หลายข้อถกเถียงระหว่างความเชื่อเก่าๆ กับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ การออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์ค่ะ
ในปัจจุบันที่คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความแข็งแรงแต่ยังรวมไปถึงการบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกายนั้นรักตัวเองแค่ไหน เราจะเห็นว่าผู้คนในสมัยปัจจุบันนั้นหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้นซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่ายินดีมากค่ะ แน่นอนว่าตามที่หัวข้อได้เกริ่นมา ไม่เพียงแต่บุคคลทั่วไปเท่านั้น เหล่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยก็หันมาออกกำลังกายด้วยเหมือนกัน ว่าแต่การออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์นั้นดีจริงเหรอ และเป็นอย่างไป ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
กา
รออกกำลังกายตอนท้องนั้น ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ท้องก็ไม่ได้หมายความว่าต้องนั่งอยู่เฉยๆเสียหน่อย การขยับร่างกายบ้าง ออกกำลังกายสักหน่อยดูจะเป็นผลดีต่อคุณแม่และลูกในครรภ์เสียมากกว่าด้วยซ้ำค่ะ
แต่ก็ยังมีข้อห้ามเกี่ยวกับการออกกำลังกายกับคุณแม่ตั้งครรภ์นะคะจะเป็นอะไรนั้นไปชมกันเลยค่ะ
1. คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่ควรออกกำลังกาย
ปกติแล้วจะห้ามเฉพาะคุณแม่ที่อยู่ในข่ายเป็นโรคต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น คุณแม่ครรภ์แฝด เคยแท้งบุตรมาก่อนหรือคลอดก่อนกำหนดและไม่รู้สึกเจ็บท้อง เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ เบาหวาน ฯลฯ เพราะการออกกำลังกายอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างที่กลัว ๆ กันได้ หรือถ้าอยากจะออกกำลังกายจริง ๆ ก็ควรปรึกษาและทำตามคำแนะนำของแพทย์ครับ ส่วนคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครบ 4 เดือนแล้ว และมีสุขภาพปกติ ร่างกายแข็งแรง การตั้งครรภ์เป็นปกติ ไม่มีโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามที่กล่าวมา ก็สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติครับ
**แต่กระนั้นการกระทำทุกอย่างของคุณแม่ที่หากไม่แน่ใจ ควรจะปรึกษาคุณหมอที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญดีกว่านะคะ**
2. ข้อแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
2.1
ควรจะชะลอเวลาให้ผ่านพ้นช่วงการแพ้ท้องไปก่อน
แน่นอนค่ะว่าแค่อาการแพ้ท้องก็ทำให้คุณแม่เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ระหว่างนั้นหากไปออกกำลังกายแบบปกติอีกแล้วละก็ ร่างกายอาจจะทำงานหนักเกินไป ซึ่งเราอาจเลี่ยงโดยการ 1. งดออกกำลังกายช่วงนั้นไปก่อนรอจนหายจากอาการแพ้ 2.ออกกำลังกายเบาๆ เพียงยืดเส้นยืดสาย
2.2
เลือกการออกกำลังกายเบาๆเมื่อเริ่มตั้งครรภ์แล้วร่างกายเรานั้นย่อมไม่เหมือนเดิมค่ะเพราะมีหนูน้อยกลอยใจมาสถิตแล้ว ดังนั้นคุณแม่ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายดู เช่นจากออกกำลังกายทุกวัน วันละชั่วโมง อาจจะเป็น 3-4 วันต่อสัปดาห์ระยะเวลา 30-45 นาที และเลือกประเภทของการออกกำลังกายเบาๆเช่น ว่ายน้ำ เดิน เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยานกับที่ โยคะยืด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีการกระแทกและเกร็งกล้ามเนื้อค่ะ2.3 ปรึกษาหมอคุณแม่ต้องนัดพบกับคุณหมอเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ดังนั้นอาจจะลองใช้ช่วงเวลานี้เช็คร่างกายตัวเองและปรึกษาเกี่ยวกับตารางการออกกำลังของตัวเองกับคุณหมอดูนะคะ
2.4 เช็คตัวเองสม่ำเสมอ ไม่ไหวอย่าฝืน
ถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไปขณะออกกำลังกาย ปวดกล้ามเนื้อ หรือเป็นตะคริว คุณแม่อย่าได้ฝืนทน ควรจะหยุดพักทันที แล้วนั่งให้สบายหายเหนื่อย เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและหัวใจเต้นช้าลงจนเป็นปกติ
2.5 อาจชวนคุณพ่อออกกำลังร่วมด้วย
หาเวลาไปเดินเล่นกันบ้าง หรือเข้าคลาสสำหรับคู่พ่อแม่มือใหม่ นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังช่วยสานสัมพันธ์ครอบครัวอีกด้วย
3. ประโยชน์จากการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์
3.1 รู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัว และรู้สึกกระฉับกระเฉงค่ะ
3.2 ช่วยให้คุณแม่นอนหลับพักผ่อนได้ดียิ่งขึ้น ผ่อนคลายจากการตึงเครยีดจากงานและสิ่งแวดล้อม
3.3 ระบบย่อยอาหารคุณแม่จะดีขึ้น ขับถ่ายเป็นปกติ ท้องผูกน้อยลง
3.4 ส่งผลดีต่อลูกน้อย ส่งผลต่อการถ่ายเทออกซิเจนในร่างกายและลูกน้อย
3.5 ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น
3.6 คุณแม่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ดีมากขึ้น
3.7 เผาผลาญไขมันส่วนเกินในคุณแม่ ลดความเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
3.8 หลังคลอดแล้วคุณแม่จะฟื้นตัวเร็วมาก
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่เราได้คัดสรรมาแบ่งปันให้ชาวซิสต้าแฟนคลับกันค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่และคนรอบข้างคุณแม่ตั้งครรภ์นะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดี :)