ถึงตาเราแล้ว คราวนี้จะจัดให้หนักเลยคอยดู!!
ใจเย็นค่ะสาวๆ ไม่ใช่ว่าSistaCafeจะพาไปรบทัพจับศึกกับใครที่ไหนค่ะ แต่ที่ว่าถึงตาของเราแล้วก็คือ" ดวงตา " ของเรานี่ล่ะค่ะ! แหมมม ก็ดวงตาของเราใครเขาก็ว่ามันเป็นหน้าต่างของหัวใจ คนจะรักจะเกลียดบางทีแค่มองตากันก็รู้แล้วใช่มั้ยล่ะคะ โดยเฉพาะสาวๆ อย่างเราๆ เอง ดวงตาก็ไม่ใช่แค่หน้าต่างของหัวใจค่ะ แต่เป็นหน้าต่างของใบหน้าด้วย!
ใช่แล้วล่ะ เราเข้าใจพวกเธอสุดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นตาปรือ ตาหลบใน ตาตี่ กรีดอายไลเนอร์จนจะถึงคิ้ว พอลืมตาปุ๊บ.. หายไปหมดเลย!! ตายๆๆๆ แบบนี้เมื่อไหร่ตาจะสวยปังกับเค้าซะทีล่ะจ๊ะ
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมถึงฝีมือคุณหมอที่ทำให้สาวๆ ไม่ต้องกุมขมับกับปัญหาความงามรอบดวงตาอีกต่อไป เพราะแค่เดินเข้าคลินิกแบบเก๋ๆ ก็สามารถมีดวงตาสวยๆ เป็นของตัวเองได้แล้วล่ะค่ะ
และวันนี้SistaCafeก็จะพาสาวๆ ไปรู้จักคุณหมอที่น่ารักมากท่านหนึ่งซึ่งท่านเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางประจำที่จาเรมคลินิก ( Jarem Clinic )นั่นก็คือแพทย์หญิงณัฎฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล หรือคุณหมอยุ้ยนั่นเองค่ะ
จริงๆ แล้วที่จาเรมคลินิกเองก็มีบริการหลายอย่างนะคะ แต่จะเน้นไปที่ศัลยกรรมมากกว่า มีทั้ง หน้าอก ตา จมูก คาง ปาก โดยคุณหมอยุ้ยจะมีความเชี่ยวชาญทางด้านตาเป็นพิเศษค่ะ
ติดตามวิดีโอสัมภาษณ์คุณหมอยุ้ยแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย!
- โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ใกล้ตัวกว่าที่คิด! จริงหรือ? -
เวลาได้ยินคำว่า " กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง " ทีไร ซิสนี่แทบเข่าอ่อนทุกทีเลยค่ะ TT^TT ก็แหม.. ได้ยินชื่อทีไรก็ใจแป้วไปซะทุกครั้งนี่นา ไหนจะกล้ามเนื้อตา ไหนจะอ่อนแรง แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณหมอยุ้ย ก็เลยได้รู้ว่าจริงๆ แล้วโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนี่มีโอกาสเป็นกันตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่เลยค่ะเธอ
คุณหมอยุ้ยเล่าให้เราฟังว่า
" ส่วนมากเคสที่เจอจะเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยที่คนไข้จะเข้ามาโดยที่ไม่รู้ว่าเป็น พอได้ผลตรวจแล้วเราก็จะเจอว่าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งมันคือตัวโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเลยค่ะ เกิดได้จากหลายๆ สาเหตุเลย แต่ว่าเราแบ่งได้ง่ายๆ ว่าเป็นมาแต่กำเนิดหรือเป็นมาภายหลัง เป็นมาภายหลังก็สามารถแบ่งได้อีกหลายสาเหตุ แต่โดยส่วนมากแล้วก็จะเป็นไปตามอายุที่เยอะขึ้น กล้ามเนื้อตาเราก็จะอ่อนแอลง ทำให้กล้ามเนื้อตาตกได้ค่ะ ส่วนในเด็กๆ ก็จะเป็นกล้ามเนื้อตาแต่กำเนิด เกิดจากกล้ามเนื้อตาเค้าทำงานไม่ดี ดวงตาก็จะดูกลมโตไม่เท่ากัน "
คุณหมอยุ้ยยังบอกเราเพิ่มเติมถึง
วิธีการสังเกตง่ายๆ ว่าเรามีอาการของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ ซึ่งนั่นก็คือตาจะดูปรือๆ เหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา หรือดวงตาดูไม่สดใสโดยอาจถูกทักจากคนอื่นแต่ตัวเองไม่ได้รู้สึกผิดปกติ อันนี้สาวๆ ก็ต้องสังเกตคำแนะนำจากคนรอบตัวด้วยนะ หรือถ้าไม่แน่ใจก็ลองไปขอคำปรึกษาจากคุณหมอดูก็ได้ค่ะ แต่จริงๆ แล้วคุณหมอยุ้ยยังบอกอีกด้วยว่าหลังจากที่เราทำการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาไปแล้ว คนไข้จะมองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นเพราะกล้ามเนื้อตาส่วนหนึ่งจะได้รับการปรับแต่งออกไป เห็นชัดขึ้น แถมตาสวยขึ้นด้วย 2in1 ไปอี๊กกก!!
