คุณเคยรู้สึกว่าคนข้างๆ เหมือนหน่ายใจกับคุณมั้ย?

คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายรึเปล่า?

คุณเคยมีความรู้สึกว่าทำให้คนที่อยู่ข้างๆ รับมือยากบ้างรึเปล่า​?


ถ้าคุณเคยรู้สึกแบบนี้ ไม่แน่ว่า คุณอาจจะแอบเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวน ( Personality Disorder )ซึ่งไม่ถึงกับเป็นโรคจิต แต่ก็ควรได้รับการบำบัดเช่นกัน ใครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นโรคนี้รึเปล่า มาลองดูว่านิสัยทั้ง 7 ข้อนี้ ตรงกับคุณบ้างมั้ย เพราะถ้ามีอยู่ ก็เป็นไปได้ว่า คุณก็เป็นโรคนี้เช่นกันนะ !


7 นิสัย ที่บอกว่า คุณอาจเป็น “ โรคบุคลิกภาพแปรปรวน”


1. หวั่นไหวกับทุกอย่างได้เวอร์สุดๆ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/97/5d/f7/975df7f0e291a101e3eed23d79de7f52.jpg

คนเราย่อมมีวันที่ดีและวันที่แย่ จนทำให้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ซึ่งก็ต้องมีการแสดงอาการกันบ้างแหละ แต่มันก็จะมี

ความต่างนิดหนึ่งระหว่างการแสดงออกทางอารมณ์ที่สมเหตุสมผล กับการแสดงออกด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์นั้นๆ เลยซักนิด


อาการที่ประหลาดแบบเห็นได้ชัดคือการรีแอคจนโอเวอร์ เจอเรื่องเศร้าที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองก็ร้องไห้โฮ ดีใจก็ดีใจเต็มที่แบบไม่ได้จงใจแกล้งให้ขำก็เป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างคิดได้ว่าเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนซึ่งโดยปกติคนที่เป็นโรคนี้เขาจะไม่เข้าใจหรอกว่าที่ตัวเองทำอยู่มันค่อนข้างเวอร์ แต่คนข้างๆ จะรู้สึกได้ว่าไม่ปกติ


2. ติดแฟนมาก & อยากพึ่งคนอื่นตลอดเวลา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7e/65/04/7e65049104c8dc9cae720afb01585683.jpg

คนเรามักจะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว และมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รู้สึกว่าอยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้เลย ต้องเกาะติดใครซักคน ถ้ามีแฟนก็ติดแฟนมากแบบนี้ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่พฤติกรรมที่ปกติเท่าไหร่เพราะคุณอาจเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบที่ต้องอาศัยผู้อื่นในการดำเนินชีวิต

นอกจากนี้ก็ยังมีอาการอื่นๆ ร่วสมด้วย อย่างเช่นเมื่อถูกปฏิเสธก็จะรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ไม่ค่อยอยากรับผิดชอบหน้าที่สำคัญ และกลัวการถูกทิ้งถ้าคุณหรือคนข้างตัวเป็นแบบนี้ ควรจะปรึกษานักบำบัดนะคะ


3. อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/97/ac/cf/97accf9c62fc55cc7564c61f75b3082c.jpg

จริงๆ แล้วในวันหนึ่ง เราสามารถเปลี่ยนอารมณ์ในแต่ละวันได้หลากหลายมาก โดยเฉพาะถ้าหากว่าคุณมีความเครียดร่วมด้วย นอนน้อย หรือเป็นวันนั้นของเดือนก็ไม่แปลกที่ในแต่ละวันเราจะมีหลากหลายอารมณ์เหลือเกิน ซึ่งนั่นก็ถือว่าโอเคอ้ะ

แต่ถ้าหากอาการอารมณ์เปลี่ยนนั้นมาเป็นแบบแพทเทิร์น จนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในประจำวัน นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรค BPDหรืออาการบุคลิกผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง ซึ่งจะมีอาการไม่สามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเองได้ คล้ายๆ อาการไบโพลาร์ จุดเด่นของอาการคือมีอารมณ์ที่ต่างกันแบบไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่ใช่แค่อารมณ์และความรู้สึก แต่จะดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย


4. ไม่ไว้ใจคนอื่นมากๆ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/85/30/c3/8530c3701fad151732e4ffb408f94a1e.jpg

การไว้ใจกันและกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดี แต่ถ้าไว้ใจมาก บางทีปัญหาก็จะตกมาอยู่ที่เราซะเองเพราะงั้นการไม่ไว้วางใจคนอื่นในบางครั้ง ก็เป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่เราไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น

