สาวๆ หลายคนคงจะมีปัญหากับการหาครีมกันแดดดีดีสักตัวมาใช้ เพื่อปกป้องแสงยูวีที่มากับแดดที่สุดแสนจะร้อนเเรงเหลือเกินในเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักครีมกันแดด 2 แบรนด์ที่เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของผู้นำครีมกันแดดอย่าง

" SpectraBan และ Minus Sun "

แต่เอ๋...แล้วครีมกันแดดของยี่ไหนมันดีกว่ากันละ?? 2 ยี่ห้อนี้มันมีข้อแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลการเปรียบเทียบเจ้าครีมกันทั้ง 2 ยี่ห้อนี้มาฝากกันค่า ตามมาดูกันเลยยย

รูปภาพ:http://f.ptcdn.info/552/007/000/1374576856-2-o.jpg

กันแดดได้จริงไหม?

จะดูว่าครีมกันแดดยี่ห้อไหนกันแดดได้จริงไหม ก็ต้องดูที่ส่วนผสมหลักค่ะ ซึ่งส่วนผสมก็จะมีทั้ง

1. ส่วนผสมที่เป็นสารทางกายภาพ (

Physical Blockers

) ที่ใช้กันทั่วไปก็คือ

Zinc Oxide

เริ่มทำงานที่ 5 - 20 %

และ

Titanium Dioxide

ทำงานที่ 2 - 25 %หากครีมกันแดดยี่ห้อไหนมีสารตัวใดตัวหนึ่งหรือทั้งสองนี้อยู่หล่ะก็ถือว่ามันกันแดดได้ทั้งรังสี UVA และ UVB เลยทีเดียว

2. ส่วนผสมที่เป็นสารทางเคมี (

Chemical Absorbers

) ทำหน้าที่ดูดซับรังสียูวีให้มีความเข้มน้อยลงเมื่อผ่านไปสู่ผิวหนัง ที่พบบ่อยเช่น

2-Ethylhexylmethoxycinnamate (Parsol MCX) Benzophenone-3 (Oxybenzone) และ Butylmethoxydibenzoylmethane (Avobenzone)

เป็นต้น

หรือเซฟรูปตารางด้านล่างนี้เก็บไว้ดูก็ได้นะคะ ว่าสารส่วนผสมตัวไหนปกป้องรังสีอะไรบ้าง

รูปภาพ:http://www.pandadumnam.com/scoop/UV/uv3.gif

Minus Sun

สำหรับ Minus Sun จะประกอบไปด้วย


Active ingredient

1. Zinc Oxide 5%

2. Titanium Dioxide 5%

3. Ethylhexyl p-Methoxycinnamate 4%

(Octyl Methoxycinnamate (OMC) หรือ Octinoxate)

4. Enhanced Chitosan 0.5%

5. Menthyl Anthranilate 0.3%

จากสารประกอบที่เป็นส่วนผสมมาในครีมกันแดดของไมนัสซันนั้น


สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB


ถึงแม้จะมีปริมาณโดสที่น้อยก็ตาม

ไม่มีส่วนประกอบของสารบำรุงผิวใดๆ

แม้แต่ Glycerin สารให้ความชุ่มชื้นก็ไม่ได้ใส่มา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครีมกันแดดจริงๆ แท้เเน่นอน 100% เลยทีเดียว

SpectraBan

สำหรับ SpectraBan จะประกอบไปด้วย


Active Ingredients

1. Microfine Zinc Oxide 10%,

2. Eyhyl Hexyl-p-Methoxy Cinamate 7%,

3. 4-Methylbenzylidene Camphor 3.5%,

4. Butyl Methoxydibenzoylmethane 1%

จากสารส่วนผสมของSpectraBan ก็สามารถสรุปได้ว่ากันได้จริงๆ ทั้งรังสี UVA และ UVB เช่นกันค่ะ

SpectraBan ก็เช่นเดียวกับ Minus Sun คือไม่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวใดๆ ทั้งสิ้น เน้นไปทางการใช้งานด้านกันแดดเพียวๆ เลย

