" ทำทุกวัน จนกลายเป็นความเคยชิน "เวลาที่รู้สึกปวดเมื่อยตัวการทำหลังค่อมก็ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถ้าทำจนเคยตัวจนเป็นกิจวัตรประจำวันนั้นก็ทำให้ส่งผลเสียได้ นอกจากสุขภาพเสียแล้วยังรวมไปถึงบุคลิกของเราด้วย แม้ว่าในตอนนี้นั้นอาจจะยังไม่มีผลกระทบแต่ถ้ายังทำไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าอาการต่างๆ ย่อมออกมาจนทำให้ตัวเรารู้สึกว่าผิดไปจากเดิมกันเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วเรามาดูผลเสีย และการปรับเปรียนพฤติกรรมหลังค่อมในบทความนี้กันดีกว่า

หลังค่อม ภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม ระวังจะค่อมถาวร (Kyphosis)

รูปภาพ:

อาการหลังค่อมหรือkyphosisคือโครงกระดูกสันหลังที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดเป็นการผิดรูปโค้งง้อจากปกติ ทำให้มีความโค้งงอของกระดูกสันหลังตั้งแต่บริเวณคอและหน้าอกมากกว่า 50 องศาขึ้นไป ซึ่งอาการเหล่านี้มักพบได้ทั้งกลุ่มเด็ก วัยรุ่น จนไปถึงวัยผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นแทรกซ้อนเข้ามาเพิ่มด้วย อย่างเช่น อาการปวดตึงหลัง เกิดจากแนวกระดูกสันหลังหายใจไม่สะดวก หรือมีอาการไหล่ห่อเป็นต้นโดยสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการพัฒนาที่ผิดปกติของกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์มารดา หรือการทำร้ายสุขภาพของกระดูกสันหลังด้วยการทำท่าทางหรืออยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง รวมไปถึงการเสื่อมของกระดูกสันหลังตามวัยอีกด้วย นอกจากนี้หลังค่อมเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างมากเพราะอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนเป็นถึงอาการปวดหลัง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคกระดูกสันหลังโค้งผิดปกติ และโรคกระดูกสันหลังคดนั่นเอง

พฤติกรรมแบบไหนที่เรียกว่า " หลังค่อม "

รูปภาพ:

หลังค่อม กับพฤติกรรม Postural Kyphosis

มักพบได้ในเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย ผลของการทำท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานเลยส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลัง เช่น การงอหลัง การนั่งพิงเก้าอี้ การนั่งเอนหลัง รวมไปถึงการสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักเยอะ เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ประคองกระดูกสันหลังยืดหรือถ่างออก จนดึงให้กระดูกสันหลังผิดรูปโดยอาการหลังค่อมประเภทนี้ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ และมักไม่พบอาการหลังค่อมค่อมมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

รูปภาพ:

หลังค่อม กับพฤติกรรม Scheuermann's Kyphosis

มักพบอาการที่สังเกตได้ชัดเจนคือหลังจะงอหรือค่อมเป็นมุมที่ชัดเจนไม่สามารถแก้ไขได้แม้จะทำท่าทางถูกต้องแล้วก็ตาม เช่น การยืดตัวตรง การยืดหลัง เป็นต้น เหมือนเช่นในผู้ป่วยวัยรุ่นหญิง โดยผู้ที่มีลักษณะรูปร่างผอม เป็นผลให้เลือดไปเลี้ยงกระดูกสันหลังไม่เพียงพอ เลยทำให้กระดูกสันหลังเจริญเติบโตไม่เต็มที่และเส้นเอ็นรอบบริเวณกระดูกสันหลังมีความหนากว่าปกติ โดยกรณีพวกนี้นั้นอาจจะมีการส่งผลมาทางพันธุกรรมในครอบครัวที่มีการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่นก็ได้ ทั้งยังพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นในบริเวณกระดูกสันหลังตอนบนหรือตอนล่าง ในผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกเจ็บในส่วนโค้งนูนของกระดูกสันหลัง รู้สึกเจ็บถึงเอว ยิ่งจะมีอาการรุนแรงขึ้นเมื่อทำการนั่งหรือการยืนเป็นเวลานาน

รูปภาพ:

หลังค่อม กับพฤติกรรม Congenital Kyphosis

เกิดจากการที่มีพัฒนาการที่ผิดปกติตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์ส่วนมากที่พบนั้นมาจากการเชื่อมรวมกันของกระดูกสันหลังตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป อาจพบอาการที่รุนแรงได้ และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดตั้งแต่ในช่วงเด็ก เพื่อเป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลังที่อาจจะโค้งนูนไปมากกว่าเดิม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวกับลักษณะหนึ่งทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันภายในครอบครัวด้วย หรืออาจจะรวมไปถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือไตร่วมได้

แนวทางการรักษาอาการ " หลังค่อม "

หลังค่อม รักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด

รูปภาพ:

