ต้อนรับเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในช่วงนี้นั้นมักจะมีกิจกรรมหลากหลายอย่างในการที่แพลนจะออกไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นเทศกาลสงกรานต์หรือการไปเที่ยวพักร้อนตามทะเลต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหนก็ต้องเผชิญกับแดดโดยตรงจึงทำให้การหลีกเลี่ยงแดดนั้นเกิดขึ้นได้ยาก เมื่อผิวที่โดนแดดเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดผิวไหม้แดดขึ้นได้แม้ว่าเรานั้นจะทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากๆ และ PA บวกเยอะๆ ก็ตาม แต่ใครที่แพลนจะไปเที่ยวแต่ไม่อยากผิวเสียก็มีเคล็ด(ไม่)ลับ มาบอกกัน ซึ่งก็คือ ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera นั่นเอง ซึ่งบางคนอาจจะรู้แต่สำหรับใครที่ไม่รู้การนำ Aloe Vera มาทาหลังเจอแดดจัดๆ หรือเวลานานโดยทาทิ้งไว้จะช่วยทำให้ผิวของเราเย็นขึ้นและลดอาการไหม้แดดได้ ซึ่งทริคนี้มีคนใช้และเห็นถึงความสำคัญของAloe Vera จึงบอกกันต่อๆ


แต่นอกจะนำมาใช้เรื่องผิวไหม้แดดแล้วนั้นประโยชน์ของAloe Vera ก็มีมากมายสำหรับผิวชาวซิสอย่างแน่นอน จะเห็นได้ชัดเจนเลยคือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนั่นเอง ซึ่งใครสายเน้นจากธรรมชาติ Aloe Veraก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในสายสกินแคร์ด้วย ซึ่งสกินแคร์ส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็มักจะมีส่วนผสมของ Aloe Vera เข้ามาเพิ่มด้วย ดังนั้นแล้วเรามาดูกันว่าAloe Vera หรือว่านหางจระเข้มีประโยชน์อย่างไร และมีข้อระวังอะไรไหมสำหรับคนที่พึ่งเริ่มใช้กัน


Aloe Vera หรือ ว่านหางจระเข้ คืออะไร ?


รูปภาพ:

ลักษณะภายนอกของว่านหางจระเข้นั้นมีลักษณะเป็นพืชยาวและมีหนามด้านข้างคล้ายกับหางของจระเข้ จึงเป็นที่มาของชื่อ แต่ว่านหางจระเข้นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ห่างออกไปถึงแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ต่อมาถูกนำเข้ามาปลูกใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือมีใบปลายแหลมคล้ายเข็ม มีเนื้อหนา และในเนื้อมีน้ำเมือกเหนียว

โดยสรรพคุณที่รู้จักกันของว่านหางจระเข้คือการนำเมือกมาใช้ในการสมานแผลและรักษาบาดแผลที่เกิดจากความร้อนต่างๆ เป็นการนำวุ้นเมือกภายในว่านหางจระเข้ซึ่งมีสรรพคุณเป็นฤทธิ์เย็นจึงนิยมนำมาใช้ประโยชน์ที่เป็นทั้งยาภายใน ยาภายนอก อีกทั้งยังใช้ในการนำมาเสริมความงามอีกด้วย


ประโยชน์ของว่านหางจระเข้


โดยวุ้นของว่านหางจระเข้นั้นสามารถเป็นยาฆ่าเชื้อ สมานแผล ห้ามเลือด ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโตทำให้แผลหายเร็วขึ้นอีกทั้งว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้รักษาแผลธรรมดา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลที่เกิดจากการใช้รังสี ลดอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค ป้องกันผิวไหม้แดด บำรุงผิวหน้า กำจัดฝ้า ยาระบาย แก้ไอเจ็บคอ รักษามะเร็ง แก้พิษแมงกะพรุน ช่วยประสานกระดูก รักษาโรคตับ และรักษาสมองผิดปกติ ด้วยประโยชน์ที่มากมายนี้นั้นว่านหางจระเข้จึงถูกขนาดนามว่าเป็นสมุน มหัศจรรย์จากธรรมชาติอีกด้วย


รูปภาพ:

  • วิธีใช้ประโยชน์ว่านหางจระเข้ภายใน
  1. เนื้อว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เนื้อว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งสามารถใช้เป็นยาถ่ายหรือยาระบายอ่อนๆ ได้ตามปริมาณการใช้เนื้อและมีฤทธิ์ในการดูแลโรคกระเพาะอาหารอักเสบลำไส้อักเสบได้
  2. รักษาระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับใครที่เป็นเบาหวานในระยะแรก เนื้อว่านหางจระเข้มีความสามารถในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เป็นการบรรเทาอาการของโรคและสามารถใช้ว่านหางจระเข้เป็นยาในการป้องกันและการเกิดโรคเบาหวานได้
  3. เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดข้อ ผู้ที่มีอาการปวดข้อสามารถนำวุ้นว่านหางจระเข้ที่สะอาดและแช่เย็นนำมารับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวดตามข้อต่างๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อวุ้นและน้ำวุ้น สามารถนำไปปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้เพื่อสะดวกในการทานที่ง่ายขึ้นและยังสามารถช่วยบรรเทาอาการด้วย