มาถึงตรงนี้แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ค่ะ ตกลงการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนี่มันต่างกับการศัลยกรรมตาสองชั้นหรือไม่? ให้คุณหมอเป็นคนมาตอบด้วยตัวเองเลยค่ะ
" แตกต่างค่ะ ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเราจะต้องเย็บกล้ามเนื้อตาให้มันแข็งแรงขึ้น เพื่อให้คนไข้สามารถลืมตาได้มากขึ้น ตาก็จะกลมโตมากขึ้น ซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่าเคสปกติทั่วไปประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ดวงตาที่กลมโตขึ้น ชั้นตาที่สวย เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน "
- ผ่าตัดตาไม่ใช่เรื่องยาก! ถ้าอยากสวยต้อง " เลือก " ยังไง?!! -
จริงๆ แล้วการศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตาไม่ใช่แค่รักษาโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เท่านั้นนะเธอ เพราะข้อดีของการทำตาสองชั้นเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพของเราเองด้วยค่ะ ทำให้ดวงตาเราดูหวานมากขึ้น เรามีความมั่นใจมากขึ้น ดูสวยขึ้นแล้วก็ทำให้เราดูแต่งหน้าง่ายขึ้น #แต่งหน้าง่ายชีวิตก็ง่ายสวยได้ง่ายๆ จ้า
และสำหรับที่จาเรมคลินิกนี้ คุณหมอยุ้ยเองก็มีเทคนิควิธีที่เฉพาะตัวที่เรียกได้ว่าสาวๆ ที่ต้องการจะมีดวงตาที่สวยกว่าเดิม คุณหมอยุ้ยก็จะจัดให้ได้อย่างแน่นอน การันตีได้จากการบินไปดูงานถึงประเทศเกาหลีด้วยตัวเองเลยทีเดียว!
