สวัสดีค่าาา มีชาวซิสคนไหนได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับนางเอกสาวฮันโซฮีกันบ้างมั้ยเอ่ยยย ~ หลังจากที่ได้เห็นลุคใหม่ของสาวฮันโซฮี ที่เปลี่ยนลุคจากนางเอกมาเป็นสาวเท่ เจาะปากและโหนกแก้มมาแบบนี้ ก็สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลย เพราะเป็นการเปลี่ยนลุคใหม่ที่ดูฮอต ดูเท่ขึ้นจริง ๆ วันนี้ซิสเลยอยากจะมาพูดถึงเรื่องการเจาะตามร่างกายในจุดต่าง ๆ เหมือนที่สาวฮันโซฮีได้ไปเจาะมา เพื่อเป็นความรู้ให้เพื่อน ๆ ชาวซิสคนไหนที่สนใจอยากไปเจาะตามกันนะคะ

✦•·············•✦•·············•✦ ♡ ✦•·············•✦•·············•✦


รูปภาพ:

เปลี่ยนลุคสุดเท่ได้ด้วยการ เจาะตามร่างกาย

ในปัจจุบันการเจาะตามร่างกายก็ดูจะเป็นที่ฮอตฮิต มีคนนิยมเจาะกันมากมายเลยใช่มั้ยล่ะคะ โดยจุดที่คนส่วนใหญ่เลือกเจาะกันนั้นจะเป็นบริเวณใบหูนั้นเอง ถึงแม้ว่าใบหูจะเป็นจุดยอดนิยมที่คนเลือกเจาะกัน แต่ก็ยังมีจุดอื่น ๆ ที่คนเลือกเจาะกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเจาะบริเวณ สะดือ , คิ้ว , ลิ้น , จมูก , ปาก หรือ โหนกแก้ม ซึ่งการเจาะที่ปาก และโหนกแก้มนั้นก็เป็นจุดที่สาวฮันโซฮี นางเอกลุคสุดเท่นั้นเลือกเจาะนั้นเองค่าการเจาะตามร่างกายถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลใครชอบจุดไหน อยากจะเจาะจุดไหนไม่มีถูกผิดค่ะ ไม่มีจุดไหนสวยกว่าจุดไหน สามารถเลือกเจาะได้เลยเพียงแต่อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นอันดับแรกเอาไว้ด้วยนะคะ ควรได้รับการเจาะจากผู้ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญค่ะ เพราะก็มีคนไม่น้อยที่มีการติดเชื้อหลังจากเจาะตามร่างกายไปนั้นเองค่าโดยในวันนี้ซิสจะมาบอกข้อควรรู้ ความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเจาะ รวมถึงวิธีการดูแลหลังจากเจาะมา ว่าควรจะต้องมีวิธีในการดูแลรักษายังไงบ้าง เพื่อเป็นความรู้และประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ชาวซิสที่สนใจอยากจะไปเจาะตามกันบ้างนั้นเองง เอาล่ะ ! ถ้าพร้อมกันแล้ว เราตามไปดูกันเลยดีกว่าค่าา เริ่มเลอะะะ

การเกิดคีลอยด์ หรือแผลเป็น


ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเจาะตามร่างกาย !


ในปัจจุบันคนที่ต้องการเจาะตามร่างกายนั้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่จะเลือกเจาะบริเวณใบหูก่อน ทำให้การเจาะบริเวณใบหูนั้นได้รับความนิยมสูงสุดในการเจาะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จากการสำรวจพบว่า วัยรุ่นเกือบ 25% เลือกที่จะเจาะตามส่วนอื่น ๆ ด้วยนอกจากบริเวณใบหู เช่น สะดือ , คิ้ว , ลิ้น , จมูก , ปาก , โหนกแก้ม อีกทั้งยังรวมไปถึงอวัยวะเพศก็มีคนเลือกเจาะด้วยเช่นกัน ซึ่งในบรรดาผู้ที่เจาะบริเวณอื่นนอกจากบริเวณใบหูนั้น มักจะมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมายขึ้นได้ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์จากการเจาะตามร่างกายนั่นเอง