  • วิธีใช้ประโยชน์ว่านหางจระเข้ภายนอก
  1. บรรเทาอาการแสบร้อน เมื่อผิวสัมผัสกับความร้อนไม่ว่าจะเป็นน้ำร้อนลวก แผลโดนไฟ หรือแม้แต่ผิวที่ถูกแดดเผาจะมีอาการแสบร้อน สามารถนำวุ้นของว่านหางจระเข้มาใช้เป็นยาทาเพื่อลดอาการอักเสบของผิวและบรรเทาอาการแสบร้อนได้
  2. ลดอาการอักเสบ หากได้รับบาดเจ็บจากของมีคม ให้ทำความสะอาดแผลแล้วใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ที่ยังมีเมือกอยู่แปะลงไปบนแผลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสมานแผลให้เร็วขึ้นได้ ทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้ออักเสบได้อีกด้วย
  3. ใช้รักษาโรคตาปลา ใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาโรคตาปลาและฮ่องกงฟุตได้ โดยใช้เนื้อวุ้นทำความสะอาดแล้วแปะบริเวณที่เป็นตาปลาหรือฮ่องกงฟุต โดยทำความสะอาดแผลและเปลี่ยนวุ้นบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการลงได้เร็วมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ว่านหางจระเข้กับความงาม


รูปภาพ:

  1. ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผมและหนังศีรษะเพื่อให้ผมนุ่มสลวยเงางาม อีกทั้งยังมีฤทธิ์ในการขจัดรังแคได้ โดยการนำเอาเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ปั่นละเอียดแล้วนำมาชโลมผมหมักไว้ซักครู่เพื่อบำรุงผมและหนังศีรษะ
  2. ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อและมีกรดอ่อนๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ โดยการนำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาในการลอง 1-2 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่างๆ ดูจางลง ผิวหน้าดูใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  3. ว่านหางจระเข้บำรุงผิวกายสำหรับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพร้อมๆ การดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติ การใช้เนื้อเนื้อว่านหางจระเข้พอกหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าหรือจะนำมาใช้ตอนอาบน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวก็ได้ เช่นเดียวกันโดยนำเอาว่านมาตัดเอาเนื้อใส่หอผ้าแล้วแช่ไว้ในอ่างอาบน้ำหรือจะแช่ไปทั้งเนื้อเลยก็ได้ นำเนื้อว่านมาถูตามร่างกายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบำรุงผิวได้เช่นกัน

Aloe Veraส่วนผสมสุดฮิตในสกินแคร์


สรรพคุณที่โดดเด่นทั้งปกป้องผิวจากแสงแดดบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นรวมไปถึงเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติอันปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิว ทำให้ว่านหางจระเข้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโดยแบรนด์ชื่อดังมากมาย ยิ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นครีมหรือเจลบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ได้รับความนิยมมากขึ้น

ส่วนผสมจากเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้แล้ว บางผลิตภัณฑ์ก็ยังใส่ส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากหอยทาก สารสกัดจากน้ำเลม่อน อัลฟ่าอาร์บูติน รวมถึงวิตามินต่างๆ ดังนั้นแล้วหากใช้ในการบำรุงผิวนอกจากจะได้รับประโยชน์จากว่านหางจระเข้แล้วยังได้รับประโยชน์จากสารตัวอื่นอีกด้วย


ข้อควรระวังในการใช้ Aloe Vera


รูปภาพ:

การใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้หากต้องการใช้เนื้อวุ้นจากใบของว่านหางจระเข้ควรเลือกต้นที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป และให้เลือกใบล่างสุดเพราะจะอวบโตและมีวุ้นมากกว่าใบที่อยู่ด้านบน เมื่อตักเอาเนื้อวุ้นออกมาจากใบแล้วต้องล้างเอาน้ำยางออกให้หมด เนื่องจากมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ซึ่งหากไม่ล้างให้ดีหรือหลงเหลืออยู่อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ทั้งนี้เมื่อตัดใบว่านหางจระเข้ออกมาแล้วควรใช้โดยทันทีเพราะอาจเสื่อมประสิทธิภาพได้และถ้าเก็บไว้จะเก็บได้เพียงแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าว่านหางจระเข้จะมีประโยชน์มากมายแต่ยังมีการพบอาการแพ้จากการใช้ว่านหางจระเข้อยู่ ดังนั้นแล้วก่อนใช้ว่านหางจระเข้ควรตรวจสอบอาการแพ้ก่อน


สรุป


เป็นอย่างไรกันบ้างคะสมุนไพรมหัศจรรย์จากธรรมชาติอย่าง ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera ซึ่งบอกเลยว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณที่ไม่ธรรมดาเหมาะสำหรับฤดูกาลในตอนนี้เป็นอย่างมาก เพราะผิวที่ต้องเผชิญกับแดดในแต่ละวันที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ บางกิจกรรมนั้นยังต้องอยู่หรือโดนแดดโดยตรงเป็นเวลานานการที่มีสมุนไพรจากธรรมชาติที่สามารถช่วยลดอาการแสบร้อนของผิวได้นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับสายธรรมชาติ ใครที่ชอบ Aloe Vera ก็ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็น Aloe Vera มาใช้ดูได้ หรือใครที่อยากได้จากเนื้อว่านหางจระเข้สดๆ ก็อย่าลืมคำแนะนำในการนำมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ตามมานั่นเอง



บทความอื่นๆ ที่แนะนำ