แต่งหน้าสวยๆ มาแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดใบหน้าด้วยล่ะสาวๆ (◕‿◕✿)
การทำสะอาดใบหน้านั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการรักษาใบหน้าของเธอให้สวยใสแม้ปราศจากเครื่องสำอางบนใบหน้า และไม่ต้องกลัวเวลาหนุ่มๆ จะมาเซอร์ไพร์สหน้าบ้านแล้วจะสะพรึงในหน้าสดของเธอได้ เพราะฉะนั้นการเลือกคลีนซิ่งในการล้างหน้านั้นก็จำเป็นเหมือนกัน เพราะสาวๆ แต่ละคนก็มีสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งคลีนซิ่งนั้นก็มีหลายประเภทและใช้งานแตกต่างกัน
บทความนี้จะมาเป็นผู้ช่วยสาวๆ ในการหาคลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้าของเธอให้สะอาดใสกิ๊ง รับรองว่าคราวนี้สิวไม่บุกแน่นอน
1) เลือกคลีนซิ่งให้ตรงกับปัญหาสภาพผิว
ก่อนจะไปเรียนรู้ สาวๆ ลองสำรวจกันก่อนว่าตัวเองมีสภาพผิวแบบไหน การรู้สภาพผิวของเราว่ามีลักษณะแบบนั้นสามารถช่วยให้การเลือกคลีนซิ่งนั้นง่ายขึ้น และตรงต่อความต้องการของเรา และยังเป็นการป้องกันไม่ให้หน้าพังเพราะเลือกผิดอีก T^T เพราะฉะนั้ะเธอลองตรวจดูก่อนเสียว่าตอนนี้หน้าของเธอมีปัญหาอะไรไหม แน่นอนว่าฟรายเดย์ไม่ลืมที่จะบอกเทคนิคไว้ดังนี้จ้า
สาวผิวมัน
เธอเหมาะสำหรับคลีนซิ่งแบบน้ำ เพราะแบบน้ำจะไม่เป็นการเพิ่มน้ำมันให้บนใบหน้าของเธอ และนอกจากนี้ยังเช็ดสะอาดหมดจดไม่เหนียวเหนอะหนะอีกด้วย
สาวผิวแพ้ง่าย
สาวๆ ที่มีผิวบอบบาง ต้องพิถีพิถันในการเลือกคลีนซิ่ง เพราะฉะนั้นคลีนซิ่งที่เหมาะกับเธอควรเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำและรับรองว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่ฉะนั้นสิวจะเห่อขึ้นได้นะเธอ
สาวมีสิว
ไม่ว่าจะเป็นสิวผดหรือสิวอุดตัน นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการเลยเวลาแต่งหน้า แนะนำว่าเธอนั้นเหมาะสำหรับคลีนซิ่งสูตรสำหรับคนเป็นสิว หรือคลีนซิ่งแบบอ่อนโยนต่อผิว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สิวกลับมาก่อกวนใจเธออีก
2) สำหรับการเช็ดล้างเครื่องสำอางที่ดวงตา
สำหรับการเช็ดเครื่องสำอางที่ดวงนั้น ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ หรือมาสคาร่า มักจะมีส่วนผสมให้เครื่องสำอางเหล่านี้กันน้ำพิเศษ คลีนซิ่งที่เช็ดแล้วสะอาดหมดจดควรเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำมัน เพราะง่ายในการเช็ดเครื่องสำอางประเภทนี้
Tips ::
เพียงเธอหยดคลีนซิ่งลงบนสำลีแล้วแปะไว้บนเปลือกตาสักครู่ก่อนจะเช็ดออกอย่างเบามือ เพียงเท่านี้เครื่องสำอางก็หลุดออกแล้ว ไม่จำเป็นต้องเช็ดแรงๆ เดี๋ยวตาจะอักเสบก่อนนะเธอ > <
3) สำหรับการล้างส่วนของใบหน้า
สำหรับการล้างเครื่องสำอางบนใบหน้านั้น แนะนำว่าให้คลีนซิ่งแบบเจลหรือแบบน้ำในการล้าง เพราะจะล้างได้สะอาดและไม่ทำให้ผิวหน้านั้นต้องเหนียวเหนอะหนะ อีกทั้งคลีนซิ่งแบบเจลนั้นยังสามารถชะล้างรองพื้นและแป้งของเธอเพียงแค่ถูเบาๆ ไม่จำเป็นต้องออกแรงสแครชหน้าจนอักเสบ เป็นสิวมากวนมากวนใจเธอทีหลังเลย หรือถ้าวันไหนเธอแต่งหน้าเบาๆ แค่น้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว
Tips ::
ในระหว่างที่ล้างหน้าอยู่นั้น ลองนวดหน้าเบาๆ ดูสิ จะเป็นการกระตุ้นให้ใบหน้านั้นสูบฉีดเลือดมากขึ้นทำให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี
4) สำการเช็ดลิปสติกและบริเวณริมฝีปาก
สำหรับบริเวณริมฝีปากนั้น ถ้าลิปสติกประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ แค่เธอซับออกด้วยทิชชู่ก็ออกแล้ว แต่ถ้าเป็นลิปสติกที่ติดทนนาน แนะนำว่าคลีนซิ่งแบบน้ำมันช่วยเธอได้ ขอเพียงระวังอย่าให้เข้าปากก็เป็นพอนะจ๊ะเธอจ๋า ( เพราะรสชาติมันไม่โอเคจริงๆ เคยพลาดมาแล้ว )
Tips::
ถ้าต้องการความสะอาดยิ่งขึ้น ลองใช้แปรงสีฟันขัดหรือเกลือสครับบริเวณริมฝีปาก จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ริมฝีปากจะดูสุขภาพดีไม่ดำคล้ำด้วยนะ
______________________________________________________________________
เป็นยังไงบ้างคะสาวๆ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้ววาจะล้างหน้าไม่สะอาด ในเมื่อได้เคล็ดลับในการเลือกคลีนซิ่งที่ใช่สำหรับการล้างเครื่องสำอางกันแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อใบหน้าที่สวยโดยปราศจากเครื่องสำอางนะจ๊ะ
ยังไงก็ขอลาไปก่อน บะบายจ้า ⊙▽⊙
