ถึงแม้ว่าอากาศเมืองไทยจะแปรปรวน เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวฝุ่นหนา เดี๋ยวลมพัดแรงก็จริงแต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยหายไปไหนเลยก็คือ ‘แสงแดด’ ที่มาพร้อมกับ ‘รังสียูวี’ นี่แหละค่ะ แบบนี้สาวคนไหนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ Outdoor หรือนอกอาคารเป็นประจำ หรือแม้แต่อยู่กับหน้าจอ อยู่ในบ้านในออฟฟิศก็มักจะโดนทั้งแสงแดดและแสงยูวีเข้าเล่นงานจนผิวไหม้แดด ผิวหมองคล้ำหรือผิวคล้ำเสียเอาได้ง่ายๆ เลยล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองส่องกระจกดูผิวหน้าเช็กริ้วรอยฝ้ากระ หรือลองถกแขนเสื้อดูความสม่ำเสมอของสีผิวดูซิว่าเป็นสีผิวทูโทนกันรึเปล่า ?
แต่ถึงจะโดนปัญหาผิวหมองคล้ำเข้าเล่นงานก็ยังบำรุงให้ฟื้นคืนชีพได้ แค่อย่ามัวแต่ใจเย็นเป็นสายชิลล์ปล่อยผิวทิ้งไว้แบบนั้นนะ เพราะถ้าไม่รีบบำรุงผิวกันตั้งแต่เนิ่นๆ รู้ตัวอีกทีก็รักษายากแล้ว บทความนี้ซิสเลยจะพาสาวๆ มาส่อง ฮาวทูกู้ชีพ ‘ผิวคล้ำจากแดด’ ให้กลับมาขาวใสที่สามารถทำตามได้แบบง่ายและหลายคนมักจะลืมขั้นตอนเหล่านี้ไปแล้ว เคล็ดลับมันอยู่ที่การปรับพฤติกรรมเล็กๆ ที่ควรทำต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง ทำแล้วก็รอดูผลลัพธ์ได้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
แนะนำทริคกู้ผิวคล้ำเสีย ฟื้นผิวขาวใสให้คืนชีพ
ทริคกู้ผิวเหล่านี้นอกจากจะช่วยฟื้นคืนชีพผิวขาวใสได้แล้วยังเป็นการดูแลตัวเองใน details เล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงมากก็ทำให้เราดูดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากหาทางออกให้ผิว อยากได้ผิวขาวใสหรือผิวดั้งเดิมของตัวเองกลับคืนมา หรืออยู่ในช่วงอยากที่อยากเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง อยากดูดีขึ้น สวยขึ้น ก็ลองทำตามทริคเหล่านี้กันดูได้ ทำอย่างต่อเนื่องสักพักรับรองว่าเห็นผล
1. รู้ว่าผิวเสีย หมองคล้ำ ก็อย่าเพิ่งไปโดนแดดซ้ำอีก

สิ่งแรกที่เราอยากจะเตือนเอาไว้เลยก็คือคุณสาวๆ ต้องหัดเป็นคน‘ เจ็บแล้วจำ ’เหมือนคนอื่นเค้าบ้างนะก็พอรู้ตัวแล้วว่าผิวที่เคยสวยๆ ใสๆ ถูกทั้งเจ้าแสงแดดและรังสียูวีทำร้าย จนกลายเป็นผิวเสียที่ดูหมองคล้ำ แบบนี้สิ่งที่ควรทำก็คือการหลีกเลี่ยงแสงแดด เลี่ยงการตากแดดแรงๆ เป็นเวลานาน หรือเรียกง่ายๆ ว่าอย่าเพิ่งเอาผิวไปโดนแดดซ้ำ หรือแม้แต่แสงไฟในบ้านหรือแสงสีฟ้าจากหน้าจอก็ยังมี UV ที่ทำร้ายผิวซ้ำๆ ได้ เพราะว่าผิวที่เพิ่งผ่านการโดนทำร้ายมาจะกลายเป็นผิวที่อ่อนแอ บอบบาง และไวต่อแสงเอามากๆ ถ้ายิ่งไปตากแดดหรือเผชิญรังสี UV ซ้ำๆ ก็เป็นเหมือนการตอกย้ำให้ผิวยิ่งเสียได้ง่ายๆ เลยนะทางที่ดีในช่วงนี้ก็เก็บตัวให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการโดนแดดได้ก็จะเวิร์กสุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ลองลดการออกแดดช่วงเวลาแดดแรงประมาณ 10.00-16.00 น. และอย่าลืมพกหมวก พกร่วม พกเสื้อคลุมกันยูวีไปเป็นตัวช่วยปกป้องผิวอีกชั้นก็ยังดีนะคะ
2. โบกครีมกันแดดหนาๆ ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
ถ้าคิดจะสู้กับแสงแดดร้ายๆ งานนี้ก็ต้องพึ่งไอเทมเด็ดกันตายอย่าง ‘ ครีมกันแดด ’ เข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมเพราะว่าครีมกันแดดที่เราใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสุดๆ สำหรับการปกป้องและดูแลผิว โดยเฉพาะใครที่เพิ่งเจอกับปัญหาผิวหมองคล้ำหรือผิวเสียจากการโดนแดดแผดเผาก็ต้องขยันโบกครีมกันแดดหนาๆ ทั้งบริเวณผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขน ขา ฯลฯ ก็ต้องทาให้ทั่วตัวกันไปเลย วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้องก็คือจะต้องเลือกกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และ PA จึงจะช่วยปกป้องผิวแบบได้ประสิทธิภาพ ยิ่งมีค่าสูงก็ยิ่งปกป้องได้เข้มข้นยาวนาน เคล็ดลับที่หลายคนลืมให้ความสำคัญคือควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที และทำซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมงเพื่อให้กันแดดทำหน้าที่ปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. เลือกทานอาหารที่มีวิตามินสูง ฟื้นฟูผิวจากภายใน

ขอแสดงความยินดีกับสายกินด้วยค่ะ มาถึงข้อนี้อาจจะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับเธอเลย ซึ่งจะพูดแบบนั้นก็ไม่ติดนะเพราะการกินเก่งของเราก็สามารถฟื้นฟูดูแลผิวคล้ำเสียจากแดดให้กลับมาใสได้เหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งรีบพุ่งตัวเข้าร้านปิ้งย่าง ชาบู หรือบุฟเฟ่ต์ไปซะก่อนเพราะการกินที่ว่าคือต้องเลือกกินให้เป็น กินให้เหมือนการบำรุงร่างกายภายใน โดยเน้นหลักการที่ว่าเมื่อร่างกายและผิวแข็งแรงก็จะช่วยให้ทนทานต่อแดดและมลภาวะหรือการอักเสบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น การบำรุงผิวสวยใสจากภายในจึงควรเลือกทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ต่างๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ส้ม มะเขือเทศ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ฝรั่ง มะละกอ แอปเปิ้ล ที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่าง วิตามินซี ไลโคปีน เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณในการฟื้นฟูบำรุงให้ผิวพรรณให้แข็งแรงและทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใสได้อีกครั้ง
แต่ถ้าใครยังหนักใจไม่รู้จะไปหาวิตามินซีหรือแร่ธาตุเหล่านั้นที่เพียงพอให้ร่างกายได้จากไหนก็อย่าเพิ่งท้อไป เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมที่เรียกว่า "กันแดดกินได้" หรือวิตามินอาหารเสริมที่รวบรวมสารอาหารแร่ธาตุต่างๆ ที่ดีต่อผิวช่วยบำรุงผิวพรรณและร่างกายมาให้เป็นทางเลือกใหม่ๆ ด้วย ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 CEO and Founder ศูนย์ศัลยกรรมและความงาม Vital Glow : Skin & Aesthetic Centre และศูนย์ปลูกผม The PRIME Medical Center ให้คำแนะนำเรื่องกันแดดแบบกินไว้ว่า
" ข้อดีของกันแดดกินได้คือช่วยบำรุงเพิ่มความแข็งแรงของผิวจากภายในสู่ภายนอก ไม่ต้องเสียเวลาในการทาผิว และยังคงทนอยู่ได้นานกว่าการทากันแดดที่ต้องคอยทาซ้ำระหว่างวัน แต่ไม่ควรนำมากินในชีวิตประจำวัน เน้นย้ำว่าให้เป็นการกินแบบเสริม ไม่ต้องกินทุกวันเพราะอาจสะสมส่งผลกระทบต่อตับและไตที่ทำงานหนักเกินไปจนเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ จึงควรกินเท่าที่จำเป็น เช่น ทำกิจกรรมดำน้ำกลางแจ้งนานๆ และแนะนำให้ใช้ควบคู่กันไปกับครีมกันแดดแบบทาจะมีประสิทธิภาพสูงสุด"
