สัญญาณงานไม่ก้าวหน้า มาเช็กกันกับ 7 ข้อควรรู้ไหวตัวให้ทันก่อนจะเสียดายเวลา
สำหรับคนที่ใช้ชีวิตการทำงานมาหลายปี และสำหรับนักศึกษาที่พึ่งจบกันหมาดๆ รู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นยังไม่เพียงพอที่จะต่อยอดทั้งความคิดและความก้าวหน้า ต้องมาเช็ก สัญญาณงานไม่ก้าวหน้า กัน
เผยแพร่: 18 ธ.ค. 2566 11:00 น.
Views: 500
รหัสบทความ: 96969
“สัญญาณงานไม่ก้าวหน้า”การก้าวหน้าในชีวิตและการต่อยอดทางความคิดที่ไม่จำกัดนั้นเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ต้องการกันส่วนใหญ่ ยิ่งสำหรับในวัยเริ่มทำงานอย่างเด็กจบใหม่ หรือวัยทำงานที่เริ่มมีอายุการทำงานนานมากกว่าหรือเทียบเท่า 3-5 ปีนั้น ก็คงต้องการความมั่นคงและก้าวหน้ามากๆ เพราะในช่วงนี้นั้นคือช่วงที่เราต้องการเก็บเกี่ยวและระเบิดไอเดียออกมาเพื่อให้นำไปพัฒนา แต่เพราะบางครั้งสิ่งที่คิดกับความเป็นจริงก็สวนทางกัน เพราะปัจจัยหรือแผนองค์กรนั้นไม่สามารถซัพพอร์ตในส่วนนี้ของเราได้ จึงทำให้บางครั้งตัวเราเหมือนโดนจำกัดและรู้สึกหมดไฟไปเรื่อยๆ เพื่อให้เรารู้ทันตัวเองและไฟยังไม่ดับดังนั้นจึงมาเช็กกับ 7 สัญญาณงานที่ทำอยู่ไม่ก้าวหน้ากันเลย
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
เช็กลิสต์ 7 สัญญาณงานไม่ก้าวหน้า รู้ก่อนหาทางก่อน
สัญญาณงานไม่ก้าวหน้า ที่ 1 เบื่อและไม่อยากทำงาน
สัญญาณแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือต้องฝืนไปทำงานและยังคงต้องทำไปตามหน้าที่ ซึ่งจิตใจก็ไม่รู้สึกถึงความกระตือรือร้นในการทำงาน บางครั้งงานที่ได้รับมอบหมายมาถูกปล่อยค้างเอาไว้ซึ่งนอกจากจะกระทบต่องานของตัวเองแล้ว สิ่งเหล่านี้ยังทำให้เราเริ่มมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานเนื่องจากงานของเราช้าเกินไปด้วย ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ไม่เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งนั่นอาจจะหมายความว่างานนี้ยังไม่ใช่หากเปรียบเทียบเป็นความรู้สึกในระยะยาว เช่น ปกติเราเป็นคนไม่ชอบตื่นเช้าไปทำงานอยู่แล้ว แต่อยู่ดีๆ เราก็อยากจะนอนอยู่กับที่เพิ่มมากขึ้น 1-2 ชั่วโมง โดยไม่มีสาเหตุ แถมเป็นแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว บางครั้งเราก็ต้องอาจจะเบื่องานแล้วจริงๆ
สัญญาณเตือนงานที่ทำไม่ก้าวหน้า ที่ 2 รู้สึกว่าอยู่ไปก็ไม่โต
หากเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานเลย ก็เป็นเรื่องไม่แปลกที่เราก็อยากจะมองหางานใหม่ๆ เพราะโอกาสในการก้าวหน้าคือเป้าหมายสำคัญในการทำงานของมนุษย์เงินเดือน ซึ่งโอกาสในการก้าวหน้าที่หมายถึงอาจจะไม่ใช่แค่การเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นเพียงเท่านั้น แต่อาจจะหมายถึงการได้รับโอกาสใหม่ๆ เข้ามา หรือการเปิดโลกของความคิดไอเดียที่แตกฉานและไม่จำกัด อย่างเช่น การได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจ็คใหม่ ได้ทำสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อนหรือได้เรียนรู้งานจากระดับหัวหน้า เป็นต้นหากใครที่รู้สึกต้องการออกจากงานด้วยเหตุผลเหล่านี้ เบื้องต้นนั้นให้เราลองเข้าไปคุยกับหัวหน้างานหรือสอบถามก่อนจะดีที่สุด ว่าเรามีความบกพร่องจุดไหน หรือมีทักษะอะไรที่ควรพัฒนาเพื่อดึงศักยภาพของเราออกมาใช้ได้มากกว่านี้บ้าง? แต่ถ้าพูดคุยกันแล้วยังรู้สึกว่าไม่มีโอกาสก้าวหน้า ก็อย่าได้รอช้าที่จะลาออกมาหาที่ที่ให้โอกาสเราก้าวหน้ามากกว่านี้
