ทุกคนย่อมมีอดีต!
ไม่มีใครมีชีวิตที่เรียบง่าย วิ่งเล่นในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ตั้งแต่เด็กจนโต... ไม่ว่าใครก็ต้องมีช่วงหนึ่งของชีวิต ( หรืออาจจะล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ) ที่ไม่อยากถูกขุดคุ้ยให้ได้รับรู้และพูดถึง ประมาณว่า'เก็บใส่ไหแล้วฝังใต้ดินยาวๆ ลืมไปซะได้ก็ดี!'
เก็บความลับมาได้ตลอดมา จนเริ่มมีแฟน!
อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ด้วยวิสัยคนเป็นแฟนกันก็อยากรับรู้ความเป็นไปทุกอย่าง วันนี้กินข้าวหรือยัง เหนื่อยหรือเปล่า เข้านอนกี่โมง ความอยากรู้เริ่มเพิ่มเลเวลมากขึ้น ในที่สุดคำถามอันตรายก็มาถึง'เมื่อก่อนเธอเป็นยังไงเหรอ'
ฮือออออ ไม่อยากบอก จะทำยังไงดี
รู้อยู่หรอกว่าคนเป็นแฟนกันก็ต้อง
' ไว้ใจ '
กัน เล่านิดเล่าหน่อยจะเป็นไรไป
แต่ความเป็นจริงคือ....ความลับบางอย่าง ไม่ต้องบอกจะดีในระยะยาวมากกว่าค่ะ
"รักกันต้องรับกันได้ทุกอย่าง"ไม่จริงเสมอไป ถ้าได้ยินความลับบางอย่างของแฟนที่เธอรับไม่ได้ ความรักต้องมีสั่นคลอนกันบ้างแหละ หลายคนต้องการ'เวลา'เพื่อทำใจและปรับตัวในความสัมพันธ์ ถ้ารอเวลาค่อยบอกอาจแค่งอน แต่ถ้าบอกตอนนี้อาจเลิกเลย เพราะเขายังไม่พร้อมฟังนั่นเอง!
เธอไม่สามารถบังคับความรู้สึกของเขาได้ แต่เธอสร้างความเชื่อใจ และความอบอุ่นใจให้เขาได้ ซึ่งนั่นต้องอาศัยเวลาค่ะ ถ้าเธอมีอดีตที่เลวร้ายจริงๆ อย่าเพิ่งบอก 10 ประเด็นในบทความนี้เด็ดขาด แฟนหนีไม่รู้ด้วยนะ
ถ้าพร้อมแล้วก็...ไปอ่านกันเลย
1. ประวัติเข้ารับการรักษา 'โรคทางจิตเภท'
"เธอนี่บ้าจัง" เพื่อนในแก๊งและคนรอบข้างวิจารณ์ท่าทางตลกๆ ของเธอแบบไม่คิดอะไร เธอมองตาพวกเขา จิบกาแฟเงียบๆ และคิดในใจว่า "เออ ฉันเคยพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลมาก่อน ฉันก็คงบ้าจริงๆ นั่นแหละ!"
สาวๆ หลายคนมีปัญหาในชีวิต ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องงาน หรือเรื่องความรัก เกิดเป็นโรคซึมเศร้า, ไบโพลาร์ ( อารมณ์สองขั้ว ) หรือมีอาการโมโห หงุดหงิดขั้นรุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ จิตแพทย์จึงเป็นทางออกสุดท้าย บางรายแค่ไปรับคำปรึกษา แต่บางรายก็ต้องรักษากันเป็นปีๆ ทั้งบำบัดด้วยคำพูดและยา
ถ้าเธอยังไม่แน่ใจในตัวแฟนมากพอ ทำเฉยไว้ก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งโพล่งว่า 'ฉันเคยบ้าจนต้องไปพบหมอด้วยล่ะ' ตั้งแต่เดทแรก เชื่อเถอะว่าหนุ่มๆ ส่วนใหญ่รับไม่ได้หรอกค่ะ
2. พฤติกรรมแย่ๆ / น่ารังเกียจที่เลิกไม่ได้
ในที่นี้หมายถึงพฤติกรรมแย่ๆ หากทำในที่สาธารณะ / สังคมส่วนรวม ที่เธอยังทำอยู่เป็นปกติและยังเลิกไม่ได้ ที่เห็นเงียบๆ เรียบร้อยคือแอ๊บไว้ นี่ไม่ใช่ตัวตนเอาซะเลย!