เจาะตามร่างกาย กับความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

1)

ทำความสะอาดช่องปากด้วยhttps://hellokhunmor.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81/หากเจาะลิ้น ริมฝีปาก หรือแก้ม ควรล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อหลังอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน นอกจากนั้นแล้วควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการนำแบคทีเรียเข้าไปในปาก หลังจากบริเวณที่เจาะแผลหายสนิทแล้วลองถอดเครื่องประกับออกในเวลากลางคืนและทำความสะอาดโดยการใช้แปรง เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์ นอกจากนั้นตอนที่https://hellokhunmor.com/%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81/%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81/%e0%b9%82%e0%b8%a0%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81/%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากๆ ก็แนะนำให้ถอดเครื่องประดับออกก่อนจะเป็นการดีที่สุดทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่เจาะ หากเจาะผิวหนังควรทำความสะอาดบริเวณที่เจาะด้วยสบู่ และน้ำวันละ 2 ครั้ง และก่อนทำความสะอาดทุกครั้งควรล้างมือก่อนที่จะทำความสะอาดบริเวณที่เจาะหลีกเลี่ยงการhttps://hellokhunmor.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%94%e0%b8%b5/%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%aa/%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81/อยู่ให้พ้นจากแอ่งน้ำ อ่านน้ำร้อน แม่น้ำ ทะเลสาบ และแหล่งน้ำอื่นๆ ในขณะที่การเจาะยังอยู่ในขั้นตอนการรักษาอย่าทำตัวตามใจชอบ อย่าแตะบริเวณที่เจาะใหม่ หรือบิดเครื่องประดับ เว้นแต่ต้องการจะทำความสะอาด นอกจากนั้นแล้วควรเก็บเสื้อผ้าให้ห่างจากการเจาะด้วย เพราะเสื้อผ้าอาจจะไปเสียดสีกับบริเวณที่มีการเจาะมากเกินไป จนอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้เก็บเครื่องประดับให้เข้าที่ แผลเจาะส่วนใหญ่นั้นจะรักษาหายภายใน 6 เดือน แต่บางคนอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือนานกว่านั้นในการรักษา เพื่อรักษาแผลการเจาะให้หายดี ควรปล่อยเครื่องประดับไว้ตรงบริเวณที่เจาะเสียก่อนแม้แต่ในเวลากลางคืน เพื่อไม่ให้รูที่เจาะปิดนั่นเอง

สำหรับความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการเจาะตามร่างกายนั้น มีดังนี้ค่า

1) การเกิดคีลอยด์การเกิดคีลอยด์นั้นอาจจะเกิดขึ้นได้แม้จะเป็นแผลเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงมากมายนะคะ ที่น่ากังวลคือความไม่สวยงามและอาจจะมีอาการคันบริเวณที่เป็นคีลอยด์ได้ การเกิดคีลอยด์เกิดขึ้นจากเยื่อบุหรือแผล มีเส้นใยมากเกินไป ทำให้บริเวณที่เป็นคีลอยด์นั้นจะบอบบางกว่าบริเวณอื่น ในการรักษาสามารถทำได้โดยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ อาจจะได้รับการผ่าตัด หรือได้รับการรักษาด้วยเลเซอร์ก็ได้เช่นกัน แล้วแต่ตัวบุลคลนั้นเอง2)การฉีกขาดจากการเกิดอุบัติเหตุหลังจากได้รับการเจาะตามร่างกายมาแล้ว ควรดูแลรักษาตัวเองให้ดี ไม่ควรไปทำกิจกรรมหรืออยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย เช่น การเล่นกีฬา เป็นต้น เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้โดยไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้เกิดการฉีกขาด หรือติดเชื้อเลยก็เป็นได้ ทางที่ดีควรรักษาให้แผลที่ได้รับการเจาะมา หายและแห้งสนิทก่อนจึงจะออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงอันตรายต่อแผล3) การติดเชื้อต่าง ๆ ที่จุดเจาะการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังจะความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เมื่อเกราะป้องกันของผิวแตก โดยการติดเชื้อแบคทีเรียอย่าง เชื้อสตาฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus) และเชื้อสเตรปโทคอกโคสิส (Streptococcosis) นั้น ถือว่าเป็นแบคทีเรียที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดในทุกส่วนของร่างกายที่ถูกเจาะ โดยวิธีรักษาสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย

4)ปฏิกิริยาการแพ้ถ้าพูดถึงเรื่องการแพ้ที่บริเวณผิวหนัง การแพ้นิเกิล ถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในคนจำนวนมาก ดังนั้นถ้าใครที่แพ้นิเกิลอยู่แล้วตัดสินใจจะเจาะตามร่างกาย ในการเลือกจิวหรือเครื่องประดับมาใส่ในการเจาะ ควรเลือกดูให้ดีว่าปราศจากนิเกิลรึไม่ ควรหลีกเลี่ยงการใช้จิวหรือเครื่องประดับที่มีส่วนผสมของนิเกิล หากเกิดปฏิกิริยาที่แพ้นิเกิลขึ้นแล้ว มักจะต้องเอาเครื่องประดับออก แล้วใช้ครีมสเตียรอยด์เพื่อช่วยหยุดปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดขึ้นนั้นเอง

วิธีการดูแลรักษาหลังการเจาะตามร่างกาย

หลักจากได้รับการเจาะตามร่างกายมาแล้ว ตามปกติผิวหนังรอบแผลเจาะใหม่ อาจจะมีอาการบวมและแดงได้ในเวลาประมาณ 2-3 วัน บางคนอาจจะมีเลือดออกเล็กน้อยด้วยแต่ถ้าใครที่มีอาการบวมแดง และมีเลือดออกนานกว่า 2-3 อาทิตย์ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญโดยด่วนเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูแลรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อและดูแลรักษาแผลหลังจากที่เจาะมาแล้ว สามารถทำตามด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น

♡ การล้างมือก่อนที่จะสัมผัสบริเวณแผลที่พึ่งเจาะมาทุกครั้ง

♡ การทำความสะอาดบริเวณแผลที่เจาะด้วยสบู่ และน้ำสะอาด 2 ครั้งต่อวัน

♡ การหลีกเลี่ยงการไปว่ายน้ำ แช่น้ำ หรือไปอยู่ในแหล่งน้ำอื่น ๆ ที่ไม่แน่ใจว่าจะสะอาด 100% ในขณะที่กำลังรักษาแผลที่พึ่งเจาะมาใหม่ ๆ

♡ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผลที่เจาะใหม่ ยกเว้นว่าจะเป็นการทำความสะอาดแผล

✦•·············•✦•·············•✦ ♡ ✦•·············•✦•·············•✦

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับความรู้เรื่องการเจาะตามร่างกายตามจุดต่าง ๆ ที่ซิสนำมาแนะนำกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวซิสที่สนใจอยากจะไปเจาะอยู่นะคะ ใครที่อยากเปลี่ยนลุคเป็นสาวสวยสุดเท่อย่างสาวฮันโซฮี ก็สามารถไปเจาะตามกันได้เลยยแต่ แต่ แต่ ! ซิสอยากจะเน้นย้ำไว้อีกครั้งว่าการเจาะตามร่างกายถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลไม่มีถูกผิด สามารถเลือกเจาะได้เลยแต่ควรได้รับการเจาะจากผู้ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญ รวมถึงเป็นร้านเจาะที่มีมาตรฐานด้วยนะคะชาวซิสทุกคน เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองน้าาาสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดการอัปเดตเทรนด์ อัปเดตข่าวสารที่น่าสนใจแบบนี้ ก็อย่าลืมติดตาม SistaCafe กันไว้ด้วยน้าาา รับรองว่าไม่ตกกระแสแน่นอน แล้วพบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่าาา♡ ~