1. SistaCafe
  2. #อย่าไปหลงกลมัน! 7 วิธีหลีกเลี่ยง 'พวกโรคจิตในโลกออนไลน์' และทริคเอาตัวรอด รู้ทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อ

ฮัลโหลววว สาวๆSistaCafeคนสวยทั้งหลาย ♡\( ̄▽ ̄)/♡ผู้หญิงหลายๆ คน น่าจะเคยเจอประสบการณ์ที่อี๋แหวะ น่าขยะแขยง ไม่ค่อยน่าเป็นที่จดจำเท่าไหร่กับการโดนคนที่เรียกว่า ' โรคจิต ' มาก่อกวน ทักแชทมาจีบซ้ำๆ ซากๆ ขอมีเซ็กส์โฟน ขอนัดxxx บลาๆ ทักแค่ตัวอักษรยังพอว่า บางทีส่งรูปของลับมาให้ดูอีก จะอ้วก!เรียกว่าเป็น sexual harassment ที่แทบจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงในยุคโซเชียลไปแล้ว บางคนเข้าใจผิดว่าคนสวยเท่านั้นถึงจะเจอ ผิดค่ะ! จะเป็นสาวสวย หรือสาวหน้าตาธรรมดา ก็มีสิทธิ์เจอคนประเภทนี้ได้ทั้งนั้น คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เจอโรคจิตไปมากๆ มีสิทธิ์นอนไม่หลับ หวาดระแวง เป็นโรคพารานอยด์ได้เลยทีเดียวเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะหาทางรับมือกับโรคจิตเหล่านี้ได้ ที่สำคัญโรคจิตพวกนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีอยู่ทั่วโลก ปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมด -_- เราจึงมี7 ทริคเด็ดๆ ไว้ใช้แก้เผ็ด ตอกกลับโรคจิตบนโลกออนไลน์อย่างสาสม!รับรองว่าทำตามทริคเหล่านี้แล้ว คนพวกนี้จะหายวับ! ไปเหมือนเสกเวทมนตร์กันเลยทีเดียว ไม่เชื่อต้องลอง #อย่าปล่อยให้โรคจิตลอยนวล เริ่มปฏิบัติการกำจัดโรคจิตเหล่านี้ใน 3 2 1 !!!


1. อย่าโพสต์รูปตัวเองที่ใส่เสื้อผ้า 'เซ็กซี่จนเกินงาม' #ปลอดภัยไว้ก่อน

ผู้หญิงน่ะ ถ้าหุ่นดี มีร่อง 11 มีหน้าอก เอวคอด สะโพกผายเหมือนนาฬิกาทราย หลายคนก็อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก บิกินี่เอย ชุดวับๆ แวมๆ เอย และบางคนก็เลือกจะโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม เพราะคิดว่าเหมือนลงไดอารี่รูปภาพ แถมได้แบ่งปันกับเพื่อนๆ ให้อิจฉา มีของดีก็ต้องอวด!

แต่ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่นั่งหัวเสียกับคอมเมนต์ + Direct Message ของโรคจิตเป็นร้อยๆ คน บล็อกยังไงก็ไม่หมด ไม่อยากให้โรคจิตเข้ามากวนใจอีก วิธีนึงที่ช่วยได้คือ ' เลิกลงรูปเหล่านั้นเป็น public ' ค่ะ


การปล่อยให้ใครก็ได้มาเห็นรูปเซ็กซี่ของเรา ค่อนข้างอันตรายมากๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะเซฟรูปเอาไปทำอะไรต่อ หรือจะมาหลงใหลได้ปลื้ม อยากครอบครองเรา ถึงขั้นสืบ IP address สตอล์กมาถึงบ้านหรือเปล่า ( ทำเป็นเล่นไป มีคดีแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ )ถ้าเป็นไปได้ก็จำกัดวงไว้แค่เพื่อนที่รู้จักกันดีก็พอ หรือถ้าจะให้เซฟสุดจริงๆ ก็ไม่ควรลงโซเชียลเลย เพราะสิ่งที่ลงในโลกออนไลน์ไปแล้ว = อยู่ไปตลอดกาล ลองตัดสินใจดูนะคะ

2. มีเพื่อนร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่า 'รู้จักกันจริง' เสมอไป อย่ารับแอดมั่วซั่ว!

ไม่อยากให้ใครก็ได้เข้ามาถึงตัวง่ายๆ ก็ต้องสร้างกำแพง ทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์ ทำโปรไฟล์ตัวเองให้ไพรเวทที่สุด เงียบที่สุด รับแอดแต่คนที่รู้จักกันจริงๆ เท่านั้น แน่นอนว่าไม่นับเพื่อนของเพื่อน!

โดยเฉพาะโปรไฟล์แปลกๆ ที่รูปโปรไฟล์น่าจะเป็นรูปปลอม และ matual friends ก็มีแค่ 1-2 คน เพราะเพื่อนของเธออาจไม่รู้จัก แต่รับแอดไปโดยไม่ได้คิดอะไรก็ได้ หากไม่ชัวร์ว่าเพื่อนรู้จักเป็นการส่วนตัวจริงๆ ก็ไม่ต้องรับบทนางงามมิตรภาพอยากหาเพื่อน รับเข้ามาเลย จะลำบากทีหลังซะเปล่าๆ



โปรไฟล์ในโลกโซเชียลของใคร ก็เหมือนบ้านของคนคนนั้น มีทั้งสเตตัสส่วนตัว รูปภาพ วิดีโอ ข้อมูลการศึกษา ที่ทำงาน คอนเนคชั่นคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการปล่อยให้ใครก็ได้เข้ามาเยี่ยมชมบ้าน เป็นเรื่องที่ไม่รอบคอบและเสี่ยงทั้งต่อการโจรกรรม และเอื้อให้โรคจิตดูดข้อมูลที่อยากได้ไปจนพอใจ


ดังนั้นจงล็อคประตูนี้ให้แน่นหนา หากเป็นเฟซบุ๊ก เราแนะนำให้ตั้งเป็น private แบบที่เสิร์ชด้วยชื่อไม่เจอ หรือซ่อนปุ่ม add friend ไปเลย ( คนรอบตัวเราที่ระวังตัวมาก บางคนทำแบบนี้จริงๆ ถ้าเขาอยากแอดใคร เขาจะแอดเองทั้งหมด คนอื่นแอดเขาไม่ได้ ), หากเป็นไอจีหรือทวิตก็ล็อคแอคไว้ แบบนี้ก็ทำให้ตัวเราปลอดภัยขึ้นอีกชั้น



3. ทักแชทมาบ่อยแค่ไหน ก็ 'เมินเฉย' ไปซะ อย่าไปตอบโต้!

จะมีโรคจิตหลายคนที่ชอบตื๊อ ส่งข้อความมาบอกรักบ้าง จีบบ้าง ทะลึ่งลามก 18+ บ้างไม่หยุดไม่หย่อน เปิดกล่องข้อความไปทีไรก็เจอ ถ้าเหนื่อยเกินที่จะห้ามแล้ว ลองใช้วิธี ' เงียบ ' ดูค่ะ


เงียบในที่นี้ไม่ใช่อ่านแล้วไม่ตอบนะ แต่ไม่อ่านตั้งแต่แรกเลย ไม่สนใจ ทักมาเมื่อไหร่ก็กดหน้าต่างทิ้ง กด report กดบล็อกทิ้งไปให้หมด ดูซิว่าจะหน้าด้าน เอ๊ย! ทนอยู่ได้อีกนานสักแค่ไหน



ก็ต้องยอมรับว่ามีโรคจิตบางคน ที่มีความอดทน ตามตื๊อใส่คนคนเดิมเป็นปีๆ หรือหลายปีก็มี แม้ผู้หญิงจะไม่เล่นด้วย จะเงียบใส่ยังไงก็ไม่จบ ถ้าเธอโชคร้ายเจอคนแบบนี้ ความสงบอาจไม่ใช่ทางออก

เราแนะนำให้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วส่งใบแจ้งความให้มันดูเลย อาจจะเสียเวลา เหนื่อยเดินทางหน่อย แต่เชื่อสิ ถ้าโรคจิตคนนี้ยังพอมีสติอยู่บ้าง เห็นเราเอาจริง มีสัญลักษณ์ตราครุฑเมื่อไหร่ หายวับไปกับตาแน่นอน!


