สวัสดีค่า สาวๆSistaCafeที่กำลังมีปัญหา' ใต้ตาแพนด้า 'ทุกคน (´ ε ` )♡
ชีวิตในยุคสมัยนี้ ยากมากกก ที่จะหาเวลานอนครบ 8 ชั่วโมงได้ทุกคืน! การบ้านก็ต้องทำ หนังสือก็ต้องอ่าน ซีรีส์ก็ต้องดู จะทำงานที่ต้องใช้ความคิดบางอย่าง ก็ต้องทำช่วงดึกๆ เงียบๆ สมองถึงจะแล่น แต่ตอนเช้าต้องตื่นเวลาเดิม ใต้ตาเลยดำคล้ำยิ่งกว่าหลินฮุ่ย T_T
ยิ่งใครเป็นโรคภูมิแพ้ ใต้ตานี่คล้ำปิ๊ดปี๋จนไม่กล้าโชว์หน้าสดออกนอกบ้านเลยทีเดียว เอาช้อนเย็นๆ ทาบตา แตงกวาปิดตายังไงรอยก็ไม่หาย อายหนักมาก แต่ก็ไม่มีเวลานอนจริงๆ แต่ปล่อยใต้ตาแบบนี้ไว้ก็ไม่ได้ ทำยังไงดีนะ?
ทางออกเฉพาะหน้าของสาวๆ สมาคมแพนด้า ก็คือ
' แต่งหน้ากลบด้วยคอนซีลเลอร์ '
นี่แหละค่ะ อาจจะมีเทคนิคที่ซับซ้อนสักเล็กน้อย แต่หากแต่งเป็น ใต้ตาก็ดูสว่างสดใสมีออร่าได้ ดูไม่เหนื่อย เหมือนเรานอนพักผ่อนเต็มที่มาทั้งคืน (◕‿◕)♡ พร้อมจะปลุกตาง่วงๆ คล้ำๆ ให้กลับมากระจ่างใสแล้วรึยัง หยิบเครื่องสำอางขึ้นมา แล้วเราไปลุยกับ
' 7 ทริคใช้คอนซีลเลอร์ กลบใต้ตาดำให้เนียนกริ๊บ! '
เลยดีกว่าค่า!
❤
1. ไม่ทา 'เซรั่ม หรือมอยส์เจอไรเซอร์ใดๆ' ก่อนลงคอนซีลเลอร์

สาวๆ บางคนเข้าใจว่า การใช้เซรั่่มวิตามินซี หรืออายครีมลงรองพื้นไว้ก่อน จะทำให้รอยคล้ำใต้ตาจางเร็วขึ้น แต่งหน้ากลบได้เนียนขึ้น ซึ่งไม่จริงเสมอไป!
บางคนมีรอยคล้ำใต้ตามาจากกรรมพันธุ์ ร่างกายขาดน้ำ หรืออดนอนสะสมจนตาคล้ำมาก แม้จะใช้สกินแคร์เยอะเท่าไหร่ก็ลบรอยคล้ำไม่ได้ 100% จึงควรไปลงทุนกับคอนซีลเลอร์เนื้อดีๆ ยี่ห้อดีๆ ดีกว่า
พยายามนอนหลับพักผ่อนให้ได้ใกล้เคียง 8 ชั่วโมงที่สุด และพกขวดน้ำไปดื่มในทุกๆ ที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำแม้การทำแบบนี้ใต้ตาจะไม่ใสปิ๊งทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็จะไม่คล้ำลงไปกว่านี้ค่ะ
2. จะกลบใต้ตาดำให้เนียน ต้องใช้คอนซีลเลอร์ 'หลายตัวผสมกัน'

หากต้องการกลบใต้ตาให้เนียนกริบ 100% จริงๆ คอนซีลเลอร์ตัวเดียวอาจเอาไม่อยู่ค่ะ โดยเฉพาะรอยคล้ำขั้นรุนแรง เห็นชัดมากเป็นพิเศษ
ควรมีอย่างน้อย 2 ตัว คือเนื้อครีม full-coverage เนื้อทึบๆ กลบให้ผิวแมทเนียน และเนื้อลิควิดที่ไม่ทำให้ผิวมีรอยยับ แตกระแหง ( crease ) นำมาผสมกัน
จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าค่ะ
โดยเริ่มจากใช้แบบลิควิด แตะสามจุดที่ใต้ตา เกลี่ยให้เนียนเสมอกัน แล้วจึงใช้เนื้อครีมกลบทับอีกรอบ วิธีนี้จะช่วยเซ็ตรอยคล้ำให้อยู่คงที่ ไม่มีรอยแตก ขยายออกจนรอยดูกว้างกว่าเดิม
และยังติดทนยาวนานได้ตลอดวันอีกด้วยนะ อาจจะกินพื้นที่ในกระเป๋าเมคอัพมากขึ้นหน่อย แต่คุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน
3. เช็คให้ชัวร์ว่า คอนซีลเลอร์ที่มี 'เฉดสีใกล้เคียงกับสีผิวจริง' ที่สุด

