สิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นปรากฎการณ์ที่แปลกใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทยก็ว่าได้สำหรับสิ่งที่พี่ตูน นักร้องขวัญใจคนไทยได้ทำ นั่นก็คือการวิ่งจากแดนใต้สุดของประเทศไทย ไปเหนือสุดของประเทศไทย
สองพันกว่ากิโลเมตรที่ตูน บอดี้แสลมได้ก้าววิ่ง มีคนร่วมวิ่งกับเขาตลอดเส้นทางเป็นหมื่นคน และมีคนรอถ่ายรูปกับตูนอีกร่วมแสนคน จะมีใครสามารถสร้างปรากฏการณ์นี้ได้เท่ากับตูน บอดี้แสลม ขวัญใจคนไทยทุกวัยเลยทีเดียว
คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่า ที่เคยรอดูไลฟ์สดของพี่ตูน
จนกระทั่งถึงเส้นชัยที่มีเงินระดมทุนบริจาคมากถึงหนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาท
และเงินจำนวนนี้จะนำไปพัฒนาโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบันทึกเชิงสารคดีตลอดเวลา 55 วันที่ตูน บอดี้แสลมได้วิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุด มีทุกเหตุการณ์ที่เรา ซึ่งเป็นผู้นั่งชมไลฟ์สดอยู่ที่บ้านอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเขาคือนักวิ่งที่ทำสถิติวิ่งข้ามประเทศคนแรกของไทย หากถามว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน ในแต่ละวันที่ต้องวิ่งให้ได้ระยะทางที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆคำตอบก็คือเขาอาศัยอยู่ในรถบ้านแม้ว่าบางเรื่องราวคุณอาจจะเคยรู้มาก่อนแล้ว ทั้งเหตุการณ์ดรามา เหตุการณ์เศร้าเคล้าน้ำตา เหตุการณ์ความสุขทุกวินาที และรอยยิ้มของคนที่ได้มาเซลล์ฟี่กับพี่ตูนตัวจริงภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปอินกับระยะทางสองพันกว่ากิโลเมตร ในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า ที่จะดึงหัวใจคุณให้ร่วมลุ้นไปกับภาพยนตร์และสิ่งที่พี่ตูนทำ
สิ่งที่เขาทำลงไป เป็นเพราะ “ ความเชื่อ ” ที่พาให้สองเท้าของเขาก้าววิ่งไปอย่างไม่ย่อท้อ
ตูน บอดี้แสลม
ไม่ใช่แค่นักวิ่งที่มีความเชื่อเป็นตัวนำทางชีวิต แต่เขายังเป็นชายผู้แต่งเพลงสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน หลายๆ คนคงจะคุ้นหูกันดีกับบทเพลง “ ความเชื่อ ” ที่แม้ได้ฟังครั้งแรกก็รู้สึกมีความหวังและกำลังใจที่จะก้าวไปตามฝัน ต่อด้วยบทเพลง “ แสงสุดท้าย ”
ที่เป็นบทเพลงสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจากการรวมพลังของโครงการก้าวคนละก้าว ค่าย GDH และโครงการคิงพาวเวอร์ ที่น่าสนใจก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เข้าชมฟรีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยอยากทำความดีเพื่อคนที่ด้อยโอกาส
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากการถ่ายทำตามติดชีวิตตูนแบบไม่มีใครเคยได้เห็น
และยังใช้กล้องตัวเดียวในการถ่ายทำ ให้อารมณ์การดูหนังแบบเรียลลิตี้หรือสารคดีนั่นเอง
ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือ
ไก่-ณฐพล บุญประกอบ จาก GDH559
และทีมงานทั้งหมด 5 คน ใช้เวลาในการตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้กว่าจะให้พวกเราได้ชมกันรวมระยะเวลา 3 เดือน
ซึ่งพี่ตูนได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ว่า
สำหรับสาวซิสคนไหนที่อยากชมภาพยนตร์เรื่องนี้รอชมในวันที่ 6 กันยายน โดยเสาร์อาทิตย์จะฉายวันละ 2 รอบ ส่วนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ฉายวันละ 1 รอบใครที่อยากบริจาคให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำได้ ที่กล่องบริจาคหน้าเคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์นะคะ