ฉะนั้นสาวคนไหนถนัดกินผักผลไม้ได้วิตามินแร่ธาตุโดยตรงก็เลือกกินได้ตามสบาย แต่ใครอยากได้ตัวช่วยก็มองหาวิตามินตัวเสริมได้แค่อย่ากินทุกวันและควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานกันด้วยล่ะ
4. รอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อน แล้วค่อยสครับผิวไล่ความหมอง
สายบิวตี้จะขาดขั้นตอนขัดผิวสครับผิวไปไม่ได้ แต่การบำรุงผิวที่จะช่วยขับไล่ความหมองคล้ำและเรียกคืนผิวสวยกระจ่างใสได้ต้องรู้ว่าการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีแต่กลับกลายเป็นการรบกวนผิว แถมถ้าชาวซิสเพิ่งผ่านสมรภูมิการตากแดดมาหมาดๆ หรือตอนนี้ผิวยังมีอาการแสบร้อนอยู่ เราก็ยังไม่แนะนำให้คุณสาวๆ สครับขัดผิวกันตอนนี้แน่ๆ เพราะถ้าเราไปขัดๆ ถูๆ หรือทำความรุนแรงกับผิวในช่วงที่ผิวอ่อนแอก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหนักได้ ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆ ฉะนั้นในช่วง 2 สัปดาห์แรก ก็ควรจะบำรุงและดูแลผิวอย่างอ่อนโยนด้วยการทำความสะอาดผิวและทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ พอผิวเริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้งก็ค่อยทำการสครับผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปและเผยผิวใหม่ที่ขาวใสกว่าเดิม
5. ปลอบประโลมผิวไหม้แดดด้วยว่านหางจระเข้

รู้รึเปล่าคะว่าสมุนไพรไทยที่หลายๆ บ้านมีกันอย่างเจ้า‘ ว่านหางจระเข้ ’เนี่ย ถือเป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่ไม่ได้มีดีต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เป็นไอเทมเสริมความงามให้ผิวได้เหมือนกันนะ ก็เพราะว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณฟื้นฟู ปลอบประโลม และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ใครที่เพิ่งออกไปเผชิญกับแสงแดดจนทำให้ผิวแสบไหม้หรือมีปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดให้ลองพอกผิวด้วยว่านหางจระเข้กันดู เพียงแค่นำว่าหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วหั่นให้แหลกนิดๆ นำมามาส์กทั้งผิวหน้าและผิวตัวทิ้งไว้ 15 - 20 นาที หรืออาจใช้เจล Aloe vera ที่สกัดเป็นสกินแคร์มาให้แล้วก็สะดวกไปอีกแบบ ทำแบบนี้เป็นประจำก็จะช่วยทำให้ผิวคล้ำเสียที่หยาบกร้าน ค่อยๆ ชุ่มชื้น และกลับมาขาวใสเหมือนเดิมง่ายๆ เลยทีเดียว
6. แช่ตัวด้วยน้ำนม เพิ่มพลังผิวขาว เนียน นุ่ม

หนึ่งในความฟินระดับสิบของผู้หญิงเราก็คงจะเป็นตอนที่ได้นอนแช่ตัวชิลล์ๆ สบายๆ อยู่ในอ่างอาบน้ำนี่แหละค่ะแล้วซิสคนไหนกำลังมองหาวิธีแก้ผิวคล้ำเสียจากแดด เราก็อยากแนะนำให้ลองใช้ทริคนอนแช่น้ำนมโดยถ้าบ้านไหนที่มีความหรูแพงมีอ่างอาบน้ำอยู่ที่บ้าน ก็ให้เทนมสดลงไปในอ่างแล้วผสมกับน้ำเปล่า จนพอที่จะนอนแช่ตัวลงไปได้ แล้วนอนแช่ยาวๆ ประมาณ 20 - 30 นาที หรือใครที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ ก็อาจจะใช้วิธีนำผ้าขนหนูมาชุบน้ำนม แล้วทาๆ ถูๆ ให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้งเจ้ากรดแลกติกและโปรตีนที่อยู่ในน้ำนมจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเสียหรือเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป แถมยังช่วบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ขาวใสเหมือนน้ำนมเลยล่ะ
7. เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยโลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์
ถ้าอยากผิวสวยขั้นสุดงานนี้ต้องขยันบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์กันหน่อย นี่คือเคล็ดลับเล็กๆ ของผิวสวยกระจ่างใสเลยล่ะ ฉะนั้นห้ามหยุดทาโลชั่นเด็ดขาดเลยนะคะเพราะว่าคีย์สำคัญสำหรับการที่จะเป็นเจ้าของผิวสวยสุขภาพดีได้นั้น มันก็ต้องเริ่มต้นที่การมีผิวที่ชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ใครที่เพิ่งออกแดดแรงๆ มานานจนผิวเกิดอาการช็อคแถมยังดำคล้ำเสีย แห้งกร้าน ก็ต้องเติมสารอาหารให้ผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ หรือมีส่วนผสมอย่างวิตามินซีหรือวิตามินอีเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยก็จะยิ่งช่วยเพิ่มพลังให้ผิว ฟื้นบำรุงจากผิวที่เคยคล้ำเสียจากแสงแดดให้กลับมาชุ่มชื้นและกระจ่างใสได้แบบด่วนจี๋รวดเร็วทันใจเชียวล่ะที่สำคัญคือทาอย่างต่อเนื่อง ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เวลาทาโลชั่นก็ต้องทาตอนที่ผิวยังเปียกหมาดๆ หรือตอนหลังอาบน้ำไม่เกิน 5-10 นาทีแรกก็จะทำให้เนื้อโลชั่นและวิตามินสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เต็มที่กว่าเดิมอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย
แก้จากสาเหตุของผิวคล้ำเสียที่แก้ด้วยตัวเองได้ทันทีคือ
- หลบเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะ
- บำรุงผิวด้วยโลชั่นหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์
- ดื่มน้ำสะอาดช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง
- ออกกำลังกายช่วยร่างกายขับเหงื่อและช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานขับของเสียได้ดีขึ้น
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนน้อยทำให้ขาดสมดุลและส่งผลต่อการอักเสบของร่างกายรวมถึงผิวพรรณหมองคล้ำไม่สดใสได้
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกคือการเข้าสถาบันความงาม หากใครต้องการพึ่งพาคลินิกเสริมความงามอาจต้องมองหาการฉีดวิตามินที่ผิวหรือฉีดหัตถกรรมต่างๆ เช่น ฉีดหน้าใส ฉีดคอลลาเจน ฉีดรีจูรัน เป็นต้น
ทางที่ดีแนะนำให้ใช้วิธีที่สะดวกและควรทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างการหลบเลี่ยงแดด บำรุงผิวพรรณด้วยสกินแคร์และดูแลบำรุงร่างกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ย่อมเห็นผลและสร้างผิวสวยใสที่อยู่ได้ยาวนานที่สุด
ดูแลผิวจากทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง 7-14 วัน เช่น
ภายนอก
- สครับหรือขัดผิวด้วยสูตรธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก โยเกิร์ต นมสด
- ทาครีมกันแดดปกป้องผิวสม่ำเสมอ
- สวมเสื้อกันยูวี หมวก ร่มเพื่อปกป้องส่วนต่างๆ ของร่างกายจากรังสียูวี
ภายใน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ หรือกินวิตามินเสริมช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ลดการดื่มสังสรรค์ งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือพบปะปาร์ตี้กับวงสังคม เพราะเป็นแหล่งรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ มลภาวะ ที่เป็นพิษต่อผิว