" ของหมอเองก็คือหลังจากที่บินไปดูงานที่เกาหลี เราก็ได้เอากลับเข้ามาแล้วก็ทำเป็นเทคนิคเฉพาะของทางจาเรมคลินิกและปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับคนไทย ก็คือจะเป็นแผลช้ำน้อย บวมน้อย แล้วก็พักฟื้นตัวเร็ว ไม่กี่วันก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติค่ะ"
" อยากให้ลองศึกษาจากคลินิกดูว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน ลองดูคุณหมอว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตาหรือเปล่า หรือจะสอบถามจากคนรอบข้างดูก็ได้ว่ามีใครเคยทำที่นี่มั้ย เป็นยังไง ทำแล้วสวยหรือเปล่า หรือจะดูจากรีวิวก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ เพราะว่าแต่ละคลินิกก็ไม่เหมือนกัน เทรนด์แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน คุณหมอแต่ละคนก็จะมีเทคนิคเฉพาะของท่านเองค่ะ "
- เทคนิคการกรีดสั้น กรีดยาวคืออะไร ต่างกันยังไง? -
ใครที่กำลังคิดจะเข้าสู่วงการศัลยกรรมความงามรอบดวงตา เราเชื่อว่าเธอต้องเคยได้ยินคำว่า กรีดสั้น-กรีดยาว แน่นอน แต่หลายๆ คนก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการกรีดสั้นหรือกรีดยาวนี่มันคืออะไร แล้วมันแตกต่างกันตรงไหน มาให้คุณหมอยุ้ยช่วยไขข้อสงสัยให้เลยค่ะ
" การกรีดสั้นเราหมายถึงว่าเป็นการเปิดแผลเล็กเพื่อไปเย็บชั้นตาค่ะ แต่ถ้ากรีดยาวเราจะเปิดแผลตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา โดยสองวิธีนี้จะแตกต่างกันโดยที่การกรีดสั้นเนี่ยจะตัดไขมันออกได้แต่เราไม่สามารถตัดหนังตาออกได้ แต่ถ้าเรากรีดยาวจะเหมาะกับคนที่อายุเยอะ คนที่มีตาชั้นเดียว สามารถตัดหนังออกได้บางส่วน พร้อมตกแต่งชั้นตาและตัดไขมันออกได้ด้วย "
- หมอยุ้ย จาเรมคลินิก -
คุณหมอคะ! บอกที เจ็บมั้ย?? ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง??
หนึ่งในคำถามที่ทำให้หลายๆ คนต้องถอยกรูดก็คือเรื่องที่ว่า เจ็บมั้ยคะหมอ??? นี่ล่ะค่ะ แหม.. เอาจริงๆ เราก็พอเข้าใจอยู่ค่ะว่านี่คงเป็นคำถามปลอบใจตัวเองสำหรับคนกลัวเข็มแน่ๆ หวังว่าคุณหมอจะตอบว่า #เจ็บเหมือนมดกัดนิดเดียว ล่ะสินะ แต่เธอขา คุณหมอต้องทำการฉีดยาชาและผ่าตัด ฉะนั้นอยากสวยก็ต้องอดทนนาจาา..
" นิดนึงค่ะ จะเจ็บหน่อยตอนที่ฉีดยาชาแต่หลังจากนั้นก็จะไม่เจ็บละค่ะ ตอนผ่าตัดคนไข้จะไม่หมดสติเพราะคนไข้ต้องหลับตา ลืมตา เพื่อช่วยเราในการกะ ตอนที่เราเย็บกล้ามเนื้อตาขึ้นด้วยค่ะ "
ส่วนการเตรียมตัวไปหาคุณหมอก็ไม่ยากเลยค่ะ แค่ไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตาแล้วก็ไม่ใส่คอนแท็คเลนส์ แค่นี้ก็เตรียมตัวลงจากเตียงแล้วสวยปิ๊งได้เลย!
ต้องพักฟื้นนานเท่าไหร่ถึงจะแต่งหน้าได้?
เชื่อว่าสาวๆ ที่เสพติดการแต่งหน้าทุกคนต้องอยากรู้แน่ๆ เพราะการแต่งตานี่แหละเป็นส่วนที่สนุกที่สุดเวลาแต่งหน้าเลย แต่สำหรับใครที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดตามา แน่นอนว่าต้องมีช่วงทิ้งระยะเพื่อให้หายจากแผลก่อน แต่จะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ไปให้คุณหมอยุ้ยตอบเองเลยดีกว่าค่ะ
" ประมาณ 7 วันค่ะ จากนั้นก็จะตัดไหมออกแล้วก็อาจจะรออีกซักอาทิตย์นึง ก็คือรวมแล้วก็จะประมาณ 2 อาทิตย์ก็จะให้เริ่มแต่งหน้าได้ค่ะ แต่ช่วงแรกในช่วงพักตัวก็จะประมาณหนึ่งอาทิตย์จากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วค่ะเพราะว่าที่ Jarem Clinic เวลาเราทำแผลจะช้ำน้อย บอบช้ำน้อย แป๊บเดียวก็กลับไปใช้ชีวิตได้แล้วค่ะ"
ตามที่คุณหมอแนะนำเลยนะคะ อย่าได้แต่งหน้าก่อนระยะเวลาที่คุณหมอบอกล่ะ เพราะถ้าแผลอักเสบขึ้นมาล่ะก็เรื่องใหญ่แน่นอน!