ในคนที่มีโอกาสเป็นโรคบุคลิกแปรปรวนก็ถือเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากว่าคนที่เข้าข่ายโรคนี้ จะมีระดับการไม่ไว้ใจคนอื่นสูงมาก ถ้าได้รับมอบหมายงานก็จะสุมไว้ที่ตัวเองคนเดียวเพราะไม่แน่ใจว่าถ้ามอบหมายให้คนอื่นไปจะทำได้ดีรึเปล่านอกจากนี้ก็ยังสงสัยเพื่อนว่า เป็นเพื่อนที่ภักดีต่อเรามั้ย ไว้ใจได้รึเปล่า แถมยังชอบจับผิดคนอีกต่างหาก อาห์…


5. เรียกร้องความสนใจตลอด 24 ชั่วโมง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/73/2a/32/732a3204899438837b62877b789a0154.jpg

จากหัวข้อก็สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดโดยปกติแล้วคนเราก็อยากให้มีคนสนใจตัวเองก็จริงอ้ะ เพราะถ้าทำให้คนสนใจได้ ก็จะทำให้ความมั่นใจของเรามีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับคนที่เป็นบุคลิกภาพแปรปรวน ประเภท HPD หรือฮิสทีเรียที่เราเคยได้ยินกัน

คนที่เป็นโรคนี้มักจะต้องการความสนใจมากเป็นพิเศษ ถึงขั้นเรียกได้ว่าหิวกระหายเลยดีกว่าซึ่งถ้ามีโอกาสปุ๊บ ก็จะเรียกร้องความสนใจทันทีแบบไม่มีที่มาที่ไปนอกจากนี้พวกเขาก็ยังเชื่อมั่นอย่างมากว่าเขาสนิทกับทุกๆ คน ทั้งๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยซักนิดเดียว


6. มีความคิดต่างกันแบบสุดขั้ว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/43/ee/ee/43eeee5850d70475475bf35884588744.jpg

ความคิดของคนปกติ ก็ควรจะมี 2 ด้านอยู่แล้ว เพื่อนำมาพินิจพิเคราะห์ และตัดสินใจได้เหมาะสมที่สุดแต่ถ้าพูดถึงเรื่องโรค แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา ความคิดอะไรที่มันสุดๆ จนเกินไป ไม่มีสีเทา มีแต่ ‘ ขาว ’ กับ ‘ ดำ ’ เท่านั้น

ในคนที่บุคลิกผิดปกติ ในหัวของเขาจะไม่มีคำว่า ‘ ถ้าลองผสมผสานกันดูก็น่าจะดีนะ ’เพราะสิ่งที่เขาคิดนั้นมีแค่ ‘ ดีทั้งหมด ’ กับ ‘ ไม่ดีทั้งหมด ’ เท่านั้นและความคิดที่สุดโต่งแบบนี้ ก็ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนอื่นมากๆโดยเฉพาะถ้าใครเผลอแต่งงานด้วย ได้เข็ดหลาบแน่นอน


7. ชอบให้ทุกอย่างต้องเป๊ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d2/34/4a/d2344af9a674131dc17b5c48ecfc577f.jpg

ถ้าคุณชอบให้ที่พักของคุณสะอาด หรือชอบที่โต๊ะเราจัดได้ดูดีเป็นระเบียบเรียบร้อย นั่นก็เป็นเรื่องที่โอเคดี เพราะใครๆ ก็ชอบ อยู่ในที่ที่เป็นระเบียบสะอาดตา ยังไงก็สบายใจ แต่ถ้าใครมีความต้องการในระดับที่มากกว่านั้น จนเริ่มส่งผลต่อการใช้ชีวิตก็คงไม่ใช่เรื่องปกติแล้วล่ะ

ถ้าคุณเอะอะก็ล้างมือ ล้างแล้วล้างอีก เช็ดโต๊ะแล้วก็เช็ดอีก จัดเสื้อตัวเองตลอดทั้งวัน หรืออะไรก็ตามให้มันเป๊ะแบบสุดๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคย้ำคิดย้ำทำซึ่งถ้าไม่รีบรักษา ต่อไปคุณอาจจะถึงขั้นเปิดปิดประตูซ้ำๆ แบบไม่มีเหตุผลและแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตเราแบบมหาศาลเลยทีเดียว

ในแต่ละบุคลิกนั้น มีสัญญาณบางอย่างซ่อนอยู่ ข้อสังเกตคือ

ความเยอะแบบผิดปกติ สุดโต่ง จนส่งผลต่อการใช้ชีวิต ถ้าคุณและคนข้างตัวเป็นแบบนี้ ให้ติดต่อแพทย์เพื่อทำการรักษา

อย่าไปอาย

เพราะสิ่งที่เราทำไปนั้นคือ

การรักษาเพื่อตัวเองและคนรอบข้าง ให้สามารถอยู่ด้วยกันได้แบบปกติ ไม่มีใครต้องลำบากใจ