สวัสดีค่าคุณแม่และว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย แล้วก็สวัสดีชาวซิสทุกคนด้วยค่า~เดือนนี้เป็นเดือนของวันแม่นะคะ เราก็เลยอยากจะมาคุยกันในเรื่องของแม่ คือแม่เรากับเราก็อายุห่างกันพอสมควร ความคิดความอ่านหรือการใช้ชีวิตของเรากับแม่ก็ไม่เหมือนกันจึงมีบ่อยครั้งที่เราทะเลาะกับแม่หรือแม่ไม่เข้าใจเราเลย ทุกคนน่าจะเคยเจอปัญหาพวกนี้กันมาบ้างใช่ไหมละคะ บทความนี้เราก็เลยขอรวบรวม7 พฤติกรรมคุณแม่ยุคใหม่ที่ควรปรับเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้นมาฝากกันค่า ถ้าอยากจะรู้แล้วว่ามีอะไรบ้างก็มาอ่านกันเลยค่ะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


คุณแม่ยุคใหม่ 7 พฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน เพื่อให้เข้าใจลูกมากขึ้น


คุณแม่ยุคใหม่ ควร ฟังให้เป็น

รูปภาพ:https://photos.hancinema.net/photos/fullsizephoto1241026.jpg

คุณแม่ต้องยอมรับก่อนนะคะว่าบ่อยครั้งเรามักจะไม่ค่อยฟังเหตุผลลูกเพราะว่าคิดว่าความคิดของลูกมันไม่ถูกต้อง มันไม่โอเคก็เลยเลือกที่จะพูดและสั่งให้ทำตามใจตัวเองแทน สิ่งนี้เป็นปัญหามากนะคะเพราะว่าเด็กจะรู้สึกว่าต่อไปนี้มีอะไรเขาจะไม่บอกแม่แล้วแล้วเขาก็อาจจะไปทำสิ่งไม่ดีลับหลังคุณแม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือรับฟังเขาให้มากขึ้นค่ะ เขาพูดอะไรเราต้องฟังก่อน อาจจะไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยยังไงก็ฟังให้จบ เมื่อฟังจบแล้วค่อยพูดหรือบอกความคิดเห็นออกไป อย่าแทรกขึ้นมาว่ามันไม่ดีทั้ง ๆ ที่ลูกยังอธิบายไม่จบนะคะ จำไว้ว่าฟังให้มากขึ้นนะคะ :-D


คุณแม่ยุคใหม่ควรใช้เหตุผลนำอารมณ์

รูปภาพ:https://media.matamata.com/thumbs/2021/07/15/10908-the-penthouse-3-instagramatsbsdramaofficial/745x489-img-10908-the-penthouse-3-instagramatsbsdramaofficial.jpg

บ่อยครั้งเลยค่ะที่เราจะเห็น

คุณแม่บางคนมีน้ำโหโกรธลูกเมื่อลูกทำผิดหรือทำพลาด ใช้อารมณ์ในการจัดการปัญหา

บางบ้านก็ใช้การทำร้ายร่างกาย บางคนก็ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ ซึ่งมันไม่มีสิ่งไหนดีและสมควรทำสักอย่างนะคะ ไม่ว่าลูกจะผิดหรือทำไม่ดีในเรื่องอะไร อยากให้คุณแม่ทำแบบข้อแรกคือฟังเขาพูดก่อน หลังจากนั้นสงบสติ สงบจิตใจให้ใจเย็นลง เมื่อใจเย็นลงแล้วก็คิดตามสิ่งที่ลูกพูดนะคะว่ามันเป็นยังไงถ้ามันดีหรือไม่ดีก็ต้องให้เหตุผลเขาไปว่ามันไม่ดีแบบนี้นะ มันโอเคแล้วอย่างนั้นนะ ถ้าจะทำโทษก็อย่าใช้ความรุนแรงอาจจะใช้วิธีอื่น ๆ เช่น หักค่าขนมนิดหน่อยหรือให้ช่วยทำความสะอาดบ้านอะไรแบบนี้ก็ได้นะคะ เด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องโตมากับการใช้กำลังให้เจ็บตัวนะคะ ♥


คุณแม่ยุคใหม่ต้องเข้าใจ ว่ายุคเรากับลูกต่างกัน

รูปภาพ:https://media.matamata.com/thumbs/2022/01/14/14435-drama-korea-tentang-single-mother-hancinema/745x489-img-14435-drama-korea-tentang-single-mother-hancinema.jpg

