รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/e89d20418a004ad5c9dbc0eb072fb89f/tenor.gif?itemid=10842663

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนงามทั้งหลายยย ♡ ( ̄З ̄)สิ่งหนึ่งบนโลกใบนี้ที่ไม่มีใครสามารถหยุดได้ก็คือ ' เวลา ' ซึ่งช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับสาวๆ ที่ผ่านวัยรุ่น วัยสาวยี่สิบที่ผิวยังสวยเต่งตึง ไม่ต้องบำรุงมากก็ยังดูเด้งใสกิ๊งมาแล้วหลายปี พอเริ่มจะเข้าเลข 3 เท่านั้นแหละ สภาพผิวเปลี่ยนไปเป็นคนละเรื่องทั้งริ้วรอย จุดด่างดำ ตีนกา ถามหากันมาเป็นแพ็กเกจจุกๆ จนต้องสรรหามอยส์เจอไรเซอร์ราคาแพงเพื่อพยายามชะลอความเสื่อมของหน้าให้มากที่สุด หมดไปเป็นหลักหมื่นหลักแสนก็ต้องยอมแต่สำหรับสาวๆ ที่งบน้อย หรือรู้สึกว่าแค่สกินแคร์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอล่ะ จะช่วยหมุนนาฬิกาย้อนอายุผิวแบบไหนอีกได้บ้าง?เราขอตอบในที่นี้เลยว่า ' อาหาร ' หรือสิ่งที่กินเข้าไปนี่แหละ ส่งผลต่อทั้งสุขภาพข้างในและผิวสวยๆ ของเรา ถ้ากินดี ผิวก็จะดีไปด้วยเช่นกัน เหมือนเติมวิตามินเสริมตามธรรมชาติให้ร่างกายในบทความนี้เราจึงขอมาบอกต่อ' 7 อาหารโกงอายุ สารอาหารเต็มเปี่ยม ยับยั้งความแก่ กินทุกวันยิ่งผิวใสสุขภาพดีเวอร์ 'Recommend ว่าควรกินทุกวัน จะยิ่งผิวดีแบบไม่ต้องมีวิตามินเลย!! จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะซิสส ♡

1. เมล็ดทานตะวัน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/159019d1bdd496e1cf171cfae7dc5bb3.jpg

แม้สาวๆ จะไม่ใช่เจ้าหนูแฮมทาโร่ แต่ ' เมล็ดทานตะวัน ' ก็เป็นธัญพืชที่เธอควรกินถ้าอยากบำรุงให้ผิวสวย เพราะเป็นแหล่งของวิตามินอี หรือส่วนผสมที่เจอบ่อยๆ ในมอยส์เจอไรเซอร์ ทั้งครีม เซรั่มเอสเซนส์ไลน์ anti-aging ชะลอวัยนั่นเอง


ซึ่งวิตามินอีจะช่วยเติมน้ำให้ชั้นใต้ผิว ให้ผิวหน้าและผิวตัวชุ่มชื้น เรียบเนียน ลดความหยาบกร้านน ป้องกันการอักเสบ และปกป้องไม่ให้รังสียูวีจากแสงแดดทะลุเข้าสู่ผิวอีกด้วย

นอกจากนี้ เมล็ดทานตะวันยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวานประเภท 2 โรคเบาหวานและโรคหัวใจ เมล็ดทานตะวันอบ 30 กรัม ( 1/4 ถ้วย ) จะมีวิตามินอีถึง 37% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวันเลยทีเดียว!

แต่ต้องระวัง หากกินในปริมาณเยอะเกินไป ไตอาจทำงานหนักได้ กินแค่วันละ 1 กำมือก็เพียงพอแล้วค่ะ

2. แครอท

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c17bfdf1ae12a836b8ea235addadbd81.jpg

สาวๆ คนไหนที่ไม่ชอบกินผักแต่อยากผิวดี อาจจะต้องฝืนใจยอมกิน ' แครอท 'กันสักนิด เพราะอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ ( carotenoids ) ซึ่งร่างกายจะดูดซึมและแปลงเป็นวิตามินเอเพื่อนำมาใช้ฟื้นฟูดูแลสุขภาพ

โดยมีหน้าที่ป้องกันผิว เนื้อเยื่อและเซลล์จากโรคต่างๆ และสารพิษในสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะเครียดออกซิเดชั่น ( oxidative damage ) จากอนุมูลอิสระ เช่น ริ้วรอยนั่นเองค่ะ

อีกทั้งยังมีคุณสมบัติหลักๆ ที่พอรู้กันอยู่แล้ว เช่น เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน วิตามินและแร่ธาตุมากมาย ช่วยบำรุงสายตา รักษาตาฝ้าฟาง ต้อกระจก ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง คุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ไม่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น


จะต้มแล้วหั่นกินเปล่าๆ เป็นของว่าง หรือผสมในอาหาร ขนมหวานหรือเครื่องดื่มก็ได้ ผักสีส้มชนิดนี้นี่แหละ จะทำให้ผิวย้อนวัยได้ ต้องลอง!

3. หอยนางรม

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/668acaff4471268e16282029152f8871.jpg

อาหารทะเลชนิดนี้อาจจะมีราคาสูงไปสักนิด และกลิ่นค่อนข้างแรง แต่ถ้าพอมีงบอยู่บ้าง ก็อยากให้ลงทุนกับ ' หอยนางรม ' เพราะเป็นแหล่งของแร่ธาตุสังกะสี ( zinc ) ซึ่งถ้าร่างกายขาดแร่ธาตุชนิดนี้เยอะๆ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวได้

เพียงกิน 2 ตัวต่อวัน ก็จะได้แร่สังกะสีที่เพียงพอในแต่ละวันแล้ว ใครที่กังวลเรื่องสิวอักเสบหรือผิวเหี่ยวก่อนวัย ยิ่งควรจะกินอย่างยิ่งเลยล่ะค่ะ

นั่นเป็นเพราะว่า แร่สังกะสีช่วยปกป้องคอลลาเจนและโปรตีนในผิว เสริมผิวให้ยืดหยุ่น จึงส่งผลให้ผิวดูเด็กกว่าวัย และยังช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพของระบบประสาทและสมอง ให้หัวแล่นยิ่งขึ้น

และยังมีวิตามินซี วิตามินบี 3, วิตามินดี, ธาตุเหล็ก, ทองแดงและไอโอดีน ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ หัวใจ บรรเทาโรคซึมเศร้าได้ด้วย เรียกว่าครบสำหรับการดูแลทั้งสุขภาพผิวและร่างกายเลยล่ะค่ะ

4. พริกหยวกสีแดง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3b00624da13182eebf6337954619638d.jpg

หากเธอเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นในยุคก่อน อาจจะเคยเห็นฉากที่เหล่าแม่ๆ บังคับลูกให้กิน ' พริกหยวก ' จนหมดจาน ซึ่งไม่ได้มีดีแค่รสเผ็ดเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและร่างกายมากมาย เช่น มีวิตามินซีเยอะกว่าส้มถึง 3 เท่า!!


ซึ่งวิตามินซีคือสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยม ซึ่งคอลลาเจนคือโปรตีนที่ช่วยให้เซลล์และเนื้อเยื่อเกาะรวมกัน เพื่อผิวหนังที่เฟิร์มเป๊ะกระชับ เรียบลื่น ยืดหยุ่น และดูเด็กกว่าอายุจริงค่ะ

ีมีงานวิจัยใน the American Journal of Clinical Nutrition ค้นพบว่าผู้กินอาหารที่มีวิตามินซีสูง จะมีริ้วรอยลดลงและลดอาการผิวแห้งตามวัยที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เทียบกับผู้กินอาหารที่มีวิตามินซีน้อย จะมีริ้วรอยและผิวแห้งมากกว่า


การกินพริกหยวกสีแดงจึงส่งผลทางอ้อมให้ผิวดีขึ้น หน้าเด้ง ดูเด็กลงแบบไม่ต้องกินอาหารเสริมราคาแพงๆ เลยล่ะ

5. น้ำมันมะพร้าว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/836a29286e81ae21bf9953b9005764bc.jpg

สำหรับสาวบิวตี้เรารู้กัน แทบจะบรรจุในทุกตำราความงามว่า ' น้ำมันมะพร้าว ' คือไอเทม a must ที่ควรมีติดไว้ทุกบ้าน เพราะมีประโยชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไล่มาตั้งแต่เส้นผม ผิวหน้า ผิวกาย หรือจะกินเพื่อสุขภาพก็ได้อีก

โดยมีงานวิจัยค้นพบว่า น้ำมันมะพร้าวสามารถป้องกัน ' โรคอัลไซเมอร์ ' เมื่อแก่ตัวลงในอนาคตด้วยค่ะ

เป็นแหล่งของวิตามินอี วิตามินเค และไขมันดี จึงช่วยกระตุ้นเส้นผมให้ยาวเร็ว สวยเงางามตั้งแต่โคนจรดปลาย และยังช่วยชะลอวัยจากภายนอกและภายใน เพราะช่วยลดการทำงานหนักของตับ และลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นจากอนุมูลอิสระ

ลดการอักเสบต่างๆ ลดคอเลสเตอรอล กระตุ้นการเผาผลาญ ช่วยลดความอ้วน โดยแนะนำให้กินวันละ 1 ช้อน หรือจะใช้ทาผิวหน้า-ผิวกายทุกวันก็ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้ง ลดริ้วรอย เรียกว่า all in one

6. เนื้อวัว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/78ce1346032978dc03d9c003d435ce60.jpg

ข้อนี้น่าจะถูกใจสายเนื้อกันสุดๆ! เพราะ ' เนื้อวัว ' เป็นแหล่งของธาตุเหล็ก ซึ่งถ้าร่างกายของสาวๆ ขาดธาตุเหล็ก จะทำให้ผมและเล็บเปราะบาง ฉีกขาดง่าย รู้สึกเซื่องซึม อ่อนล้า ตัวซีด มือเย็นเท้าเย็น ปวดหัวบ่อย ใจสั่น


อีกทั้งยังเป็นแร่ธาตุจำเป็นสำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือน ซึ่งต้องเสียเลือดที่มีธาตุเหล็กในทุกๆ เดือนอีกด้วยค่ะ

อันที่จริงเนื้อแดงทั้งหมดก็มีธาตุเหล็กผสมอยู่ แต่เนื้อวัวมีอัตราส่วนธาตุเหล็กสูงที่สุด ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้เลือกเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าหรือธัญพืช

และเลือกส่วนของเซอร์ลอยด์ ( เนื้อสันนอก ) และเทนเดอร์ลอยด์ ( เนื้อสันใน ) จะดีกว่าส่วนไพรม์หรือทีโบน เพราะอย่างหลังมีไขมันสูงกว่ามากๆ ค่ะจะกินเนื้อทั้งที ก็ต้องเลือกที่ดีต่อสุขภาพไว้ก่อนจะดีกว่า

7. เห็ดชิตาเกะ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/87781a892a8fc3c03b2ff4f211d3ed8a.jpg

สายอาหารสุขภาพญี่ปุ่นมากองรวมกันทางนี้! ใครชอบกินสุกี้ ชาบู น่าจะเคยเห็นวัตถุดิบที่ต้องสั่งมาลงหม้อบ่อยๆ อย่าง ' เห็ดชิตาเกะ ' ที่มีงานวิจัยชี้ว่าช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น

เพียงเพิ่มเห็ดชนิดนี้เข้าไปในมื้ออาหาร ก็ช่วยเสริมสภาพผิวให้สุขภาพดี ยืดหยุ่น เนียนนุ่มมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งของทองแดง ( copper ) แร่ธาตุที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิวค่ะ

เห็ดชิตาเกะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงลิบลิ่ว ที่มีชื่อเรียกว่า ' L-ergothioneine ' ที่ทำหน้าที่เหมือนสครับ ผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ จึงทำให้ผิวโดยรวมดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ดูเด็กกว่าอายุ และยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ

เช่น ดีต่อกระดูก ต้านการอักเสบ ช่วยลดน้ำหนัก บำรุงหัวใจ และทำให้ระบบย่อยาอาหารทำงานดีขึ้น ที่สำคัญรสชาติอร่อยมากๆ ใครไม่อยากผิวแก่อย่าลืมกินเจ้าเห็ดตัวนี้กันนะคะ (ღ˘⌣˘ღ)

รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/5254c73f4b523049e6f5d70138c7c125/tenor.gif?itemid=5944968

-----------------------------------------------------

ผิวหนังมนุษย์ก็ทำหน้าที่เหมือน ' กระจก ' สะท้อนถึงสภาพโดยรวมของระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย ถ้าผิวหมอง มีตำหนิก็อาจหมายถึงว่าเราดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอ เมื่อผิวสวยกระจ่างใส มีน้ำหล่อเลี้ยงก็จะดูอ่อนกว่าวัย หรือดูดีตามวัยได้โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ นอกจากการบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่เหมาะกับสภาพผิวตามสมควรแล้ว อาหารทั้ง 7 อย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจเมื่อทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน ก็เหมือนกับคอมโบการบูสต์ผิวให้เปล่งปลั่งแบบ best version of yourself ได้ทั้งความสวย ทั้งเฮลทีและไม่มีผลข้างเคียงแบบนี้ เริ่มดูแลผิวเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีนะคะ ไปซูเปอร์คราวหน้า อย่าลืมซื้อของเหล่านี้มาไว้ติดตู้เย็นบ้างน้า

(´。• ω •。`) ♡