การทำกายภาพบำบัด เป็นการแก้หลังค่อมคอยื่นโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาหรือการผ่าตัด แต่เป็นวิธีเบื้องต้นที่จะช่วยบรรเทาและฝึกฝนกล้ามเนื้อส่วนต่างๆรวมไปถึงการนำเอาอุปกรณ์ทางศาสตร์กายภาพบำบัดแทน ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของนักบำบัดด้วยท่าที่ 1 :ให้หาพื้นที่ที่สามารถนอนคว่ำได้ ยื่นแขนทั้ง 2 ข้างออกไปด้านหน้า และจากนั้นให้ยกแขนและขาขึ้นลง ประมาณ 10 ครั้งท่าที่ 2 :ให้หาเก้าอี้และนั่งเก้าอี้ โดยทำให้หลังตรงวางเท้าไว้ที่พื้นยกมือขึ้นทั้ง 2 ข้าง จากนั้นนำมาประสานกันที่ท้ายทอย และค่อยๆ ทำการกางไหล่ออกไปจนสุด พร้อมกันกับแอ่นหน้าอกขึ้น ทำทั้งหมด 5 เซต แต่ล่ะเซตทำค้างไว้ประมาณ 30 วิท่าที่ 3 :หาพื้นที่โล่งและนอนคว่ำหน้า อย่าลืมหาเบาะรองมานอนทับด้วยนะคะ วางฝ่ามือทั้งสองไปข้างหน้าอก และต่อไปให้ออกแรงดันพื้นขึ้นให้แขนเหยียดตรงเท่าที่จะรู้สึกตึงและทำได้ ทำทั้งหมด 5 เซต โดยค้างไว้ที่เซตล่ะ 30 วินาที

หลังค่อม รักษาโดย การใช้ยาในการรักษา

รูปภาพ:

การรักษาอาการหลังค่อมนั้นสามารถรักษาได้ด้วยการรับยามาทานที่บ้านเป็นยาประเภทกลุ่ม NSAIDs เช่น ยา Ibuprofen, ยา Naproxenเพื่อใช้ในการลดอาการเจ็บปวดต่างๆ ตามร่างกายให้ลดลง ทั้งนี้การรับยามาทานนั้นต้องได้รับยามาจากแพทย์ที่ได้มีการประเมินอาการออกมาแล้วเท่านั้น เพราะตัวยาแต่ละตัวต้องมีการพิจารณาให้ตัวยาในแต่ละรายบุคคลอย่างถูกต้อง

หลังค่อม รักษาโดยการผ่าตัด

รูปภาพ:

ก่อนที่จะมีการผ่าตัดใดๆ จะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าอยู่ในระดับอาการที่รุนแรง จนส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดนั้นจะต้องมีอาการโค้งงอของกระดูกสันหลังมากกว่า 75 องศาขึ้นไป หรือเป็นผู้ที่มีอาการหลังค่อมที่รุนแรง รวมไปถึงผู้ที่รักษาแบบไม่ผ่าตัดแล้วไม่ได้ผลด้วย

หลังค่อม กับการใช้อุปกรณ์เสริม

รูปภาพ:

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ ในปัจจุบันนั้นมีอุปกรณ์ที่สามารถเข้ามาช่วยผู้ที่มีอาการหลังค่อมได้ เพียงแต่ต้องเป็นแพทย์ที่ต้องมีการพิจารณาถึงความจำเป็นในแต่ละคนด้วย เช่น ผู้ที่อยู่ในวัยเด็ก และมีภาวะหลังค่อม แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้อุปกรณ์ค้ำกระดูก เพื่อรอให้กระดูกสันหลังมีการเจริญเติบโตเต็มที่ก่อน เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนของอาการ " หลังค่อม "

รูปภาพ:

การมีอาการหลังค่อมนั้นสามารถที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ หากผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรง เช่น• อาการปวดหลังเป็นประจำ และอาการนั้นก็ไม่สามารถบรรเทาลงได้หลังจากที่ทานยาแก้ปวดแล้ว• ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในผู้ป่วยที่มีองศาของกระดูกสันหลังหรือมีการโค้งมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้กระดูกไปกดทับปอดหรือทางเดินหายใจได้• ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เด็กที่มีอาการหลังค่อมอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ เขินอายไม่อยากเข้าสังคม รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วยฉะนั้นแล้วควรมีการเข้าไปพบแพทย์หากพบภาวะอาการแทรกซ้อนอย่างรุนแรงเช่น เส้นประสาทถูกกระดูกสันหลังทับ จนส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาท ทำให้ขาและแขนเกิดอาการอ่อนล้าหรือชาได้ ปัญหาเกี่ยวกับการสัมผัสอาจจะส่งผลกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้สูญเสียการควบคุม เป็นต้น

⋯⋯⋯⋯⋯⋯⋯⋯

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเป็นยังไงบ้างคะทุกคนหลังค่อมเป็นอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายของเรามากจริงๆ นอกจากนั้นยังรวมไปถึงบุคลิกของเราที่อาจจะทำให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้แต่ถ้ามีโอกาสรักษาและพยายามฝึกฝนร่างกายได้แล้วนั้นถือว่าส่งผลที่ดีต่อตัวเราเองได้เลยทีเดียว อย่าปล่อยให้ความสบายกลายมาเป็นปัญหาใหญ่จนไม่สามารถรักษาได้

ขอขอบคุณแหล่งรวมไอเดียและรูปภาพดี ๆ จาก

http://www.pinterest.com

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด