ฮัลโหลลลล~ สวัสดีค่าชาวมือใหม่หัดแต่งหน้าและคนรักการแต่งหน้าทั้งหลายบทความนี้บอกเลยว่าจัดเต็มมาให้มือใหม่มาก ๆ นะคะ เนื่องจากว่าช่วงนี้มหาวิทยาลัยเริ่มทยอยเปิดเทอมกันแล้ว ชาวซิสหลายคนก็อยากจะแต่งหน้าไปเรียนกันอะเนอะแต่ความมือใหม่ยังไม่ค่อยรู้ว่าต้องเลือกยังไง ควรทำอะไรบ้าง เราก็เลยขอรวบรวมมาฝากกันกับข้อควรรู้เลือกเครื่องสำอางเน้นหลักๆ ที่ต้องรู้ ซึ่งแต่ละข้อเอาไปปรับใช้ได้จริงนะคะ ตัวเราก็ผิดพลาดในการซื้อและการใช้มาเยอะเหมือนกัน ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดพลาดกันเนอะ เอาล่ะ! ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละข้อมีอะไรบ้าง ไปเล้ยยยย~
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
7 ข้อควรรู้เลือกเครื่องสำอาง ยังไงให้มีคุณภาพและดีต่อผิวหน้า
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอาง ที่ 1. เครื่องสำอางมีวันหมดอายุ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนเป็นนะคะ เวลาเราซื้อเครื่องสำอางเนี่ยเราจะดูสี ดูเนื้อสัมผัสต่าง ๆ แต่เรามักจะลืมดู"วันหมดอายุ"ซึ่งวันหมดอายุของเครื่องสำอางจะดูแต่ EXP. ไม่ได้ด้วยนะคะเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องดูเลยก็คือ "รูปกระปุกครีม"ค่ะ พยายามหาให้เจอน้า~ ถ้าเจอแล้วก็ดูเลยค่ะว่ามีตัวเลขเขียนไว้เป็น 3M 6M 12M 18M หรือ 24M ตัวเลขพวกนี้จะบอกได้ว่าหลังจากเราเปิดใช้งานแล้ว เครื่องสำอางตัวนี้จะอยู่กับเราไปได้อีกกี่เดือนหรือกี่ปีนะคะ อย่างในภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าเป็น 24M หรือ 2 ปีนั่นเอง ก็หมายความว่าแป้งตัวนี้สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปีหลังเปิดใช้งานเลยนะคะ รู้แบบนี้แล้วเครื่องสำอางชิ้นไหนที่ดูท่าว่าซื้อมานานมากแล้วก็อย่าลืมโละทิ้งน้า ผิวของเราจะได้ปลอดภัยมากขึ้น ไม่มีสิวให้กวนใจด้วยนะเออ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 2. ล้างอุปกรณ์แต่งหน้าเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
แน่นอนว่าถ้าเรามีเครื่องสำอางติดโต๊ะเครื่องแป้ง เราก็จะต้องมีพวกแปรงแต่งหน้า พัฟ ฟองน้ำต่าง ๆ กันบ้างเนอะ ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะหลงลืมการทำความสะอาดมันไปค่ะ คือแปรงแต่งหน้าหลายคนอาจจะยังล้างบ้างเพราะว่ามันจะเลอะพวกสีบลัชออน สีอายแชโดว์ สีลิปสติกต่าง ๆ ที่ติดอยู่ แต่พวกพัฟหรือฟองน้ำแต่งหน้านี่สิคะ ส่วนใหญ่มันจะใช้กับโทนสีเดิม ๆ หลายคนก็เลยดองไว้ไม่ยอมซักให้สะอาด ทีนี้แหละค่ะเวลาใช้ซ้ำบ่อย ๆ มันก็จะก่อให้เกิดการระคายเคือง มีอาการคันบ้างหรือมีสิวขึ้นบ้าง ดังนั้นทางที่ดีที่สุดพยายามทำความสะอาดบ่อย ๆ ค่ะ อย่างฟองน้ำ พัฟนี่ล้างทุกวันจะดีมากแต่ถ้าไม่ว่างจริง ๆ ก็ 2 วันครั้งก็ได้นะคะ ส่วนแปรงแต่งหน้าถ้าไม่ได้จะใช้โทนสีใหม่หรือกลัวสีผสมก็ล้างสัปดาห์ละครั้งก็ได้เหมือนกันค่ะ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 3. อย่าเลือกสีเครื่องสำอางจากการมองในตลับ หรือสวอชในภาพ