ราคา ปริมาณ บรรจุภัณฑ์

รูปภาพ:

Minus Sun

25 g. ราคา 250 บาท ( บางช่วงโปรที่วัตสันหรือบูธ ลดราคาเหลือประมาณ 199 บาท ) มี 2 สี คือ สีเบจ กับ สีขาว ตัวบรรจุภัณฑ์ จะเป็นหลอดขนาดพอเหมาะ ฝาเปิดเป็นแบบฝาหมุน ( ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบฝาแบบนี้ ชอบแบบฝาเปิดปิดมากกว่ารู้สึกว่ามันสะดวกต่อการใช้งานมากกว่า )

SpectraBan

20 g. ราคา 280 บาท ( แต่มันจะชอบมีโปรที่วัตสันหรือบูธ ลดราคาเหลือประมาณ 225 บาท ) ตัวบรรจุภัณฑ์ จะเป็นหลอดแบบฝาเปิดปิด ( ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวบรรจุภัณฑ์จะใช้ง่ายกว่าของไมนัส ) ถ้าเทียบราคา 2 ยี่ห้อ ก็คงต้องบอกว่า Minus Sun จะราคาถูกกว่า

กลิ่นและเนื้อครีม

รูปภาพ:

Minus Sunจะมีกลิ่นที่หอม

เราแอบอ่านส่วนประกอบย่อยๆ ด้านหลังมันเหมือนมีส่วนผสม Parfum อยู่ด้วย ก็เลยน่าจะทำให้มีกลิ่นหอมนั่นเอง

ส่วนตัวเนื้อครีม จะค่อนข้างมีความเบาตัว เนื้อมันจะแมทๆแบบไม่เหมือนครีมอ่ะ เกลี่ยค่อนข้างง่าย และซึมเข้าผิวเร็ว ระหว่างที่เกลี่ยและเนื้อครีมซึมเข้าผิวจะให้่ความรู้สึกเหมือนทาแป้ง ( คือไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ )

ของ Minus จะมี 2 สี คือเนื้อครีมสี Ivory (สีเบจ) และสี White (ขาว) ด้วยความที่เนื้อครีมของไมนัสผลิตมาให้เป็นแบบเนื้อแมทๆ แบบซิลิโคนเหมือนแป้ง บางคนอาจจะชอบเพราะทาแล้วรู้สึกเนียน ซึมเข้าผิวง่ายเร็ว แต่ส่วนตัวเราค่อนข้างจะไม่ค่อยชินกับเนื้อแบบนี้เลยไม่ค่อยชอบผิวสัมผัสตอนทาเท่าไหร่

รูปภาพ:

SpectraBanจะไม่มีกลิ่นหอมๆ

ไม่มีส่วนผสมของ Parfum อยู่ ( ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเจ้าครีมกันแดดยี่ห้อนี้ได้รับเลือกให้เป็นครีมกันแดดที่มีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวมากๆ และเป็นครีมกันแดดยี่ห้อที่แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่ให้การแนะนำเลยทีเดียว สำหรับใครที่มีปัญหาผิวตัวนี้จะเวิร์คมากๆ ) ส่วน

ตัวเนื้อครีมจะใสๆ แบบเป็นเนื้อครีมทั่วไป ค่อนข้าวมีความเหนียวเหนอหนะ เวลาทาก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเกลี่ยครีม (จะต่างจากMinus ที่เวลาเกลี่ยจะเหมือนแป้งเบาๆ ) พอทาเสร็จหน้าจะมีความเงา มันเล็กน้อย

หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบเนื้อครีมแบบ SpectraBan เพราะทาแล้วมันจะวาวๆ มันๆ ดูเหนอะหนะ แต่เรากลับรู้สึกโอเคกับเนื้อครีมแบบนี้ ( โอเคในตอนทานะคะ 5555 เเต่ไม่โอเคตอนมันเซ็ตตัวแล้วทำให้หน้ามันดูมันๆ )

ความมัน และ การเกลี่ยเนื้อครีม

Minus Sun

รูปภาพ:รูปภาพ:

