สวัสดีค่าาาา ซิสซี่แห่ง SistaCafeทั้งหลาย 。゚( ゚^∀^゚)゚。ใครเคยแพ้แชมพูที่ขายตามห้างทั่วไปบ้าง? ( ยกมือสุดแรงเกิด! ) บางคนแค่หนังศีรษะลอกนิดๆ บางคนเป็นรังแค บางคนผมหยิกฟูยิ่งกว่าเดิม #ละเหี่ยใจอย่างที่รู้กันเนอะ ว่าสารเคมีไม่ใช่สิ่งดี แม้จะช่วยทำความสะอาดได้จริง แต่ก็เสี่ยงสำหรับคนผิวแพ้ง่าย แจ็คพ็อตขึ้นมาผมร่วงทั้งหัวจะทำยังไง T^T ไม่โอเครรรถ้าสาวๆ อยากลองใช้วัตถุดิบในครัวจากธรรมชาติบ้าง เธอมาถูกที่แล้ว! เพราะบทความนี้รวบรวม ' แชมพู DIY ' ทั้งหมด 10 สูตร และเป็นของที่เธอหยิบได้ในครัว ( หรือกินได้ ) ทั้งสิ้น รับรองไม่มีชื่อสารเคมีแปลกๆ และพาราเบนมากวนใจถ้าใช้ดี ก็ไม่ต้องไปช้อปแชมพูตามร้านอีกต่อไปแล้ววว คุ้มค่าที่จะเสี่ยงอยู่นา... ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลองกันดีกว่า Go!
1. ชาเขียว & น้ำมันมะกอก >> เร่งผมยาว
ในชาเขียวมี ' คาเฟอีน ' ช่วยทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้น แข็งแรงขึ้น และช่วยเร่งผมยาวไปด้วยในตัวค่ะซิส >< เมื่อผสมกับน้ำมันมะกอกที่ช่วยบำรุง และ Castile Soap หรือสบู่น้ำมันมะกอก ที่ช่วยทำความสะอาด รับรองว่าจะเป็นแชมพูสมุนไพรที่ทำให้ผมหอมนุ่ม จนราพันเซลต้องชิดซ้ายแน่นอนค่า!วิธีทำ1. แช่ถุงชาในถ้วยน้ำร้อน ทิ้งไว้ 25 นาที แล้วรอให้เย็นลง2. ใส่น้ำชาเขียว 1 ถ้วย, สบู่น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย และน้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนชา ในถ้วยผสม คนให้เข้ากัน ( จะใส่น้ำมันอื่นๆ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือโรสแมรี่ออยล์ เพิ่มกลิ่นหอมด้วยก็ได้ค่ะ )
3. ใช้แทนแชมพูปกติได้เลย
รวม 5 สูตรหมักผมเร่งผมยาว ไว้มัดใจรุ่นพี่ในมอ ยาวไวได้จริง ใน 1 อาทิตย์
https://sistacafe.com/summaries/55253
2. กะทิ >> ปรับค่า pH ของหนังศีรษะให้สมดุล ลดอาการคัน
หลายคนอาจร้องเอ๊ะ! กะทิจะเอามาสระผมได้ไงกัน แต่เชื่อเถอะว่า ' กะทิ ' ช่วยบำรุงผมได้มากกว่าที่คิด ถ้าใครแพ้แชมพูปกติตามห้างที่ใส่สารเคมี ทำให้สารเคมีตามธรรมชาติของหนังศีรษะเปลี่ยนไป เส้นผมสุขภาพแย่ลง ทำแชมพูที่ใส่ส่วนผสมนี้ ผมจะนุ่มและแข็งแรง ไม่เปราะ แตกง่ายเหมือนเมื่อก่อนค่ะ
ส่วนผสม : ( ไม่มีกลูเตน )
กะทิ 1 กระป๋องน้ำผึ้งป่า 4 2/3 ช้อนโต๊ะCastor Oil 4 2/3 ช้อนชา
โจโจ้บ้าออยล์ 4 1/4 ช้อนชา
น้ำส้มสายชูไซเดอร์ 3 1/8 ช้อนโต๊ะ
เอสเซลเชียลออยล์ 1 ช้อนชา
วิธีทำก็เพียงผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใช้แทนแชมพูปกติได้เลย
3. น้ำผึ้งป่า & Tea Tree Oil >> ป้องกันอาการคันของหนังศีรษะ
Tea Tree Oil หรือน้ำมันจากใบชาเขียว เป็นน้ำมันเอนกประสงค์ที่แท้จริงค่ะซิส โดยเฉพาะกับหนังศีรษะที่แห้งและคัน อยากได้แชมพูบำรุงที่ไม่ทำให้ระคายเคือง ถึงจะต้องผสมน้ำผึ้ง ก็ไม่ต้องกลัวหัวจะเหนียวนะคะ เพราะสูตรนี้ล้างออกได้อย่างง่ายดายแน่นอน ใช้เวลาทำไม่นาน เพียง 10 นาทีเท่านั้น ดังนี้
