1. SistaCafe
  2. ใช้เงินให้ตรงจุด หยุดปัญหาสิวหัวดำ! 5 ตัวช่วย หน้าเนียนใสด้วยมือหมอ 😄✨

เรื่องสิวที่น่าหงุดหงิดที่สุด ก็คงจะเป็นเรื่อง

สิวหัวดำ

นี่แหละจ้า เพราะ

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ออกอาการคันเจ็บแสบ หรือมีหัวหนองจนทำให้กลายเป็นตำหนิเด่นหรา แต่ก็สร้างความน่ารำคาญใจ

และเป็นอุปสรรคต่อการแต่งหน้า

อีกทั้งยังทำลายหน้าสดระยะใกล้ของเราเป็นอย่างมากเลย พอมองกระจกแล้วเห็นสิวหัวดำทีไรมันโมโหทุกที


ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผิวประเภทไหน ก็สามารถเผชิญกับปัญหาสิวหัวดำและสิวเสี้ยนได้ทุกคน

จึงไม่แปลกใจเลยที่

สาวๆ ส่วนใหญ่จะพยายามหาวิธีกำจัดสิวหัวดำออกไป

ไม่ว่าจะด้วยแผ่นแปะสิวเสี้ยนบ้าง หรือมาส์กจากธรรมชาติบ้าง

แต่ก็ยังมีอีกวิธีที่ค่อนข้างได้ผล แต่อาจจะต้องใช้กำลังทรัพย์มากซะหน่อย ซึ่งนั่นก็คือการพึ่งสารเคมี และฝีมือหมอผิวหนังนั่นเอง



ครั้นจะเสียเงินซื้อความสวยทั้งทีก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่ไหนๆ

ถ้าตัดสินใจจะซื้อแล้วก็ขอแก้ไขให้ตรงจุด และเห็นผล

หน่อยเถอะน่า

ใครที่มีแปลนอยากจ่ายเงินเพื่อกำจัดเหล่าสิวหัวดำ และสิวเสี้ยนล่ะก็ ขอแนะนำ 5 กรรมวิธีด้านล่างนี้เลยจ้า


5 ตัวช่วย หน้าเนียนใสด้วยมือหมอ


1. ครีมที่มีส่วนผสมของ Retinoid

ยาที่มีส่วนผสมของ Retinoid สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสิว และรวมไปถึงสิวเสี้ยน สิวหัวดำ

แต่ข้อสำคัญคือใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีใบสั่งยา และต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น

เนื่องจากตัวยามีความรุนแรงต่อผิวค่อนข้างมาก



Retiniod จะไปทำการขจัดสิ่งที่อุดตัดรูขุมขน และควบคุมการผลิตน้ำมัน และSebum

ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวๆ ที่ไม่สิวได้เป็นอย่างดี

ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบเจล, น้ำยา หรือแม้แต่ครีม จะเห็นส่วนผสมนี้ได้ทั่วไปในยาที่ใช้รักษาสิว

ที่สำคัญจำไว้อย่างเดียวเลยคือ

ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ไม่งั้นหน้าพังนะเอ้า


คำเตือน : สตรีมีครรภ์ หรือมีแนวโน้มที่จะใกล้เข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ ควรจะใช้ยา Retinoid ด้วยความระมัดระวัง


2. เลเซอร์

ต้องถือว่าโชคดีสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะปัญหาผิว หรือปัญหาเรื่องความสวยงามใดๆ เราก็มีเครื่องไม้เครื่องมือให้พึ่งได้ทุกเรื่อง

ภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ผิวหัง ซึ่งการรักษาด้วยเลเซอร์ ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหา

สิวหัวดำ

ได้เช่นกัน



เลเซอร์จะทำการพิกัดตำแหน่งที่มีปัญหาสิวหัวดำได้ลึกถึงในรูขุมขนไปจนถึงต้นตอ ลำแสงของ

เลเซอร์จะยิงตรงลงสู่ผิวหน้า ซึ่งจะทำการเข้าโจมตีเจ้าแบคทีเรียตัวร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในรูขุมขน

และทำการขจัดสาเหตุของสิวหัวดำเหล่านั้น

หลังการรักษาคุณอาจจะมีอาการผิวแดง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะว่ารอยแดงบนผิวจะหายไปภายใน 1 - 2 วัน

หากจะทำการเลเซอร์ขอ

แนะนำให้ทำกับคลีนิกที่มีแพทย์ผิวหนังที่มั่นใจได้เท่านั้นนะจ๊ะ



3. การกดสิว

เวลาที่เราเห็นสิวหัวดำ ส่วนใหญ่จะเกิดอาการหมั่นไส้ อยากจะบีบ

และทำลายมันให้หายไปด้วยน้ำมือของเราเอง แต่แทนที่จะบีบ

เค้นเจ้าสิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง จนผิวหน้าย่ำแย่กว่าเดิม มาลองใช้วิธีกดสิวภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังดีมั้ยเอ่ย



แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กเท่าปากกา แล้วทำการสกัดบีบเจ้าแบคทีเรีย, หนอง และน้ำมัน ให้ออกไปจากรูขุมขน

โดยการกดสิวอาจจะทำให้เกิดรอยแผล (หรือก็อาจจะไม่เกิดแล้วแต่กรณี) แต่รอยแผลเหล่านั้นจะหายไปภายใน 1 - 2 วัน



4. Chemical Peeling


ถ้า 3 ข้อบนเอาไม่อยู่ล่ะก็ลอง

Chemical Peeling

คือการลอกผิวด้วยสารเคมี

แพทย์จะทำการทาสารเคมีลงบนผิว เพื่อทำให้ผิวลอกออก

โดยกรรมวิธีนี้จะเป็นการลอกผิวเก่า แล้วเผยผิวใหม่

ซึ่งแน่นอนว่าช่วงที่ทำอาจจะต้องระมัดระวัง และให้การดูแลผิวเป็นอย่างมาก

ทั้งหลีกเลี่ยงจากแสงแดด และต้องปรนนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน โดยวิธีนี้จะทำให้ผิวบนหน้าลอกประมาณ 1 - 2 อาทิตย์



สำหรับวิธีนี้ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดสิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยนโดยตรง แต่ก็สามารถช่วยได้

เพราะจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน แถมยังช่วยทำให้ผิวหน้าใสขึ้น และริ้วรอยตื้นลงด้วยจ้า



ข้อควรระวัง :


1.ผู้ที่มีผิวระคายเคืองง่ายอาจจะไม่เหมาะ ควรปรึกษาแพทย์อย่างเคร่งครัด



2. ถ้าต้องทำงานกลางแดด หลบเลี่ยงไม่ได้ ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ปัญหาผิวหนักขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอยู่ในช่วงผลัดเซลล์ผิวใหม่ หากปะทะกับแสงแดด อาจทำให้เกิดฝ้า และหน้าหมองคล้ำ


5. ฮอร์โมนบำบัด

เอาจริงๆ ถ้าจะโทษอาการทั้งหลายแหล่ในร่างกายเรา ฮอร์โมนอาจจะเป็นอันดับแรกๆ

เลยที่เราควรจะนึกถึง เพราะฮอร์โมนของเราบางทีมันก็ไม่แน่นอน มีความขึ้นๆ ลงๆ

จนอาจก่อให้เป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์หลายๆ อย่าง รวมไปถึงสิว และสิวเสี้ยน สิวหัวดำด้วย



และถ้าหากคุณอยากรักษาเรื่องสิวเสี้ยน สิวหัวดำอะไรพวกนี้

การทำฮอร์โมนบำบัดก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

โดยส่วนมากแล้วถ้าเป็นปัญหาเกี่ยวกับสิวเสี้ยนอะไรพวกนี้

หมออาจจะให้ยาคุมกำเนิด และยาต้านแอนโดรเจน เพื่อควบคุมเหล่าสิวๆ ทั้งหลายเหล่านี้


ถ้าหากใครไม่อยากรอ หรือใช้วิธีธรรมชาติไม่หาย การปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อใช้ 1 ใน 5 วิธีนี้ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีและได้ผลที่สุด

ยังไงลองวิเคราะห์ว่าแบบไหนที่เหมาะกับเรานะจ๊ะ


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้