
ฤดูหนาววว...มาเยือนอีกครั้ง!!!พร้อมกันอาการคันจมูกมึนศรีษะปวดศรีษะและอาการอื่นๆ อีกมากมาย... นี่ฉันจะต้องเจอกับอาการพวกนี้ในทุกๆ หน้าหนาวเลยหรอเนี่ย!! จะพอมีวิธีไหนหรือตัวช่วยไหนบ้างนะ!! ที่จะช่วยทำให้ฉันไม่ต้องเจอกับอาการต่างๆ เหล่านี้เมื่อหน้าหนาวมาถึง...

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวSistaทุกคน วันนี้เราจะมาแนะนำ"ตัวช่วย"ที่จะช่วยกำจัดอาการต่างๆ เหล่านั้น ให้หายไป!! ซึ่งตัวช่วยที่เราพูดถึงก็คือ น้อง" วิตามินซี "นั่นเอง!!! จร้าาาาาา
ก่อนอื่น...เรามารู้จักกับ " วิตามินซี " กันก่อนเลย !!!
วิตามินซี
(Vitamin C)
หรือ
กรดแอสคอร์บิก
(ascorbic acid)เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้เราจะได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไปเท่านั้นวิตามินซีเป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเราจึงต้องเสริมวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอยู่เสมอ โดยวิตามินซีจะได้จากพืชผักผลไม้ทั่วไปโดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยวและวิตามินซีที่อยู่ในรูปของอาหารเสริมแต่การที่เราได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรศึกษาเกี่ยวกับทั้งประโยชน์และโทษของวิตามินซี รวมถึงวิธีการรับประทานวิตามินอย่างถูกต้องและเหมาะสม...

วิตามินซีมีรูปแบบไหนบ้าง ???

ในปัจจุบันนี้ มีวิตามินซีมากมาย หลากหลายขนาดและรูปแบบ ดังนี้>> วิตามินซีอัดเม็ดสำหรับกลืนพร้อมน้ำ โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 25 - 1,000 mg. ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกรับประทานแบบBuffered, Sustained ReleaseหรือSlow Releaseเพราะจะค่อยๆ ปล่อยตัวยาออกมาช้าๆ ทำให้ออกฤทธิ์ได้นานขึ้น และไม่ระคายกระเพาะ
>>
วิตามินซีแบบเม็ดอม
มีขนาดตั้งแต่ 25 - 500 mg. เหมาะกับคนที่ไม่ชอบแบบเม็ด แต่ต้องระมัดระวังเพราะว่าการอมวิตามินซีแบบเม็ดบ่อยๆ กรดที่ออกมาจะทำให้สารเคลือบฟันบาง จนฟันกร่อนได้
>> วิตามินซี
แบบเม็ดเคี้ยว
โดยทั่วไปมีขนาด 30 mg.
เหมาะกับเด็ก
เพราะมีรสหวานน่ารับประทาน แต่ต้องระวังเพราะน้ำตาลที่มีปริมาณสูงอาจส่งผลให้เกิดฟันผุได้เมื่อรับประทานเป็นประจำ
>>
วิ
ตามินซีแบบเม็ดฟู่
มีขนาด 500 และ 1,000 mg.
วิธีการรับประทานที่ถูกต้อง
คือ ควรนำไปละลายในน้ำจนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดอาการแน่นท้องในภายหลังได้ โดยวิตามินซีชนิดนี้
เหมาะกับคนที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้
ข้อดีคือ
เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึม
>>แบบแคปซูล
มีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม แต่ละแคปซูลมีขนาด 500 mg. ข้อดีคือกลืนง่ายสบายกว่าวิตามินซีรูปแบบอัดเม็ด
>>
วิตามินซีแบบฉีด
จะมีขนาดอยู่ที่ 500 mg. เป็นวิตามินซีแบบที่
เหมาะกับการป้องกันหวัดที่ดีที่สุด
แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด ข้อดีก็คือ
ออกฤทธิ์เร็ว และร่างกายสามารถเอาวิตามิซีไปบำรุงซ่อมแซมได้ทันที
เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร
เราควรได้รับวิตามินซีปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน ???
ปริมาณของวิตามินซีที่เราควรได้รับต่อวัน คือ
คนอายุ 15 ปีขึ้นไปควรได้รับวิตามินซี 60 - 90 mg.ส่วนเด็กต้องการวิตามินซี 30 - 50 mg. แต่ก็สามารถรับประทานเพิ่มได้ถึงราวๆ 100 - 200 mg.
แต่ในบางคนอาจจำเป็นต้องรับวิตามินซีเพิ่มมากมาหน่อย คือ ตั้งแต่ 500 mg. ขึ้นไป
เช่น คนที่เป็นหวัดบ่อยๆ
คนที่มีอาการเลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด แพทย์จะให้รับประทานวิตามินซีเสริม รวมทั้งผู้ที่สูบบุหรี่ก็จำเป็นต้องรับประทาน เพราะบุหรี่จะไปลดปริมาณวิตามินซีในร่างกาย เช่นเดียวกับหญิงตั้งครรภ์ คนที่เตรียมตัวผ่าตัด หรือเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด ก็ควรได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากขึ้น...

รับประทานวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด !!!
การรับประทานวิตามินซีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เราสามารถรับประทานเวลาใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวก แนะนำว่าไม่ควรรับประทานตอนที่ท้องว่างแต่ถ้าจะให้ดีควรรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารจะดีที่สุดเพราะอาหารจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ และเป็นการป้องกันกระเพาะอาหารระคายเคืองด้วย เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดนั่นเอง
ข้อควรระวังในการรับประทาน !!!
>>สำหรับสาวๆ ที่วางแผนจะมีบุตรหรือสาวๆ ที่กำลังตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตรควรระวังและได้รับคำแนะนำจากแพทย์
>>ในกรณีที่เกิดอาการแพ้หรือรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดนิ่วบางครั้งการรับประทานในปริมาณที่สูงหรือมากกว่า 10,000 mg.ขึ้นไปอาจก่อให้เกิดผลเสียเช่นอาการท้องร่วง ปัสสาวะบ่อย มีผื่นผิวหนัง
ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวควรรับประทานในปริมาณที่น้อยลง และควรรีบไปพบแพทย์ทันที
>>เพื่อป้องกันอันตรายและผลข้างเคียงจากการรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไปเราควรอ่านส่วนประกอบของยาหรืออาหารเสริมอื่นๆที่เรารับประทานให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีส่วนประกอบของวิตามินซีผสมอยู่ โดยเราไม่ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินซีประกอบอยู่พร้อมกับวิตามินซี เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานที่มากเกินไป
วิตามินซีที่เราขอแนะนำ !!!
เนื่องจากวิตามินซีเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นเองไม่ได้ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น นอกจากการรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้เป็นประจำแล้ว การรับประทานวิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งใน
วันนี้เราก็มีมาแนะนำ 5 ตัวด้วยกัน!!!
ไปดูกันเลยจร้าาาา
1. MEGA We Care NAT C 1000 mg.

วิตามินซีตัวนี้ มีไบโอฟลาโวนอยด์และมีส่วนผสมอื่นๆ อย่างแอสคอร์บิคแอซิดเป็นวิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเนียนนุ่มสารสกัดจากโรสฮิปที่มีวิตามินสูงกว่าผลไม้ตระกูลส้มถึง 20 เท่า ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ป้องกันโรคหวัดและภูมิแพ้ ทำให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายแข็งแรง ต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อม ในด้านความงามจะช่วยไปเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ผิวเต่งตึง และขาวกระจ่างใสดูอ่อนเยาว์ การรับประทานวิตามินซีนี้ปลอดภัยไม่ตกค้างเพราะเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ แม้รับประทานระยะยาว
วิธีรับประทาน :วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
2. DHC-Supplement Vitamin C Sustainable 1000 mg.

วิตามินซีDHCตัวนี้เป็นวิตามินซีตัวใหม่ของ DHC ที่ดีกว่าเดิมเพราะเป็นวิตามินซีชนิดเม็ดละลายช้าช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ ลดความหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ คืนความเปล่งปลั่งสุขภาพดี พร้อมเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันหวัดได้ดี
วิธีรับประทาน: รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น แล้วตามด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำที่ไม่ได้แช่ตู้เย็น
3. DHC Supplement Vitamin C 1000 mg.

เป็นวิตามินซีของ DHCตัวดังของญี่ปุ่นอีกตัวหนึ่ง ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ ช่วยลดความหมองคล้ำบนใบหน้า ลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ คืนความเปล่งปลั่งสุขภาพดี และช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตของคนที่สูบบุหรี่ ให้กลับมาสู่สภาวะปกติและดูสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันหวัดได้ดี
วิธีรับประทาน
:รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น แล้วตามด้วยน้ำอุ่นหรืออุณหภูมิห้อง
4. Blackmores Vitamins Bio C 1000 mg.

วิตามินชีตัวนี้มีการเสริมไบโอฟลาโวนอยด์เพื่อเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีของร่างกาย ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้มากขึ้น นอกจากนั้นสูตรนี้ยังเป็นสูตรที่ปรับให้มีความเป็นกรดน้อยลงด้วยเกลือแอสคอร์เบท ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้ และที่สำคัญยังมีส่วนผสมของวิตามินซีที่ได้จากแหล่งธรรมชาติอีกด้วยจร้า นอกจากนี้แล้ววิตามินซีตัวนี้จะช่วยลดอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง ชะลอการเกิดริ้วรอย มีความจำเป็นในการการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ช่วยลดรอยฝ้า กระและจุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
วิธีรับประทาน:รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหารหรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
5. VISTRA Acerola Cherry 1000 mg.

วิตามินซีตัวนี้ มีสารสกัดของอะเซโรล่า เชอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีธรรมชาติที่สามารถดูซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าวิตามินซีแบบสังเคราะห์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อคลอลาเจนและเนื้อเยื่อของเอ็นและกระดูกอ่อน ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงมีส่วนช่วยลดการเสื่อมถอยของเซลล์ผิวหนัง เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ลดการติดเชื้อหวัดและต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
วิธีรับประทาน:รับประทานครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เราหวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับความรู้เรื่องวิตามินซีและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาวิตามินซีอยู่ แต่เราก็ต้องระลึกอยู่เสมอว่าวิตามินซีที่ได้จากอาหารเสริมเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น เพราะวิตามินซีที่เราได้จากธรรมชาติย่อมดีกว่าฉะนั้นเราควรหมั่นรับประทานผักผลไม้ให้มากๆ สำหรับวันนี้เราก็ขอลาไปก่อนนนนน จร้า...