อันยองฮาเซโยค่า สาวๆSistaCafeทุกคน (*¯ ³¯*)♡
เป็นวัยรุ่นสาย K-Beauty ทั้งที ก็อยากมีผิวหน้าดีๆ เรียบเนียน หารูขุมขนแทบไม่เจอ เหมือนไอดอลหรือนางเอกซีรีส์กับเขาบ้าง ขนาดใช้จอคอม / จอทีวีชัดระดับ 4k ยังหน้าเนียนกริ๊บ! เหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไปอี๊กกก
ถึงจะเมคอัพบางๆ ตอนออกกล้อง แต่ต้นทุนเดิมก็ผิวดีมากอยู่ดี ลองเราลงแค่รองพื้นชั้นเดียว แล้วไปออกทีวีสิ นั่นหน้าหรือหลุมอุกกาบาตคะซิส *รับไม่ได้* อยากรู้จัง ว่าสาวเกาเขาดูแลผิวกันยังไงนะ???
ถ้าใครกำลังเสิร์ช หาข้อมูลเกี่ยวกับ Skincare Routine ในตอนกลางคืนของสาวเกาหลีอยู่ล่ะก็ เราสรุปมาให้แล้ว! กับ 7 ขั้นตอนดูแลผิว ที่วัยรุ่นเกาหลีนิยมสุดๆ
( ถ้าวัยทำงาน อาจมีขั้นตอนเยอะกว่านี้ เพราะเริ่มมีริ้วรอยแล้ว แต่วัยรุ่นยังผิวใสอยู่ค่ะ )
อาจดูเยอะ แต่ทำจริงๆ ก็ไม่กี่นาทีหรอก =w= ถ้าอยากสวย ผิวดี ก็ต้องลงทุนนิดนึงเนอะ ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมจดทริคเลยค่ะ!
Step 1 >> เมคอัพรีมูฟเวอร์ + คลีนซิ่งออยล์
หลังจากแต่งหน้ามาทั้งวัน ก็ได้เวลาล้างออกแล้วค่ะซิส! ซึ่งขั้นตอนแรกที่สาวเกาหลีนิยม คือใช้ ' เมคอัพรีมูฟเวอร์ ' เช็ดคราบเมคอัพออกให้หมดก่อน ( อย่าลืมเน้นช่วงตาและปาก ) คู่กับการใช้ ' คลีนซิ่งออยล์ ' โดยกดจากหัวปั๊ม นวดวนๆ ให้ทั่วผิวหน้าแล้วล้างออกค่ะ
สาวไทยหลายคนกลัวว่า ถ้าผิวมัน แล้วใช้คลีนซิ่งออยล์ หน้าจะไม่ยิ่งมันกันไปใหญ่เหรอ? เอาจริงๆ ถ้าล้างสะอาดหมดจด ไม่เกี่ยวเลยค่ะ เผลอๆ หน้าจะมันน้อยลงด้วยซ้ำ เพราะการที่ผิวมัน เกิดจากผิวจริงของเราแห้ง ฮอร์โมนไม่สมดุล ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเยอะ ถ้าใช้คลีนซิ่งออยล์ ค่าpH บนผิวจะถูกปรับให้สมดุล ทำให้น้ำมันบนหน้าน้อยลงนั่นเองค่า ( ผลพลอยได้คือ สิวที่เคยมีก็ลดลงด้วย! )
ล้างด้วยโฟมมันไม่พอ! รวม 8 'คลีนซิ่งออยล์' ถูกและดี ราคานักศึกษา หน้าใส สู้ฝุ่น PM2.5 ✧
https://sistacafe.com/summaries/61127
Step 2 >> คลีนเซอร์ที่ใช้ส่วนผสมหลักจากน้ำ ( Water-based )
หลังจากล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ 1 รอบ อาจยังมีคราบสกปรก น้ำมันบนหน้าหลงเหลืออยู่ ต้องล้างอีกรอบด้วย ' คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมหลักจากน้ำ ( water-based cleanser ) ' จะมีลักษณะแบบโฟม เจล หรือครีมก็ได้ คลีนเซอร์แบบนี้จะเป็นสูตรอ่อนโยน ไม่เสียดสีกับผิวหน้า ไม่ทำให้หน้าแห้งเกินไป มัดขจัดสิ่งสกปรกที่เป็นของเหลวโดยเฉพาะ เช่น คราบเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกค่ะ
