วาเลนไทน์ปีนี้ "ตามรอยซีรีส์ แถมฟรีเนื้อคู่!" #พิกัดที่จะเสกให้นกหาย ผู้ชายตอม ! 😍😏

พอพูดถึง

วันวาเลนไทน์

สาวๆ บางคนอาจจะกรี๊ดกร๊าด รอเดทกับหนุ่มคนรัก หรือลุ้นๆ จะได้รับดอกไม้จากผู้ชายคนใดก็ตาม ที่เคยส่งสายตาหวานๆ ให้เราอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน

ก็มีผู้หญิงอีกหลายคน ที่จิตใจช่างหว่าเว้ แห้งเหี่ยว ไม่มีหนุ่มใดๆ เข้ามาเอี่ยวในชีวิต ให้หัวใจระรี้ระริกทั้งนั้น!

แค่พูดก็เหงาแล้ว ทำไมต้องผ่านวันวาเลนไทน์ไปแบบเหงาๆ อีกแล้วเนี้ย

เพราะอะไรทำไมความโสดถึงเป็นปัญหาใหญ่ในวงกว้างขนาดนี้ จะมาตัดพ้อว่าตัวเองไม่สวยก็ไม่ใช่นะ

เพราะความรักบางทีก็เป็นเรื่องของจังหวะเวลา และได้เจอกับคนที่รู้สึกว่าคลิกกันจริงๆ

จนทำให้ชีวิตเรามีแรงขับเคลื่อน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้น

เราจะมาใช้ชีวิตคู่แบบหุนหันพลันแล่นก็ไม่ได้ ฉะนั้นเลยต้องโสดกันยาวปาย....

ดังนั้นจากที่พูดมาทั้งหมดก็คือ

บางครั้งเนื้อคู่จะมาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา และจังหวะเวลาชีวิตของเราด้วย

ใครที่ไม่มีความรักซะที

บางทีการพึ่งบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าท่าอยู่เหมือนกันนะ

และใครที่วางแผนจะไปเที่ยวเกาหลีปีนี้ล่ะก็

เรามีพิกัดขอพรดีๆ มาฝากกันด้วย ไปดูกันเลยจ้า

ขอพรความรักที่ "สุสานพระนางจางฮีบิน" (Goyang)

คนไทยส่วนใหญ่มักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับอำนาจและพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คน ถ้าได้ไปทำบุญที่วัดจะต้องขอพรกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้หญิงไทย เวลาขอพรต้องหนีไม่พ้นเรื่องความรักอย่างแน่นอน

และการขอพรเรื่องความรัก ก็ไม่ได้มีแค่ในไทยอย่างเดียว แต่ในเอเชียก็มีดังๆ หลายที่ ไม่ว่าจะที่ จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่เกาหลี

หลายคนอาจจะคิดว่า ฮึ!? ไม่น่าเชื่อ

ในเกาหลีก็มีแหล่งขอพรเรื่องความรักอยู่เหมือนกันเหรอ

ซึ่งถึงแม้จะรู้กันดีว่า ที่เกาหลีจะมีหลายๆ ที่ที่ให้เราได้ผูกกุญแจคู่รัก แต่ก็ไม่ได้เป็นการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซะทีเดียว เพราะสิ่งที่เราจะพูดถึงวันนี้ก็คือ

สุสานพระนางจางฮีบิน สนมที่ได้รับความรักจากพระเจ้าซุกจง และมีเรื่องราวความรักที่เป็นตำนาน

จนนำมาสร้างเป็นซีรีส์เกาหลีอิงประวัติศาสตร์มาหลายต่อหลายครั้ง

พระนางจางฮีบินเป็น 1 ในสนมเอกของพระเจ้าซุกจง

ที่มีเรื่องราวโดดเด่นมากๆ และหลายคนอาจจะพอคุ้นเคยพระนางจากในเรื่องทงอี ซึ่งจะดูค่อนข้างร้าย หรือ จางอ๊กจอง ที่ดูเป็นตัวดี ซึ่ง

พระนางจะดูออกมาร้ายหรือดี ก็ขึ้นอยู่กับการตีความ และการถ่ายทอดผ่านเนื้อเรื่องในมุมมองที่แตกต่างกัน

แต่ไม่ว่าจะเป็นในเวอร์ชั่นไหน สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือ

การประสบความสำเร็จในด้านความรัก ที่สามารถมัดใจพระเจ้าซุกจงได้

ถึงแม้ว่าเธอจะมาจากชนชั้นธรรมดาก็ตาม เดิมทีเธอมีพระนามว่า จางอ๊กจอง และตามประวัติศาสตร์แล้ว เธอเข้ามาในฐานะนางในของพระตำหนักพระพันปีโช และ

ด้วยความสามารถบวกกับวาสนา จึงทำให้เธอมีหลายอย่างที่ผลักดันจนกลายเป็นสนมคนโปรดของพระเจ้าซุกจง และถึงขั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสี

เลยทีเดียว

ทำให้สุสานของพระนางจางฮีบินกลายเป็น

1 ในแหล่งขอพรเรื่องความรักที่ค่อนข้างโดดเด่นมากๆ ในเกาหลี

สำหรับสุสานของพระนางจะตั้งอยู่ที่

ซอโอรึง

สุสานของกษัตริย์ และราชวงศ์ ซึ่งถ้าใครสังเกตจะเห็นได้ว่า

สุสานของพระนางจางฮีบิน ทำไมไม่ดูเหมือนของชนชั้นสูงอย่างที่คิด

นั่นก็เพราะว่า ตามประวัติศาสตร์

พระนางถูกปลดออกจากตำแหน่งพระมเหสี

จากดราม่ามากมายภายในวัง ( ปัญหาการเมือง และอาจจะมีเรื่องความรักมาเกี่ยว สามารถดูเพิ่มเติมได้จากซีรีส์ทั้งทงอี และจางอ๊กจอง ) จึงทำให้สุสานของเธอ ถูกเรียกว่า

" แดบินมโย " ( Daebin Myo )

โดยคำว่า มโย คือลำดับชั้นเชื้อพระวงศ์อื่นๆ ที่จะออกแบบเหมือนสุสานคนธรรมดาทั่วไป

ที่ตั้งสุสานจะค่อนข้างปลอดโปร่ง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ และที่สำคัญคือคนไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่ หากมาใน

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะได้เห็นข้างทางที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์สีส้มๆ

หรือหากมาใน

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้วิวสีเขียวชะอุ่มแตกต่างกันไป

นอกจากนี้ก็ยังมีสุสานของบุคคลชนชั้นสูงระดับราชวงศ์อยู่อีกหลายสุสาน

ซึ่งที่ตั้งก็ค่อนข้างห่างกันอยู่สักหน่อย หากไปเที่ยวควรเผื่อเวลาไว้สักนิด

ในแต่ละปีจะมีการจัดพิธีกรรมของสุสานในแต่ละแห่ง

ซึ่งเป็นพิธีที่สืบทอดกันมานานกว่า 600 ปี แล้ว หากใครอยากไปชมพิธีสามารถไปตามวันดังนี้ได้เลย

วันประกอบพิธีกรรม

คยองนึง (경릉) - วันเสาร์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม ของทุกปี

ชังนึง (창릉) - วันที่ 16 เมษายน ของทุกปี

อิงนึง (익릉) - วันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี

มยองนึง (명릉) - วันที่ 13 พฤษภาคม ของทุกปี

ฮงนึง (홍릉) - วันที่ 3 เมษายน ของทุกปี

ซุนชังวอน (순창원) - วันที่ 6 ตุลาคม ของทุกปี

ซูคยองวอน (수경원) - วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนกันยายน ของทุกปี

แดบินมโย (대빈묘) - วันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปี

โอลลึง (온릉) - วันที่ 7 ธันวาคม ของทุกปี

สำหรับการเดินทางมาที่ สุสานแดบินมโย สามารถมาได้โดยวิธีดังนี้

วิธีการเดินทาง:

นั่งรถใต้ดินมาลงที่สถานีนกบอน ( Nokbeon )สาย 3 ทางออก 4เดินตรงมาเรื่อยๆ จากนั้นไปที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 12-125นั่งรถบัสสาย 702A หรือ สาย 9701จากนั้นให้ลงที่ซอโอรึงอิพกู ( Seooreung Entrance )

ค่าเข้าชม :

อายุต่ำกว่า 24 ปี : ฟรี

อายุ 24 ปีขึ้นไป : 1000 วอน

เวลาเปิดทำการ

กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 06.00 - 18.00 น. ( ขายบัตรจนถึง 17.00 น )

มิถุนายน - สิงหาคม 06.00 - 18.30 น. ( ขายบัตรจนถึง 17.30 น. )

พฤศจิกายน - มกราคม 06.30 - 17.30 น. ( ขายบัตรจนถึง 16.30 น. )