสำคัญคือตั้งขอบเขตให้ชัดเจน เช่น ไม่ยอมให้ละเมิดสิทธิส่วนตัว , ไม่ยอมให้ถูกควบคุมหรือกดดัน การมีขอบเขตช่วยให้เราปกป้องตัวเองและลดความเสียใจลงได้
- ปรึกษาเพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญ บางครั้งการรับมือเพียงลำพังอาจทำให้เราคิดไม่ตก จิตใจไม่เข้มแข็งพอ ลองปรึกษาเพื่อน หรือจิตแพทย์/นักจิตวิทยาที่ไว้ใจได้พวกเขาสามารถช่วยให้มุมมองอื่น ๆ ที่ชัดเจนขึ้น และแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับเราได้
- ยุติความสัมพันธ์ (Move on) หากทำทุกวิธีข้างต้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้พฤติกรรม Red Flag ของเขาได้ การยุติความสัมพันธ์ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและช่วยปกป้องจิตใจของเราได้มากที่สุด
Esther Perel นักจิตวิทยาและนักบำบัดคู่รักที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้เขียนหนังสือ Mating in Captivity และ The State of Affairs ได้กล่าวไว้ว่า “การจบความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ไม่ใช่การแพ้ แต่คือการเลือกตัวเอง” การอยู่ในความสัมพันธ์ Red Flag ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ นะคะ เพื่อน ๆ ควรการสังเกตสัญญาณตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันหัวใจตัวเอง จะช่วยให้เราอยู่ในความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและมีความสุข รวมถึงการเลือกเดินออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษก็ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่เป็นการเลือกเพื่อตัวเองและความสุขของตัวเองต่างหาก
วิธีป้องกันตัวเองให้เจอ Red Flag น้อยที่สุด
เมื่อสังเกตแล้วเจอสัญญาณ Red Flag ในความสัมพันธ์ อย่าละเลยสัญญาณเล็ก ๆ เด็ดขาด ถ้ามีบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจเราก็ควรหยุดฟังความรู้สึกตัวเอง หากคิดว่ายังไม่แน่ใจให้ลองคุยกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัวเพราะบางครั้งคนนอกจะเห็นสิ่งที่เราไม่ทันสังเกต ที่สำคัญการคบกันควรวางขอบเขตชัดเจนตั้งแต่ต้น เช่น เวลาส่วนตัว เรื่องการเงิน หรือพื้นที่ส่วนตัว ฯลฯ เพื่อให้แต่ละฝ่ายต่างมีอิสระและพื้นที่สบายใจของตนเอง
ในทางกลับกันหากพบว่าพฤติกรรมของแฟนมีสัญญาณ Red Flag การพูดบอกออกไปตรง ๆ เพื่อปรับความเข้าใจเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่หากพฤติกรรมเดิม ๆ ยังคงอยู่อาจจะถึงเวลาต้องถอยออกมา ให้โอกาสได้ แต่ไม่ใช่ปล่อยผ่านเสมอไป อย่าลืมว่าเราต้องรักษาใจตัวเองด้วยเช่นกัน การสังเกตสัญญาณ Red Flag ไม่ได้หมายความว่าเราคิดมากเกินไปแต่คือการใช้สัญชาตญาณและเหตุผลประกอบกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เราเจ็บซ้ำ ๆ และช่วยให้เราเลือกอยู่ความสัมพันธ์ที่ดีได้เช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย
หมายถึงพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณอันตรายในความสัมพันธ์ เช่น ขี้โมโหรุนแรง, ควบคุมทุกอย่าง, ขี้โกหก , ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น
คำสแลงที่ใช้บ่งบอกในความสัมพันธ์ Green Flag ธงเขียว คือสัญญาณบวก เช่น แฟนที่ซัพพอร์ตเรา ส่วน Red Flag ธงแดง คือสัญญาณลบ เช่นแฟนที่ทำร้ายจิตใจเรา
คือผู้ชายที่เคารพตัวตน รับฟัง ซื่อสัตย์ ให้เกียรติทุกคน ตัวอย่างเช่น เวลามีปัญหาไม่หนี แต่พร้อมแก้ไปด้วยกัน
ใช่ค่ะ ถ้า Red Flag เกิดบ่อย ๆ และสะสม จะกลายเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
ไม่เหมือน แต่ Gaslighting เป็นหนึ่งในพฤติกรรม Red Flag อย่างหนึ่งที่ทำให้เราสงสัยตัวเอง เช่น ทำให้เรารู้สึกว่า ตัวเองคิดมากไปเองหรือเปล่า
เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึก
- ไม่มีความสุข ทุกข์มากกว่าสุขในความสันพันธ์
- เมื่อความสัมพันธ์ส่งผลต่อสุขภาพจิตในทางที่ไม่ดี
- ไม่ปลอดภัยหรืออึดอัด เป็นตัวเองได้ไม่เต็มที่หรือไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันในความสัมพันธ์นั้น
- พยายามปรับตัวพูดคุยแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น
- ได้รับความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจเกินจะรับไหว
ไม่ต้องรอให้รู้สึกครบทุกข้อ หากมีเพียง 1 ข้อหรือมากกว่านั้น ก็เป็นสัญญาณให้คุณคิดทบทวนและสามารถเลือกออกจากความสัมพันธ์นั้นได้
มีหลายสาเหตุ เช่น
- เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทีละน้อย ไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นชัด
- ไม่ได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ดี หรือไม่ดี
- ไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้มองข้ามสัญชาตญาณของตนเองไป
- มีความลุ่มหลงในความรักเหนือสิ่งอื่นใด
- ยึดติดกับความสัมพันธ์เดิม ที่ตนเองเคยมีประสบการณ์
สรุป Red Flag คือสัญญาณเตือนให้เราเลือกตัวเอง