ส่วนผสม :น้ำผึ้งป่า 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มสายชูไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ, เจลว่านหางจระเข้ 4 ออนซ์, กะทิ 1 ช้อนโต๊ะ, สบู่น้ำมันมะกอก ( Castile Soap ) 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ, Tea Tree Oil 10 หยด, น้ำมันโรสแมรี่ 10 หยด
วิธีทำ1. ผสมน้ำผึ้ง และน้ำส้มสายชูไซเดอร์เข้าด้วยกัน แล้วใส่เจลว่านหางกับกะทิลงไป คนให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้ว เทใส่ชามผสม2. ใส่ Castile Soap และน้ำเปล่า ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ใส่น้ำมันโรสแมรี่และ Tea Tree Oil ผสมให้เข้ากัน เทใส่ขวดพลาสติก4. เขย่าให้เข้ากัน เทลงบนผมเปียกๆ พร้อมนวดหนังศีรษะไปด้วย5. ล้างออกให้สะอาด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย!
5 วิธีรักษา 'อาการคันหนังศีรษะ' ด้วยของจากธรรมชาติ!
https://sistacafe.com/summaries/13685
4. แป้งข้าวโพด >> ใช้แทน Dry Shampoo
ไม่ต้องซื้อดรายแชมพูแพงๆ อีกต่อไป ถ้าใครไม่สะดวกใช้แป้งเด็ก อยากลองใช้วัตถุดิบในครัว อีกสิ่งที่ช่วยกำจัดความมันจากหนังศีรษะ คือ ' แป้งข้าวโพด ' นั่นเองค่ะ ตามสูตรเดิมจะผสมแอลกอฮอล์ด้วย แต่ถ้ากลัวแพ้ จะใช้เป็นโทนเนอร์ทั่วไปก็ได้นะวิธีทำก็ง่ายๆ เพียงใช้โทนเนอร์ 1 ถ้วยเล็ก ผสมกับ essential oil 2 หยด ( ถ้ากลัวหนังศีรษะมันก็ไม่ต้องใส่ ) ผสมกับแป้งข้าวโพด 1 ถ้วยเล็ก เทใส่ขวดสเปรย์ หากหัวมันแต่ยังไม่สะดวกสระผม ก็สเปรย์แป้งเหล่านี้ลงที่หนังศีรษะ แล้วเซ็ตผมตามปกติได้เลย
How To : ทำ 'Dry shampoo' แบบง่ายๆ ที่สาวผมมันต้องมี! จาก SistaCafe Channel
ttps://sistacafe.com/summaries/37903
5. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ & เบกกิ้งโซดา >> แชมพูสำหรับผมหยักศก
สาวผมหยักศก ( หรือบางคนจะเรียกว่าผมหยิก ) มักต้องการการดูแลที่มากกว่าปกติสักหน่อย เพราะผมชนิดนี้ฟูง่ายเวอร์! สูตรนี้ใช้สระผมทุกๆ 9-12 วันเท่านั้น ไม่ต้องสระบ่อย ผมหยักศกของเธอก็จะดูสวยเงางามได้อย่างใจแล้วล่ะส่วนผสม- น้ำส้มสายชูไซเดอร์ 1/2 ถ้วย- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย- เบกกิ้งโซดา 1 หยิบมือวิธีทำ :ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาใช้สระผมแทนแชมพูปกติ หากเป็นคนผิวแพ้ง่าย ให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นก่อน และใช้เบกกิ้งโซดาเท่าที่จำเป็นค่ะ
ลองแล้วรักเลยต้องบอกต่อ! แจกสูตรมาส์กผมจากน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล
https://sistacafe.com/summaries/26079
6. ชาดำ >> สำหรับสาวผมสีเข้ม ที่ผมร่วงเป็นกำ!
ชาดำมีคาเฟอีนสูง ซึ่งคาเฟอันมีฤทธิ์เป็นกรดตามธรรมชาติ จึงกำจัด DHT ( ฮอร์โมนที่ทำให้หัวล้าน ) จากหนังศีรษะออกไป ไม่ใช่แค่ลดผมร่วงเท่านั้น แต่ยังทำให้ผมนุ่มสลวย มีน้ำหนัก เงางามอีกด้วย ถ้าสาวๆ มีผมสีเข้มหรือทำผมสีเข้มมาและยังอยากให้สีติดทนนานๆ ก็ทำสูตรนี้ได้เลย!
วิธีทำก็ง่ายๆ เทน้ำสะอาด 3 ถ้วยใส่หม้อ ตั้งเตา เปิดไฟแรงปานกลาง ใส่ถุงชาดำลงไป 4-5 ถุง ( หรือผงชาดำ 4-5 ช้อนโต๊ะ ) ปล่อยให้เดือดกรุ่นๆ ประมาณ 15 นาที ปิดไฟบนเตา ปล่อยให้ชาเย็นลง กรองใบชาออกใส่ในสเปรย์หรือขวดใสๆ หรือขวดแชมพูเปล่าที่เตรียมไว้แล้ว พร้อมใช้ได้เลยค่า โดยให้ล้างผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลงครีมนวดนะคะ
7. อโลเวร่า & น้ำมันมะพร้าว & เชียบัตเตอร์ >> แชมพูเพิ่มลอน สำหรับผมหยักศก
สูตรนี้อาจถูกใจสาวๆ ที่ชอบผมลอน ถ้าเธอมีผมหยักศกอยู่แล้ว และอยากได้ลอนสวยๆ ต้องลองใช้สูตรนี้ เพราะมีคุณสมบัติช่วยบำรุง เนื้อแชมพูก็ไม่หนาเกินไป ผมไม่ลีบลู่จนดูไร้น้ำหนักแน่นอน สาวๆ จะใช้เป็นแชมพูหรือเซรั่มบำรุงผมประจำวัน เพื่อรักษาลอนผมไว้ก็ได้ค่ะส่วนผสม :เจลว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชาเชียบัตเตอร์ 2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ :นำไปสระผม หรือทำเป็นเซรั่มบำรุงผม โดยลูบที่ลอนผมทุกวัน ใช้วันละ 1 ช้อนโต๊ะ
เชียบัตเตอร์! อีกหนึ่งไอเทมที่สาวๆ ควรรู้ประโยชน์ของมันเอาไว้จะได้ใช้เป็น
https://sistacafe.com/summaries/28117
8. แชมพูไข่ >> ผมสะอาด นุ่มสลวย
สูตรนี้สาวไทยน่าจะเคยเห็นกันบ่อย ไม่ว่าจะแชมพูเอย มาส์กผมเอย กับ ' ไข่ ' ที่เรากินกันทุกวันเนี่ยแหละค่ะ โดยให้ใช้ไข่ดิบเท่านั้น และล้างด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นนิดเดียว อย่าใช้กับน้ำร้อนจัด เพราะเธออาจมีเศษไข่เจียวแปะอยู่บนผมได้ #แล้วจะหาว่าไม่เตือนเด้อ!