4. ถ้าทนไม่ไหว อยากโต้กลับ ลองใช่วิธีสวมรอยเป็น 'คนอื่น' ไล่ไปให้พ้นๆ

สำหรับคนที่อยากโต้กลับ ทนไม่ได้จริงๆ กับความเงียบ ก็มาโรคจิตใส่ซะขนาดนี้ ก็ต้องเจอผลตอบแทนบ้างสิ! ลองใช้วิธี ' ปลอมเป็นคนอื่น ' เพื่อไล่มันออกไปให้พ้นจากชีวิตดูค่ะ

เช่น แม่, พ่อที่เป็นตำรวจ, พี่ชาย, แฟนหนุ่ม ( แม้ชีวิตจริงจะไม่มี... ) ก็พอจะทำให้โรคจิตหวาดกลัวได้อยู่บ้าง



ตัวอย่างการอ้างก็เช่น " นี่พ่อของ xxx นะ ฉันเช็คข้อความลูกทุกวัน เราไม่มีความลับต่อกัน แกเป็นใคร มาทักลูกสาวฉันอยู่ได้ จะให้แจ้งความไหม จะยอมไปดีๆ ไหม หรือต้องให้ตำรวจมาลากคอแกถึงบ้าน ", " หยุดทักหาแฟนฉันซะที ไม่อย่างนั้นพรรคพวกฉันบุกถึงบ้านแกแน่ ", " ถ้ายังไม่หยุดยุ่งกับน้องฉัน แกอาจไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ได้นะ "

จัดสายขู่ไปหน่อย เท่านี้ก็พอกำจัดโรคจิต LV.1 ที่น่ารำคาญไปได้พอสมควรแล้วค่ะ

5. มันโรคจิตมา เราก็โรคจิตกลับไปเลย เอาให้จิตยิ่งกว่า!

อีกทริคหนึ่งที่อยากแนะนำ แต่ค่อนข้างต้องเป็นคนจิตแข็งระดับหนึ่ง คือใช้การสู้กลับด้วยวิธีเดียวกัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในเมื่อโรคจิตมา เราก็โรคจิตกลับไปซะเลย แต่เอาให้จิตยิ่งกว่ามันอีก x2 x3 เท่า!


ไม่ต้องไปด่านะ พวกนี้มันยิ่งชอบ แต่ให้ใช้วิธี " ส่งรูปที่น่าขยะแขยงปนโรคจิต " ไปให้มันแทนค่ะ



ทั้งนี้ถ้าดันแจ็กพอตเจอคนโรคจิตที่หัวรุนแรงด้วย แทนที่จะรังเกียจ ยิ่งชอบสิ่งที่เราส่งอีก ก็หยุดส่งแล้วไปแจ้งความกับตำรวจจะดีกว่า อาการน่าจะหนัก ตัวเธอเองคนเดียวคงเอาไม่อยู่แล้ว TT


6. แก้แค้นด้วยการ 'ประจานลงโลกโซเชียล'

จะบอกเลยว่า โรคจิตที่ชอบโชว์ หรือส่งรูปอนาจารให้คนอื่นเนี่ย กลัวข้อนี้ที่สุดแล้ว เก่งแต่ในหน้าต่างแชทส่วนตัว แต่พอโดนแคปประจานลงที่สาธารณะเนี่ย กลัวหัวหด มุดลงรูกันรัวๆ แต่อาจต้องใช้เวลาทำการบ้านนิดนึง


โดยเริ่มจากการแคปข้อความน่ารังเกียจเหล่านั้น และสวมวิญญาณนักสืบ ( จะให้เพื่อนที่เก่งเรื่อง IT ช่วยก็ยิ่งดี ) สืบหาว่าโรคจิตคนนี้เป็นใคร อาศัยอยู่ที่ไหน มีหน้าที่การงานอะไร หาหน้าคนคนนี้ให้เจอ ถ้าไม่มีในโลกโซเชียลก็จ้างนักสืบไปถ่ายมาให้ได้ แล้วโพสต์ลงโซเชียลทุกช่องทาง เอาให้พังไปเลยข้างนึง เออ เอาสิ!