[[ มีค่ะ มี บางคนก็เอาตาแบบอั้ม พัชราภา มาเลยถ้าโครงสร้างตาเค้าได้ กระดูกเบ้าตาเค้าได้สามารถทำได้ค่ะแต่บางคนถ้าโครงสร้างตาเค้าไม่เหมือนกับที่เค้านำมาเราก็จะทำได้แค่ใกล้เคียงให้ได้มากที่สุดแค่นั้นเองค่ะ ]]- หมอยุ้ย จาเรมคลินิก -
Must Do! Must Not! อะไรต้องทำ และอะไรห้ามทำบ้างหลังผ่าตัด
เอาล่ะ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นชัดๆ เลยว่าคุณหมอแนะนำอะไรมาบ้าง ขอแบ่งให้ดูตรงนี้ตามที่คุณหมอยุ้ยให้คำแนะนำมาเลยค่า
MUST DO!!
- คุณหมอยุ้ยบอกว่าหลังจากที่เราทำเสร็จแล้วจะแนะนำให้คนไข้ประคบเย็นอย่างน้อย 3 วันค่ะ หลังจากนั้นอาจจะประคบอุ่นในบางคน
- นอนหัวสูงไปก่อน 2 อาทิตย์ แล้วก็ทำความสะอาดแผลเช้าเย็นด้วยน้ำเกลือค่ะ
- อย่าให้แผลสกปรก จะได้ได้แผลที่สะอาดแล้วก็ไม่เป็นแผลเป็นด้วยค่ะ
MUST NOT!!
- อย่าแต่งหน้าก่อน 2 อาทิตย์ค่ะ เพราะจะมีโอกาสทำให้แผลอักเสบได้
- เวลาที่ทายาหมอจะเน้นย้ำเสมอเลยว่า ทายาอย่านวด ตรงบริเวณชั้นตาเพราะมีโอกาสชั้นตาหลุดได้ในช่วงแรก เพราะฉะนั้นอย่านวดแผล ให้ทาก็พอค่ะ
- เรื่องอาหาร แต่ละคน sensitive ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอาหารห้ามทานของแต่ละคนก็อาจจะไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนมากหมอจะแนะนำว่าอย่ากินของทะเล อย่ากินของหมักดอง พวกนม เนื้อไก่ แล้วก็ไข่ เพราะว่าแผลอาจจะไม่สวยในช่วงแรกได้
ทำตามนี้ รับรองว่าตาสวย แผลสวย หายเร็วแน่นอน!
ตานี้ต้องสวยแล้วล่ะเธ้อ!! เชื่อเลยว่าสาวๆ ที่กำลังตัดสินใจอยากทำตาคงจะคลายข้อสงสัยไปบ้างแล้วอย่างแน่นอน แต่ถ้าใครยังไม่เคลียร์และอยากได้คำตอบแบบละเอียดยิบ! ไม่ว่าจะปัญหาตาสองชั้นหรือมีปัญหาของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอยุ้ยได้ที่Jarem Clinicเลยนะคะ
คุณหมอแอบกระซิบมาด้วยว่าถ้าสาวSistaCafeไปเยี่ยมเยียน ทางคลินิกมีโปรโมชั่นพิเศษให้ด้วยล่ะ! ตั้งแต่วันนี้ - 28 กุมภาพันธ์ 2562 เท่านั้นน้าา สวยไม่กลัว กลัวช้าจ้าา!
วันนี้พวกเราขอลาไปก่อน ใครอยากรู้เรื่องราวอะไรก็รีเควสกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ เดี๋ยวทีมงานจะไปจัดให้แน่นอน! แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าจ้าา บ๊ายบายยย
ปรึกษาปัญหาศัลยกรรมตาสองชั้น Add Line : @jaremclinic
Facebook : Jarem Clinic
https://www.facebook.com/JaremClinic/?epa=SEARCH_BOX