เวลาสาวๆ จะแต่งหน้าเพื่อกลบจุดด้อยอย่าง ' สีคล้ำ ' ที่เป็นส่วนเด่นบนใบหน้า การเลือกเฉดสีคอนซีลเลอร์ที่กลบ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!
มีความเชื่อผิดๆ แต่โบราณว่า การกลบรอยคล้ำใต้ตา ควรใช้คอนซีลเลอร์ที่อ่อนกว่าผิวเรา 2 เฉดสี แล้วปาดรอบเดียวเลย ซึ่งการใช้สีที่อ่อนกว่ารอยคล้ำมากๆ มันจะยิ่งเน้นให้ตาแพนด้าเราดูเด่นขึ้นกว่าเดิม รอยจากสีดำจะเป็นสีเทา และดวงตาดูเหนื่อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ! #กรี๊ด
สีคอนซีลเลอร์ที่ ' ตรงกับเฉดสีผิวที่สุด ' นี่แหละ ดีที่สุดแล้วแต่ถ้าอยากให้ผิวช่วงนั้นสว่างขึ้นหน่อย ก็ใช้ผสมกับคอนซีลเลอร์สีที่อ่อนกว่าผิวจริง 1 เฉด แล้วแท็ปๆ เกลี่ยเบาๆ ให้เนียนกลืนไปกับผิวทั้งใบหน้านะคะ (*♡∀♡)
4. 'แท็ปๆ แปะๆ' คอนซีลเลอร์ จะเนียนกว่าปาด โปะ หรือถูแบบลวกๆ

หากต้องการการปกปิด ผิวเนียนสูงสุด อย่าปาดลงผิวกรึ๊บเดียวจบ ต้องมีศิลปะในการใช้นิ้วแท็ปๆ เกลี่ยๆ รอยคล้ำสักหน่อย
ไม่ควรปาดแล้วถู เพราะการถูคือการเช็ดคอนซีลเลอร์ออก ทำให้เสียเนื้อเมคอัพไปฟรีๆ โดยเฉพาะคอนซีลเลอร์เนื้อครีมค่ะ
เมื่อแท็ปช่วงใต้ตาจนเรียบเนียนแล้ว ให้ใช้คอนซีลเลอร์ที่ขอบตาด้านใน แล้วใช้นิ้วเกลี่ยไปจนถึงช่วงเปลือกตา ด้วยทริคนี้จะทำให้ตาดูเปิด สว่างสดใสมากขึ้นและผลพลอยได้คือ เป็นการรองพื้นช่วงเปลือกตา ให้ทาอายแชโดว์ กรีดอายไลเนอร์ได้ติดทนมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้ eye primer เพิ่มอีกด้วย
5. ใช้ 'คอนซีลเลอร์สีสัน' แมทช์ให้ตรงสีอันเดอร์โทนตัวเอง

การมีรอยคล้ำเนื่องจากนอนไม่พอ เพราะบริเวณนั้นมีเส้นเลือดฝอยเข้ามารวมตัวกันเยอะ ซึ่งหากมองลึกลงไป มันไม่ใช่สีดำ แต่เป็นสีโทนน้ำเงินและม่วงของเส้นเลือดในร่างกาย
หากต้องการปกปิดให้เรียบเนียน ก็ต้องใช้ ' คอนซีลเลอร์สี ' ที่ตรงกับอันเดอร์โทนของเรา และเป็นคู่สีตรงข้าม ตัดรอยคล้ำได้ค่ะ
คอนซีลเลอร์โทนสี ' เหลือง ส้มพีช และแดงกุหลาบ ' เป็นสีที่เหมาะสมสุดๆ สำหรับการแก้ไขสีรอยคล้ำใต้ดวงตาหากรอยคล้ำของเธอออกไปทางโทนสีม่วง ต้องใช้คอนซีลเลอร์โทนสีเหลือง เพราะสีม่วง-เหลือง เป็นคู่สีร้อนเย็นที่ตัดกันหากรอยคล้ำออกไปทางสีเขียว หรือสีน้ำตาลซีดๆ ให้ใช้คอนซีลเลอร์โทนสีแดงกุหลาบ เพราะสีเขียว-แดง เป็นคู่สีตรงข้ามทำให้ตาสดใส เสกรอยคล้ำหายไปดั่งใจนึก
6. 'ความเข้มข้น' ของคอนซีลเลอร์ก็สำคัญ!