หากลองมองย้อนกลับไปในหลายความสัมพันธ์ที่พังลง ไม่ว่าจะเป็นการถูกละเลย ถูกควบคุม หรือการไม่เคารพในตัวตนของกันและกัน มักจะพบว่ามีสัญญาณ Red Flag ซ่อนอยู่ตั้งแต่แรก เพียงแค่เราอาจไม่กล้าเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง หรือเลือกที่จะมองข้ามไปเพราะความรักและความผูกพันที่มีอยู่ แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ที่ดีไม่ควรทำให้เราต้องเหนื่อยจนหมดแรงหรือเสียความเป็นตัวเองไปเรื่อย ๆ นะคะ
สิ่งสำคัญที่เราต้องบอกตัวเองเสมอๆ คือ ความรักไม่ใช่การอดทน อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายทั้งกายหรือใจ การพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมาอาจช่วยให้ทั้งคู่หันกลับมาเข้าใจกันได้ แต่หากอีกฝ่ายไม่พร้อมปรับเปลี่ยนอะไรเลย เราก็ควรกล้าที่จะเลือกเดินออกมาเช่นกัน เพราะการออกจากความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วย Red Flag คือการรักตัวเอง ทุกคนคู่ควรกับความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
อย่าลืมว่าการดูแล (ใจ) ตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเจอสัญญาณเตือน Red Flag แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ จงกล้า “ยกธงขาว” เพื่อเลือกตัวเอง เพราะการจบความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเจอความรักดี ๆ ความรักที่ไม่ต้องฝืน และเติบโตไปด้วยกันได้อย่างสบายใจ
ขอบคุณภาพประกอบ www.freepik.com
บทความแนะนำที่คล้ายกัน

Narcissism บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง ตัวเองที่หมายถึง me ไม่ใช่ you! | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/narcissism-202734

Highly Sensitive Person อ่อนไหวง่าย ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ! | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/what-is-a-highly-sensitive-person-201656

Nice Girl Syndrome โรคนางเอกเลิกได้เลิก ฮาวทูเลิกกลัวคนอื่นมองเราไม่ดี | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/nice-girl-syndrome-202933