เป็นกันไหม !? บางครั้งที่ตื่นมาแล้วสิ่งแรกที่จับเลยคือโทรศัพท์ จากนั้นเราก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ๆ ในการนอนกลิ้ง ๆ และไถฟีดไปเรื่อย ๆ เจอคลิปรุนแรง เศร้า หรือแฮปปี้ อารมณ์เราก็ขึ้นลงตามเหมือนอยู่บนรถไฟเหาะ และบางครั้งโซเชียลมีเดียก็คือสิ่งที่มากำหนดว่าวันนี้อารมณ์เราจะเป็นแบบไหน ซึ่งก็ทำให้วันทั้งวันแย่ไปหมด หรือแม้กระทั่งบางครั้ง โซเชียลมีเดียก็ทำให้เราไม่ได้อยู่ในปัจจุบันของตัวเอง หลงลืมความรู้สึกตัวเองไป เช่น ไปเที่ยวแต่ก็เอาแต่มัวคิดว่าต้องถ่ายรูปตรงไหน มุมไหนลงโซเชียลดี ทำให้เราไปเที่ยวแต่ไม่ได้เที่ยวเลยด้วยซ้ำแล้วจะทำยังไงดีหรือเราควรจะเริ่มทำโซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ก็อย่างที่ว่าพออะไรเริ่มที่จะ Toxic กับเรา เราก็ควรที่จะถอยออกมาสักพัก

รูปภาพ:

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ คืออะไร ?

รูปภาพ:

โซเชียลดีท็อกซ์คืออะไร ? จริง ๆ แล้วก็ตามชื่อเลยค่ะ Social media detox

คือการหยุดพักจากการเล่นโซเชียลมีเดียเป็นระยะตามที่เรากำหนดค่ะอาจจะเริ่มจากการพยายามลดปริมาณการใช้งานโซเชียลลงก่อนในช่วงแรก ๆ แล้วค่อยเริ่มหยุดเป็น 2 วัน 1 อาทิตย์ หรือ เป็นเดือน เป็นปี หรือบางรายก็ลบแอคเคาท์ออกไปเลยก็มีค่ะ

แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อใครหลายคนมาก ๆ แต่ก็มีงานวิจัยไม่ใช่น้อยเลยที่ออกมาชี้แจงถึงข้อเสียของมันค่ะ เช่นทำให้คนในยุคนี้มีสมาธิที่สั้นลง ทำให้หลายคนมี insecurity ในรูปร่างของตัวเอง และอื่น ๆ อีกหลายด้าน

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ กับข้อดีข้อเสียของเขา

รูปภาพ:

ข้อดีของการทำโซเชียลมีเดียดีท็อกซ์มีเยอะมาก แบบมาก เลยค่ะ1. ได้เวลาคืนมาให้ตัวเองจะเอาไปฮีลใจ ไปทำอะไรใหม่ ๆ ไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตหรืออะไรก็ได้เลย2. ได้กลับมาคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตตัวเองตอนนี้ได้กลับมาทำเป้าหมายที่เราอาจจะหลงลืมไป ได้ค้นพบตัวเองคนที่เราไม่เคยคิดว่า เอ๊ะ ! เราก็มีมุมแบบนี้เหรอเนี่ย3. ได้มีชีวิตแบบชีวิตจริง ๆ นั่นคือการอยู่กับปัจจุบันไม่ฟุ้งซ่านหาอดีตหรืออนาคต ไม่ต้องไคว่คว้าหาสิ่งที่สังคมบอกเราว่าเราต้องมี4. รู้สึกดีขึ้นกับตัวเองไม่ว่าจะรูปร่างหรือหน้าตา ภายในหรือภายนอก บางทีการเล่นโซเชียลมากเกินไปก็ทำให้เรามีความกดดันที่จะต้องทำตัวให้ถูก ดีเลิศ และเพอร์เฟคอยู่ตลอดต้องทำอย่างไร ต้องพูดแบบไหน ต้องแต่งตัวประมาณไหน แบบนั้นอยู่ตลอด หรือรวมถึงการต้องเห็นรูปความสุขของคนอื่นตลอดเวลา อาจทำให้บางคนรู้สึกแย่กับตัวเองได้ เพราะฉะนั้นการได้พักจากมุมนี้เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตใครหลายคนดีขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ5. ความเครียดลดลงอย่างเห็นได้ชัดแน่นอนเลยค่ะ เพราะสำหรับบางคนแล้วโซเชียลมีเดียนี่หล่ะที่เป็นตัวดีของบ่อเกิดของความเครียดในชีวิตเลย แค่การเลื่อนผ่านข่าวที่มีความรุนแรงเราก็รู้สึกร่วมไปกับมันซะงั้น ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกนะคะ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เรารู้สึกร่วม ทางที่ดีควรจะพักจากมันค่ะ6. สุขภาพดีขึ้นและตารางในชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นพอเรามีสติที่ดีขึ้น อะไรต่าง ๆ ก็จะดีขึ้นตาม มีชีวิตที่เป็นระเบียบ มองเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญกับเราจริง ๆ ทำให้เราเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น

รูปภาพ:

พูดข้อดีมาซะเยอะ ไหน ๆ มีข้อเสียไหมเนี่ย Social detox ??

อาจจะมีค่ะ สำหรับคนที่ต้องใช้โซเชียลในการทำงาน อย่างเช่น influencer อาจจะมีการเสียโอกาสบางอย่างไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือสุขภาพเรานะคะเพราะฉะนั้นต้องเลือกตัวเราเองก่อนเสมอนะ และนอกจากนั้นเราอาจจะเสีย connection กับเพื่อนบางคนหรือบางกลุ่มไป อย่างเช่นการไม่เข้าโซเชียลนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เพื่อนบางคนที่ไม่ได้อยู่ในชีวิตจริงเราเขาลืมไปเลยก็ได้ จริง ๆ จะมองเป็นข้อดีหรือข้อเสียก็ได้ค่ะเพราะก็เป็นเหมือนการคัดคนในชีวิตเราถ้าคนที่เขาแคร์เราจริง ๆ เขาก็จะทักมาถามเราเรื่อย ๆ ค่ะว่าตอนนี้เราเป็นอย่างไรบ้าง เหมือนเป็นการทำให้เราเห็นว่า ใครที่เขาแคร์เราจริง ๆ บ้างในชีวิตนี้

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ จะเริ่มทำยังไงได้บ้าง ?

รูปภาพ:

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ ทำได้โดย 1 เริ่มจากลดเวลาเล่น

เราคิดว่าถ้าจะให้เลิกเลยจะเป็นการหักดิบเกินไปค่ะ และจะไม่เป็นผลดีต่ออารมณ์ของใครหลายคน เด็กทุกวันนี้เริ่มเล่นโซเชียลกันตั้งแต่เด็ก จวบจนเป็นผู้ใหญ่ก็ยังเล่นอยู่ จากแต่ก่อนที่โซเชียลมีเดียเป็นแค่อีกหนึ่งช่องทาง entertainment แต่ทุกวันนี้ก็แทบจะเป็นอีกปัจจัยในการใช้ชีวิตของใครหลายคน เพราะฉะนั้นการให้เลิกเล่นโซเชียลไปเลยก็อาจจะเหมือนการบอกใครสักคนให้เลิกแปรงฟันออกจากบ้าน หรือเทียบได้กับการที่รถคันนึงวิ่งมา 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเหยียบเบรคเลยทันที ก็คงจะไม่ได้ใช่ไหมหล่ะคะ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือเริ่มจากการลดเวลาเล่นลงค่ะจาก 8 ชม.ต่อวัน ก็อาจจะลดลงเหลือ 6ก่อนอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนเวลาที่เหลือก็เอาไปจดจ่ออย่างอื่นก่อน เช่น การดูหนัง อ่านหนังสือ หรือทำงานบ้าน ลองเอากิจกรรมอื่นมาดึงความสนใจเราก่อนค่ะ

รูปภาพ:

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ วิธีที่ 2 ลองลบแอปพลิเคชั่น

