ขนมไทยเสริมดวง เสริมราศี กินอะไรรุ่ง กินอะไรร่วง ?
Thai Sweet & Desserts
เผยแพร่: 28 มิ.ย. 2558 09:00 น.
Views: 15,624
รหัสบทความ: 1140
หากพูดถึงขนมไทย สาวๆ หลายคนคงจะต้องนึกถึงขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ แน่ๆ เพราะเชื่อว่าคงจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันดี กับขนมประเภทที่หากินได้ตามท้องตลาดดาษดื่นทั่วไป แต่จริงๆ แล้วขนมไทยของเรามีมากกว่านั้น แถมมีสีสันที่หลากหลายละลานตา แต่ก็น่าเสียดายที่ขนมบางอย่างก็หายสาบสูญไป หรือไม่ก็หาทานยาก เพราะด้วยสูตรลับการทำที่ไม่แพร่หลาย แถมทำก็ไม่ง่ายอีกต่างหาก จึงทำให้ขนมไทยหลายชนิดหายไปตามกาลเวลา แถมเด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ได้รู้จัก และไม่ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของขนมเหล่านั้น เลยอดลิ้มชิมรสความอร่อยไปอย่างน่าเสียดาย
แต่เอาเถอะค่ะ!! นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งฟูมฟาย หวนรำลึกถึงขนมที่สูญหายไปเสียหน่อย วันนี้ มาดามก็มีบทความทายใจดีๆ เก๋ๆ แปลกๆ มาฝากกันอีกแล้วค่ะ คราวนี้เป็นเรื่องของการรับประทานขนมไทยที่ช่วยเสริมราศีให้กับเรา อ่านะ!! ไม่เคยได้ยินล่ะสิ
เอายังงี้ค่ะ ถ้าใครอยากรู้ ตาม
มาดามมาดูกันที่บรรทัดต่อไปเลยค่ะ
//เดินนำ สไบพลิ้ว
ราศีเมษ
( ๑๓ เม.ย. - ๑๓ พ.ค. )
คนราศีนี้เป็นราศีธาตุไฟ มีนิสัยใจร้อน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องรีบเร่งอยู่ตลอดเวลา แถมวาจาก็จัดจ้านยิ่งกว่าพลังปากของอีแย้ม + อุไร แท็กทีมรวมกันเสียอีก ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเบรคด้วยขนมเย็นๆ อย่าง
เฉาก๊วย
และ
ผลไม้ลอยแก้ว
ทั้งหลาย จะช่วยให้คุณรู้สึกชุ่มฉ่ำ มีชีวิตชีวาแล้วคุณจะรู้ว่าการทำอะไรช้าๆ ไม่ต้องรีบเร่งก็ให้ผลดีเหมือนกัน
ราศีพฤษภ
( ๑๔ พ.ค. - ๑๓ มิ.ย. )
ผู้ที่เกิดในราศีนี้เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีย์ รักศิลปะ ช่างจินตนาการ และชอบสร้างแรงปรารถนาของตนให้เป็นจริงแต่บางครั้งความรู้สึกของคุณก็ช่างอ่อนไหว เหมือนกับน้ำที่เวลาเราเอาไม้ไปตี หรือโยนหินลงไปก็มักแตกกระจาย ดังนั้นควรเสริมความหนักแน่นของอารมณ์ด้วยขนมชั้นขนมเปียกปูนขนมหม้อแกงขนมถ้วยกาละแมจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่อ่อนไหวกับอะไรได้ง่าย
ราศีเมถุน
( ๑๔ มิ.ย. - ๑๔ ก.ค. )
ชาวราศีนี้จำเป็นอย่างมากที่ต้องการความรักมาหล่อเลี้ยงจิตใจ ชอบพบปะผู้คนที่หลากหลาย และไม่วายที่จะ Flirt ใครต่อใครไปทั่ว ดังนั้นขนมไทยที่จะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ให้แก่คนราศีนี้ ควรเป็นขนมที่หายาก หรือหารับประทานได้ไม่ง่ายนัก เพื่อเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจให้ใครๆ ต่างก็เข้าหา อย่างเช่นเสน่ห์จันทร์เกสรชมพู่เกสรลำเจียกบุหลันดั้นเมฆขนมลิ้นจี่และขนมหันตราเป็นต้น ( ไม่เคยได้ยินกันล่ะสิ!!! 555+ )
ราศีกรกฎ
( ๑๕ ก.ค. - ๑๖ ส.ค. )
คนราศีนี้ไม่ชอบออกไปไหน มักใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องหอเป็นเจ้าจอมหม่อมห้าม หลบหน้าหลบตาผู้คน มาดามเองก็มีเพื่อนเป็นคนราศีนี้เหมือนกันค่ะ กว่าจะขุดออกมาได้ คุณนายต้องปรุงโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้า เสียเวลาทำมาหากินกันพอดี ดังนั้น คนราศีนี้ควรเพิ่มรสชาติความหวานมันของชีวิตเข้าไป อย่างขนมสังขยาฟักทองและ
ข้าวเหนียวสังขยาแต่ถ้าใครยังไม่จุใจ อยากได้แบบน้ำกะทิซดด้วยก็ต้องทานกล้วยบวชชีหรือจะเป็นแกงบวดทั้งหลายก็ได้ ให้สะใจเป็นเบาหวานกันไปข้างนึงเลย!!