ตัวอย่างเช่น แคะจมูก, เกาสิวแกรกๆ, ดื่มน้ำจากปากขวดเพราะขี้เกียจรินใส่แก้ว, ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาดๆ เดินไปซื้อของหน้าปากซอย, อาบน้ำครั้งเดียวต่อวัน, สุมจานที่กินแล้วไว้ในอ่างล้างจานเป็นสัปดาห์, เข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือ ( อึ๋ย! ) เป็นต้น
อย่า-บอก เรื่องพวกนี้กับหนุ่มที่เพิ่งเจอครั้งแรกเด็ดขาด! เตือนว่าอย่าเพิ่ง รอให้คบกันไปสักพักค่อยบอกก็ยังไม่สายนะคะ
3. ความรู้สึกจริงๆ ของเธอต่อ 'สิ่งที่เขาชอบ'
ช่วงจีบกันแรกๆ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ อะไรที่เขาว่าดีเธอก็ว่าดีทั้งนั้นแหละ! เสื้อฮู้ดตัวนั้นเท่จังเลย, กางเกงยีนส์ตัวนี้สีเฟดสวยสุดๆ, มอเตอร์ไซค์แต่งร้านไหน เธออยากไปแต่งบ้าง ( ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีแม้แต่จักรยาน -.- ), แข่งบอลคราวหน้าเมื่อไหร่เหรอ พาเธอไปด้วยสิ ( ปกติไม่สนใจสักนิด ) แล้วดูนั่น! ท่าทางของเขาตอนซดเส้นเล็กต้มยำชามนั้น ช่างน่ารักมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวเสียนี่กระไร ><
เมื่อคบไปสักพัก ตัวตนที่แท้จริงก็เริ่มเปิดเผย! เธอเริ่มเบื่อหน่ายที่ต้องเฟคตลอดเวลา เราเข้าใจ *ตบบ่า* แต่ค่อยๆ เผยตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า เฟดตัวจากกิจกรรมที่ไม่ชอบซะโดยอ้างว่าไปชอบอย่างอื่นแทน ดีกว่าเฟคแล้วมาบอกทีหลังว่า 'เฮ้ย! ไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ชอบดูบอล ไม่เคยชอบเลยด้วย!' แฟนหน้าเสียแน่นอน ( เผลอๆ มีดราม่าตามมาอีก )
4. ปัญหาในครอบครัว
ข้อนี้มักเป็นปัญหาส่วนใหญ่ของชีวิตคู่ น้อยคนที่จะมาจากครอบครัวอบอุ่น มีความสุข 100% ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย ส่วนใหญ่ก็มักมีรอยร้าวเล็กๆ น้อยๆ กันทั้งนั้น เช่น บ้านของเธอเป็น single mom, single dad, มีแม่เลี้ยงสองคน, พ่อเป็นเกย์, เคยล้มละลายจนต้องเก็บขวดขายแลกเศษเหรียญซื้อข้าวกิน ( บางเคสที่พีคๆ อาจมีกรณี คนในครอบครัวทำอาชีพผิดกฎหมายด้วยซ้ำไป! )
ถ้าไม่ใช่เรื่องฐานะหรือกฎหมาย ก็อาจเป็นเรื่องทัศนคติ ลักษณะการใช้คำพูดของคนในบ้าน เช่น บ้านของเธอเป็นครอบครัวคนจีน ตะโกนเสียงดังคุยกันเป็นเรื่องปกติ, บ้านของเธอเป็นศิลปินทั้งบ้าน บางเดือนไม่เจอหน้ากันเลยก็เฉยๆ ( จะติสต์ไปไหน! )
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเขาจะรับได้ อย่าเพิ่งบอกดีกว่า
5. นิสัยจริงๆ ของกลุ่มเพื่อน / พฤติกรรมของเธอเมื่ออยู่กับเพื่อน