ส่วนผสมหลักๆ คือไข่ 1 ฟอง แต่จะผสมอย่างอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้วยก็ได้ เช่น
- น้ำมันเปปเปอร์มินต์ 4 หยด ( กลิ่นหอม )- น้ำผึ้งป่า 1 ช้อนชา ( บำรุงผม )
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา ( กำจัดสิ่งตกค้างบนผม, ผมเงางาม )
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา ( ผมชุ่มชื้น )
วิธีทำใส่ไข่ดิบลงในชาม ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ที่เตรียมไว้ลงไป ผสมให้เข้ากัน ถ้าผมแห้ง จะเจือจางส่วนผสมด้วยน้ำอุ่น 2-4 ช้อนโต๊ะก็ได้ แต่ถ้าผมมันมากก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
วิธีใช้ :เทแชมพูไข่บนอุ้งมือ โปะลงบนหนังศีรษะ นวดให้ทั่วจนหนังศีรษะและเส้นผมชุ่ม พักไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เป็นอันเสร็จ! *ไม่ต้องใช้ครีมนวด กรดไขมันในไข่ช่วยบำรุงเส้นผมอยู่แล้วค่ะ*
9. ซาวร์ครีม หรือ โยเกิร์ต >> ผมเป็นประกายเงางาม
สูตรนี้น่าจะเคยเห็นในมาส์กหน้าแบบ DIY ซึ่งแน่นอนว่า เอามาหมักผม หรือสระผมได้เช่นกัน! ทำให้เส้นผมสะอาด เงางามมากขึ้น แต่ต้องแน่ใจว่าล้างออกสะอาดหมดจด ไม่เหลือคราบนม คราบไขมันบนเส้นผมนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจเกิดรังแคหรือเป็นสิวบนหนังศีรษะได้เด้อส่วนผสมก็ใช้แค่ โยเกิร์ตหรือซาวร์ครีม 1/2 ถ้วย เท่านั้นค่ะวิธีใช้นวดส่วนผสมลงบนเส้นผมที่ราดน้ำให้พอชื้นๆ จนทั่วทั้งศีรษะ พักทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วล้างออกอีกรอบด้วยน้ำเย็น จึงสระผมด้วยแชมพูสูตรปกติอีกครั้ง ให้ผมสะอาดหมดจด แนะนำให้ใช้สัปดาห์เว้นสัปดาห์นะคะ
ดูแลตัวเองด้วย 6 ประโยชน์จาก 'โยเกิร์ต' สวยเป๊ะง่ายๆ ได้ทุกส่วน
https://sistacafe.com/summaries/10843
10. สระผมด้วย 'น้ำเปล่า' อย่างเดียว >> ผมสะอาด!?
สูตรนี้สาวผมมันพักก่อน ขอรีเควสต์สำหรับสาวผมแห้งเท่านั้นค่ะ! จะมีบางคนที่ไม่สามารถสระผมด้วยแชมพูปกติได้เลย หนังศีรษะจะลอก แสบ คัน เพราะแพ้สารเคมี แต่เธอต้องมีแปรงผมคุณภาพดี และรู้จักทิศทางการนวดหนังศีรษะ เพื่อไล่ซีบัมออกจากเส้นผมด้วยนะคะวิธีสระก็เพียง เมื่อรู้สึกว่าเส้นผมเริ่มมันแล้ว ให้สระด้วยน้ำอุ่น-ร้อน ( แต่ไม่ร้อนจนต้มสุกนะ! ) นวดหนังศีรษะไล่จากโคนผมสู่ปลายผม แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เพื่อปิดเกล็ดผม ป้องกันผมแตกปลาย ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ
*อาจต้องใช้เวลา 2-16 สัปดาห์ให้หนังศีรษะคุ้นชินกับวิธีนี้*ควรทำอย่างต่อเนื่องในทุกๆ 3 วัน ( ระหว่างสามวันถ้าผมมัน ก็สระแชมพูปกติได้ )*ไม่แนะนำให้ทำช่วงหน้าร้อน หรือคนที่สัมผัสสิ่งสกปรกทุกวัน เพราะน้ำเปล่าไม่ช่วยกำจัดสิ่งตกค้างได้หมด 100% แน่นอนค่ะ
-----------------------------วัตถุดิบเต็มครัวขนาดนี้ สระวนไปเล้ยยย!!! ไม่ต้องกลัวแพ้ เพราะทั้งหมดเป็นของที่กินได้อยู่แล้ว ( ถ้าไม่ใส่ essential oils แต่งกลิ่นหอมๆ นะ ) บางส่วนผสมอาจราคาแพงหน่อย แต่ใช้ได้หลายครั้ง ก็คุ้มอยู่ แต่ละสูตรก็มีสรรพคุณที่ต่างกันออกไป บางสูตรเน้นผมนุ่ม บางสูตรเน้นผมเงางาม เป็นต้น ก็ลองเอาไปใช้กันดูน้า ต้องมีสักสูตรที่เหมาะกับหนังศีรษะของสาวๆ แน่นอน ^___^งั้นวันนี้เราขอตัวลาไปก่อนแล้วน้าา พบกันใหม่คราวหน้านะคะสาวซิส ผมสวย ผมยาวเป็นราพันเซลกันทุกคนเด้ออ เลิฟยูค่า จุ๊บ~
-----------------------------
Cr. 13 Random Things You Should Be Using As Shampoo [gurl.com]
http://www.gurl.com/2017/04/14/random-things-you-should-be-using-as-shampoo-natural-alternatives/