หากทารองพื้นเสร็จ ทาคอนซีลเลอร์แล้ว แต่รู้สึกว่าใต้ตาดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย แสดงว่าเธอใช้คอนซีลเลอร์ผิดประเภทแล้วล่ะค่ะ! สังเกตให้ดีว่าเนื้อคอนซีลเลอร์ที่ใช้เป็นเนื้อบาง ( sheer ) หรือแบบทึบ ( opaque ) กันแน่
หากรอยคล้ำชัดมาก แต่เธอใช้เนื้อบาง กลบให้ตาย บิลด์ทับกี่ชั้นยังไงก็ไม่มิด หรือถ้ารอยคล้ำไม่ได้เยอะ ใช้เนื้อทึบโปะ ก็ทำให้ตาดูหนักๆ เหมือนหน้าตุ๊กตายางไปอีก
ดังนั้นจึงขอเน้นย้ำว่า เธอต้องมีคอนซีลเลอร์อย่างน้อย 2 แบบ และผสมอัตราส่วนให้เข้ากับความช้ำของใต้ตาของตัวเอง
ถ้ารอยน้อยหน่อย อัตราส่วนเนื้อ sheer ก็เยอะกว่า แต่ถ้ารอยช้ำเยอะมากไม่ไหวแล้ว ก็อัดเนื้อ opaque ให้มากขึ้น
เพื่อให้ใต้ตาดูเนียนแบบไม่ต้องพยายาม
7. ข้ามขั้นตอน 'เซ็ตผิว' ด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงไปเลย!

สาวๆ สายแต่งหน้าทุกคนจะติดนิสัย ' เซ็ตผิว ' ด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสง หรือแป้งไม่ผสมรองพื้น เพราะกลัวเมคอัพไหลจากอากาศร้อนบ้านเรา แต่ถ้าจะกลบใต้ตาให้เนียน ไม่ต้องเอาแป้งฝุ่นไปเซ็ตเพิ่มจะดีกว่า
เพราะเนื้อครีมจากคอนซีลเลอร์ กับเนื้อฝุ่นจากแป้งมาผสมกัน จะทำให้ใต้ตามีรอยพับย่น รอยเหี่ยว หรือ creasing eyes กลายเป็นตาดูเหนื่อย ดูแก่กว่าอายุ ยิ่งไปเน้นให้คนมองใต้ตากว่าเดิม
หากเป็นสาวผิวมัน อาจจะพอใช้แป้งฝุ่นตบเบาๆ ได้บ้าง แต่ถ้าผิวแห้งเป็นทุนเดิม ผิวจะยิ่งดูหนาหนัก cakey และแตกเป็นร่องๆ ดูไม่น่ามอง
เหมือนคนเอาแป้งฝุ่นเบกใต้ตา เพื่อแต่งตาให้ผงอายแชโดว์ไม่เปื้อน แต่ลืมปัดออก ดังนั้นอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่าน้า
-------------------------------
ทริคที่นำมาฝากก็ประมาณนี้ พอกรุบกริบ หวังว่าสาวๆ จะนำทริคที่ได้ไปปรับใช้กับสภาพรอยคล้ำใต้ตาของตัวเองกันได้นะคะ ^^หลักๆ คือต้องใช้คอนซีลเลอร์เนื้อลิควิดกับครีมผสมกัน เลือกให้ถูกสีอันเดอร์โทนผิวตัวเอง และใช้การแท็ปๆ เกลี่ยๆ ด้วยนิ้ว ไม่ใช้แปรงถูปาด เท่านี้ก็มีดวงตาสวยสดใสได้แล้วแต่ทั้งนี้! ก็ไม่มีวิธีไหนจะเยียวยารอยคล้ำใต้ตาได้ดีเท่ากับ ' นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ' และดื่มน้ำเยอะๆ อีกแล้ว ยังไงถ้ามีเวลาว่างก็พยายามนอนให้เยอะๆ นะคะ รู้ว่าทำยาก แต่มันดีกับทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวของเราอย่างแน่นอนวันนี้ขอตัวไปก่อนน้า พบกันใหม่ค่า บ๊ายบาย