สาวๆ บางคนต้องบอกว่า ตัวตนตอนอยู่กับเพื่อน / กับแฟนนั้นคนละเรื่องกันเลย! ( จะบอกว่าสร้างภาพก็ตรงไป ) อยู่กับแฟนเป็นสาวหวานนุ่มนิ่ม เรียบร้อยยิ่งกว่าผ้าพับไว้ พูดเสียงเบาจนเหมือนกระซิบ แต่เจอแก๊งเพื่อนสาวเท่านั้นแหละ เสียงนกกระจอกที่ว่าแน่ก็ยังแพ้เธอ คุยน้ำไหลไฟดับ 24 ชั่วโมง ไหนจะท่าเต้น 18+ เวลาอยู่ในผับนั่นอีก!ไม่ใช่แค่ตัวเธอเอง แต่เธอยังโฆษณาเพื่อนกับแฟนไว้อีกว่า 'ดีเลิศสุดๆ' เป็นแม่ศรีเรือนกันทั้งกลุ่ม เวลาว่างๆ ก็หัดเข้าครัวทำอาหาร ถักนิตติ้งเพลินๆ ( ความจริงคือตะลุยแดนซ์ตามผับให้ครบแนวรถไฟฟ้า ) ถ้าเขาคนนั้นยังยอมรับตัวตนของเธอไม่ได้ อย่าเพิ่งบอกความจริงเลยค่ะ!
6. รูปร่างหน้าตา / ความเป็นอยู่ในช่วงมัธยม
สาวๆ บางคนก็เคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่มาก่อน! สมัยเรียนประถม / มัธยมต่างกับช่วงมหาลัยและวัยทำงานราวฟ้ากับเหว เห็นรูปถ่ายในอัลบั้มต้องขยี้ตาสองทีแล้วคิดว่า 'นี่ฉันจริงๆ เหรอเนี่ย' ทั้งดำ อ้วน สิวเขรอะ ตาเหล่ ฟันหลอ ( เพราะต้องถอนเตรียมจัดฟัน ) โอ๊ย! รับไม่ได้ เก็บรูปใส่กรุไว้ลึกสุดใจ ห้ามใครเห็นทั้งนั้น ใครขุดรูปแท็กในเฟสบุ๊คเตรียมโดนด่ารัวๆ ได้เลย
สถานะในช่วงเรียนก็เช่นกัน! สาวๆ บางคนโม้ไว้มากมายว่าตัวเองเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์, เป็นประธานชมรมสุดฮอต, เป็นดาวคณะที่ใครๆ ก็คลั่งไคล้ ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นแค่นักศึกษาแสนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เรื่องนี้อาจถูกเปิดเผยได้ง่าย ถ้าเขารู้จักกับเพื่อนสมัยเรียนของเธอ! ดังนั้น ตัดปัญหาด้วยการโม้ให้ใกล้เคียงความเป็นจริงหน่อย ถ้าความแตกจะได้ไม่ตกใจมากนัก เช่น "ก็เป็นคนธรรมดานั่นแหละ แต่ก็มีคนมาจีบบ้างนะ ( แม้จะไม่มีเลย! )" ค่ะ
7. พฤติกรรมการใช้เงิน / ช็อปปิ้งของเธอ
อยากให้แฟนมองเห็นแต่ข้อดี เป็นนางฟ้าในสายตาของเขา เลยหลงลืม 'พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินแบบมือเติบ' ของตัวเองไปชั่วขณะ บอกว่าเป็นสาวประหยัด มัธยัสถ์เป็นที่หนึ่ง อยากมีคนมาดูแลด้านรายรับรายจ่ายเหรอ ปรึกษาเธอสิ! (เหรอออออ -.- )จะซื้อของฟุ่มเฟือยแต่ละชิ้นต้องคิดแล้วคิดอีก ความจริงคือเหมาทุกสี ทุกแบบที่มีในร้านตอนนั้นเลย! ), บีบยาสีฟันทั้งทีต้องเค้นให้หมดหลอด ความจริงคือเหลือครึ่งเดียวก็โยนทิ้งแล้ว บางเคสฟุ่มเฟือยขนาดมีบัตรเครดิตหลายใบ ใช้เกินวงเงินทุกเดือนจนต้องโปะทับวนกันไปเป็นงูกินหางไม่รู้จบ โอย อาการหนักนะเธอเนี่ย!บอกแฟนว่าเสื้อผ้า รองเท้าราคาแพงระยับของตัวเองถูกสุดๆ! '199- เอง ซื้อมาจากตลาดนัดน่ะ ( ตลาดนัดในห้างเกสรน่ะค่ะ! )' เพราะกลัวเขามองว่าใช้เงินแบบไร้สาระ ข้อนี้ควรพบกันครึงทาง บอกความจริงให้เขารู้ตัวตน แต่ฟุ่มเฟือยให้น้อยลงดีกว่าค่ะ
8. เรื่องวิชาการ / มุมมองต่อการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม etc.