ราศีสิงห์
( ๑๗ ส.ค - ๑๖ ก.ย. )
ชาวสิงห์มักชอบความหรูหรา ความมั่นหน้า มั่นใจ ดังนั้นขนมไทยที่จะเหมาะกับชาวราศีผู้หยิ่งทระนงก็คงไม่พ้นขนมที่ชื่อเป็นสิริมงคลต่างๆ อย่างขนมทีมีคำว่า“ ทอง ”เช่นทองหยิบทองหยอดฝอยทองทองเอกทองม้วนทองพลุทองทัตทองอัฐทองนพคุณและทองชมพูนุทรวมถึงขนมจ่ามงกุฎมงกุฎเพชรหยกมณีและรัตนชาติทั้งหลายอย่างทับทิมกรอบและช่อมรกตอีกด้วย
ราศีกันย์
( ๑๗ ก.ย. - ๑๖ ต.ค. )
ความบริสุทธิ์ อ่อนหวาน อ่อนต่อโลก ( หรือเปล่า ?? ) เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของชาวราศีกันย์เป็นอย่างมากจะมีแค่บางคนที่ปล่อยตัว ปล่อยใจไปตามวัตถุ และแสงสีของทางโลก ดังนั้นสิ่งที่จะเรียกความน่ารัก น่าเอ็นดูกลับมา ก็คงต้องอาศัยขนมที่มีสีขาว สะอาด นวลตาจะช่วยเสริมความมีสง่าราศีให้แก่ชาวราศีนี้อย่างมาก โดยเฉพาะขนมหน้านวลขนมผิงวุ้นกะทิตะโก้กลีบลำดวนเป็นต้น
ราศีตุลย์
( ๑๗ ต.ค. - ๑๕ พ.ย. )
คนราศีนี้มักมองถึงความเจริญก้าวหน้า และการประสบความสำเร็จในชีวิตกว่าสิ่งอื่นใด ดังนั้น จึงทำให้พวกเขามีความเคร่
งเครียดในชีวิต
บ้าง ชีวิตที่มีแต่สีขาว ดำ เทา มันไม่โอเคหรอกนะคะคู้นนน มาแต่งแต้มเติมสีให้ชีวิตกันบ้างดีกว่า ดังนั้น ขนมที่จะช่วยเสริมความสดใส ร่าเริง และความมีชีวิตชีวาให้แก่ชาวราศีนี้ได้ก็คือ ขนมที่มีสีสันต่างๆ อย่างขนมน้ำดอกไม้อาลัวสัมปันนีขนมสาลี่ขนมถ้วยฟูขนมลืมกลืนขนมพระพายขนมหม้อตาลขนมเรไรขนมขี้หนูเป็นต้น
ราศีพิจิก
( ๑๖ พ.ย. - ๑๕ ธ.ค. )
คนเกิดราศีนี้ต้องมีความอดทนสูง ถึงจะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคได้สำเร็จ แต่ชาวแมงป่องทั้งหลายมักกินบุญเก่า คือไม่ค่อยตกระกำลำบากสักเท่าไร เพราะมีผู้ใหญ่ หรือคนอุปถัมภ์คอยช่วยเหลือ ดังนั้น ขนมที่จะเสริมความโชคดี ความสะดวกสบาย ไม่ต้องลงทุนลงแรงให้เหนื่อยกายเป็นกุลีสำหรับชาวราศีนี้ก็คือ ขนมประเภทน้ำกะทิ เพราะราศีนี้เป็นธาตุน้ำ ยิ่งอยู่กับน้ำ ก็จะยิ่งส่งเสริมกัน ซึ่งขนมที่ว่าก็จะมีขนมบัวลอยขนมโคกะทิลอดช่องซ่าหริ่มครองแครงและปลากริมไข่เต่า
ราศีธนู
( ๑๖ ธ.ค. - ๑๔ ม.ค. )
ชาวธนูเป็นคนใจบุญสุนทาน ใจอ่อน ขี้สงสาร แต่ก็มักทำคุณคนไม่ขึ้น ถึงช่วยเขาตัวเราก็เสีย เข้าตำราเอ็นดูเขาเอ็นเราขาดดังนั้นขนมที่จะช่วยเสริมราศีให้แก่ชาวธนูนี้ได้ก็คือ ขนมที่ใช้ในพิธีมงคล จะช่วยส่งเสริมความเจริญก้าวหน้า มีคนนับหน้าถือตา ให้ความเคารพยำเกรง ซึ่งขนมที่ว่านี้ก็มีตั้งแต่ขนมโพรงแสมขนมรังนกข้าวต้มลูกโยนขนมเทียนกล้วยตากกระยาสารท
