1. SistaCafe
  2. Body Dysmorphic โรคเห็นตัวเองไม่ตรงความเป็นจริง มีจริงไหม ?

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอเหตุการณ์ที่บ่นว่า "อ้วนอะ" แล้วคนรอบข้างก็จะสวนกลับมาทันทีว่า "โอ๊ย หุ่นดีจะตาย อ้วนตรงไหน" แต่เรารู้สึกว่าตัวเองอ้วนจริง ๆ กันใช่ไหมคะ จะบอกว่าอาการแบบนี้ถ้านาน ๆ ทีเป็นหรือไม่ได้เป็นจนเครียดเกินไปมันก็ไม่ถือว่าอันตราย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเก็บมาคิดจนเครียด หมกมุ่นจนเกิดความรู้สึก "ไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเอง" แสดงว่าเราอาจจะเข้าข่ายโรค Body Dysmorphic หรือโรคไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเองก็เป็นได้ แล้วเจ้าโรคนี้มันคืออะไร มีอาการแบบไหน รักษายังไง เราหลีกเลี่ยงได้ไหม มาหาคำตอบกันต่อด้านล่างนี้กันเลยค่ะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


Body Dysmorphicคืออะไร ?

Body Dysmorphic Disorder (BDD) คือ โรคไม่ชอบรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากเกินไปจนส่งผลกระทบในชีวิตประจำวัน โดยโรคนี้จัดอยู่ในอาการทางจิตเวชกลุ่มโรคย้ำคิดย้ำทำ จะมีอาการคิดและพูดเชิงลบเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาวน ๆ ซ้ำ ๆ มีความไม่พอใจในรูปร่างหน้าของตัวเอง เปรียบเทียบรูปร่างหน้าตาของตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่ว่าเฉลี่ยแล้วประมาณ 3 - 8 ชั่วโมง/วัน มองเผิน ๆ อาจจะดูคล้าย "โรคคลั่งผอม" แต่โรคไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเองแตกต่างกันตรงที่จะส่งผลกระทบในด้านจิตใจมากกว่า ส่วนโรคคลั่งผอมมักจะส่งผลกับร่างกายมากกว่า เช่น รับประทานอาหารน้อยเกินไป ออกกำลังกายมากจนเกินไป เป็นต้น


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


อาการของโรค Body Dysmorphic เป็นยังไง เราเข้าข่ายไหม ?

อ่านไปอ่านมาบางคนอาจจะรู้สึกกังวลว่าเราเข้าข่ายอาการของโรคนี้ไหมนะ งั้นลองมาเช็กลิสต์อาการกันตามข้อด้านล่างนี้เลยค่ะ

  • คิดหมกมุ่นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาทั้งวัน ตลอดเวลาจนไม่ทำอะไร
  • ส่องกระจกบ่อยหรือส่องตลอดเวลา
  • ถามคนรอบข้างซ้ำ ๆ เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
  • น้อยใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
  • เครียด นอนไม่หลับเพราะกังวลเรื่องรูปร่างหน้าตา
  • ไม่อยากออกไปพบเจอผู้คน
  • ทำศัลยกรรมบ่อยจนเข้าขั้นเสพติด

ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้หรือคนรอบข้างมีคนมีพฤติกรรมแบบนี้ก็อาจจะเป็นโรค Body Dysmorphic ได้นะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


โรคBody Dysmorphic ต้องรักษายังไง ?

วิธีการรักษาโรคไม่ชอบรูปร่างตัวเองหรือ BDD ก็ขึ้นอยู่กับอาการนะคะ โดยเราจะขอแบ่งเป็น 2 แบบค่ะ

  • หากมีอาการที่ไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ถึงขั้นหมกมุ่นจนใช้ชีวิตไม่ได้ อาจจะต้องเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ทำจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่เอาคำพูดและความคิดเชิงลบมาบั่นทอนจนกังวลมากเกินไป เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ๆ ก็จะทำให้อาการไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเองค่อย ๆ หายไป
  • แต่หากอาการไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเองส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน ทำงานไม่ได้ ไปเรียนไม่ได้ก็จะต้องได้รับการบำบัดโดยจิตแพทย์นะคะ เพื่อให้สภาพจิตใจกลับมามั่นคงมากขึ้น ถ้าไม่เข้ารับการรักษาก็อาจจะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า หรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายได้เลย