ผิวที่ไวต่อแดดอาจเป็นลักษณะของผิวบอบบางแพ้ง่ายต่อแสงแดด หรืออยู่ในกลุ่มผิวไม่แข็งแรง ระคายเคืองง่าย จึงควรเลือกกินอาหารที่ช่วยเสริมการปกป้องผิวจากภายใน เช่น
- กลุ่มอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างผักผลไม้ที่มีสีแดง ส้ม เหลือง เช่น มะเขือเทศ มะละกอ ฟักทอง เพื่อช่วยต้านทานการถูกทำร้ายจากรังสี UV
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม กล้วย ช่วยซ่อมแซมและปกป้องผิว
- กลุ่มอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบ เช่น ชาเขียว ปลาทะเล ถั่ว ธัญพืช
ที่สำคัญคือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อสุขภาพมวลรวมที่แข็งแรงขึ้นและเป็นผลดีต่อการบำรุงผิวพรรณไปด้วยในตัว
ยาเม็ดกันแดดหรือที่นิยมเรียกกันว่า "วิตามินกันแดด" หรือเรียกกันในภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ว่า "กันแดดกินได้" มีกลไกทำงานแบบอาหารเสริมที่ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV จากภายในสู่ภายนอก โดยมักมีสารสกัดสำคัญ เช่น
- กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไลโคปีน เบต้าแคโณทีน วิตามินซี วิตามินอี สารสกัดชาเขียว
- กลุ่มสารที่ช่วยซ่อมแซมความเสียหายของเซลล์ ต้านการอักเสบ เช่น ไนอะซินาไมด์ (วิตามินบี 3), ซิงก์, โพลีฟีนอล, แอสต้าแซนธิน เป็นต้น
แต่ไม่แนะนำให้กินทุกวัน ควรกินในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องกินหรือกรณีที่ครีมกันแดดแบบทาไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้จริงๆ และควรใช้ควบคู่กับการทาครีมกันแดดไปด้วยกัน ไม่ควรเลือกกินวิตามินกันแดดเพียงอย่างเดียวเพราะในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของตับและไตได้
สรุป วิธีคืนผิวขาวใสให้กลับมาได้เร็วขึ้นอยู่กับการบำรุงดูแลอย่างต่อเนื่อง
ถ้ามีทริคเหล่านี้แล้วคราวนี้ไม่ว่าจะแสงแดดหรือแสงจากหน้าจอ ต่อให้มี UV ก็ทำอะไรผิวของเราไม่ได้มากแล้วล่ะ ( ´ ▽ ` )b อยากให้ทุกคนลองเอาไปปรับเป็นแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง ค่อยๆ ทำไปทีละข้อและทำทุกวัน จะช่วยเปลี่ยนผิวที่หมองคล้ำไม่กระจ่างใสไปจนถึงผิวไหม้แดดให้ผิวกลับมาแข็งแรงขาวกระจ่างใสได้ด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักผิวของตัวเองให้ดี ถ้ารู้ตัวว่าผิวของตัวเองกำลังอ่อนแอเพราะถูกทำร้ายหนักก็ต้องรีบฟื้นฟูดูแลผิวกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้สามารถฟื้นคืนชีพกลับมาสตรองได้อีกครั้ง ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการดูแลนานๆ โดยไม่จำเป็นเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ sanook.com, kapook.com
บทความแนะนำที่คล้ายกัน

เลือกให้ดีกันแดด Physical , Chemical และ Hybrid แบบไหนเหมาะกับผิว | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/94190

ครีมกันแดดกันน้ำ 2025 ยี่ห้อไหนดี? รีวิวครีมกันแดดทาหน้ากันน้ำ กันเหงื่อ ใช้ดีจริง | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/94807

เสื้อคลุมกันแดด 2025 รวมรุ่นแบรนด์ฮิต สู้แดด ท้าอากาศร้อน | บทความของ Pw | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/200570