ด้วยความที่เนื้อของ Minus Sun จะออกเป็นเนื้อแมทๆ แบบซิลิโคน

ทำให้ตอนเกลี่ยจะค่อนข้างลื่นๆ แบบสมูทๆ ผิวสัมผัสบางเบาเหมือนทาเเป้ง ในตอนทาและเกลี่ยจะรู้สึกได้ถึงความมัน

( มันจะลื่นๆ แบบเหมือนผิวโดนเคลือบด้วยน้ำมัน 555 )

แต่ว่าพอผ่านไปสัก 5 นาทีเมื่อเนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิว ความมันก็หายไป ไม่รู้สึกถึงความมันที่หน้าเลยแม้แต่น้อย

เหมือนหน้ามีแป้งมาเคลือบอยู่ และ

ในระหว่างวัน ต้องขอบอกว่าครีมกันแดดยี่ห้อนี้ค่อนข้างจะคุมความมันได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ SpectraBan


อ๋อๆๆ!! เกือบลืม เจ้า Minus Sun เนี่ยพอทาเสร็จจะรู้สึกว่าผิวขาวขึ้นอีกระดับด้วยล่ะะคู๊ณณณ

SpectraBan

รูปภาพ:รูปภาพ:

ส่วน SpectraBan นั้น

เนื้อครีมเป็นแบบครีมข้นๆ จึงทำให้มองเห็นความมันวาวชัดเจน ตอนเกลี่ยจะเหมือนเราทาครีมทาผิวปกติทั่วไป ไม่ได้ถึงกับเกลี่ยยากอะไร แต่เนื้อครีมจะค่อนข้างซึมเข้าสู่ผิวช้ากว่า Minus Sun เวลาทาจะรู้สึกหนักหน้ามากกว่า

และตลอดเวลาของการเกลี่ยครีมให้ทั่วผิวจะรู้สึกได้ถึงความมัน ผิวของสาวๆ จะวาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ระหว่างวันเมื่อเจอแดดหรือแม้แต่อยู่ในที่ร่มตัวนี้บอกเลยว่าทำให้หน้าของคุณมันขึ้นอย่างแน่นอน ( มันหนักมากเลยทีเดียว 555)

แต่!!อย่าเพิ่งเหมารวมว่ามันไม่ดีนะคะ จริงๆ เจ้าตัวนี้มันก็มีข้อดีตรงที่มันอ่อนโยนต่อผิวมากๆ และคนที่มีปัญหาผิวหน้าแพทย์ผิวหนังต่างแนะนำให้ใช้เจ้าตัวนี้ทั้งนั้นค่าา ( เห็นเขาว่าคนเป็นสิวใช้ครีมกันแดดยี่ห้อนี้เวิร์ค )

เรื่องความขาว SpectraBan ไม่มีผลใดๆ เมื่อทาเสร็จและรอเวลามันเซ็ตตัวซึมเข้าผิว...ปรากฏว่า สีผิวเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความมันวาว!

อ่ะๆ ลองดูเปรียบเทียบความมันวาวกันจะจะ ไปเล้ย

รูปภาพ:

ตารางเปรียบเทียบ 2 แบรนด์

รูปภาพ:

จริงๆ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าครีมกันแดด 2 แบรนด์นี้มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป ชอบ

SpectraBan

ตรงที่มันอ่อนโยนและไม่มีน้ำหอม แถมกันแดดได้ยาวนานกว่า แต่ไม่ชอบที่ทำให้หน้ามันวาวเยิ้มขึ้นมากนี่สิ T T

ส่วน

Minus Sun

ก็ชอบตรงที่มันเซ็ตตัวซึมเข้าผิวเร็ว ใช้แล้วไม่รู้สึกหน้ามันเลยย แถมราคาก็ค่อนข้างจะโอเค แต่ไม่ชอบผิวสัมผัสตอนทา และมันกันแดดได้ไม่ค่อยยาวนาน ( ถ้าออกแดดแรงมากๆต้องทาซ้ำ ) วันนี้ขอลาไปทาครีมกันแดดก่อนออกไปทำงานก่อนนะค่าา อิอิ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าจ้าาา

บทความที่เกี่ยวข้อง