แต่การทำแบบนี้ มันก็มีข้อเสียตามมา คือถ้าโรคจิตคนนี้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น จากที่จะทำอนาจารกับเธอ อยากเป็นแฟนกับเธอ กลายเป็นความอาฆาต อยากทำร้าย หรือฆ่าเธอแทน ความโกรธจะยิ่งแรงเป็นเท่าทวีคูณ

ดังนั้นถ้าคิดจะเลือกวิธีนี้แล้ว ต้องระวังตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม ควรมีคนแข็งแรงอยู่ข้างๆ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยสักพักใหญ่ๆ เผื่อโดนลอบทำร้ายทีเผลอนะคะ



7. ฝึกเป็นคนช่างเลือก ต้องใจแข็ง ไม่คุยคือไม่คุย อย่าให้เรื่องบานปลาย!

มีสาวๆ หลายคนที่ใจอ่อน มองโลกในแง่ดี ( จนเกินไป ) คิดว่าเขาไม่ได้โรคจิตหรอก เขาแค่อยากมีเพื่อนผู้หญิงรึเปล่า แค่คุยด้วยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง หารู้ไม่ว่า ยิ่งใช้เวลาคุยกันนานเท่าไหร่ คนพวกนี้จะคิดว่ามีสิทธิ์เป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอมากขึ้นเท่านั้น


หากวันหนึ่งเธอตัดสินใจมีแฟน หรือเริ่มตีตัวออกห่าง มันจะโกรธและหาทางทำร้ายแฟนของเธอทันที เผลอๆ เธอจะโดนหางเลขไปด้วย อย่าใจบุญไม่เข้าเรื่อง ถ้าเห็นอยู่แล้วว่าโดนเข้าหาแบบไม่ปกติ ก็อย่าไปยุ่งดีกว่าค่ะ!



ในโลกโซเชียลมีปุ่ม reject ก็เพราะเหตุนี้ คือเขาก็คงเล็งเห็นแล้วว่า คนที่จะเข้ามาคุย มาเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ได้มีแค่คนปกติ แต่รวมถึงคนที่เราไม่อยากยุ่ง รวมถึงคนโรคจิตที่แฝงตัวอยู่เต็มไปหมด

ขอให้ใจแข็ง กด reject ปัดทิ้งไปตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องลำบากใจ ฝืนคุยไปตั้งแต่แรก ก็เหมือนหย่อนขาเข้ากับดักไปครึ่งนึงแล้ว พอคิดถอนตัวจะยากมาก ' อย่า-ให้-ความ-หวัง ' ท่องไว้ก่อนที่จะคุยกับผู้ชายแปลกหน้าในโลกออนไลน์นะคะซิส




- - - - - - - - - - - - - -


แม้เราไม่สามารถกำจัดโรคจิตให้หมดไปจากโลกนี้ได้ ตัวเก่าหาย ตัวใหม่ก็คลานตามกันมาเรื่อยๆ ก็ตาม แต่อย่างน้อยถ้าเรารู้จักวิธีป้องกัน ตัดไฟแต่ต้นลม และมีวัคซีนภูมิคุ้มกันว่า ถ้าเจอคนแบบนี้เข้ามาจะทำยังไง เราก็สามารถสู้กลับได้!

โรคจิตในโลกออนไลน์ ไม่เห็นหน้า ไม่รู้ใจแบบนี้ จะกลัวการถูกเปิดเผย ถูกแฉในที่สาธารณะเป็นที่สุด ความมั่นใจในตัวเองก็ต่ำ ( ไม่งั้นคงเข้าหาแบบปกติตั้งแต่แรก ) หากเราใช้จุดอ่อนนี้เล่นงาน แสดงให้เห็นว่าเราไม่กลัว และพร้อมที่จะดำเนินการทางกฎหมายแล้วนั้น รับรองว่าไม่มีใครกล้าแหยมกับเธออีกแน่นอน อย่าตกเป็นเหยื่อขยะสังคมเหล่านี้ และต่อสู้เพื่อความสงบสุขของตัวเองกันนะคะ! \( ̄▽ ̄)/



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้