งานไม่ก้าวหน้า สัญญาณที่ 3 รู้สึกเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้
วัฒนธรรมขององค์กรนั้นๆ ของแต่ละที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งการทำงานก็ทำไม่เหมือนกัน แต่เมื่อองค์กรที่เรากำลังทำงานอยู่และหากเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าไม่อยากไปทำงานเพราะเข้ากับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานไม่ได้ ไม่เพียงแค่จะเป็นรูปแบบการทำงานหรือความสัมพันธ์สนิทสนมแบบส่วนตัวเหล่านั้นที่เกิดขึ้น จนทำให้เวลาที่เราไปทำงานจะมีความรู้สึกโดดเดี่ยว เกิดความเครียด หรือร้องไห้บ่อยๆ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่างานที่อยู่ไม่ใช่งานของเราหรือที่ที่เราอยากอยู่ด้วยเหมือนกัน
วิธีเช็กงานที่ทำอยู่ไม่ก้าวหน้า ที่ 4 คิดถึงอนาคตตอนเกษียณ
ถ้าบางครั้งมีจินตนาการของตัวเองตอนที่เกษียณหรือหยุดทำงานและพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จนทำให้เกิดการนับถอยหลังขึ้นตั้งแต่เริ่มการนับแบบปี นับเดือน และนับวันที่จะได้เกษียณออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้ เนื่องจากเพราะว่าในแต่ละวันนั้นเราไม่มีแรงจูงใจที่อยากจะไปทำงานถึงที่ทำงานและไม่ได้มีความรู้สึกอยากสร้างแพชชั่นใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานหรือสิ่งที่มีคุณค่าออกมา จนทำให้ชีวิตในตอนนี้นั้นทำงานหมดไปกับงานที่ทำแบบไม่เต็ม 100% เท่านั้น ซึ่งมันก็อาจจะเป็นสัญญาณที่เราต้องเริ่มมองหางานใหม่ๆ ได้แล้วเพราะการนิ่งหรือรู้โดยให้เวลาผ่านไปแบบนี้มันก็ไม่สามารถช่วยให้ความฝันของเรานั้นเป็นจริงได้
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อเบื่องาน ที่ 5 เกิดอาการ Sunday Blues
Sunday Blues หรือการที่มีอารมณ์หดหู่ที่เกิดขึ้นเฉพาะในวันอาทิตย์ เพราะในวันอาทิตย์คือสุดสัปดาห์และเป็นวันที่บ่งบอกว่าพรุ่งนี้ถึงเวลาสัปดาห์ใหม่และเป็นวันที่เริ่มต้นของสัปดาห์ที่ทำงาน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลหรือเบื่อหน่ายในงานที่ทำอยู่และทำให้รู้สึกว่าไม่อยากตื่นมาทำงานในวันจันทร์เลย บอกเลยว่าอาการนี้เบื้องต้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการพาตัวเองออกไปพักผ่อนในวันหยุด หรือจะเป็นการลองทบทวนหาสาเหตุที่แท้จริงของตัวเอง แต่ถ้าพบว่างานนี้ไม่ใช่สำหรับเราจริงๆ ก็ต้องลองมองหางานใหม่ที่เหมาะสมเพื่อเป็นแนวทางที่ดีอีกทางหนึ่งในตัวเลือก
สัญญาณงานที่ทำอยู่ไม่ใช่ที่ 6 ระบบชีวิตพัง
