ทาดาาาา เชื่อกันมั้ยคะสาว ๆ ที่เราบอกว่า
เราจะมาเปลี่ยนกลิ่นเหงื่อเหม็น ๆ ให้กลายเป็นกลิ่นกายหอม ๆ แบบโนแคร์เครื่องประทินผิวใด ๆ
#นี่มันChallengeมากเลยนะฮับ
สาว ๆ หลายคนคงมึนงงไปแล้ว ไม่ได้งงหัวข้อนะ แต่มึนหัวเพราะกลิ่นเหงื่อนี่แหละ ให้สาธยายมะ ก็กลิ่นแบบในรถเมล์ รถไฟฟ้าอ่ะ เอาแบบช่วงเย็นกลับบ้านแบบนั้นเลยนะ คนแน่น ๆ เบียด ๆ อ่ะ มายังคะ กลิ่นเริ่มโชยมาหรือยัง อิอิ
พอละ ไม่แกล้งสาว ๆ แล้วดีกว่า เรากลับมาเข้าเรื่องที่ว่าไว้ดีกว่าค่ะ เราก็รู้ว่าเธอก็อยากรู้ใช่มั้ยล่ะ ว่า
มันเป็นเรื่องจริงหรอ? ที่จะเปลี่ยนเหงื่อเหม็น ๆ ให้หอมหวนชวนอยู่ใกล้ได้!!

เหงื่อเหม็นจริงหรือเป็นแค่ตัวสำรอง?
เรื่องนี้ต้องขยายค่ะสาว ๆ เพราะเชื่อว่ายังมีสาว ๆ หลายคนชอบโบ้ยความผิดให้คุณ ' เหงื่อ ' คืออยากจะบอกสาว ๆ นะคะว่า คุณเหงื่อถูกใส่ความค่ะ เพราะเรื่องจริงมีเพียงหนึ่งเดียวที่ว่า ....
' เหงื่อเป็นของเหลวส่วนเกินในร่างกายที่ถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อ เพื่อระบายความร้อน และควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
' เหงื่อไม่มีกลิ่น '
นะจ๊ะ
'
แต่ที่เราได้กลิ่นหึ่ง ๆ กันอยู่เนี่ย มันเกิดมาจาก ....
เหงื่อได้มีการทำปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรีย
จึงเกิดกลิ่นที่เราเรียกกันว่า
กลิ่นกาย
ยังไงล่ะคร้าบบผมม
ดังนั้นสรุปง่าย ๆ ว่า ถ้าเราดูแลรักษาอนามัยของเราอย่างถูกวิธี กลิ่นตัวก็จะหายไป แต่ความมั่นใจจะกลับมานะจ๊าา
รู้ทัน! เหงื่อเกิดตรงไหนบ้าง?
1.ต่อมเหงื่อที่ขับออกตามลำตัวและศีรษะ
มักไม่ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นตัวเนื่องจากต่อมเหงื่อเปิดระบายเหงื่อได้สะดวก
2.ต่อมเหงื่อที่ขับเหงื่อออกตามรักแร้ ข้อพับ และขาหนีบ
ลักษณะเป็นน้ำข้นเหนียว อาจใสหรือขุ่น เป็นน้ำนมตามสีผิว เพศ และการรับประทานอาหารซึ่งจะมีกลิ่นเมื่อติดเชื้อแบคทีเรียน้ำมันจากต่อมไขมันที่มีสารชนิดเดียวกันผสมอยู่


รู้เหตุผลละ ทำไมถึงเกิดกลิ่นตัว!
1.เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง
โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ และตามข้อพับต่างๆแบคทีเรียสลายไขมันโดยทำปฏิกิริยากับกลีเซอไรด์ จากต่อมไขมัน ซึ่งต่อมเหงื่อที่ข้อพับและขาหนีบ จะกลายเป็นสารมีกลิ่น และสามารถเพิ่มอัตราการเกิดกลิ่นกายในเพศชายและเพศหญิงไม่เท่ากัน
2.การดูแลรักษาความสะอาดร่างกายที่ไม่เพียงพอ
มีผลในการเพิ่มปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง
3.อาหารหรือพืชผักสมุนไพร
การรับประทานอาหารเป็นส่วนสำคัญในให้ร่างกายทำปฎิกิริยานะคะ เช่นเนื้อแดง กระเทียม และเครื่องเทศต่างๆ
4.เพศพันธุกรรมเชื้อชาติและวัฒนธรรม( เช่นกลุ่มอินเดีย อาหรับ นิโกร )
ซึ่งอาจมีผลต่อลักษณะการดำเนินชีวิต กิจกรรมประจำวัน การรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศรวมถึงชนิดของเชื้อแบคทีเรียในท้องถิ่น

อยากตัวหอม ต้องรู้วิธีเหล่านี้!
1. สวมเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ
เพราะสามารถ
ระบายอากาศและดูดซับเหงื่อได้ดี
กว่า ลดการอับชื้นอันเป็นสาเหตุของการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว

2. รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ
อาจ
ใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารที่ชื่อว่าไตรโคลซาน( Triclosan ) หรือไตรโคลคาร์แบน ( Triclocarban )
ซึ่งช่วยลดกลิ่นตัวหรือใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคเพื่อลดปริมาณแบคทีเรียบนผิวหนัง

3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร เช่น เนื้อแดง กระเทียม
ในกรณีที่มีสาเหตุมาจากอาหาร

4. เข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษา เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะคะ ถ้ารักษาได้ ก็ควรต้องรีบรักษา

เย่ ๆ ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วค่ะสาว ๆ เราอยากให้เธอตระหนักในเรื่องนี้น้า เพราะเรื่องกลิ่นกายไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ นะคะ นอกจะทำให้สาว ๆ ไม่สบายตัวแล้ว ยังทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นะจ๊ะ จะเอาแบบนั้นจริง ๆ อ่อ ไม่เอาน่าา
แค่เธอรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
การดูแลรักษาความสะอาด อาหารการกิน รวมถึงเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ด้วยนะคะแค่นี้เรื่องน้ำหอมก็ไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไปแล้วจ่ะมาทำตัวให้หอม ด้วยการรักษาความสะอาดแล้วสาว ๆ จะมาแต่หนุ่ม ๆ อยากเข้ามาใกล้ ๆ มอบดวงใจให้เธอคนเดียววว
ข้อมูลเพิ่มเติม : skin expert
https://www.facebook.com/thada.skinexpert
บทความที่เกี่ยวข้อง

สปาเท้า DIY ทำให้ตัวเองก็ได้ ทำให้คนที่คุณรักก็ดี๊ดี ทำเถ๊อะ
https://sistacafe.com/summaries/12109

หมดปัญหา 'ก้นดำ ก้นลาย ก้นสิว' กับวิธีง่ายๆ ที่ทำให้ก้นขาวใส
https://sistacafe.com/summaries/12486

5 วิธีขจัดสิวที่หลังง่ายๆ ให้เกลี้ยง โชว์ได้ไม่อายใคร
https://sistacafe.com/summaries/12449