ขนม
สามเกลอขนมกงขนมต้มขนมดอกจอกขนมเม็ดขนุนไปจนถึงขนมที่หาทานง่ายอย่างขนมลูกชุบเป็นต้น
ราศีมังกร
( ๑๕ ม.ค. - ๑๒ ก.พ. )
ชาวราศีนี้เป็นคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยยึดติดกับอะไร แต่พอบทจะจริงจังขึ้นมาก็เข้มงวดเสียจนกดกันตนเอง ดังนั้นควรเสริมในเรื่องของความพอดี การมีสติ และความมั่นคงในชีวิตด้วยขนมประเภทปิ้ง อบ และทอดอย่างขนมจากข้าวต้มมัดข้าวเหนียวปิ้งขนมบ้าบิ่นขนมครกขนมฝักบัว
ขน
มโสมนัสขนมไข่ปลาและขนมไข่หงส์ซึ่งขนมเหล่านี้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เพื่อเป็นการเติมธาตุไฟให้คนราศีนี้มีพลังที่มากขึ้น
ราศีกุมภ์
( ๑๓ ก.พ. - ๑๓ มี.ค. )
ชาวราศีนี้มีดาวราหูคุ้มครองดวงชะตา ในตำรากล่าวไว้ว่า มักเกี่ยวข้องกับการเดินทาง ติดต่อสื่อสาร หรือต้องเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ต่างศาสนาอยู่เสนอ ดังนั้น ขนมที่ช่วยเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชาวราศีนี้ จึงไม่เกี่ยวข้องกับขนมของไทยเสียส่วนใหญ่ ควรรับประทานขนมเค้กขนมรังผึ้งขนมเต่าขนมเข่งซาลาเปาขนมโก๋ขนมโมจิเป็นต้น
ราศีมีน
( ๑๔ มี.ค. - ๑๒ เม.ย. )
ชาวปลาอย่างราศีมีนเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามกระแส ใครว่าดีก็ทำ พอไม่อยากทำก็เลิก บางครั้งก็ดื้อด้าน ชอบเอาแต่ใจตน
เอง
ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะเจอเป้าหมายของชีวิต ดังนั้น ขนมที่จะช่วยเสริมสิริมงคลให้ตัวคุณควรเป็นขนมพื้นบ้าน หรือเป็นขนมประจำท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อที่จะทำให้คุณมีสติ ระลึกรู้ก่อนที่จะทำอะไร ซึ่งขนมประเภทนี้ก็ได้แก่ข้าวเม่าข้าวตังข้าวตอกขนมเล็บมือนางขนมจีโจ้ขนมปาดขนมอาละหว่าขนมไข่เป็นต้น
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับขนมไทยเสริมราศี เสริมความมงคลที่มาดามแนะนำ บางท่านอาจจะงุนงงกับชื่อขนมบางอย่าง เพร
าะ
ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตา แถมบางชนิดก็ไม่รู้จักชื่อด้วย จะยังไงก็ตามแต่ ชื่อขนมทั้งหมดที่มาดามได้แนะนำมานี้ หลายๆ ท่านก็ไม่ต้องถึงกับไปไขว่คว้าหามาทานหรอกนะคะ เอาตามความง่าย และความสะดวกจะดีกว่า สำหรับวันนี้มาดามก็ขอลาทุกๆ คนไปก่อน พบกันใหม่กับบทความหน้า สวัสดีค่ะ ^___^
Madame Lulu
บทความที่เกี่ยวข้อง