สวัสดีค่าสาวๆ ชาว sistacafe ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ เดี๋ยวเป็นไข้เป็นหวัดไปแล้วจะแย่ ว่าแต่ว่า...แล้วสุขภาพตรงส่วนนั้นล่ะ สาวๆ เคยเป็นห่วงบ้างไหมเอ่ย แน่นอนว่าตอนนี้อาจจะยังไม่สนใจกับเรื่องนี้เท่าไร่นัก เพราะคิดว่าเรายังไม่แก่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับตรงนั้น
แต่ขอบอกเลยเรื่อง ' ภายในจุดซ่อนเร้น ' ของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ถึงแม้จะบอกว่า " ฉันยังไม่แต่งงาน ", " ฉันยังจิ้นอยู่นะยะ ", " สะอาดดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร " หยุดพูด!! แล้วคิดเสียก่อนดีมั้ยสาวๆ ถึงแม้ว่าพฤติกรรมของเธอนั้นจะไม่ได้เข้าข่ายกับความเสี่ยง แต่ก็ใช่ว่าภายในจุ๋มจิ๋มของเธอจะสะอาดปราศจากอันตรายนะจ๊ะ การมองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง อาจจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยร้ายแรงได้ในทีสุด น่ากลัวจริงๆ แฮะ!

สำหรับบทความนี้ หญิงขอสวมบทบาทเป็นคุณครูสุขศึกษา ที่จะมาพูดถึงปัญหา 'ภายในจุดซ้อนเร้น ' ที่ผู้หญิงมักจะอายไม่กล้าคุยกัน แหมๆ เรื่องนี้เข้าใจค่ะ บางครั้งแม่เรา เราก็ยังไม่กล้าเล่าให้ฟังเลย กลัวจะโดนว่าไปทำอะไรมา เอาเป็นว่าบทความนี้เราจะมาคุยกันเรื่องจุ๋มจิ๋มแบบห้ามอาย ใช้ภาษาง่ายๆ มุ้งมิ้งๆ ห้ามอายที่จะเปิดอ่านนะคะ

เรื่องแรกที่สาวๆ แรกรุ่นจนถึงรุ่นปลายมักมีปัญหาคือ อาการตกขาว เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย จะเห็นมากที่สุดประมาณ 15 ชนิด มีลักษณะเป็นมูกขาวๆ ติดที่กางเกงในค่ะ ส่วนใหญ่สาวๆ ที่มีอาการตกขาวมักจะมองข้ามเพราะได้ยินกันจนคุ้นหู เลยดูไม่น่ากลัว แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ เริ่มมีอาการคันร่วม มีกลิ่น สีขาวกลายเป็นเหลืองเข้มหรือสีขุ่น นี่สิอันตรายมาก ยิ่งร่างกายอ่อนแอ และไม่รักษาความสะอาด งานเข้าแน่ๆ บอกเลย ยังไงก็ต้องไปพบสูตินารีแพทย์ด่วน

ฟังดูอาจไกลตัว แต่ขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่า เรื่องนี้ใกล้ตัวมากๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบอั้นปัสสาวะ ชอบใส่กางเกงรัดรูปเกินไป อาการที่พบคือ ปัสสาวะกะปริดกะปรอย เข้าห้องน้ำบ่อย แต่ปัสสาวะออกไม่สุด เวลาปัสสาวะรู้สึกแสบร้อน อาการหนักหน่อยจะมีเลือดปนน้ำปัสสาวะออกมา บางคนมีอาการเจ็บท้องน้อย น่ากลัวจริงๆ เลยว่าไหมคะ ดังนั้นสาวๆ เราจึงควรดื่มน้ำมาก ๆ เพราะมีส่วนช่วยขับแบคทีเรียหรือเชื้อโรคออกมาจากร่างกาย สำหรับการใส่เสื้อผ้าหรือกางเกง ก็ควรใส่พอดีๆ ไม่ควรรัดจนเกินไป และที่สำคัญห้ามกลั้นปัสสาวะนาน ๆ ถ้าปวดแล้วก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำเลยนะจ๊ะสาวๆ

ปวดท้องประจำเดือน อาจจะเป็นหัวข้อทั่วไปที่ผู้หญิงคุยกัน ซึ่งอาการปกตินั้นผู้หญิงเรามักจะปวดในช่วง 1 -2 วันแรกของการเป็นประจำเดือนเท่านั้น แต่หากสาวๆ มีอาการปวดตลอดเวลาจนต้องกินยาแก้ปวดอยู่เป็นประจำก็ต้องกลับมาคิดแล้วว่า ภายในน้องสาวของเราอาจมีความผิดปรกติเกิดขึ้น ซึ่งไม่ควรปล่อยไว้นานๆ เพราะมีความเสี่ยงในการเกิด Chocolate Cyst ( เนื้องอกในมดลูก ) และภาวะมดลูกโตได้ อ่านแล้วน่ากลัวใช่มั้ยคะ เพราะงั้นการมีคนให้ปรึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ อย่าเก็บไว้คนเดียว

น้องสาวมีอาการบวมแดง หรือมีอาการคันนั้นมีหลายสาเหตุคะ เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ เช่น อาหารที่กินเข้าไป บางคนอาจเกิดอาการแพ้อาหารทะเล ปลาหมึก กุ้ง หรือปลาบางชนิด บางคนอาจจะแพ้แผ่นอนามัยที่ใส่เนื่องจากอาจมีสารบางอย่างที่ไม่ถูกกับร่างกายเรา ทำให้เกิดการระคายเคือง อาการที่เกิดก็จะคันคะ เมื่อคันแล้วจะรออะไร ก็เกาสิคะทีนี้ ^^" หรือบางคนที่ชอบใส่กางเกงรัดรูป หรือกางเกงที่คับหรือรัดมากๆ อันนี้ก็มีส่วนไม่น้อย ช่วยด้วย!! น้องสาวหายใจไม่ออก พอหายใจไม่ออกก็เกิดการอับชื้น หมักหมมเป็นเชื้อราใต้ร่มผ้า และอีกเรื่องที่สำคัญสุดๆ เลยก็คือการรักษาความสะอาดนั่นเองค่ะ บางครั้งจุ๋มจิ๋มเราก็ไม่ต้องการน้ำยาจากดาวอังคารหรอกนะคะ แค่ล้างด้วยน้ำสบู่สะอาดๆ ทุกซอกทุกมุม เบาๆ แค่นี้ก็ห่างไกลอาการเหล่านี้ได้เหมือนกันค่ะ
อ๊ะ!! มีสิ่งหนึ่งที่เราควรระวังอีกอย่าง คือการใช้ห้องน้ำในที่สาธารณะ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่ดีเชียวล่ะ ยิ่งห้องน้ำที่ไม่มีพนักงานทำความสะอาดด้วยแล้วล่ะก็ ควรใช้อย่างระมัดระวังค่ะ

สาวๆ เคยเป็นไหมเอ่ย พอจะก้าวขา ยกขา ก็กลัวๆ กล้าๆ กลัวว่ากลิ่นจะโชยยย ฮ่าๆ กลิ่นเป็นเรื่องปกตินะจ๊ะคุณสาวๆ ไม่ว่าหญิงหรือชายใครๆ ก็มีกลิ่นกันทั้งนั้น อยู่ที่การดูแลรักษาความสะอาด และพฤติกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันก็มีส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ เช่น ซักกางเกงชั้นในไม่สะอาด ใส่กางเกงรัดหรือคับจนเกินไป หรือแม้กระทั่งอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปก็เกี่ยวนะจ๊ะ โดยเฉพาะอาหารหมักดอง ส่วนกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นั้น คงไม่รุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายใครหรอกนะคะ คนที่ได้กลิ่นจริงๆ ก็ตัวเรานี่แหละค่ะ ก็เลยทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเรื่องกลิ่นตรงจุดซ่อนเร้นของตัวเองขึ้นมา
เพราะฉะนั้น เมื่อรู้ว่าตัวเราทำอะไรให้เกิดกลิ่นที่ไม่ดีกับจุดซ่อนเร้นแล้วล่ะก็ พยายามหลีกเลี่ยงก็จะดีที่สุดค่ะ อ้อขอแถมอีกข้อนะคะ เวลาเช็ดทำความสะอาด สาวๆ ต้องเช็ดจากหน้าไปข้างหลังนะคะ เพราะว่าถ้าเช็ดจากหลังมาหน้าเราอาจจะเช็ดเอาเชื้อโรคบริเวณใกล้ๆ ทวารหนักมาสัมผัสกับน้องเราได้ค่ะ เห้อ!! ฟังแบบนี้ก็น่ากลัวนะคะเนี่ย ยังไงก็ระวังและใส่ใจน้องสาวด้วยนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปัญหาเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นใครๆ ก็เป็นกันได้ ทีนี้ก็เลิกเขินอายที่จะพูดแล้วนะคะ เพราะอาการที่เราเป็น บางครั้งมันก็ไม่ใช่อาการผิดปกติไปจากคนอื่นเท่าไหร่ หรือมันอาจจะเป็นอาการที่ผิดปกติก็ได้ แต่ถ้าเรารู้จักกล้าที่จะคุยกับแม่พี่สาว หรือเพื่อน ก็จะมีคนช่วยเราคิดแก้ปัญหาในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้ โดยที่ไม่ต้องกังวล เครียด หรือเก็บเอามาคิดอยู่คนเดียว เรื่องแบบนี้บอกเลยสำหรับผู้หญิงแล้วไม่ควรปล่อยผ่านไปค่ะ
และสิ่งหนึ่งที่สาวๆ เราไม่ควรละเลยคือการตรวจหาเชื้อที่อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกนั่นเอง สาวๆ รุู้ไหมคะว่าเมื่ออายุ 18 ปี ก็สามารถตรวจได้แล้วปลอดภัยไว้ก่อน ปรึกษาแม่ หรือเชี่ยวชาญ อย่าได้อายโดดเด็ดขาดเชียวค่าาา ^^
Comments