ต้องบอกเลยว่าคุณแม่หลายคนมาก ๆ นะคะที่ชอบอ้างยุคสมัยว่าสมัยแม่นะแม่ทำแบบนั้นแบบนี้ สมัยนี้นะบลา ๆซึ่งกับบางเรื่องมันอาจจะไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ แต่บางเรื่องความคิดในยุคสมัยก่อนมันก็ไม่ได้ถูกต้องหรือสมควรทำแล้ว เช่น สมัยก่อนเมื่อลูกทำผิดต้องตีให้จำ แต่สมัยนี้การตีเป็นอะไรที่คนแบนกันเยอะมากนะคะ เขามองว่าเราทำโทษเด็กได้หลายวิธีมาก ๆ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ความรุนแรง เป็นต้น ดังนั้นอย่าใช้เลนส์มุมมองความคิดในสมัยของคุณแม่มองสมัยของลูกนะคะ เดี๋ยวนี้โลกมันพัฒนาไปไกลมาก ๆ แล้ว ความคิดหรือความเชื่อเก่า ๆ บางอย่างมันก็พิสูจน์ได้ว่ามันไม่ดี คุณแม่ก็ลองฟังเหตุผลลูก ๆ แล้วคิดตามดูนะคะ บางทีอาจจะได้มุมมองใหม่ ๆ ก็ได้น้า


คุณแม่ยุคใหม่ไม่เปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกคนอื่น

รูปภาพ:https://cdn.i-scmp.com/sites/default/files/styles/1200x800/public/d8/images/methode/2021/01/06/efafef1a-4fe2-11eb-ad83-255e1243236c_1320x770_181536.jpg?itok=nX9nMoNg&v=1609928147

สิ่งที่เด็ก ๆ หรือลูก ๆ หลายบ้านเห็นตรงกันมาก ๆ ว่าคุณแม่ได้โปรดเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ด่วน ๆ นั่นคือการเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกบ้านคนอื่นเลยค่ะ เราเข้าใจคุณแม่นะคะว่าอาจจะคาดหวังให้ลูกเป็นแบบนั้น ทำอย่างนี้ คิดแบบนี้เลยต้องเอ่ยยกตัวอย่างใครสักคนขึ้นมาว่าทำไมลูกไม่เป็นแบบเขาบ้าง ไม่เป็นแบบที่แม่คาดหวังจะให้เป็นบ้าง แต่คุณแม่รู้ไหมคะว่าการโดนคาดหวังมันรู้สึกแย่มากนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำให้คุณแม่นะคะสิ่งที่คุณแม่ขอ แต่เขาอาจจะพยายามแล้วหรือเขาอาจจะไม่ชอบมันเลยก็ได้เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ การแก้ไขปัญหานี้คือรับฟังลูกค่ะว่าเขารู้สึกยังไง แล้วก็อย่าไปคาดหวังอย่าไปคิดว่าลูกคนอื่นดีกว่าลูกเรายังไง คิดแค่ว่าทำยังไงให้ลูกมีความสุข อยู่กับเราแล้วสบายใจที่สุดจะดีกว่าเพราะเขาคือสิ่งสำคัญที่สุดใช่ไหมละคะ ถ้าไม่อยากเห็นเขาเสียใจหรือต้องมาทะเลาะกันก็ปล่อยวางดีกว่านะคะ :-)


คุณแม่ยุคใหม่ควรรู้ เรื่องในบ้านอย่าเล่าให้ใครฟัง

รูปภาพ:https://photos.hancinema.net/photos/fullsizephoto1032135.jpg

เข้าใจคุณแม่สายเมาท์มอยมากนะคะ มีอะไรก็ชอบเล่าไปซะหมด แต่เรื่องบางเรื่องที่ลูกตั้งใจมาเล่าให้ฟังเขาก็ไม่อยากจะให้แม่ไปเล่าให้ใครฟังมั่ว ๆนะคะ ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหรือเรื่องของลูกให้คนอื่นฟัง คนอื่นไม่ใช่แค่คนนอกบ้านนะคะ คนในบ้านก็นับเหมือนกัน เพราะถ้าเขาสะดวกใจจะบอกคนในบ้านเขาจะไม่มาคุยกับคุณแม่เป็นการส่วนตัวหรอกนะคะ รู้แบบนี้แล้วคุณแม่ก็เล่าหรือเมาท์แค่บางเรื่องก็พอนะคะเรื่องไหนที่ไม่สมควรเล่าหรือลูกมาปรึกษาแบบลับ ๆ ก็ไม่ต้องเอามาพูดจะดีกว่าน้า


คุณแม่ยุคใหม่อย่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูก

รูปภาพ:https://images.summitmedia-digital.com/cosmo/images/2020/11/15/seo-dal-mi-halmeoni-1605408696.jpg