นี่คือสาเหตุที่คู่รักหลายคู่ไม่คุยกันเรื่องการเมือง! เรื่องบางอย่างต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นกับฝ่ายเดียวกันน่าจะดีกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่หมายถึงเรื่องซีเรียสๆ ที่หากเจาะรายละเอียดแล้วอาจเกิดดราม่า เช่น สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม แฟนเก่า ประสบการณ์แย่ๆ ที่เคยเจอ etc.
แม้ว่าคู่รักที่ดีจำเป็นต้อง 'มีทัศนคติ / มุมมองต่อชีวิตเหมือนกัน' จึงจะอยู่ด้วยกันรอด แต่หากเธอเข้ากันได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องการเมือง เธอจะปล่อยให้มันมาทำลายชีวิตคู่หรือ -.- แค่เลี่ยงๆ ไป โฟกัสที่ความห่วงใย ดูแลซึ่งกันและกันดีกว่า
==============================
เป็นอย่างไรบ้างสาวๆ ปิดบังความลับสุดยอดเหล่านี้จากแฟนไว้กี่ข้อ -.- เพราะอยากให้เขามองเราเป็นผู้หญิงที่สวย น่ารัก เพอร์เฟกต์ คำว่า 'โม้' จึงผุดขึ้นมาในพจนานุกรมของความรัก แต่เมื่อคบไปนานๆ เธอต้องยอมรับว่าสักวันความลับก็ต้องเปิดเผย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ไม่ว่าเธอจะโกหกใครก็ตาม จำไว้ว่าจงซื่อสัตย์กับตัวเอง! เก็บความลับไว้กับตัวก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันไม่ได้ส่งผลเดือดร้อนกับใคร แต่ถ้ามันมีผลกระทบต่อคนอื่น คงเก็บไว้ไม่ได้ ต้องสารภาพความจริง ยอมโดนด่า / งอน / ดราม่า สักหน่อย ถ้าเขารับได้ก็โล่งใจว่าไปกันต่อได้ตลอดรอดฝั่งแน่นอนค่ะ ^^
บางความลับอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เธอเคยเสียน้ำตา เป็นบาดแผลในจิตใจ ถ้าเธอแน่ใจในตัวแฟนคนนี้แล้ว การเผยความลับนั้นอาจทำให้เธอและเขาเข้าใจกันและกันมากขึ้นก็ได้นะ ใครจะรู้ ^_^
==============================
Cr. The 25 Surprising Secrets We Keep from Our Partners [ lovepanky ]
http://www.lovepanky.com/flirting-flings/wild-secrets/the-surprising-secrets-we-keep-from-our-partners
บทความที่เกี่ยวข้อง
5 เหตุผลที่อธิบายว่าคู่รักที่ 'ทะเลาะกัน' มักจะหวานกว่าคู่รักที่ไม่ทะเลาะกันเลย
https://sistacafe.com/summaries/7936
7 เรื่องน่าอายสำหรับตัวผู้หญิง ที่ผู้ชายอยากบอกว่าน่ารัก(*´▽`*)♥
https://sistacafe.com/summaries/1106
7 สิ่งของผู้หญิง ที่ทำให้ผู้ชายคิดว่า 'คุณช่างไร้เสน่ห์สุด ๆ !!'
https://sistacafe.com/summaries/4918