อย่างที่ทุกคนรู้ว่าการทำงานนั้นๆ ควรจะมี Work Life Balance ในชีวิต เพื่อที่จะได้แบ่งทั้งวันทำงานและวันพักผ่อนของเราให้ไม่กระทบกัน เพื่อที่จะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีความสุขแต่ถ้าการทำงานนั้นส่งผลให้เราจากเป็นคนหลับง่าย กลายเป็นคนนอนไม่หลับและชอบตื่นมากลางดึกบ่อยๆ เพราะต้องเก็บเอาความเครียดจากเรื่องงานไปนอนฝัน ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของระบบชีวิตที่กำลังผันแปร ร้ายแรงกว่านั้นบางคนที่เขามีสุขภาพแข็งแรงกลับกลายมีอาการป่วยบ่อยมากขึ้น ซึ่งการป่วยทั้งด้านร่างกายนั้นก็ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีได้อย่างหนึ่ง เพราะอาจจะเชื่อมไปถึงสุขภาพจิตของเราก็ได้ ว่าอาจจะกำลังแย่ไปด้วยหากรู้สึกว่างานรบกวนความคิดจนทำให้เราต้องออกไปสังสรรค์จนกลายเป็นดื่มเพื่อลืมงาน ก็เป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ว่างานนั้นนอกจากไม่เหมาะสมกับเราก็คือไม่ก้าวหน้าสุดๆ
สัญญาณงานไม่พัฒนา ที่ 7 งานเพิ่มขึ้นแต่เงินเท่าเดิม
ซึ่งสัญญาณของข้อนี้นั้นอาจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของบริษัทที่กำลังเผชิญอยู่ เพราะบางทีอาจจะมีความจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานในบริษัทช่วงวิกฤติลง แต่หากอยู่ในสถานการณ์ปกติอาจเป็นไปได้ว่ากำลังที่จะโดนเอาเปรียบอยู่ ซึ่งทางออกสำหรับปัญหานี้ควรลองปรึกษากับหัวหน้างาน แต่ถ้ามีการพูดคุยกันแล้วและยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเท่าไร ก็คงจะปังกว่านี้ถ้าเริ่มมองหาบริษัทใหม่ที่ได้เงินที่คุ้มค่าและตอบแทนอย่างเหมาะสม
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ว่าด้วยเรื่องของ การลาออก
การลาออกอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาเดียวเสมอไป ถ้าเรายังหาสาเหตุไม่ได้ว่า ‘เพราะอะไร?’ เราถึงไม่มีความสุขกับการทำงาน ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจำเป็นต้องใช้เวลาในการคิดให้ถี่ถ้วน ว่าเหตุผลที่แท้จริงแล้วนั้นปัญหาเกิดมาจากอะไร แต่ถ้าคิดไตร่ตรองดีแล้วการลาออกก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลยนะคะทุกคน เพราะการใช้เวลาไตร่ตรองที่นานมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เราเสียโอกาสและอาจจะทำให้เรานั้นเสียเวลาในการใช้ชีวิตในที่การทำงานอย่างไร้ความหมายได้ด้วยเหมือนกัน
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สัญญาอาจจะเกิดขึ้นกับเราโดยไม่รู้ตัวถ้าเราไม่ลองสังเกตดีๆ แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ แล้วพบว่าเรานั้นได้รับสัญญาณแบบนี้มานานแล้วเพียงแต่ยังตัดสินใจหรือไตร่ตรองถึงเหตุผลที่แท้จริงยังไม่ได้เพียงเท่านั้น ซึ่งสัญญาณงานไม่ก้าวหน้าทั้ง 7 ข้อนั้น เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่จะทำให้เรานั้นลองสังเกตและหาเหตุผลว่าที่เราทำอยู่นั้นสามารถทำให้เราเจริญก้าวหน้าไปมากกว่านี้หรือไม่ เพราะถ้าหากเรายังย่ำอยู่ที่เดิมนั้นอนาคตของเราอาจจะไม่เป็นไปตามที่หวังก็เป็นได้ เพราะหากเมื่อเทียบอายุของเราและอายุงานนั้นก็พร้อมที่จะไปปังกว่าเดิมมากขึ้น กับบริษัทที่สามารถทำให้เราเติบโตหรือพร้อมที่จะเสนอแนวคิดและไอเดียต่างๆ ออกไปนั่นเอง