มั่นใจว่ามือใหม่หัดซื้อเครื่องสำอางจะค่อนข้างจะเลือกสียากมาก เพราะโดนสีในตลับหรือสีที่เห็นโดยไม่สวอชหลอก คิดว่าสีแบบนี้เข้ากับเราแน่ ๆ สีสวยมาก ๆ สุดท้ายพอใช้จริงก็ออกมาอิหยังวะสุด ๆ เสียดายเงินหนักมาก ดังนั้นอย่าเลือกสีเครื่องสำอางจากการมองสีบนตลับเลยนะคะรวมไปถึงสีสวอชในภาพของแบรนด์ด้วยเนื่องจากว่าสีในภาพมันทั้งโดนจัดแสงตอนถ่าย โดนปรับโทนสีตอนแต่งภาพด้วยทำให้โทนสีที่เราเห็นในภาพอาจจะไม่ตรงกับของจริงวิธีการแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุดคือการสวอชหรือปาดลงบนแขนเราเลยค่ะแต่ถ้าพวกคอนซีลเลอร์ รองพื้น แป้งผสมรองพื้น แป้งมีสีต่าง ๆ ให้ปาดตรงสันกรามแทนนะคะจะได้เลือกง่ายขึ้น ทำตามนี้รับรองค่ะว่าได้เครื่องสำอางถูกใจแน่นอน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 4. สีเครื่องสำอางลงบนผิวจะให้สีไม่เหมือนกัน
เชื่อว่าข้อนี้โดนกันมาทุกคนแน่ ๆ นะคะนั่นก็คือการดูรีวิวเครื่องสำอางต่าง ๆ พอเห็นเขาทา เขาปัด เขาใช้แล้วสีสวยมาก ออกมาแบบถูกใจสุด ๆ แต่
พอเราซื้อมาใช้เอ้า... ทำไมสีไม่เหมือนกันเลยล่ะ
คืออย่างนี้ค่ะ!คนเรามีสีผิวที่แตกต่างกันบางคนขาวมากสวอชสีอะไรหรือทาสีไหนลงไปบนผิวก็เป็นตามที่เห็นในตลับเป๊ะ แต่บางคนอาจจะมีสีผิวที่คล้ำหรือติดเหลือง เวลาปาดสวอชหรือทาลงไปมันก็อาจจะได้อีกโทนสีนึงไปเลยนะคะ เช่น คนผิวขาวอมชมพูปัดแก้มโทนพีชแล้วออกมาเป็นโทนชมพู ๆ ติดส้มเบา ๆ แต่พอคนผิวโทนเหลืองบางคนปัดปุ๊บอ้าว... ทำไมมันเป็นส้มอมชมพูซะงั้น พวกนี้แก้ง่าย ๆ ด้วยการดูรีวิวจากคนที่สีผิวใกล้เคียงกับเราค่ะ ถ้าเขาสีใกล้เคียงกับเราโอกาสคลาดเคลื่อนมันก็จะน้อยลงไปด้วยนั่นเอง แต่เอาจริง ๆ ดีที่สุดคือลองปาดสวอชลงผิวตัวเองนะคะ จะได้รู้ไปเลยว่ามันจะออกมาเป็นยังไงเนอะ~
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 5. ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางตามอันเดอร์โทน
หลายคนยึดติดกับอันเดอร์โทนหนักมากนะคะว่าผิวโทนเหลืองต้องใช้เครื่องสำอางโทนอุ่น ๆ แบบน้ำตาลหรือส้ม ส่วนผิวโทนชมพูต้องใช้สีชมพู/สีม่วง แต่ความจริงไม่เกี่ยวเลยนะคะเราสามารถใช้เครื่องสำอางแบบไม่ต้องยึดอันเดอร์โทนเลยก็ได้อย่างผิวโทนเหลืองอยากจะปัดแก้มสีชมพูก็ทำได้นะคะ เพียงแต่ขอแนะนำนิดนึงว่าถ้าผิวเหลืองอยากได้งานแก้มชมพูให้ปัดบลัชออนสีม่วงแทนนะคะมันจะได้หักลบความเหลืองออกแล้วก็จะได้งานแก้มสีชมพูทำให้หน้าดูเด็กลงด้วย แต่เพื่อความชัวร์ลองปาด ๆ ปัด ๆ บนแขนก่อนก็ดีนะคะ ทั้งบลัชออนและอายแชโดว์เลย ส่วนเหตุผลก็ตามที่บอกในข้อที่ 3 - 4 เลยนะคะ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 6. เครื่องสำอางบางตัวปรับใช้ได้หลากหลาย
อย่ายึดติดว่าเครื่องสำอางต้องทำหน้าที่ตามชื่อของมันนะคะ อย่างเช่นลิปสติก เรารู้กันอยู่แล้วเนอะว่าใช้สำหรับทาปากให้มีสีสันสวยงาม แต่ลิปสติกเนี่ยมันสามารถเอามาแต้มบนแก้มหลังจากนั้นก็เกลี่ยให้ดี ก็จะกลายเป็นบลัชออนได้ หรือแม้กระทั่งเอามาทาบนเปลือกตาแทนอายแชโดว์ก็ยังทำได้นะคะ บางคนแอดวานซ์กว่านั้นด้วยการเอาลิปสติกสีแดงมาเกลี่ยที่ใต้ตาเพื่อกลบรอยคล้ำ เห็นไหมคะว่าเครื่องสำอางที่เราจำได้ว่ามันต้องใช้แบบนี้ ๆมันสามารถใช้ได้ในหลากหลายแบบมากเลยดังนั้นอย่ายึดติดหรือคิดว่ามันเป็นการใช้ที่ผิดนะค้า ♥
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ 7. โฟมล้างหน้าทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ไม่หมด
มีหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้นะคะว่าเครื่องสำอางที่เราแต่งลงบนหน้าไม่สามารถใช้โฟมล้างหน้า คลีนเซอร์หรือสบู่ล้างออกได้หมดจดเนื่องจากว่าเครื่องสำอางแต่ละตัวจะมีสูตรเฉพาะ โยเฉพาะสูตรกันน้ำนะคะ ขนาดคลีนซิ่ง ( เคล็นซิ่ง ) ที่ใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนหน้าบางตัวยังแทบจะล้างไม่ออกหรือบางตัวอาจจะล้างไม่สะอาดพอด้วย ดังนั้นเราอย่าคิดว่าใช้แค่โฟมล้างหน้า คลีนเซอร์หรือสบู่ล้างหน้าจะออกได้หมดนะคะ ต้องใช้คลีนซิ่ง ( Cleansing ) หรือรีมูฟเวอร์ ( Remover ) ล้างออกให้สะอาดก่อนแล้วค่อยใช้โฟมล้างหน้าอีกที แค่นี้ผิวหน้าของเราก็จะได้สะอาดไม่มีเครื่องสำอางอุดตันจนทำให้เป็นสิวแล้วละค่า ♥
บทความแนะนำ ที่ชาวซิสต้องไม่พลาด
เครื่องสำอาง cool tone ปี 2023 พร้อมแต่งหน้าโทนเย็นรับวันฝนพรำ
https://sistacafe.com/summaries/94989
เครื่องสำอาง สุดฮอต ปี 2023 รวมบิวตี้ไอเทมใช้ดีรีวิวปังมาแรงแซงทุกโค้ง
https://sistacafe.com/summaries/95106
จดลิสต์ด่วน ! มัดรวม 6 ไอเทมทำความสะอาดผิว กันฝุ่นกันมลภาวะ PM 2.5
https://sistacafe.com/summaries/93140
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เป็นยังไงบ้างคะกับ 7 ทริคที่เรานำมาฝากทุกคนในhttps://sistacafe.com/summariesนี้ บางเรื่องอาจจะเบสิคสำหรับบางคนมาก ๆ แต่ถ้าสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการแต่งหน้าอาจจะเพิ่งรู้ใช่ม้า? ก็ลองเอาทริคพวกนี้ไปปรับใช้กันได้นะคะ เราจะได้มีเครื่องสำอางที่เหมาะกับเราที่สุด ใช้คุ้มที่สุดแล้วก็สะอาดปลอดภัยกับผิวหน้าที่สุดด้วย ส่วนใครแต่งหน้ามานานแต่เพิ่งรู้ก็ไม่ต้องรู้สึกเสียใจไปน้า ไม่รู้ไม่ผิดแต่ถ้ารู้แล้วก็อย่าลืมไปปรับปรุงการใช้ของเราด้วยล่ะแล้วถ้าใครมีเครื่องสำอางที่จะโละทิ้งก็สามารถเอาไปบริจาคหน่วยงานต่าง ๆ ได้นะคะบางที่เขารับเอาไปใช้งานต่อ สามารถเซิร์ชหาได้เลยเน้อหรือจะไปที่วัดเพื่อบริจาคไว้แต่งหน้าศพก็ได้นะคะ เอาล่ะ~ จัดเต็มความรู้กันไปแล้ว ทางเราก็ขอตัวลาทุกคนไปก่อนดีกว่า แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้าที่https://sistacafe.com/นะค้า บ๊ายบาย