ไม่ว่าใครก็อยากจะเป็นคนที่มั่นใจ หรืออยากถูกเรียกว่าเป็นสาวมั่นกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมกับความมั่นใจ

และก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนตัวเองให้ดูเหมือนเป็นสาวมั่น ทั้งที่ตัวตนจริงๆ นั้นไม่ใช่ อยู่แล้วจริงมะ

ดังนั้นใครหลายๆ คนจึงยอมที่จะจมอยู่กับความเขินอาย และไม่กล้าที่จะลองเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้เทียบชั้นกับผู้หญิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ


ยังไงก็คงต้องยอมรับว่าคนที่มีความมั่นใจ มักจะได้ในสิ่งที่ต้องการ และประสบความสำเร็จในหลายๆ เรื่องได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง

แต่เราไม่จำเป็นต้องเสแสร้งเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวมั่น

ทั้งที่ตัวเองไม่อยากเป็น

เพียงแค่เรายึดถือ Mindset บางอย่าง ที่สำคัญ ของผู้ที่มีความมั่นใจพึงมีมาใช้ ก็สามารถบูสต์ความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้นได้แล้ว

ลองมาดู 5 Mindset ของผู้ที่มีความมั่นใจ ไม่ว่าใครก็ต้องลองก็อป!


5 Mindset ของสาวมั่น ใครอยากมั่นต้องลองทำตาม!


1. ไม่กังวล แม้จะรู้ตัวว่าไม่ได้มั่นใจตลอดเวลา

รูปภาพ:https://media2.giphy.com/media/l3q2zlXbBYNKsTZv2/giphy.gif

ข้อนี้อาจจะฟังดูย้อนแย้ง ไม่เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่คาดหวังกันใช่มั้ยล่ะ แต่ ดร. อลิซ บอยซ์ เคยกล่าวเอาไว้ในหนังสือว่าคนเราจำเป็นต้องมีทั้ง ความมั่นใจ และความไม่มั่นใจเพื่อให้งานทุกอย่างออกมาดีที่สุดเพราะการที่คนเรามีความไม่มั่นใจในตัวเอง จะทำให้ตัวเราพร้อมที่จะเรียนรู้ในทุกๆ สถานการณ์ และไม่ตั้งอยู่ในความประมาท

บางครั้งเจ้าความไม่มั่นใจนี่แหละ ที่จะทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และสิ่งที่เราทำอยู่นั้นดีจริงมั้ยซึ่งทำให้เราเตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และทำทุกอย่างให้ดีขึ้น นอกจากนี้แล้วคุณสมบัตินี้ยังทำให้เราสามารถร่วมงานกับคนอื่นได้ง่ายขึ้นด้วย หากมีใครที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเรา

ฉะนั้นเมื่อไรก็ตามที่เราอยากกลายเป็นผู้หญิงที่มั่นใจ แต่กลับรู้สึกังวลขึ้นมาล่ะก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดคิดว่าสุดท้ายแล้วตัวเองก็ไม่เชื่อมั่นในตัวเองเพราะจริงๆ แล้วสิ่งนี้แหละ คือคุณสมบัติที่สาวมั่นทุกคนควรจะมี


2. เอื้อเฟื้อตัวเองในอนาคต

รูปภาพ:https://assets.vogue.com/photos/58912d6685b3959618472385/master/pass/02-chloe-bruce.gif

การเอาใจใส่ตัวเราเองในอนาคต จะทำให้การกระทำทุกอย่างของเราในตอนนี้ดีขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น

อนาคตอันใกล้

อย่าง รีบสะสางงานเล็กๆ ในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เช้าตัวเราจะมีงานยุ่ง หรืออาจจะเป็นการ

มองการณ์ไกลไปจนถึงสุขภาพของตัวเราในอนาคต

เมื่ออายุมากขึ้นก็ได้ อย่างเช่น คุณอาจจะไม่ชอบออกกำลังกาย แต่อาจจะบอกกับตัวเองว่า

"ถึงตอนนี้จะไม่ชอบออกกำลังกาย แต่ตัวเราในอนาคตจะต้องรู้สึกขอบคุณแน่"

การที่เรามีความเอื้อเฟื้อแก่ตัวเองในอนาคตแบบนี้ นับเป็นนิสัยของคนที่รักและเอาใจใส่ในตัวเอง

ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว

อยากจะมีอนาคตที่ดี มีความสุข และเขาก็ทำมันให้เกิดขึ้นจริงด้วย

นิสัยมองการณ์ไกลแบบนี้ดีมากเลย เราเอาอย่างกันบ้างดีกว่าเนอะ


3. ให้ความล้มเหลว เป็นทั้ง บทเรียน, ความท้าทาย และ โอกาส

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/xThuWrVxahQEkBy4G4/giphy.gif

ในยามที่เราพลาดพลั้ง หรือเคยผิดพลาด

ในเรื่องใดๆ มาก็ตาม

บุคคลเหล่านี้จะไม่คอยซ้ำเติม และยึดติดจนกลัวในความผิดพลาด

แต่ต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

เพราะความผิดพลาดถือเป็นประสบการณ์

ถ้าเรามีโอกาสได้เรียนรู้ความพลาดกับตัวเองแล้ว

เราก็จะพยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง และวิธีการเพื่อไม่ให้พลาดซ้ำอีกครั้ง

ดังนั้นบทเรียนจากประสบการณ์ จึงเป็นเหมือนความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราต้องหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น

ฉะนั้นใครที่เคยล้มเหลวในเรื่องอะไรก็ตาม

อย่าได้ดูถูกตัวเองจนไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ นะ บทเรียนมีไว้ให้เราเรียนรู้ และปรับปรุง นำไปสู๋อนาคตที่ดีขึ้นอยู่แล้วเนอะ


4. รู้จุดแข็งของตัวเอง

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/tVn1xZTgnjr2/giphy.gif

ลองนึกถึงเรื่องอะไรสักเรื่องที่เราได้รับคำชม

แล้วลองสังเกตดูว่างานนั้นที่เราได้รับคำชมมานั่น ว่าเรารู้สึกยังไงกับงานนั้น เราชอบ หรือไม่ชอบ

และไม่ว่าเราจะมีส่วนร่วมอะไรในงานนั้นก็ตาม แต่เมื่อสำเร็จแล้ว ให้คุณนึกถึงสิ่งนั้นซ้ำๆ แล้วทำให้มันดีขึ้นไปอีก

ในงานต่อๆ ไป

พยายามจดจำ และระลึกถึง

คำตอบรับดีๆ จากผู้อื่น จะช่วยให้คุณรู้ถึงจุดแข็งของตัวเองได้

ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นงานเดียว หรืองานที่ได้รับผลตอบรับดีที่สุด แต่ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม

หากคุณได้รับคำตอบรับที่ดี ได้รับประสบการณ์ที่ดี แล้วระลึกถึงบ่อยๆ ก็จะช่วยให้คุณมีคุณภาพความคิดที่ดีติดตัวไปตลอด


5. นึกถึงเป้าหมายอันทรงคุณค่า ที่คุณต้องการอยู่เสมอ

รูปภาพ:http://s15559.pcdn.co/wp-content/uploads/2017/02/cinderella-transformation.gif

ไม่มีใครที่รู้สึกตื่นตัวไปซะทุกเรื่อง หรือมีพลังล้นเหลือในการทำภารกิจทุกอย่างอยู่ตลอดเวลาหรอก

บางคนอาจจะเจอเรื่องที่ทำให้รู้สึกท้อมานักต่อแล้วซะด้วยซ้ำ

แต่การที่เราหมั่นนึกถึง สิ่งที่มีค่าในชีวิต เป้าหมาย และภารกิจสำคัญ

ที่เราอยากทำให้ได้

ะช่วยทำให้คุณได้รับพลังงานมหาศาล อีกทั้งความตั้งใจ และความมั่นใจ

ในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จให้ได้

การระลึกถึงสิ่งที่เราตั้งใจ จะทำให้คุณรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าเราเป็นใคร และเราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร


ไม่ว่าพื้นฐานแล้วคุณจะเป็นคนประเภทไหน มีนิสัยยังไงก็ตาม

อาจจะแตกต่างจากสาวมั่นมากๆ เลยก็เป็นได้

แต่คุณก็สามารถยึด 5 mindset นี้ไปใช้กับตัวเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงทั้งตัวเอง และประสบการณ์ของคุณให้ดีขึ้นได้เช่นกันจ้า