สาวๆ สามารถเลือกยี่ห้อคลีนเซอร์ตามใจได้เลย เอาที่เข้ากับสภาพผิวหน้าของเรา หากใครเป็นสิวเยอะ ก็ใช้สูตรที่ผสมกรด Salicylic Acid, BHA, AHA เพื่อลดรอยสิวได้ แต่แนะนำว่าเริ่มจากเปอร์เซนต์น้อยๆ ไม่เกิน 3% ก่อน พอผิวเริ่มชินค่อยเพิ่มความเข้มข้น ป้องกันไม่ให้ผิวหน้าระคายเคืองนะคะ
ร้อนนี้ไม่มีมัน!! กับ 7 คลีนเซอร์ ปราบความมันบนใบหน้าสำหรับสาวผิวมัน
https://sistacafe.com/summaries/41944
Step 3 >> โทนเนอร์
จบขั้นตอนการล้างหน้า สาวเกาเขาถือว่า ' การปรับสมดุลค่า pH บนผิว ' เป็นสิ่งสำคัญมาก พวกเธอจึงต้องใช้ ' โทนเนอร์ ' เพื่อให้ผิวหน้ามีค่าเป็นกลาง ลดการเกิดสิวและริ้วรอย, กระชับรูขุมขน, ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ทาครีมได้ซึมลึกยิ่งขึ้น หรือเช็ดสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลือมา ( สังเกตว่าสาวเกาใส่ใจเรื่องทำความสะอาดมากจริงๆ ย้ำหลายรอบมาก!!! )
ใช้สำลีแผ่นเนื้อแน่นๆ ( เลือกยี่ห้อที่ใช้กับโทนเนอร์โดยเฉพาะได้ยิ่งดี เพราะหยดนิดเดียวก็ชุ่มแผ่นแล้ว ) เช็ดให้ทั่วผิวหน้า โดยเช็ดตามแนวรูขุมขน เพื่อไม่ให้ผิวอุดตัน จนทำให้เกิดสิวได้ในภายหลังค่ะ
**ถ้าพอมีเวลา อยากผ่อนคลายผิวหน้าขั้นสูงสุด ใช้สำลีชุบโทนเนอร์ แปะให้ทั่วผิวหน้า มาส์กทิ้งไว้ 10-15 นาที สาวเกาเขาบอกว่า จะทำให้ผิวฟู รู้สึกเฟรชขึ้นสุดๆ เลยล่ะค่ะ >///<
รวม 7 'โทนเนอร์หน้าใส' กระชับรูขุมขน สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย #เช็ดให้ใสปิ๊ง!
https://sistacafe.com/summaries/49988
Step 4 >> เอสเซนส์
ถึงขั้นตอนดูแลผิวจริงๆ จังๆ แล้ว! เริ่มต้นจากเนื้อบางเบาสุดก่อน นั่นคือ ' เอสเซนส์ ' หรือ ' น้ำตบ ' บอกเลยว่าเป็นหัวใจสำคัญของสาวเกาหลีเขาเลยแหละ! เพราะสเต็ปนี้จะเหมือนบันไดขั้นแรก สู่การบำรุงอย่างเข้มข้นขึ้นในขั้นต่อๆ ไป ทำให้ผิวซึมซับส่วนผสมจากเซรั่ม ครีมและอื่นๆ ได้เต็มประสิทธิภาพค่ะ ♡\( ̄▽ ̄)/♡
เพียงเทลงบนฝ่ามือ แล้วตบเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า บริเวณแก้ม หนางผากและคาง ให้เอสเซนส์ซึมซาบให้ทั่วผิวหนัง การตบเบาๆ เนี่ย เขาบอกว่าจะทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดใต้ผิวทำงานดีขึ้นด้วยนะ ตบเสร็จแก้มจะเปล่งปลั่ง อมชมพู มีเลือดฝาด เหมือนเด็กสาวแรกรุ่นเลยทีเดียวค่า
Laneige Water Bank Quick Hydro Pen เอสเซนส์เพิ่มความชุ่มชื้นในรูปแบบปากกา พกพาสะดวก
https://sistacafe.com/summaries/42981
Step 5 >> ทรีทเมนต์อื่นๆ เช่น เซรั่ม เจลครีม etc
ใช้เอสเซนส์แล้ว ก็เริ่มใช้ครีมที่มีเนื้อหนาเพิ่มขึ้น เรียงตามลำดับได้เลย ซึ่งขั้นตอนนี้แต่ละคนจะใช้ไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีครีมแค่กระปุกเดียว หรือใครทุนเยอะหน่อย จะขนมาทาทั้งเซรั่ม เจลครีม ครีมต่างๆ เลยก็ยังได้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของสาวๆ ค่ะ ( ทาแค่ระดับบาง-ปานกลาง อันที่เนื้อข้นมากๆ เก็บไว้ก่อนนะ เราจะใช้ในขั้นตอนหลังมาส์กหน้าค่ะ )
แนะนำให้เว้นระยะห่างแต่ละครั้ง ประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ครีมทำงานเต็มที่นะคะ อย่าผสมทุกอย่างรวมกัน แล้วทาหน้าทีเดียว ไม่ได้! ผิด! อย่าขี้เกียจเด้อ! //สาวเกากรีดร้อง ขั้นตอนนี้ก็เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส ชุ่มชื้น กระชับรูขุมขนมากขึ้น
*หากสาวๆ ต้องการเน้นเรื่องสิว ให้ทายาแต้มสิว หรือเจลครีมที่มีสรรพคุณช่วยลดสิว เป็นเบสก่อนเลย แล้วค่อยใช้ครีมตัวอื่น เพื่อให้ตัวยาซึมลงผิวได้ดีที่สุดค่ะ
Step 6 >> ชีทมาส์ก ( Sheet Mask )
บำรุงจนผิวฉ่ำไปแล้ว ไม่พอค่า ยังฉ่ำได้อีก! สาวเกาจะ Crazy มากในเรื่อง ' ชีทมาส์ก ' เพราะใช้ง่าย แค่แกะซอง คลี่แผ่นออกมาแล้วแปะบนหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ครบเวลาก็ดึงออก นวดๆ เสร็จ!
ในเกาหลีมีชีทมาส์กหลายสูตร เช่น คอลลาเจน เมือกหอยทาก อะโลเวร่า ไข่มุกดำ วิตามินซี etc. และมีหลายเรทราคาตั้งแต่ในร้านทั่วไป ซื้อ 3 แถม 1 จนถึงเคาน์เตอร์แบรนด์แพงลิบลิ่ว ซองนึงหลายพันบาท จริงๆ วัยเรียนไม่ต้องใช้แบบที่แพงมากก็ได้ค่ะ แค่มาส์กให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น กระจ่างใสอยู่เสมอก็เพียงพอแล้ว
ตามเทรนด์ #SheetMaskEveryDay ให้หน้าใสเหมือนสาวเกาหลี
https://sistacafe.com/summaries/48697
Step 7 >> มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว
หลังมาส์กหน้าเสร็จ ก็นำครีมบำรุงเนื้อเข้มข้นจาก Step 5 มาใช้ต่อได้เลย ( ถ้าวันไหนไม่ใช้มาส์ก จะทาหลังเอสเซนส์เลยก็ได้ค่ะ ) สาวๆ ที่มีสิวหลายคนคงเริ่มกลัวว่า เอ๊ะ ขั้นตอนเยอะแบบนี้ หน้าจะเหนอะ จะสิวเห่อเยอะขึ้นมั้ย? เราแนะนำว่าอย่าใช้ครีมเนื้อข้นเกินไป ให้ดูที่สภาพอากาศเป็นหลัก ถ้าไม่ได้อยู่ห้องแอร์ ก็เลี่ยงครีมเนื้อหนักจะดีกว่า