ขั้นนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มีโซเชียลมีเดียได้ประมาณนึงค่ะ ลองลบแอพลิเคชั่นออกไปเลยก็ได้ค่ะส่วนใครที่อาจจะติดต่อเรื่องงานเราแนะนำว่าให้แจ้งพาร์ทเนอร์ให้ติดต่อผ่านทางอีเมลค่ะเพราะว่าอย่างแรกเลยเราต่างก็ควรมี work life balance ที่ดี การคุยงานในพื้นที่โซเชียลมีเดียซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะทำให้เรามีขอบเขตต่าง ๆ ในชีวิตที่แย่ นำมาซึ่งชีวิตที่ขาดสมดุลค่ะ และสำหรับคนที่กลัวว่าจะพลาดข่าวสารอะไรไป ไม่ต้องกังวลค่ะถ้าข่าวสารนั้นสำคัญต่อเราจริง ๆ เดี๋ยวจะมีคนมาบอกเองค่ะจริง ๆ แล้วการหยุดพักจากโซเชียลมีเดียก็เลี่ยงที่จะไม่ต้องรับรู้อะไรที่ไม่สำคัญ แล้วเอาเวลาเหล่านั้นมาทุ่มให้ตัวเองได้อย่างเต็มที่

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ วิธีที่ 3 บอกตัวเองว่าเราทำได้

การต้องขาดอะไรที่เราเสพติดมานานก็เหมือนการหยุดใช้ยาที่เราติดค่ะ อาจจะเป็นการลงแดงอะไรประมาณนั้น แต่ทุกคนท่องไว้ว่าเราทำได้มันอาจจะฟังเป็นเรื่องที่ยาก แต่เราต่างก็ทำเรื่องที่ยากได้ท่องเอาไว้ว่าสุขภาพจิตเรานั้นสำคัญ และสำคัญเป็นอย่างมากเลยด้วยต้องห้ามใจเราไว้ค่ะทุกคน

รูปภาพ:

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ วิธีที่ 4 เอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง

4 เอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง

แน่นอนหล่ะค่ะว่าเราอาจจะฟุ้งซ่านได้ แต่ว่าเราสามารถที่จะเอาเวลานี้ไปทำอย่างอื่นได้ อย่างเช่นลองเอาเวลาเหล่านี้มาพัฒนาตัวเราให้เป็นคนที่ดีขึ้นลองเรียนภาษาที่อยากพูดได้มานานแล้ว หรือลองออกไปข้างนอก ออกไปใช้ชีวิตนอกจอ ไปในที่ที่อยากไปมานานแล้ว หรือเอาเวลาไปทำอาหาร เมนูที่เซฟสูตรเอาไว้แต่ก็ไม่ได้ทำสักที ลองเอาเวลาหันไปหาลิสต์ที่บันทึกไว้ว่าค่อยทำละกัน จริง ๆ แล้ว เราสามารถที่จะทำอะไรมากมายได้ในหนึ่งวันหากปราศจากซึ่งโซเชียลมีเดีย อาจจะมากกว่าที่ใครหลายคนคิดไว้ด้วยซ้ำ

โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ วิธีที่ 5 ลบแอคเคาท์

5 ลบแอคเคาท์

สำหรับสายแข็งเลยก็ว่าได้ ถ้าใครค้นพบชีวิตในแบบที่ไม่มีโซเชียลมีเดียคือทางที่ถูกต้องแล้วจะลบออกไปก็ได้ค่ะ ลองหายไปสักพักนึง ไปฮีลใจ สะพายเป้ออกไปเที่ยวลองไปใช้ชีวิตแบบ Main characterลองได้พบเจอประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ โดยที่ไม่ต้องมีความรู้สึกที่ต้องเอามาลงโซเชียลให้คนอื่นเห็นก็ได้ค่ะ ถ้าหากว่าอะไรมันแย่ เราก็ต้องแก้เท่านั้น !!!!!!

สุดท้ายแล้ว

รูปภาพ:

การทำโซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ก็ต้องขึ้นอยู่ตามความต้องการของแต่ละบุคคล อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปก็ได้ค่ะอะไรที่มันฝืนเดี๋ยวจะไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองเสียเปล่า ๆส่วนตัวเราเองก็มีการทำโซเชียลดีท็อกซ์อยู่เป็นช่วง ๆ บ้าง ทำให้ชีวิตเรามีระเบียบมากขึ้น ได้มองถึงคุณค่าที่แท้จริงของหลายอย่างและคนหลายคน ลองนำวิธีไปปรับใช้กันดูนะคะ จะนับเป็นแค่การทดลองก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเครียดเกินไปน้า แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ

ขอขอบคุณแหล่งรวมไอเดียดี ๆ จาก

http://www.pinterest.com

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด