ปัญหา " ฝ้า " เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กแต่จริงๆ แล้วเป็นปัญหาใหญ่ เพราะถ้าเราปล่อยเค้าไว้นานเท่าไหร่ก็มีแต่จะยิ่งฝังลึกบนผิวมากเท่านั้น จนทำให้รักษาให้หายขาดยากมากกว่าเดิมไปอีก บางทีรักษาจนดูจางลงแล้วแต่โดนแสงแดดทำร้าย โดนสิ่งต่างๆ มากระตุ้นเพิ่มก็กลับมาเป็นอีก วนลูปไปไม่รู้จบ แล้วฝ้าเกิดจากอะไร? ต้องใช้อะไรรักษา? SistaCafe มีคำตอบให้ จัดไปเต็มๆ กันถึง 10 คำถามสุดฮิต มาดูไปพร้อมๆ กันเลยจ้าา


รูปภาพ:ฝ้าเกิดจากอะไร

Q1. ฝ้าเกิดจากอะไร

ฝ้าเกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังคนเราสร้างเม็ดสีหรือเมลานิน (Melanin) มากเกินปกติจนทำให้เกิดรอยฝ้าขึ้นปกติแล้วเนี่ยกระบวนการสร้างเม็ดสีจะเกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocytes) โดยในเซลล์ชนิดนี้จะมีสารมากมายเป็นส่วนประกอบ หนึ่งในนั้นคือเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้มีคุณสมบัติเปลี่ยนสารในเซลล์ผิวหนังให้กลายเป็นเม็ดสี แต่ด้วยปัจจัยอื่นๆ ไปกระตุ้นจนทำให้ให้เม็ดสีถูกสร้างมากกว่าปกติจนเกิดฝ้าขึ้นนั่งเอง ปัจจัยที่ไปกระตุ้นให้เกิดฝ้าขึ้นจะประกอบไปด้วย

1. แสงแดด เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะในแสงแดดมีแสงอัลตราไวโอเลต ที่เรียกว่า UVA และ UVB ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้าหรือทำให้เป็นฝ้ามากขึ้น

2. ฮอร์โมน ส่วนใหญ่จะพบในคนตั้งครรภ์หรือคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดได้บ่อย ซึ่งปกติแล้วหลังคลอดหรือพอหยุดยา ฝ้าก็อาจจางลง เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดฝ้า

3. พันธุกรรม ก็มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดฝ้า และเราจะมักพบฝ้าในคนเอเชียได้บ่อยมากกว่าคนผิวขาว



Q2. ฝ้า กับ กระ ต่างกันยังไง?

ฝ้าแตกต่างจากกระตรงที่ กระเค้าจะมีขนาดเล็กกว่า มีสีสม่ำเสมอกว่า โดยมักมีทรงกลมสีน้ำตาล ขนาดเล็ก มีขอบที่ชัดเจนไม่เป็นปื้นและจะจางลงได้ถ้าไม่โดนแสงแดด ส่วนฝ้านั้นเค้าจะเป็นปื้นสีเข้มกว่าสีผิว มีหลายเฉดความเข้มตั้งแต่สีออกน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม และมีหลายขนาดเลยค่ะ ตั้งแต่ฝ้าขนาดเล็กไปจนถึงฝ้าขนาดใหญ่ซึ่งจะกินพื้นที่กว้างกว่า และจะไม่จางหายไปหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง


Q3. ฝ้ามีกี่ชนิด อะไรบ้าง?

❤️ ฝ้าแบบตื้น เกิดได้ง่าย อยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มีสีน้ำตาลขอบชัด รักษาให้จางลงได้ด้วยการทาครีมกันแดดหรือยาทาฝ้าอ่อนๆ

❤️ ฝ้าแบบลึก เกิดในระดับชั้นผิวหนังแท้อยู่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า มีสีม่วง ๆ อมน้ำเงิน รักษาได้ยากกว่าฝ้าแบบตื้น ไม่ค่อยหายขาด

❤️ ฝ้าแบบผสม เกิดทั้งในระดับชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้รวมกัน โดยตรงกลางมักมีสีเข้มแสดงถึงฝ้าในชั้นหนังแท้ ส่วนขอบมักมีสีจางกว่าแสดงถึงฝ้าในหนังกำพร้า ฝ้าชนิดนี้ยังเป็นฝ้าที่พบได้มากที่สุดอีกด้วย


Q4. บริเวณไหนที่พบฝ้าได้บ่อยบ้าง?

บริเวณผิวที่มักเป็นฝ้าส่วนมากที่เราเห็นจะอยู่ที่บริเวณผิวหน้า เนื่องจากเค้าเป็นจุดที่โดนแสงแดดค่อนข้างบ่อยเลยทำให้หน้าเป็นฝ้า โดยเฉพาะบริเวณ

- ฝ้าหน้าผาก

- ฝ้าที่จมูก

- ฝ้าตรงโหนกแก้ม

- ฝ้าเหนือริมฝีปาก

แต่ก็ไม่ใช่แค่บริเวณใบหน้าเท่านั้นเพราะบริเวณไหนก็ตามในร่างกายที่โดนแดดก็สามารถเกิดฝ้าขึ้นได้ ทั้งตามลำตัว ไม่ว่าจะบริเวณแขน หรือบริเวณอื่น ๆ ที่สัมผัสกับแสงแดดค่อนข้างบ่อย


รูปภาพ:การรักษาฝ้า

Q5. อายุยังไม่เยอะ ทำไมมีฝ้าก่อนวัยได้

เพราะฝ้าเค้าไม่เลือกวัยนั่นเองค่ะ ถูกอยู่ที่ว่าปกติคนอายุเยอะมักจัพบฝ้าได้มากกว่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอายุน้อยจะไม่เป็นฝ้าเลย เพราะปัจจัยอื่นๆ รอบตัวก็สามารถไปกระตุ้นให้ร่างกายเราผลิตเม็ดสีมากขึ้นจนเป็นฝ้าขึ้นมาได้


Q6. เคยเป็นฝ้าแต่หายแล้ว กลับมาเป็นซ้ำ เพราะอะไร?

เป็นเพราะว่าสาเหตุของการเกิดฝ้านั้นไม่ได้มีแค่แสงแดด เพราะยังมีเรื่องของฮอร์โมน กรรมพันธุ์ และช่วงวัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะคนที่เป็นฝ้านั้นส่วนใหญ่ก็จะมียีนที่เอื้อต่อการเกิดฝ้าอยู่ในพันธุกรรมของตนอยู่แล้ว เลยไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่ปัจจุบันเค้าก็มีวิธีการดูแลรักษาที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้ถึงแม้ไม่หายขาดแต่ก็สามารถทำให้จางลงและควบคุมไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้นได้


Q7. การรักษาฝ้ามีวิธีใดบ้าง?

การรักษาฝ้าส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 3 วิธีหลักๆ ด้วยกัน มาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีไหนบ้าง

1. ลอกชั้นผิวหนัง (Peeling Agent)

จะมีทั้งการใช้กรดผลไม้ (Glycolic Acid, AHA) ทาตรงจุดด่างดำเพื่อผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไปแล้วสร้างเซลล์ผิวใหม่ และการใช้เลเซอร์ (Fraxel, Erbium YAG) และ IPL (Intense Pulse Light) ที่ยิงแล้วทำให้เม็ดสีกระจายตัวพร้อมกับผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป วิธีนี้ได้ผลเร็วที่สุด แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ และมีข้อเสียเหมือนกันคือถ้าทำเป็นเวลานานหน้าเราอาจจะบาง แดง ระคายเคือง และไวต่อแสงแดดได้เช่นกัน

2. กำจัดแหล่งผลิตเมลานิน

ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ไฮโดรควิโนนในรูปแบบยาครีม โดยจะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 2% - 4% เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน แต่หากใช้เป็นเวลานานอาจมีอาการระคายเคือง มีจุดด่างขาวที่ผิว เพราะฉะนั้นก่อนจะใช้ต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

3. ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ที่อยู่ในกลไกของการผลิตเม็ดสี

ปกติแล้วเอนไซม์ไทโรซิเนส (TyrosinaseInhibitor) เค้าจะมีหน้าที่สร้างเม็ดสีในผิวหนัง เพราะฉะนั้นถ้าเรายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสได้ก็จะช่วยหยุดการเกิดฝ้า วิธีนี้จะไม่มีผลข้างเคียงเราแค่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ตัวที่ปลอดภัยและผ่านการรับรองที่ได้มาตรฐานเท่านั้นก็พอ ตัวอย่างส่วนผสมฮิตๆ ที่ช่วยยับยั้งไทโรซิเนสได้ก็ย่างเช่น Alpha Arbutin, Licorice, กรดโคจิก (kojic acid) แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยสกินแคร์นะคะ สกินแคร์เค้าช่วยเพียงทำให้ฝ้าจางลงและป้องกันไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้นเท่านั้นจ้า




รูปภาพ:คนท้องใช้สกินแคร์ลดฝ้าได้ไหม

Q8. ทากันแดดแล้วทำไมฝ้ายังเข้มขึ้น ?

ถึงเราจะทากันแดดก็จริงแต่ถ้าใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้องก็ป้องกันผิวไม่ได้น้า หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าแค่เลือกใช้กันแดด SPF/PA สูงๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว แต่ดันละเลยว่าควรทากันแดดปริมาณแค่ไหนถึงจะช่วยป้องกันผิวเราได้ ซึ่งถ้าอยากได้ SPF/PA ค่าตามที่ระบุของกันแดด เราต้องทากันแดดปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือเทียบง่ายๆ จะเท่ากับปริมาณ 1 ข้อนิ้วมือพูนๆ หรือเหรียญสิบ 2 เหรียญ และปกติแล้วกันแดดไม่ว่าจะยี่ห้อไหนรุ่นไหนพอผ่านเวลาไปซักระยะประสิทธิภาพในการปกป้องผิวเค้าก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นในเราควรทาซ้ำทุก 4 ชม. หรือทาซ้ำทุก 2 ชม.หากต้องอยู่กลางแจ้ง จะได้ป้องกันไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้นได้


Q9. มะนาวช่วยทำให้ฝ้าหายได้จริงไหม?

มะนาวมีฤทธฺ์เป็นกรด เพราะฉะนั้นเค้าสามารถช่วยเราในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปเท่านั้นแต่จะไม่ได้ช่วยเรื่องฝ้าโดยตรงนะคะ


Q10. คนท้องใช้สกินแคร์ลดฝ้าได้ไหม?

สำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือยังอยู่ในช่วงให้นมบุตรห้ามใช้ยาทานรวมถึงห้ามใช้สกินแคร์ลดฝ้าเด็ดขาด แต่ยังสามารถทากันแดดเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าได้อยู่ค่ะ




❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️


ฝ้า เป็นแล้วหายยากอันนี้จริงค่ะ แต่ถ้าอยากทำให้เค้าจางหายไปการทำเลเซอร์ก็ถือเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วที่สุดแต่ข้อเสียก็คือราคาก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว นอกจากนั้นก็อย่าลืมว่าการทาครีมกันแดดก็ยังถือเป็นเรื่องที่ต้องจำให้ขึ้นใจอยู่น้า เราต้องทาเป็นประจำและใช้กันแดดในปริมาณที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นคนที่เป็นฝ้าอยู่แล้วและไม่ต้องการให้ฝ้าขยายวงกว้างไปมากกว่านี้หรือในคนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการให้ฝ้าโผล่ขึ้นมาบนผิวเราก็ตาม หมั่นทากันแดดเสมอ จะได้จัดการปัญหาการเกิดฝ้า และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ!


❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️


Designer :tt.

Writer :BabyPeachy