ว่าก็ว่านะคะสิ่งนี้คนเป็นแม่หลาย ๆ คนไม่เข้าใจเท่าไหร่ ยกตัวอย่างที่เป็นปัญหาบ่อย ๆ เลยคือการเปิดประตูห้องนอนเข้ามาแบบไม่ขออนุญาต โดยปกติเวลาเราจะเข้าห้องใครเราก็ควรขออนุญาตไม่พรวดพราดเข้ามาถ้าไม่มีอะไรสำคัญ แล้วอีกอย่างคือถ้าลูกไม่อยู่ ถ้าไม่ได้มาทำความสะอาดอยากขอคุณแม่เลยนะคะว่าอย่ารื้อค้นอะไรของลูก ในเมื่อลูกไม่เคยมาค้นของแม่ แม่ก็อย่าค้นของลูกจะดีกว่านะคะของบางอย่างมันก็สงวนไว้รู้แค่ตัวเราเองก็พออ้อ! อีกสิ่งที่อยากขอร้องคุณแม่ทุกคนที่มีความคิดจะติดกล้องวงจรปิดในห้องลูกว่าอย่าเป็นอันขาดนะคะเด็กจะรู้สึกระแวงและกลัวการกระทำทุกอย่างไปหมด ดังนั้นห่วงเขาก็เอาแค่พอดีนะคะ


คุณแม่ยุคใหม่อย่าล้อเลียน หรือเมคฟันในสิ่งที่ลูกเป็นทุกข์

รูปภาพ:https://3.bp.blogspot.com/-G_lZqdtrdaw/XF7GZZS1PcI/AAAAAAAAJY4/L2H-eY3KxMEQr4qiCR8Ea4_Jx-nndbxbwCLcBGAs/s1600/Sky%2BCastle%2B13.png

การล้อเลียนหรือหยิบเรื่องทุกข์ ปมด้อยของลูกมาพูดให้มันตลกทั้ง ๆ ที่คนโดนไม่ตลกด้วยสิ่งนี้ไม่ควรทำมาก ๆ เลยนะคะ ขนาดคนสนิทกันยังรู้สึกแย่ ถ้าเป็นคุณแม่ทำลูก ๆ จะรู้สึกแย่ขนาดไหนจริงไหมคะ? แซวเล่นก็แซวได้ค่ะแต่ต้องรู้ว่าอะไรควรแซวอะไรไม่ควรแซว อย่างเรื่องอ้วน/ผอม เป็นสิว ผิวคล้ำ ตาตี่ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับร่างกายนี่ไม่ควรเอามาขำขันเลยนะคะ เพราะลูก ๆ อาจจะรู้สึกเสียเซลฟ์ หรือรู้สึกแย่ก็ได้ว่าสิ่งที่เขาเป็นมันแย่มากเลยเหรอ แล้วอีกอย่างคือเด็ก ๆ ความรู้สึกไม่เท่ากันนะคะ เด็กบางคนอาจจะไม่แคร์แต่บางคนเสียใจร้องไห้ถึงกับอยากทำร้ายตัวเองก็มีอย่าลืมว่าคำพูดเป็นดาบสองคมนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ครบทั้ง 7 ข้อแล้วนะคะ บอกเลยว่ารวบรวมจากการเห็น การเจอด้วยตัวเองและอ่านความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตบ่อย ๆก็เลยขอรวบรวมมาบอกคุณแม่ยุคใหม่หรือว่าที่คุณแม่ที่จะเลี้ยงลูกในอนาคตว่าถ้าทำพฤติกรรมแบบที่เราแนะนำยังไงลูกก็สบายใจนะคะ และเมื่อเขาสบายใจ มีอะไรเขาก็จะมาเล่าและมาบอกให้ฟัง จะไม่มีปัญหาเรื่องลูกแอบไปทำอะไรลับหลังเลยด้วยคุณแม่รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมลองสำรวจตัวเอง และปรับเปลี่ยนเพื่อให้ลูก ๆ มีความสุขเวลาอยู่กับคุณแม่ไม่ต้องมานั่งเกร็งหรือไม่อยากคุยด้วย เป็นแบบนั้นบรรยากาศไม่โอเคเลยเนอะ ยังไงก็ขอให้คุณแม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำเร็จนะคะ ส่วนถ้าใครเป็นคุณลูกที่แวะมาอ่านอยากจะแชร์ไปบอกคุณแม่ก็แชร์ได้นะคะ ยินดีมาก ๆ เลย ส่วนตอนนี้เราขอตัวลาไปก่อน สุขสันต์วันแม่นะคะทุกคน ♥


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

https://sistacafe.com/summaries/95423

https://sistacafe.com/summaries/91625

https://sistacafe.com/summaries/91652

https://sistacafe.com/summaries/91615

https://sistacafe.com/summaries/96138