ดังนั้นคอยหมั่นสังเกตตัวเองและคนรอบข้างกันด้วยนะคะ ว่ามีอาการเหมือนเช็กลิสต์ด้านบนบ้างไหม ถ้าเข้าข่ายก็ขอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าการไปหาจิตแพทย์เป็นเรื่องที่แปลกน้า การรู้อาการตัวเองไวและรักษาไว รักษาถูกวิธีเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ อาจจะทำให้เรารักษาอาการนี้หายได้ไวมากขึ้นเพราะอาการยังไม่รุนแรงมากก็ได้นะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรค Body Dysmorphic ไหม ?

สำหรับใครที่ไม่เข้าข่ายแต่ก็ไม่อยากมีอาการแบบนี้หรือเสี่ยงเป็นโรคนี้ ก็ขอแนะนำให้ป้องกันตามนี้เลยค่า

  • เสพ Social Media ให้น้อยลง จะลดการเจอสิ่งเร้า เช่น คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย, อินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ ที่กระตุ้นให้เกิดการคิดลบกับตัวเอง
  • ทำจิตใจให้ตัวเองให้มั่นคง ไม่อ่อนไหวต่อคำพูดเชิงลบที่บั่นทอนจิตใจ
  • มองเห็นคุณค่าและข้อดีของตัวเองให้มากขึ้น พอใจและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
  • เริ่มที่ตัวเอง ไม่พูดจาเชิงลบกับใครเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางในการเสริมสร้างความมั่นใจให้คนรอบตัว
  • ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
  • ออกไปทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ออกกำลังกาย ไปคอนเสิร์ต ไปเที่ยว ฯลฯ จะช่วยทำให้จิตใจเลิกกังวลและโฟกัสกับเรื่องรูปร่างหน้าตาตัวเองน้อยลง
  • หากมีคนรอบตัวมีอาการแบบนี้บ้างเป็นบางครั้ง พยายามชื่นชมและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเขาเยอะ ๆ เพื่อจะทำให้เขาเสี่ยงโรค Body Dysmorphic น้อยลง

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ได้รู้จักและเข้าใจโรค Body Dysmorphic หรือโรคไม่ชอบร่างกายตัวเองมากขึ้นกันแล้ว ใครที่เข้าข่ายก็ขอแนะนำว่าให้ลองเปิดใจไปพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดน้า สภาพจิตใจของเราจะได้กลับมามั่นคงมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่ได้เข้าข่ายแต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้บ้างบางครั้ง ก็พยายามป้องกัน/หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เราบอกกันด้วยนะเออ สุดท้ายนี้อยากจะฝากทุกคนไว้ว่าเราอยากมีรูปร่างแบบไหนหรือรูปร่างปัจจุบันจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่มีแบบไหนที่ผิดหรือถูกนะคะ มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ อย่ามัวแต่คิดถึงรูปร่างของคนอื่น คำพูดแย่ ๆ จากคนอื่นแล้วเอามาตัดสินรูปร่างตัวเอง นอกจากนี้ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่ จะพ่อแม่หรือพี่ป้าน้าอาก็พยายามลด ละ เลิกการพูดจาเชิงลบเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของลูกหลานด้วยนะคะ ลูกหลานของเราจะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคนี้ เน้นไปเสริมสร้างความมั่นใจใด้วยการชมเขาบ่อย ๆ ดีกว่า ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของเราแล้ว ต้องลาชาวซิสและนักอ่านทุกคนไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย :-D

ป.ล. ใครอยากฟังคลิปเกี่ยวกับโรค Body Dysmorphic ก็แนะนำคลิปคุณยิปซีที่คุณเขื่อนสัมภาษณ์ไว้ได้เลยน้า


ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบบทความจาก Official Music Video เพลง Allergy จาก i-dle รวมทั้งข้อมูลจากเว็บไซต์ rama.mahidol.ac.th และรายการอาการน่าเป็นห่วง EP.88


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1