ครั้งไหนอยากบำรุงผิวอย่างเต็มที่ แนะนำให้ใช้ ' สลีปปิ้งมาส์ก ( Sleep Mask ) ' หรือครีมพอกหน้าแบบไม่ต้องล้างออก ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนอนหลับข้ามคืนได้เลย ตื่นมาตอนเช้าก็ล้างด้วยน้ำสะอาด เท่านี้ผิวก็สวย นุ่มนิ่ม เปล่งปลั่งได้อย่างใจแล้วค่ะ
7 'ครีมบำรุงผิวหน้า' น่าใช้ ของคนเป็นสิว หน้ามัน แพ้ง่าย
https://sistacafe.com/summaries/27103
เคล็ดลับ : ทุกเช้า อย่าลืมทา 'ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสม'
ก่อนจะลาจากกัน สาวเกาหลีเขาขอบอกทริคลับไว้สักนิด! นอกจากดูแลผิวทุกคืนตาม 7 ขั้นตอนที่กล่าวมาแล้ว ตอนกลางวันก็สำคัญ ต้องใช้ ' ครีมกันแดด ' เสมอ ทาทุกวัน และทุกๆ 2 ชั่วโมง
เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด รังสียูวีที่จะทำร้ายผิว ( ถ้าตอนเช้าไม่ทา บำรุงไปก็ไม่ช่วย 100% อยู่ดี ) ยิ่งเป็นวัยรุ่นยิ่งต้องใช้ ไม่งั้นผิวจะเหี่ยว มีริ้วรอยก่อนวัย! #กันไว้ดีกว่าแก้
เลือกกันแดดที่มีค่า SPF เพียงพอ ( หากเจอแดดทั้งวัน ควรเป็น SPF50+ ขึ้นไป ) เตือนไว้ก่อนว่า เมคอัพที่ใส่สาร SPF ไม่สามารถแทนครีมกันแดดจริงๆ ได้ ต้องทาชั้นแรกก่อนจะลงรองพื้น แป้งใดๆ นะคะ
*สาวๆ คนไหนที่เป็นสิว ยิ่งต้องทา เพราะแสงแดดนี่แหละ เร่งให้ผิวอักเสบ ยิ่งทำให้สิวเห่อกว่าเดิม! แต่ควรเลือกสูตรที่เนื้อเบาบาง ประเภท Physical sunscreen ไม่แต่งสี เติมกลิ่น ใส่แอลกอฮอล์ เพื่อให้รูขุมขนไม่อุดตัน ไม่อักเสบเพิ่มขึ้นนะจ๊ะ
5 ครีมกันแดด สำหรับผิวแพ้ง่าย ที่โต๊ะเครื่องแป้ง Pantip แนะนำ
https://sistacafe.com/summaries/7917
----------------------------------
อ่านมาถึงตรงนี้ สาวไทยอย่างเราๆ อย่าเพิ่งถอดใจกับสเต็ปดูแลผิวยาวเหยียดนะคะซิส มันไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น! //แต่แอบปาดเหงื่อเล็กน้อยกับงบสกินแคร์ ;___;ถ้ากลัวลืม เราแนะนำให้วางเรียงบนโต๊ะตามสเต็ปเลย แล้วทาตามนั้น ไม่ต้องทาเสร็จในครั้งเดียวก็ได้ เช่น ล้างหน้า ทาเอสเซนส์เสร็จ ก็ไปนั่งดูทีวี อ่านหนังสือก่อน แล้วค่อยไปมาส์กหน้าต่อ เรื่อยๆ เพลินๆ ไม่ต้องแข่งกับเวลา ( เพราะเป็นช่วงกลางคืนอยู่แล้ว ) จะได้เบื่อน้อยลงเนอะ อดทนหน่อยเพื่อผิวที่สวยงามน้าวันนี้คงต้องขอตัวไปทำตามสาวเกาบ้างละ ผิวจะสวยใสไม่แพ้นางเอกซีรีส์เนอะ อุอิ แล้วพบกันใหม่คราวหน้านะค้า ซียู ^^
----------------------------------
Cr. The Best Korean Skin Care Routine for Teens [theklog.co]
https://theklog.co/skin-care-routine-for-teens/